...ROCK & ROLL...LIVE & LOUD...ฟังเพลงแล้ว อย่าทำชั่วนะโว้ย...
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
.."ชาย..ผู้ซื่อสัตย์"..


"Hitomi No Junin" - L'arc En Ciel

ทำไม....เรารักกัน..แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำไม....เราถึงลืมใครบางคนไม่ได้ซะที ทำไม....เราถึงรักใครไม่ได้อีก..???
มีใครเคยตั้งคำถามแบบนี้ กับคุณความรักใจร้ายบ้างไหมครับ ช่างเป็นคำถามที่ตอบยากและบางที คนถามคำถามแบบนี้ อาจต้องการกำลังใจมากกว่าคำตอบ..... ถ้าคุณไม่เคยนึกสงสัยอะไรแบบนี้ก็นับว่าโชคดี แต่ถ้าแอบแว้บๆเคยหวั่นไหวในใจ....ลองฟังเรื่องของชายคนนี้ดูหน่อยเป็นไรครับ

เอ่ยชื่อของ “เบ็งเคย์” น่าจะมีหลายคนเคยได้ยินมาบ้าง ชื่อของ“เบ็งเคย์” นั้นถูกนำมาใช้เป็นตัวละครในนิยายหลายๆเรื่องของชาวญี่ปุ่น บ้างก็เป็นตัวดี บ้างก็เป็นตัวร้าย ตามจินตนาการของผู้เขียน แต่ที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ “เบ็งเคย์” มักถูกยกย่อง นับถือเป็นตัวแทนในเรื่อง“ความซื่อสัตย์”ของชาวญี่ปุ่น คล้ายๆกับที่ชาวจีนนับถือความซื่อสัตย์ของ “เทพเจ้ากวนอู” เลยทีเดียว

“เบ็งเคย์” นั้นมีตัวตนจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโบราณครับ ชื่อเต็มๆคือ “ซาโต้ มุซาชิโบะ เบ็งเคย์” เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่นำมาทิ้งไว้ที่วัดในป่า (บางตำนานก็ว่าเกิดจากพ่อซึ่งเป็นคนในวัดข่มขืนแม่ซึ่งเป็นลูกสาวช่างตีเหล็กแถวนั้น) “เบ็งเคย์”ถูกชุบเลี้ยงมาโดยเหล่าพระในวัด มีลักษณะแตกต่างจากคนอื่นทั่วไป คือรูปร่างใหญ่โตตั้งแต่เด็ก (ตอนที่โตเป็นหนุ่ม 17 ปี น่ะ สูง 2 เมตรกว่าเลยนะครับ) ซึ่งสำหรับคนญี่ปุ่นสมัยนั้น ถือเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดผิดมนุษย์ ยิ่งประกอบกับท่าทางที่แข็งแรงดุดันและชาติกำเนิดที่น่าเศร้าของ“เบ็งเคย์” แล้ว ชาวบ้านละแวกนั้นจึงหวาดกลัวปนรังเกียจ และมักเรียกเขาว่า “โอนิวากะ”(เจ้าลูกยักษ์) ...“เบ็งเคย์” บวชเป็นพระนักรบพร้อมกับฝึกวิชาการต่อสู้ไปด้วย และเติบโตขึ้นมาเป็นพระนักรบที่เก่งกาจแข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น


เรื่องราวตำนาน “ความซื่อสัตย์”ของ“เบ็งเคย์”เริ่มจากตรงนี้ครับ ... “เบ็งเคย์” ออกจากวัดไปตอนอายุ 17 ปี ด้วยเหตุผลใดไม่เป็นที่แน่ชัดหลังจากนั้น “เบ็งเคย์”ได้กลายเป็นนักบวชนอกรีต อยู่ที่ “สะพานโกะโจ”คอยดักปล้นฆ่าเหล่าทหารและซามูไรที่ผ่านไปมาและยึดอาวุธของคนเหล่านั้นไว้ “เบ็งเคย์”รวบรวมดาบไปได้ถึง 999 เล่ม แต่ที่สุดแล้วเขาก็ต้องพ่ายแพ้แก่คู่ต่อสู้คนที่ 1,000 นั่นก็คือ “มิยาโมโตะ โยชิสึเนะ”เด็กหนุ่มวัยเพียง14 ปี ทายาทคนรองของตระกูลเก็นจิ ซึ่งมีความมุ่งมั่นจะรวบรวมญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่นให้จงได้ “เบ็งเคย์”ยอมรับในความพ่ายแพ้และเห็นความตั้งใจจริงของชายผู้เอาชนะตนคนนี้แม้จะอายุน้อยกว่า จึงได้ปฏิญาณตัวขอเป็นข้ารับใช้ องค์รักษ์ “ผู้ซื่อสัตย์”ต่อ โยชิสึเนะ นับตั้งแต่บัดนั้นตราบจนวันตาย

