Group Blog
 
 
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
5 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
การเผชิญหน้ากับความตาย

ความตาย
ความตายมีหลายรูปแบบแล้วแต่ว่าจะได้เจอะเจอกับความตายแบบไหนสำหรับอาร์นี่ตั้งแต่เกิดมาได้พบเจอมามากมายทั้งที่เกี่ยวข้องโดยครงกับตัวเอง หรือเกี่ยวข้องทางอ้อม
การเผชิญหน้ากับความตายครั้งที่ 1. การตายจากกันทั้งเป็น
ความตายจากกันทั้งเป็นที่เกิดขึ้นกับอาร์นี่ได้เกิดขึ้นเมื่อตอนอาร์นี่ยังเป็นเพียงเด็กเล็กๆคนหนึ่ง อายุประมาณ 3 ขวบกว่า วันนั้นจำได้แต่เพียงว่า นั่งอยู่บนบันไดบ้านชั้น 2 พ่อของอาร์นี่ได้เดินลงมาลูบหัวแล้วก้มลงถามว่า อยากกินอะไรจะซื้อมาฝาก อาร์นี่บอกว่าอยากกินช็อคโกแล็ต พ่อพยักหน้ายิ้มๆแล้วเดินออกจากบ้านไป ทำงานตามปกติ และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้เจอท่านอีกเลย คนในบ้าน แม่ ตาและยาย ต่างก็ไม่มีใครพูดถึงพ่อ แต่อาร์นี่จำไม่ได้หรอกว่าได้ถามหาพ่อหรือไม่ ตอนโตมาถึงได้รับรู้ว่า พ่อกับแม่นั้นแยกทางกัน ถึงแม้ว่าอาร์นี่จะรู้เช่นนั้น ฉันก็ไม่เคยเอ่ยบากถามแม่เลยว่า พ่อไปอยู่ที่ไหน อย่างไร ด้วยความที่กลัวแม่จะเสียใจ และกลัวยายจะดุ และอาร์นี่ก็ได้ถูกยกมาให้เป็นบุตรบุญธรรมคุณตา เรียกคุณตาว่าพ่อ ทำให้ไม่รู้สึกว่าขาดพ่อ หรือเป็นปมด้อยแต่อย่างไร และด้วยความที่เราย้ายบ้านด้วยเลยไม่ทราบว่าพ่อได้เคยมาหาบ้างไหม จนกระทั่งตอนนี้ แม่ ตา ยาย ได้จากอาร์นี่ไปหมดแล้ว อาร์นี่ก็ยังคงไม่รู้อยู่ดีว่า ท่านทั้งสองแยกจากกันด้วยเรื่องอะไร
ถามว่าโกรธ เกลียดพ่อไหม ไม่
จะตามหาไหม คงไม่
แต่ก็แอบหวังอยู่ลึกๆว่าสักวันคงเจอ

การเผชิญหน้ากับความตายครั้งที่ 2 คือ การจากไปอย่างสงบของคุณตา

อาร์นี่จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันคริสต์มาส ตอนนั้น ฉันเรียนอยู่ ม 2.อาร์นี่ได้ไปโรงเรียนตามปกติ พอตอนบ่ายแม่ก็มารับอาร์นี่เพื่อกลับบ้าน แม่บอกว่าทางบ้านมีเรื่อง เมื่อไปถึงบ้าน ถึงได้เห็นว่ามีคนมากมายเต็มบ้านไปหมด เดินเข้าบ้านไปก็มองเห็นคุณตานอนอยู่บนที่นอนในสภาพเหมือนคนอนหลับปกติ แม่บอกแต่เพียงว่าคุณตาเสียแล้ว ให้ไปกราบเท้าคุณตาเป็นครั้งสุดท้าย ฉันได้แต่นิ่งอึ้ง น้ำตาเริ่มไหลออกมา คืนนั้นเรานอนเป็นเพื่อนกับคุณตาที่ชั้นล่าง เหมือนกับว่าท่านจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้อีก
อาร์นี่รู้ว่าท่านได้จากไปอย่างสงบ ท่านกินข้าวตอนเที่ยง แล้วนอนหลับ แล้วจากไปเลย แม่รู้ว่าท่านเสียก็เมื่อเห็นท่านนอนเงียบนานมาก เลยไปปลุก แต่ท่านก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมาอีกเลย
อาร์นี่กับคุณตาถือว่าไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ เป็นเพราะท่านเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด แต่อาร์นี่ไม่เคยถูกคุณตาตีเลย แม้สักครั้งเดียว ได้แต่ถูกดุ แค่คุณตาทำเสียงดุ ก็กลัวแล้ว และการจากไปของท่านในครั้งนี้ เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของบ้านเพราะท่านเป็นเสมือนเสาหลักของบ้าน การจากไปของท่านทำให้ชีวิตของอาร์นี่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง


