Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
23 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

วาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง เรื่องเก่าที่อยากพูดถึง





มองในแง่กฎหมาย การเผาอาคารบ้านเรือนของผู้อื่นโดยเจตนา

ต้องรับโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218

ซึ่งเทียบเท่ากับโทษสูงสุดของการฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน



และหากมีผู้ยุยงให้เผาด้วยการโฆษณาแก่คนทั่วไป

แม้ว่าการเผานั้น จะ "มิได้" กระทำลง

แต่โทษสูงสุดที่ผู้ยุจะได้รับก็คือ

"ครึ่งหนึ่ง" ของความผิดที่ยุให้กระทำ

นั่นก็คือ จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุก 25 - 50 ปี

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ประกอบมาตรา 218



ประเด็นสำคัญ ก็คือ ทำไม "ผู้ยุยงส่งเสริม" จึงต้องรับโทษ

ทั้ง ๆ ที่ความผิดที่ยุก็ "มิได้" กระทำลง

ผมเข้าใจว่า คงเป็นเพราะ การยุ คือการก่อให้ผู้อื่นกระทำผิด

ทั้ง ๆ ที่ คน ๆ นั้น "มิได้" คิดกระทำผิดมาก่อน

เมื่อมันเป็น "การก่อ" มันจึงอาจเชื่อมโยงกับการปฏิบัติจริงได้

และยิ่งเป็นการยุด้วยการประกาศโฆษณาแก่คนทั่วไป

โอกาสเชื่อมโยงไปสู่การปฏิบัติจริงก็ยิ่งกว้างขึ้น


คำว่า "ยุให้เผาบ้านเผาเมือง" จึงไม่ใช่แค่คำปราศรัยเอามันส์

เหมือนคำด่าหรือคำผรุสวาททั่วไป เพราะมันมีนัยยะของ

การชี้ช่องให้กระทำผิดอาญาที่รุนแรงมาก


ไม่ว่าการยุให้เผาบ้านเมืองนั้นจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม

ผมไม่คิดว่า มันเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะทำเช่นนั้นได้

..................................................................

มองในแง่รัฐศาสตร์ การที่มวลชนเสื้อแดงจำนวนมาก

ยอมรับเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง

นี่คือร่องรอยแห่งความเป็น "อนาธิปไตย"

เพราะเมื่อมวลชนจำนวนมาก เห็นด้วยกับเรื่องแบบนี้ได้

แสดงว่า Power (อำนาจนอกระบบ)

กำลังอยู่เหนือ Authority (อำนาจในระบบ)

ซึ่งในระบบประชาธิปไตยสิ่งที่ควรเป็นหลักประกัน

ให้แก่สิทธิเสรีภาพนั้นจะต้องเกิดจาก

อำนาจอันชอบธรรม หรือ Authority

สำหรับผม ทรราชย์ หรือ อนาธิปไตย มันเลวร้ายพอ ๆ กัน

..................................................................

อีกประเด็นที่สำคัญมาก นั่นก็คือ

"สำนึกอันเกิดจากการเปรียบเทียบ"

มันเป็นธรรมชาติของการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

ที่จะต้องเกิดการเปรียบเทียบพฤติกรรมของทั้งสองฝ่าย

เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างกระทำผิด

และมีคนวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายหนึ่ง

ฝ่ายนั้นก็มัก อ้างการกระทำของฝ่ายตรงข้าม

เพื่อทำให้เห็นว่า พฤติกรรมฝ่ายตนไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น

เมื่อเสื้อเหลืองทำผิด คนเสื้อเหลืองก็มักอ้างว่า "ทีเสื้อแดงล่ะ"

และเมื่อเสื้อแดงทำผิด คนเสื้อแดงก็มักอ้างว่า "ทีเสื้อเหลืองล่ะ"

ทั้ง ๆ ที่ คำกล่าวอ้างในทำนองนี้

ไม่ได้ทำให้ความผิดของทั้งสองฝ่ายลดลงเลย แม้แต่นิดเดียว

เวลาผมพูดถึงความผิดของทั้งสองสี

และเจอเรื่องแบบนี้ มันจึงมีโอกาสสูงมาก

ที่ประเด็นจะถูกเบี่ยงเบนไป

การที่ผมยกเรื่องกรณีคำปราศรัยของเสื้อแดงมาพูด

จึงไม่ได้มีนัยยะใด ๆ ทั้งสิ้นต่อพฤติกรรมของเสื้อเหลือง

และไม่ได้หมายความว่า เสื้อเหลืองมันจะวิเศษเลอเลิศ

..................................................................

วันนี้ เสื้อเหลืองฝ่อไปแล้ว การฝ่อในครั้งนี้อาจมีอยู่หลายปัจจัย

ทั้งเรื่องผลประโยชน์และความคิดเห็นไม่ตรงกัน

แต่ผมคิดว่า ส่วนหนึ่งมันเกิดมาจาก "การล้ำเส้น" มากเกินไป

จนสังคมยอมรับไม่ได้ ปรากฏการณ์ฝ่อของเสื้อเหลือง

จึงเป็นเรื่องชอบด้วยเหตุผล และผมหวังให้ปรากฏการณ์นี้

เกิดกับทุกกลุ่มหรือทุกม็อบที่ล้ำเส้น


คนเรา มันจะถูกจะผิด อยู่ที่การกระทำของตนเอง

ไม่จำเป็นต้องไปอ้างว่า อีกฝ่ายมีพฤติกรรมอย่างไร

ถ้าสิ่งที่เราทำ มันถูกต้อง มันก็ต้องเป็นความถูกต้อง

ถ้าสิ่งที่เราทำ มันผิด มันก็ต้องเป็นความผิด

ความถูกความผิดจึงขึ้นอยู่กับตนเองล้วน ๆ

เรื่องถูก หรือ ผิด มันไม่มี "สังกัด" หรอก





 

Create Date : 23 มิถุนายน 2556
0 comments
Last Update : 25 มิถุนายน 2556 21:00:52 น.
Counter : 1031 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ART19
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]





ความเสมอภาคที่แท้จริง คือ
การที่ทุกคนต้องมีหน้าที่
การทำหน้าที่ของตนเอง
จะเป็นสิ่งที่กำหนดว่า
เราควรได้รับอะไร แค่ไหน
Friends' blogs
[Add ART19's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.