|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
การเผชิญหน้ากับความตาย
ความตาย ความตายมีหลายรูปแบบแล้วแต่ว่าจะได้เจอะเจอกับความตายแบบไหนสำหรับอาร์นี่ตั้งแต่เกิดมาได้พบเจอมามากมายทั้งที่เกี่ยวข้องโดยครงกับตัวเอง หรือเกี่ยวข้องทางอ้อม การเผชิญหน้ากับความตายครั้งที่ 1. การตายจากกันทั้งเป็น ความตายจากกันทั้งเป็นที่เกิดขึ้นกับอาร์นี่ได้เกิดขึ้นเมื่อตอนอาร์นี่ยังเป็นเพียงเด็กเล็กๆคนหนึ่ง อายุประมาณ 3 ขวบกว่า วันนั้นจำได้แต่เพียงว่า นั่งอยู่บนบันไดบ้านชั้น 2 พ่อของอาร์นี่ได้เดินลงมาลูบหัวแล้วก้มลงถามว่า อยากกินอะไรจะซื้อมาฝาก อาร์นี่บอกว่าอยากกินช็อคโกแล็ต พ่อพยักหน้ายิ้มๆแล้วเดินออกจากบ้านไป ทำงานตามปกติ และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้เจอท่านอีกเลย คนในบ้าน แม่ ตาและยาย ต่างก็ไม่มีใครพูดถึงพ่อ แต่อาร์นี่จำไม่ได้หรอกว่าได้ถามหาพ่อหรือไม่ ตอนโตมาถึงได้รับรู้ว่า พ่อกับแม่นั้นแยกทางกัน ถึงแม้ว่าอาร์นี่จะรู้เช่นนั้น ฉันก็ไม่เคยเอ่ยบากถามแม่เลยว่า พ่อไปอยู่ที่ไหน อย่างไร ด้วยความที่กลัวแม่จะเสียใจ และกลัวยายจะดุ และอาร์นี่ก็ได้ถูกยกมาให้เป็นบุตรบุญธรรมคุณตา เรียกคุณตาว่าพ่อ ทำให้ไม่รู้สึกว่าขาดพ่อ หรือเป็นปมด้อยแต่อย่างไร และด้วยความที่เราย้ายบ้านด้วยเลยไม่ทราบว่าพ่อได้เคยมาหาบ้างไหม จนกระทั่งตอนนี้ แม่ ตา ยาย ได้จากอาร์นี่ไปหมดแล้ว อาร์นี่ก็ยังคงไม่รู้อยู่ดีว่า ท่านทั้งสองแยกจากกันด้วยเรื่องอะไร ถามว่าโกรธ เกลียดพ่อไหม ไม่ จะตามหาไหม คงไม่ แต่ก็แอบหวังอยู่ลึกๆว่าสักวันคงเจอ
การเผชิญหน้ากับความตายครั้งที่ 2 คือ การจากไปอย่างสงบของคุณตา
อาร์นี่จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันคริสต์มาส ตอนนั้น ฉันเรียนอยู่ ม 2.อาร์นี่ได้ไปโรงเรียนตามปกติ พอตอนบ่ายแม่ก็มารับอาร์นี่เพื่อกลับบ้าน แม่บอกว่าทางบ้านมีเรื่อง เมื่อไปถึงบ้าน ถึงได้เห็นว่ามีคนมากมายเต็มบ้านไปหมด เดินเข้าบ้านไปก็มองเห็นคุณตานอนอยู่บนที่นอนในสภาพเหมือนคนอนหลับปกติ แม่บอกแต่เพียงว่าคุณตาเสียแล้ว ให้ไปกราบเท้าคุณตาเป็นครั้งสุดท้าย ฉันได้แต่นิ่งอึ้ง น้ำตาเริ่มไหลออกมา คืนนั้นเรานอนเป็นเพื่อนกับคุณตาที่ชั้นล่าง เหมือนกับว่าท่านจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้อีก อาร์นี่รู้ว่าท่านได้จากไปอย่างสงบ ท่านกินข้าวตอนเที่ยง แล้วนอนหลับ แล้วจากไปเลย แม่รู้ว่าท่านเสียก็เมื่อเห็นท่านนอนเงียบนานมาก เลยไปปลุก แต่ท่านก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมาอีกเลย อาร์นี่กับคุณตาถือว่าไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ เป็นเพราะท่านเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด แต่อาร์นี่ไม่เคยถูกคุณตาตีเลย แม้สักครั้งเดียว ได้แต่ถูกดุ แค่คุณตาทำเสียงดุ ก็กลัวแล้ว และการจากไปของท่านในครั้งนี้ เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของบ้านเพราะท่านเป็นเสมือนเสาหลักของบ้าน การจากไปของท่านทำให้ชีวิตของอาร์นี่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