การเผชิญหน้ากับความตายครั้งที่ 3 ฉันคิดว่าฉันเป็น ฆาตกร
การเผชิญหน้าครั้งนี้ได้ห่างจากความตาย ครั้งที่ 2 ค่อนข้างนาน คือเมื่อตอน อาร์นี่เริ่มทำงานแล้ว เป็นความตายที่เกิดขึ้นกับคุณยายของอาร์นี่เอง คุณยายแก่มากแล้วและเป็นโรค เบาหวาน และตั้งแต่คุณตาจากไปฐานะของทางบ้านก็เปลี่ยนไป เงินที่เคยมีใช้จากบำนาญของตุณตาก็ไม่มี คุณแม่ต้องออกไปหางานทำ และกลายเป็นคุณแม่ที่หาเงินเพียงคนเดียว และดูแลครอบครัว ทั้งหมด จากนั้นเมื่ออาร์นี่จบออกมา อาร์นี่ก็เริ่มทำงาน ซึ่งเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร เมื่อคุณยายป่วย คุณแม่ต้องออกมาดูแลคุณยาย อารนี่เลยกลายเป็น คนดูแลครอบครัว และรับภาระทุกอย่างภายในบ้าน เรื่องมาเกิดขึ้นเมื่อคุณยายป่วยมากและช็อคเนื่องจากน้ำตาลในเลือดมีมากเกินไปจนต้องเข้าไปนอนอยู่ในโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ซ้ำร้ายกว่านั้น คุณยายไม่รู้สึกตัว นอนอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเดือน ๆ เริ่มมีโรคแทรกซ้อน คือเริ่มเป็นโรคไตวาย และเกิดแผลกดทับตรงบริเวณก้น ซึ่งเกิดจากการนอนเป็นระยะเวลานานๆ เมื่อเริ่มมีโรคไตเช้าแทรก ค่ารักษาพยาบาลก็ได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และกฎของโรงพยาบาลคือญาติ ของผู้ป่วยจะต้องเปิกจ่ายยามาก่อน คือต้องลงไปจ่ายค่ายาก่อนที่หมอจะทำการรักษา เช่นเราต้องไปซื้อยา นำเกลือ มาสำรองไว้ให้คุณหมอก่อน ทางโรงพยาบาลจะไม่เปิกจ่ายยามาให้คนไข้ก่อน เงินทองของอาร์นี่ที่มีเก็บไว้เริ่มหมดไป และ เรื่มต้องของเปิกเงินเดือนล่วงหน้ากับทางบริษัท ทุกๆครั้งที่ไปโรงพยาบาล จะต้องเสียเงินประมาณ 4-5,000 บาทเป็นค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ต่างๆ (อาร้นี่ไปจ่ายเงินอาทิตย์ละครั้ง ) ซึ่งในสมัยนั้นเป็นเงินมากเหลือเกิน และในสมัยนั้นไม่มี 30 บาทรักษาทุกโรคเหมือนสมัยนี้ เลยมีคนแนะนำให้อาร์นี่ทำเรื่องให้คุณยายเป็นผู้ป่วยสงเคราห์ คือไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล และจะเป็นคนไข้ที่ทางรัฐออกเงินค่ารักษาให้ อาร์นี่เลยไปดำเนินเรื่อง กว่าเรื่องจะเสร็จก็ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เมื่อเรื่องเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเพียงชั่วระยะเวลาเพียงข้ามคืน ตอนเช้าทางโรงพยาบาลได้โทรมาแจ้งว่า คุณยายเสียชีวิตแล้วในคืนนั้นเอง สาเหตุการตายคือทนพิษบาดแผลไม่ไหว (แผลกดทับที่ก้น )
ทำไม่ อาร์นี่คิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำไม ตลอดระยะเวลาที่อาร์นี่เสียเงินค่ารักษาพยาบาลให้ทางโรงพยาบาลเอง ประมาณ 7-8 เดือน คุณยายยังคงมีชีวิตอยู่ได้ ถึงแม้จะไม่รู้สึกตัวก็ตาม แต่ในวันที่อาร์นี่เดินเรื่องให้ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของสงเคราห์ กลับกลายเป็นว่า ท่านเสียชีวิตในคืนนั้นเอง มันเลยกลายเป็นตราบาปที่ติดตัวอาร์นี่ไปตลอดเวลาจนบัดนี้ว่า อาร์นี่เป็นคนทำให้คุณยายเสียชีวิต ถ้าอาร์นี่ไม่ทำเรื่องเข้าสงเคราห์ ท่านก็อาจยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก อาร์นี่เลยคิดว่าการตายของคุณยายในครั้งนี้ อาร์นี่เป็น ฆาตกรที่ฆ่าคุณยาย