“ความซื่อสัตย์” ของ“เบ็งเคย์” ต่อ โยชิสึเนะ นั้น เป็นที่กล่าวขานกันมาก “เบ็งเคย์”เป็นทั้งสหายร่วมรบ และ ขุนพลเอกผู้ปกป้องนายเหนือหัวอย่างไม่เสียดายชีวิต ทั้ง 2 คนเชื่อใจกันมากเสียจน ไม่ว่าจะพูดอะไร อีกฝ่ายก็จะเชื่อใจโดยไม่ต้องถามเหตุผลเลยสักคำ แต่น่าเสียดายครับ ที่สุดแล้วความฝันของทั้งคู่ที่จะฟื้นฟูตระกูลและรวบรวมญี่ปุ่นก็ไปไม่ถึงฝั่ง เพราะหลังจากโยชิสึเนะร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชาย จนพี่ชายได้ขึ้นเป็นใหญ่แล้ว โยชิสึเนะกลับถูกพี่ชายกล่าวหาว่าเป็นกบฏ และต้องจบชีวิตด้วยการคว้านท้องตัวเองในตำหนักด้วยวัยเพียง 20ปี โดยขณะที่ โยชิสึเนะกำลังทำพิธีคว้านท้องตนเองนั้น “เบ็งเคย์” ก็ยืนปักหลั่นเป็นป้อมปราการเฝ้าอยู่หน้าประตู ไม่ยอมให้นายเหนือหัวถูกลบหลู่เกียรตินักรบจบชีวิตด้วยน้ำมือทหารของพี่ชายที่บุกเข้ามา และเขาก็ทำสำเร็จ.....เพียงแต่ต้องแลกด้วยชีวิต “เบ็งเคย์”สิ้นใจด้วยลุกธนูที่ระดมยิงเข้ามาทั่วร่าง ทั้งที่อยู่ในท่ายืนจังก้าเฝ้าหน้าประตูนั่นเอง .......


ทีนี้มาว่าถึงชีวิตรักของ“เบ็งเคย์” ที่ไม่ค่อยมีใครรู้กันบ้าง...
ตลอดชีวิตของ“เบ็งเคย์”นอกจากความเมตตาของพระผู้ที่เก็บมาเลี้ยงแล้ว ก็ไม่เคยได้รับ “ความรัก”จากใครเลย ยิ่งด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตน่ากลัวปานยักษ์ แน่นอนว่าย่อมไม่มีสตรีนางใดกล้าเฉียดกรายเข้าใกล้ จนระหว่างที่“เบ็งเคย์”ติดตามรับใช้ โยชิสึเนะอยู่นั่นเอง ได้มีองค์หญิงชื่อว่า “โคโย”บุตรสาวท่านทูตจากเมือง“กิ๋น”(ตรงกับแถบมองโกเลียในปัจจุบัน) เดินทางมาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี องค์หญิงโคโยนั้นแม้หน้าตาจะสะสวยแต่รูปร่าง สูงใหญ่ราว 180 ซ.ม. ซึ่งนับเป็นของแปลกและน่าอาย เพราะผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนมากในสมัยนั้นจะตัวเล็กๆ

“เบ็งเคย์”สะดุดตาตั้งแต่แรกพบผู้หญิงที่ร่างกายใหญ่โตใกล้เคียงกับตน และเหมือนฟ้าลิขิต ขณะที่“โคโย”กำลังเดินชมเมือง เกิดมีม้าพยศคุ้มคลั่งตัวหนึ่งวิ่งอาละวาด ไล่ตรงเข้าจะทำร้ายเด็กสาวที่ล้มอยู่กับพื้น โคโยที่อยู่ใกล้รีบพุ่งเข้าไปอุ้มเอาตัวกำบังเด็กสาวคนนั้นไว้ แต่ก็เหมือนช้าเกินกว่าที่จะหลบเจ้าม้าคลั่งซึ่งกำลังจะเหยียบลงมาพ้น วินาทีนั้นเอง “เบ็งเคย์” ใช้กำลังมหาศาลของตนพุ่งเข้าไปล็อกขาม้าแล้วเหวี่ยงออกไป องค์หญิงโคโยเดินเข้ามาขอบคุณ และจับมือของ“เบ็งเคย์”ขึ้นมาจ้องมองสักพัก ก็กล่าวว่า “เจ้าคงลำบากมามากใช่ไหม..ตอนนี้มีความสุขรึเปล่า...ข้าไม่ยอมแพ้ความมุ่งมั่นของเจ้าหรอก” “เบ็งเคย์”ถึงกับตะลึงในความไม่ธรรมดาของผู้หญิงคนนี้ที่เหมือนจะอ่านใจเขาออก พร้อมทั้งเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจ.....


ระหว่างที่โคโยพักอยู่ในเมือง “เบ็งเคย์” ได้ยินข่าวว่ามีคนคิดจะลอบสังหาร คืนนั้นเขาจึงตัดสินใจลอบเข้าไปเฝ้ายามให้ลับๆ แต่กลับถูกองค์รักษ์ของนางจับได้เสียก่อน และแน่นอน..ในสภาพอาวุธครบมือลับๆล่อๆแบบนี้ ก็กลายเป็นว่า“เบ็งเคย์”คือผู้เข้ามาปองร้ายองค์หญิงเสียเอง จึงถูกจับมัดทรมานให้สารภาพความจริง ระหว่างนี้ทำให้องค์หญิงโคโยได้รับรู้อดีตอันน่าเศร้าของเบงเคย์ ซึ่งนางเองก็มีปมในใจเรื่องร่างกายที่ใหญ่โตเช่นกัน เพราะในอดีตเคยถูกชายคนรักหลอกใช้ แกล้งทำดีเพื่อใช้เป็นบันไดสู่ตำแหน่งขุนนาง ทั้งที่จริงๆแล้วรังเกียจร่างกายที่ใหญ่โตเกินหญิงทั่วไปของโคโย จนนางคิดฆ่าตัวตายด้วยการเชือดคอตนเองแต่โชคดีที่รอดมาได้ กระนั้นก็กลายเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ต้องสวมผ้าพันคอปกปิดเสมอ และนางก็ไม่เคยเปิดใจไว้ใจให้ผู้ชายคนไหนอีกเลย