การเผชิญหน้ากับความตายครั้งที่ 3 ฉันคิดว่าฉันเป็น ฆาตกร การเผชิญหน้าครั้งนี้ได้ห่างจากความตาย ครั้งที่ 2 ค่อนข้างนาน คือเมื่อตอน อาร์นี่เริ่มทำงานแล้ว เป็นความตายที่เกิดขึ้นกับคุณยายของอาร์นี่เอง คุณยายแก่มากแล้วและเป็นโรค เบาหวาน และตั้งแต่คุณตาจากไปฐานะของทางบ้านก็เปลี่ยนไป เงินที่เคยมีใช้จากบำนาญของตุณตาก็ไม่มี คุณแม่ต้องออกไปหางานทำ และกลายเป็นคุณแม่ที่หาเงินเพียงคนเดียว และดูแลครอบครัว ทั้งหมด จากนั้นเมื่ออาร์นี่จบออกมา อาร์นี่ก็เริ่มทำงาน ซึ่งเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร เมื่อคุณยายป่วย คุณแม่ต้องออกมาดูแลคุณยาย อารนี่เลยกลายเป็น คนดูแลครอบครัว และรับภาระทุกอย่างภายในบ้าน เรื่องมาเกิดขึ้นเมื่อคุณยายป่วยมากและช็อคเนื่องจากน้ำตาลในเลือดมีมากเกินไปจนต้องเข้าไปนอนอยู่ในโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ซ้ำร้ายกว่านั้น คุณยายไม่รู้สึกตัว นอนอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเดือน ๆ เริ่มมีโรคแทรกซ้อน คือเริ่มเป็นโรคไตวาย และเกิดแผลกดทับตรงบริเวณก้น ซึ่งเกิดจากการนอนเป็นระยะเวลานานๆ เมื่อเริ่มมีโรคไตเช้าแทรก ค่ารักษาพยาบาลก็ได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และกฎของโรงพยาบาลคือญาติ ของผู้ป่วยจะต้องเปิกจ่ายยามาก่อน คือต้องลงไปจ่ายค่ายาก่อนที่หมอจะทำการรักษา เช่นเราต้องไปซื้อยา นำเกลือ มาสำรองไว้ให้คุณหมอก่อน ทางโรงพยาบาลจะไม่เปิกจ่ายยามาให้คนไข้ก่อน เงินทองของอาร์นี่ที่มีเก็บไว้เริ่มหมดไป และ เรื่มต้องของเปิกเงินเดือนล่วงหน้ากับทางบริษัท ทุกๆครั้งที่ไปโรงพยาบาล จะต้องเสียเงินประมาณ 4-5,000 บาทเป็นค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ต่างๆ (อาร้นี่ไปจ่ายเงินอาทิตย์ละครั้ง ) ซึ่งในสมัยนั้นเป็นเงินมากเหลือเกิน และในสมัยนั้นไม่มี 30 บาทรักษาทุกโรคเหมือนสมัยนี้ เลยมีคนแนะนำให้อาร์นี่ทำเรื่องให้คุณยายเป็นผู้ป่วยสงเคราห์ คือไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล และจะเป็นคนไข้ที่ทางรัฐออกเงินค่ารักษาให้ อาร์นี่เลยไปดำเนินเรื่อง กว่าเรื่องจะเสร็จก็ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เมื่อเรื่องเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเพียงชั่วระยะเวลาเพียงข้ามคืน ตอนเช้าทางโรงพยาบาลได้โทรมาแจ้งว่า คุณยายเสียชีวิตแล้วในคืนนั้นเอง สาเหตุการตายคือทนพิษบาดแผลไม่ไหว (แผลกดทับที่ก้น ) ทำไม่ อาร์นี่คิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำไม ตลอดระยะเวลาที่อาร์นี่เสียเงินค่ารักษาพยาบาลให้ทางโรงพยาบาลเอง ประมาณ 7-8 เดือน คุณยายยังคงมีชีวิตอยู่ได้ ถึงแม้จะไม่รู้สึกตัวก็ตาม แต่ในวันที่อาร์นี่เดินเรื่องให้ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของสงเคราห์ กลับกลายเป็นว่า ท่านเสียชีวิตในคืนนั้นเอง มันเลยกลายเป็นตราบาปที่ติดตัวอาร์นี่ไปตลอดเวลาจนบัดนี้ว่า อาร์นี่เป็นคนทำให้คุณยายเสียชีวิต ถ้าอาร์นี่ไม่ทำเรื่องเข้าสงเคราห์ ท่านก็อาจยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก อาร์นี่เลยคิดว่าการตายของคุณยายในครั้งนี้ อาร์นี่เป็น ฆาตกรที่ฆ่าคุณยาย การผชิญหน้ากับความตายในชีวิตของอาร์นี่ ไม่ได้มีเพียงแค่นี้เดี๋ยวจะมาเล่าต่อ
Create Date : 05 เมษายน 2549 |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2549 9:44:52 น. |
|
4 comments
|
Counter : 380 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Zantha วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:14:56:56 น. |
|
|
|
โดย: tokei (tokei/tookei ) วันที่: 10 เมษายน 2549 เวลา:19:50:41 น. |
|
|
|
โดย: Arnie IP: 58.136.76.68 วันที่: 11 เมษายน 2549 เวลา:16:28:11 น. |
|
|
|
โดย: Noshka IP: 24.60.107.156 วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:11:38:53 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อย่าโทษตัวเองเรื่องคุณยายไปเลยครับ ถ้ท่านรู้ว่าคุณกำลังกล่าวโทษตัวเอง ท่านจะเสียใจ