การผชิญหน้ากับความตายในชีวิตของอาร์นี่ ไม่ได้มีเพียงแค่นี้เดี๋ยวจะมาเล่าต่อ



Create Date : 05 เมษายน 2549
Last Update : 19 พฤษภาคม 2549 9:44:52 น. 4 comments
Counter : 380 Pageviews.

 

อย่าโทษตัวเองเรื่องคุณยายไปเลยครับ ถ้ท่านรู้ว่าคุณกำลังกล่าวโทษตัวเอง ท่านจะเสียใจ


โดย: Zantha วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:14:56:56 น.  

 
^
^
^

เห็นด้วยทุกประการ คุณยายท่านจะห่วงอาร์นี่นะ ถ้าหนูคิดแบบนั้น การคิดโทษตัวเองไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย

อีกอย่างคุณยายคงอยากให้อาร์นี่มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขที่สุด มากกว่าจะมาจมอยู่กับความรู้สึกผิดแน่ๆ

เป็นกำลังใจให้จ้ะ


โดย: tokei (tokei/tookei ) วันที่: 10 เมษายน 2549 เวลา:19:50:41 น.  

 
ขอยคุณคะ Zantha และพี่ tokei ที่มาช่วยให้กำลังใจคะ

อย่างที่บอกว่าเวลาเป็นสิ่งที่รักษาทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ อาร์นี่ก็ไม่ค่อยคิดมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็มีบ้างเป็นบางเวลาคะที่ยังอดคิดไม่ได้น่ะ



โดย: Arnie IP: 58.136.76.68 วันที่: 11 เมษายน 2549 เวลา:16:28:11 น.  

 
Hi Arnie,
You are so brave to share your stories with us. Not a lot of people (especially young people) realize that lives are so fragile and death is the sure thing which nobody can escape.

My father died when I was little as well. Mom who was just a house wife had to start working and raise 3 kids by herself. I was so little but remember the day we lost our father very well.
I have learned that nothing is stable then I am living my life consciously all the time.
Additionally, we should feel grateful that we can still wake up and have chance to live for another day. Keep thinking/talking/doing only good things will help you live happier. And forgiveness in one of the best give... Good luck and stop blaming yourself.

I don’t have my own blog but I would recommend you visit these blogs (id=mummy or id=baojin). The blogmaster always share good thoughts and they love Chinese music as well.


โดย: Noshka IP: 24.60.107.156 วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:11:38:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Arnie
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









ถ้าเพื่อนๆกดฟังเพลงไหนแล้วเพลงไม่ขึ้นเขียนบอกด้วยนะคะ อาร์นี่จะได้เข้าไปแก้ลิงค์ให้คะ





Friends' blogs
[Add Arnie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.