ตกดึกคืนนั้นเจ้าพวกผู้ร้ายตัวจริงก็บุกเข้ามาครับ และก็จับตัวองค์หญิงไปได้ แต่ที่สุดแล้วเบงเคย์ก็เสี่ยงชีวิตบุกตามไปช่วยโคโยหนีออกมาสำเร็จ และเรื่องทั้งหมดก็คลี่คลาย องค์หญิงโคโยนั้นซาบซึ้งในความหวังดีของเบงเคย์และถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วยทั้งที่พวกเราเข้าใจผิดและทรมานเจ้า คำตอบที่ออกมาจากปากของชายร่างใหญ่ก็คือ... “เป็นครั้งแรกที่มีสตรีกล้าเข้ามาแตะต้องตัวข้า...ที่ถูกรังเกียจและหวาดกลัวมาตลอด”


หลังจากทั้งคู่หนีออกมาได้ก็ไปหลบซ่อนตัวที่กลางป่า ทั้ง 2 ค่อยๆรู้จักและไว้วางใจกันมากขึ้นพร้อมกับความรู้สึกดีๆที่งอกเงย โคโยสับสนในใจตัวเองอย่างมาก เพราะนางเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วและกำลังจะแต่งงานเร็วๆนี้ แต่ขณะเดียวกันนางเองก็ไม่เคยรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยและไว้ใจชายคนใดเหมือนที่อยู่ใกล้ชิด“เบ็งเคย์”มาก่อน ไว้ใจถึงขนาดที่ว่ากล้าถอดผ้าพันคอเผยแผลเป็นน่าเกลียดของนาง และเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียขณะที่“เบ็งเคย์”อยู่ใกล้ๆ

เรื่องราวเหมือนจะจบลงด้วยดีครับ แต่บางครั้ง ความรักก็ไม่เคยเลือกว่าจะใจร้ายกับใคร ระหว่างที่พักฟื้นกลางป่านี่เอง เป็นจังหวะเดียวกับท่านชายคู่หมั้นขององค์หญิงโคโยเดินทางมาจากเมืองกิ๋นเพื่อรับตัวกลับซึ่งก็ออกตามร่องรอยของทั้งคู่มาที่กลางป่า และได้เห็นมิตรภาพ ความไว้วางใจที่โคโยมอบให้เบงเคย์ อย่างที่นางไม่เคยเปิดใจให้ใครขนาดนี้มาก่อน ทางท่านชายเองก็เป็นลูกผู้ชายพอครับ ดูออกว่าโคโยมีความรู้สึกเช่นไร จึงให้โคโยตัดสินใจเลือกระหว่างตนกับ“เบ็งเคย์” โดยให้เวลา 2 วันและจะรอคำตอบของนาง ณ ที่พัก ถ้าครบเวลาแล้วนางไม่กลับมา ก็ถือซะว่าขอให้นางโชคดีมีความสุขกับ“เบ็งเคย์”


“องค์หญิงโคโย”หนักใจเป็นอันมาก หัวใจของนางนั้นโอนอ่อนมาทาง“เบ็งเคย์”อยู่แล้วครับ เพราะ กับคู่หมั้นของนางนั้นแม้จะเป็นคนดี มีฝีมือ และรักนางอย่างจริงใจ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นการแต่งงานเพราะต้องการให้มีผู้สืบทอด เนื่องจากท่านพ่อของนางมีบุตรสาวเพียงคนเดียว อีกทั้งยังป่วยกระเสาะกระแสะอยู่ที่เมืองกิ๋น โคโยเลือกที่จะถาม“เบ็งเคย์”ตรงๆครับว่า “ท่านชอบเรารึเปล่า...อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเรารึเปล่า...” เบ็งเคย์ก็ตอบตรงๆอย่างลูกผู้ชายว่า “ขอรับ”…โคโยจึงขอร้องให้เบ็งเคย์ตามนางกลับไปที่เมืองกิ๋น เรื่องนี้ทำเอา “เบ็งเคย์”ลำบากใจมากทีเดียว เพราะแม้นี่คือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่“เบ็งเคย์ผู้ไม่เคยสัมผัสแม้แต่มารดา” รู้สึกรักเต็มหัวใจ แต่ภาระหน้าที่ต่อนายเหนือหัวนั้นก็สำคัญยิ่งชีวิต

คืนนั้น“เบ็งเคย์”ต้องออกไปเอาน้ำราดตัวกลางดึกสงบความกลัดกลุ้มสับสนในใจ นั่งครุ่นคิดอยู่ค่อนคืนจนตัดสินใจว่า แม้โคโยจะเลือกตนแต่หาก “โคโย”อยู่กับท่านชายน่าจะมีความสุขมากกว่า ด้วยความพร้อมในหลายๆด้าน ส่วนโคโยระหว่างที่รอคำตอบของ“เบ็งเคย์”นางก็พยายามเย็บเสื้อที่ขาดเพราะปกป้องนางของ“เบ็งเคย์”ให้ ทั้งๆที่นางไม่ถนัดงานฝีมือเอาเสียเลย ....ที่สุดแล้วเหมือนสวรรค์จะมีทางออกให้สำหรับเรื่องนี้ ระหว่างที่โคโยซ่อมแซมเสื้ออยู่นั้น ก็พบกับกระดาษแผ่นหนึ่งบันทึกข้อความบางอย่างไว้สอดอยู่ในเสื้อของ "เบ็งเคย์"....


ใกล้ฟ้าสาง “โคโย” เดินเข้ามาหา “เบ็งเคย์”ที่กำลังต่อสู้กับหัวใจตัวเองอย่างหนัก และโคโยก็กล่าวว่า... “ท่านคงไปไม่ได้สินะ” พร้อมกับคลี่กระดาษเล็กๆแผ่นนั้น กางให้“เบ็งเคย์” ดู........โคโยกล่าวขอโทษ“เบ็งเคย์” ที่ทำให้ต้องสับสนและลำบากใจ จากนั้นค่อยๆเปลือยกายออกพร้อมพูดว่า “จงดู...นี่คือตัวเรา..ร่างกายของเราที่เปิดเผยต่อผู้อื่นเป็นครั้งแรก จงอย่าลืมเรา เพราะเราจะไม่ลืมท่านเช่นกัน..” ทั้ง 2 สารภาพรักต่อกันทั้งน้ำตา และล่ำลาจากกันไปอย่างปวดร้าวในคืนนั้นเอง...............

เบ็งเคย์ตื่นขึ้นมาตอนฟ้าสาง มองดูชายผ้าที่โคโยทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าเพื่อเป็นหลักฐานการเป็นสามี-ภรรยาแค่ทางใจ
ตั้งปฏิญาณว่าจะไม่มอบหัวใจให้สตรีคนใดอีกตลอดชีวิตนี้ พร้อมมองกระดาษแผ่นเล็กๆที่โคโยนำมาเตือนใจตนเมื่อคืน ....
กระดาษแผ่นนั้นเขียนสั้นๆด้วยลายมือของ มิยาโมโต้ โยชิสึเนะว่า........ “ซื่อสัตย์..... หากมีความซื่อสัตย์แล้วย่อมไม่มีใจเป็นอื่น”
......
......
......
ไม่รู้ว่าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะใจร้ายเกินไปรึเปล่า ถ้าผมจะบอกว่าเรื่องราวในส่วนชีวิตรักของ“เบ็งเคย์”ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนั้น เป็นเรื่องที่แต่งเพิ่มขึ้น โดยผมขออนุญาตหยิบยืมมาจาก หนังสือการ์ตูนเรื่อง “ขุนศึกสะท้านปฐพี” เนื่องด้วยความประทับใจหลายๆอย่าง..ก็ถือว่าอ่านเอารสแล้วกันครับ

เพราะหลังจากผมอ่านเรื่องราวของ“เบ็งเคย์”แล้ว ก็แอบนึกถึงอดีตของตัวเอง เรื่องของทั้งคนรู้จัก และไม่รู้จักอีกหลายคน ที่เคยตั้งคำถาม 3 ประโยค ต้นบทความในวันนี้ กับหัวใจตัวเอง............เชื่อเถอะครับว่า ..ถ้าเลือกได้..... ถ้าคนเราบังคับหัวใจตนเองได้..
....
ไม่มีใครอยากเป็น “เบ็งเคย์” หรอกครับ................



ปล.ยังไงถ้าสนใจเรื่องสนุกๆของ โยชิสึเนะ กับ เบงเคย์เพิ่มเติม ติดตามได้ในหนังสือการ์ตูนเรื่อง "ขุนศึกสะท้านปฐพี"ของบูรพัฒน์คอมมิคครับ สนุกมากๆเลย


Create Date : 15 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2549 3:57:00 น. 99 comments
Counter : 2332 Pageviews.

 
..“จงดู...นี่คือตัวเรา..ร่างกายของเราที่เปิดเผยต่อผู้อื่นเป็นครั้งแรก จงอย่าลืมเรา เพราะเราจะไม่ลืมท่านเช่นกัน..” ทั้ง 2 สารภาพรักต่อกันทั้งน้ำตา และล่ำลาจากกันไปอย่างปวดร้าวในคืนนั้นเอง..............


น้ำตาซึมด้วยค่ะ


โดย: Tante Ta วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:09:27 น.  

 
อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ


โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:3:24:10 น.  

 
ทำไม....เรารักกัน..แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำไม....เราถึงลืมใครบางคนไม่ได้ซะที ทำไม....เราถึงรักใครไม่ได้อีก..???

ชอบการตั้งคำถามครับ บางครั้งก้อหาคำตอบไม่ได้ครับ


โดย: somnumberone วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:34:04 น.  

 
ไอ้เราก็กำลังซึ้งๆ มาตอนจบถึงรู้ว่าชีวิตรักเบงเคย์ต่อเติมหรือนี่ ตอนแรกอ่านๆเหมือนการ์ตูนประวติศาตร์เลย แต่เราน้ำตาซึมในมิตรภาพของเบงเคย์กับโยชิสึเนะมากกว่า ชอบอ่ะมันกินใจดี

ps.อยากฟังเพลง L'arc En Ciel อ่ะคุณหร่ายฟังไม่ได้ คงต้องกลับมาฟังใหม่แน่เลย

..อ้อ..ชอบเรื่องที่อัพวันนี้จัง ชอบอ่านอ่ะ


โดย: โจเซฟิน วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:42:40 น.  

 
เคยถามคำถามข้างบน กับใครหลายคน ที่ประสบเหตุการณ์เดียวกัน เพราะไม่รู้ที่มาที่ไป
...
...
พอได้ทราบเรื่องราว ก็เข้าใจถึงเหตุผล...
...
...
อย่างน้อยที่สุด ก็ได้รู้ว่ามีใครคนนึงบนโลกใบนี้
ที่ยังเฝ้า รักและคิดถึงกัน เนอะ
...
...
และยังอยู่ในใจตลอดกาล ...บางที ถ้าเลือกที่จะ
ใช้ชีวิตร่วมกัน อาจคงต้องจบ เหมือนอีกหลายหลายคู่ที่เคยพบเห็นก็ได้...
...
...
โลกกลมกลมใบนี้ อะไรอะไรก็เกิดขึ้นได้เนอะ
...
...
อ่านเรื่องข้างบน แล้วคิดถึงเพลง เงา ของ Paradox (blog ของ Varissaporn327 เปิดอยู่อ่ะค่ะ) อิอิ

ปล.Great Expectation กะลังตามหามาดูอยู่ค่ะ


โดย: Serendipity_t วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:22:20 น.  

 
หุหุ คงไม่หล่ะจ๊ะ


โดย: Jannyfer วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:33:42 น.  

 

ดีจังเลย
ขอบคุณที่นำมาฝากเจ้าค่ะ
สบายดีเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:58:48 น.  

 
ทำไมชีวิตของ โยชิสึเนะและ เบ็งเคย์
ถึงเศร้าอย่างนี้
"ทำดีได้ดี" นี่ไม่จริงเสมอไปแล้ว


โดย: grappa วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:09:55 น.  

 
อะไรจะเศร้าปานนั้น


โดย: strawberry machine gun วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:18:44 น.  

 
แวะมาอ่านคร้าบบ


โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:41:37 น.  

 
เราเคยได้ยินชื่อเบ็งเคย์จากพี่คนนึงที่รู้จักกัน
เคยคุ้นหูคุ้นตากับชื่อโยชิสึเนะ จากการ์ตูนที่อ่าน

เราซาบซึ้งกับเรื่องราวของโยชิสึเนะกับเบ็งเคย์จังเลย

--เดี๋ยวไปหาขุนศึกสะท้านภพมาอ่านดีกว่า



โดย: นางสาวอาร์ต วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:50:17 น.  

 
ซึ้งดี



โดย: prncess วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:32:59 น.  

 
ซึ้งมากค่ะ อ่านไปนึกว่าเจ้าหญิงโคโยเป็นเสียงซึงซะอีก (เหมือนแค่ตัวใหญ่)

"ทำไม....เรารักกัน..แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำไม....เราถึงลืมใครบางคนไม่ได้ซะที ทำไม....เราถึงรักใครไม่ได้อีก..???" เออ นะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็มายรู้


โดย: เสียงซึง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:55:45 น.  

 
เข้ามาอ่าน
อ่านบล๊อกคุณแร้ที่ไร อบอุ่น ซาบซึ้ง

คนที่เรารักที่สุด ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกค่ะ
เพราะรักมากเกินไปค่ะ

รักมาก นำไปสู่รักแบบผิดๆ ค่ะ


****
เรามองว่า คนที่เราจะได้อยู่กะเค้าไปตลอดชีวิต คือ คนที่เข้าใจเรามากกว่าอ่ะคะ่
เข้าใจ+ยอมรับ
ในตัวตนของกันและกันนะคะ

แล้วก้อจะอยู่กันได้นาน


โดย: vodca วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:18:09 น.  

 
โชแปงก้อซื่อสัตย์นะค๊าบ



โดย: ครอบครัวโชแปง (nutuang ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:35:36 น.  

 
อ่านก็สนุกดี แต่ถ้าชีวิต เบงเคย์ เป็นแบบนั้นจริงๆ จี้ว่า เค้าก็บรรลุ สิ่งที่เขาตั้งใจนะ ซึ่งก็จะทำให้เขาเสียชีวิตอย่างภาคถูมิใจ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าเสียดายอีกแล้ว

กรณีความรัก เรารักคนได้มากกว่าหนึ่งคนค่ะ ใครบอกคุณว่า เราต้องรักคนๆเดียวไปจนตาย คุณว่า มันไม่ดูเหมือน โดนบังคับหรืออะไรสักอย่างหรือคะ ความรัก เป็นเรื่องดีงาม แต่การจะทำอะไรกับความรักนั้น มันทำได้หลายอย่าง เหมือนกรณีที่ แองจีรักคีอานู รีฟส์ หนูรักหวังว่า เขาจะมีความสุข ไม่ได้หวังอยากได้ตัวเขามาครอบครอง(เพราะรู้ว่า ยาก แหะๆ) ความรักที่มี ทำให้ เกิดความตั้งใจจะบอกเล่าเรื่องดีๆของเขาให้คนอืนรู้ แล้วการที่มีคนรู้เรื่องที่มันทำให้เรารู้สึกว่า การมีชีวิตในโลกนี้ มันดีจังเนี่ย มันทำให้โลกโดยรวมมีความสุขขึ้นนะคะ นอกจากคีอานู แองจีก็ยังรักคนอีกหลายคน รวมทั้งคนที่รักกันเป็นๆรอบตัวในชีวิตประจำวัน คนที่รักผ่านสายใยไซเบอร์ในบล็อก รวมทั้งรักคุณแร้ด้วย นี่ไง รักตั้งหลายคน แล้วยังไม่เคยทำให้ใครเสียใจหรือเสียหายเลยด้วยนะ ไม่ทราบว่า ตอยตรงประเด็นรึเปล่า


โดย: angy_11 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:57:18 น.  

 
เงื่อนไขของความรักมันมีอยู่จริงค่ะ หลายร้อยหลายพันข้อเลย ... อ่านเรื่องราวพวกนี้แล้วเราเลยมองว่าเราโชคดีจังที่ไม่มีปัญหาอะไรหนักหนาแบบนี้ ..

และถ้าขอได้ก็ไม่อยากให้ใครมีปัญหากับรักไม่ลงตัวเลยค่ะ ...คนเรารักกัน ก็อยากอยู่ด้วยกัน แต่นั่นก็คงแล้วแต่เงื่อนไขอีกแหละว่าจะทำได้หรือเปล่า


โดย: JewNid วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:57:41 น.  

 
อ่านแล้วขนตั้ง
จะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่มีความรัก ความซื่อสัตย์ และจงรักภักดี ไปพร้อมๆ กัน...



หาได้สักคึ่ง เบ็งเคย์ ก็วาสนาแล้ว

อิอิ



โดย: ดาริกามณี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:05:48 น.  

 
เคยอ่านการ์ตูนหลายเรื่องที่มีโยชิสึเนะ และเบนเคเป็นตัวเอก
ประทับใจในความซื่อสัตย์จริงๆ นะ ... มันซาบซึ้งดีอ่ะ หุหุ



โดย: artto (hareluya la miserable ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:19:59 น.  

 

“ซื่อสัตย์..... หากมีความซื่อสัตย์แล้วย่อมไม่มีใจเป็นอื่น”

ซึ้งมากค่ะ...อ่านแล้วเศร้าง่ะๆๆๆๆ

แต่ก็ได้ข้อคิดและทำให้มองดลกในแง่ดีมากขึ้นค่ะ

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปันนะคะ


โดย: I am SeRaPh วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:23:10 น.  

 
...

เป็นคำถามที่ตอบยากมากๆ
และคงไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง เป็นมาตรฐานเดียวกันอย่างแน่นอนสำหรับทุกคน

คงต้อง "ปล่อยมันเป็นไป" (Let it be) มั้งครับ



โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:47:39 น.  

 
ไม่เห็นจะอยากเป็น ผู้ซื่อสัตย์ แบบนี้เลย
ต้องรักคนๆ เดียวในแบบที่ไม่มีวันจะรักกันได้
ทุกข์ชัดๆ
ความรักนี่ใจร้ายไม่เลือกอย่างที่จขบ.ว่าไว้จริงๆ

คิดแล้วก็เฮ้ออออ
อยากให้เรารักกันได้จัง
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:10:22 น.  

 
คุณสาหร่ายพลาดอย่างแรงเน้อไม่ไปงานแฟตอ่ะ

อดได้สี่เต่าเธอเลย

เชื่อไหมว่ามีแต่คนถามพี่ปูนว่าชุดใหม่เมื่อไหร่จะออก จนแกตอบจนเบื่อว่า "ใกล้แล้วครับ ๆ"

ใกล้มากี่ปีแล้วครับพี่


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:18:01 น.  

 
สวัสดีจ้าคุณแร้ไฟ
นึกว่าเป็นเรื่องจริงซะอีก แต่ยังไงเบ็งเคย์ก็น่าสงสารอยู่ดี
แต่ก็น่านับถือในความซื่อสัตย์ด้วยเช่นกัน


โดย: ปลาสวย (pp_b23 ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:00:19 น.  

 
สวัสดีเจ้าค่ะ แหะ ๆๆ เอาเป็นว่าเน้อ


โดย: กลกาล วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:39:49 น.  

 
ทำไม..ทำไม..ทำไม..ทำไม แล้วก็ทำไม ??

ดูเหมือนว่าทุกเรื่องของชีวิตเต็มไปด้วยคำถาม

มีคำถาม..ก็ต้องมีคำตอบ

เพียงแต่ว่า..จะหาคำตอบได้ช้า..เร็ว



ดิฉันก็ไม่อยากเป็น เบ็งเค็ย..



โดย: Smile_Koo วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:45:28 น.  

 
จริงๆแล้ว มิยาโมโตะ โยชิสึเนะ เป็นเกย์


โดย: เนียนอ๋อง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:57:50 น.  

 
เรื่องราว น่ารักดีค่ะ

เชื่อเสมอว่าความรัก คนรักกัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน
ความรัก เป็นเรื่องของใจ
แค่ได้รัก ก็มีความสุขมากแล้ว
แต่ขอให้เป็นความรัก ที่ซื่อสัตย์ มีความจริงใจ ไม่หลอกลวงกันก็พอ


โดย: Black Tulip วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:50:27 น.  

 
อยากเป็น ซังกุงม่าม่ะ มากกว่าคะ


โดย: *-*topiw*-* วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:05:15 น.  

 
topic นี้โดนใจมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้าไปให้กำลังใจเสมอเลย


โดย: ผู้หญิง..อารมณ์ดี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:22:48 น.  

 
ทำไม....เรารักกัน..แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำไม....เราถึงลืมใครบางคนไม่ได้ซะที ทำไม....เราถึงรักใครไม่ได้อีก..???




เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ...........แงๆๆๆ


โดย: hypnosis วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:25:16 น.  

 
กระดาษแผ่นนั้นเขียนสั้นๆด้วยลายมือของ มิยาโมโต้ โยชิสึเนะว่า........ “ซื่อสัตย์..... หากมีความซื่อสัตย์แล้วย่อมไม่มีใจเป็นอื่น”


อ่านแล้วค่ะ...สนุกดีค่ะ..มีแง่คิด..ให้คิดได้หลายมุมเลยหละค่ะ.


โดย: IceIcy (lcelcy ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:29:30 น.  

 
ผ่านมาทักทายครับ สบายดีไหมคับ

วันนี้เอาเรื่องดี ๆ มาฝากกันอีกแล้ว ขอตัวอ่านก่อนนะครับ


โดย: DAN_KRAB วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:26:35 น.  

 
ทำไม....เรารักกัน..แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำไม....เราถึงลืมใครบางคนไม่ได้ซะที ทำไม....เราถึงรักใครไม่ได้อีก..???
^
^
^
เคยจิ๊ค่ะ แล้วในที่สุดก็ได้คำตอบที่ว่า...
"ทำไมเราจะรักใครไม่ได้อีกล่ะ เรารักได้สิ
ถึงแม้ว่าความรักครั้งใหม่มันจะไม่เหมือนที่เราเคยรักคนเดิมๆ
แต่มันก็เป็นสิ่งมีค่าที่เกิดขึ้นมาอีกครั้งสำหรับชีวิต"

เอ...นี่เราไม่มีความซื่อสัตย์ให้กับคนที่เขาทิ้งเราไปหรือเปล่าเนี่ย?
เขาทิ้งเราอ่ะ ไม่ใช่เราทิ้งเขา ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยทิ้งใคร


คุณแร้บรรยายลักษณะของโคโยแล้วทำให้อ้อมนึกถึงตัวเอง
ยามยืนอยู่บนรถเมล ขสมก. หรือบนรถมินิบัสเขียวนรก
คือ...โดดเด่นเป็นสง่า ไม่มีเสี่ยนในสายตาเลยค่ะ
คนส่วนใหญ่อยู่ระดับต่ำกว่าสายตาทั้งสิ้น หุหุหุ

ปล. เราไม่อยากเป็นเบ็งเคย์หรอก เพราะเราเป็น hachiko ไปแล้ว โฮะๆๆๆ


โดย: soulfighter วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:45:19 น.  

 
ครับผม ตบท้ายให้ติดตามการ์ตูนเลยนะครับ


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:48:51 น.  

 
ชอบบล็อกวันนี้จังค่ะ

เนื้อเรื่องดีมากๆ เลย ขอบคุณที่เอามาให้อ่านกันนะคะ



สงสัยเราจะห่างหายจากการอ่านการ์ตูนไปมากจริงๆ ตอนนี้มีแต่การ์ตูนดีๆ เต็มไปหมดเลยแฮะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:51:23 น.  

 


โดย: ก้อนหินก้อนหนึ่ง วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:24:36 น.  

 
คนเรามักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารักเสมอนะคะ แม้ว่าการกระทำนั้นจะทำให้เราเจ็บปวดถึงที่สุดก็ตาม... บอกตามตรงว่าโพไม่อยากเป็นเหมือนเบ็งเคย์ แต่อยากเป็นเจ้าหญิงโคโย เพราะแม้จะมีคนมากมายรังเกียจรูปกายที่ไม่งดงามเหมือนสตรีอื่น แต่อย่างน้อยก็มีบุรุษหนึ่งที่รักและปรารถนาดีต่อเราอย่างจริงใจ


...


เดินผ่านร้านกาแฟหน้าที่ทำงาน คว้าไอ้นี่ติดมือมาได้ค่ะ มาหม่ำ ๆ ด้วยกันนะคะ




...


ขอบคุณสำหรับบล็อคดี ๆ บล็อคนี้ค่ะ


โดย: Poceille วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:12:21 น.  

 
เฮียแร้โดนใจอีกแร้นนนนน
เพิ่งได้อ่านเนื้อเรื่อง ชีวิตรันทดมาก สงสัยต้องไปยืมชาวบ้านอ่านซะแล้วเรื่องนี้


โดย: Nutjung วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:29:12 น.  

 
คุณแร้ไฟเจ้าขา....หนังสือเล่มนนั้นหาไม่ยากเลยค่ะ....ตามร้านขายยา..เอ๊ย...ร้านนายอินทร์ทุกสาขามีค่ะ บางสาขาอาจหมดไปแล้ว ที่ที่แน่ๆร้านนายอินทร์ที่เดอะมอลล์บางแคเหลือเป็นกะตั๊กเลยล่ะ.....เค้าไปวางไว้ในมุมที่มองไม่ค่อยเห็นค่ะ ต้องใช้วิธีถามจนท.ที่เคาน์เตอร์ดู....หาเจอแล้วบอกด้วยนะคะ จะส่งที่คั่นหนังสือ (ช่างภาพทำมือ)ไปให้ค่ะ

ป.ล.เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่าน ขอตัวและหัวกลับไปเขียนงานต่อก่อนค่ะ


โดย: สเลเตขี้เกียจล็อคอินค่ะ IP: 124.121.59.183 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:32:15 น.  

 
เป็นความรักที่ซาบซึ้งจัง คนตัวโตอย่างเบ็งเคย์นี่หัวใจอ่อนโยนมากเลยอ่ะ อ่านตอนที่เจ้าหญิงกับเบ็งเคย์ไปอยู่ในป่าแล้วแว่บนึกเรื่อง "ดาบมังกรหยก" (ต้องเป็นเวอร์ชั่นที่ซุนซิ่งเล่นนะจ๊ะ) เหมือนตอนที่หยางเซียวพากีเฮียวพู้ไปอยู่ในป่า สาวเจ้าก็มีคู่หมั้นเหมือนกัน ดูแล้วซึ้งสุดๆกับความรักที่หยางเซียวมีให้ผู้หญิงที่รัก ซุนซิ่งแสดงดีมากกกก ทำเอาหลงรักหัวปักหัวปำเลย แต่ไม่ปลื้มหยางเซียวเวอร์ชั่นล่าสุดอย่างแรง


โดย: haiku วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:59:59 น.  

 
แต่ก่อนเคยตั้งคำถามอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว ว่ารักกันอย่างเดียวมันไม่พอ


เรื่องของเบ็งเคย์สนุกซึ้งจังค่ะ ไว้จะไปหาอ่าน


โดย: unwell วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:49:58 น.  

 
เอ อย่างงี้ถ้าเป็นของไทย คงนึกถึงพันท้ายนรสิงห์น่ะสิ เคยดูละครตั้งนานมาแล้ว จำเรื่องราวของท่านผู้นี้ไม่ได้เลยแฮะ

อ่านเรื่องราวของเบ็งเคย์แล้ว ผมว่าเหมือนจะแบ่งได้เป็นสองเรื่องเลยนะนั่น 555 ถึงแม้เรื่องหลังจะมีการแต่งเติมบ้าง แต่ผมว่าเค้าคงเจตนาจะอยากให้เห็นอีกด้านนึงของชีวิตเบ็งเคย์มากกว่าครับ ซึ่งเป็นธรรมดาของผู้ชายที่แม้จะมีลักษณะนิสัยที่ห้าวหาญ เข้มแข็ง แต่ก็ต้องไขว้เขวให้กับสตรีไปบ้างเป็นธรรมดา และเรื่องรักๆนี้ยังช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ของเบ็งเคย์เข้าไปอีก โหย

เอ แต่ถ้าเป็นผมนะ เมื่อโยชิสึเนะเสร็จสิ้นกระบวนการคว้านแล้ว ก็ค่อยแอบย่องกลับไปหาน้องโคโยตี้ เอ้ยโคโยภายหลังดีกว่า อ้าว ถือซะว่าซื่อสัตย์ต่อหน้าที่แล้วนิ


โดย: ข้าวตู วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:14:10 น.  

 
เรื่องเล่าของญี่ปุ่น

น่าสนใจหลายเรื่อง

แต่หนังที่เอามาให้เราดู

ทำไมมันมีแต่คิขุไม่รู้สิ






โดย: เจ้าแห่งโชคชะตา วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:48:02 น.  

 


จงอย่าลืมเรา เพราะเราจะไม่ลืมท่านเช่นกัน


ชอบคำนี้ ... ตรงใจดีค่ะ



โดย: สเตลล่า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:31:42 น.  

 
โห... อ่านแล้วอินอ่ะค่ะ เศร้าจายเป็นที่สุดเนอะ

ทำไมความรักมันถึงได้โหดร้ายแบบนี้อ่ะ

คนเราไม่สามารถเลือกทางที่ตัวเองต้องการได้ กลับต้องอยู่ในความคาดหวังของสังคม ว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

ป.ล. และแล้วสาวตัวกลมอย่างเราก็ต้องเซ็งต่อปาย... เหอๆ

สวัสดีค่ะ (มาบ่นๆ)


โดย: Mocha Macchiato วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:43:54 น.  

 
แสดงว่าเบ็งเคย์เลือกถูกแล้วล่ะค่ะ ยอมให้คนที่รักได้มีความสุข ได้พบเจอในสิ่งที่ดีกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม แต่ได้เห็นคนที่รักมีความสุขก็พอแล้วมั้งค่ะ และไม่ลืมหน้าที่ของตนด้วย


โดย: i_am_redangel วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:35:01 น.  

 
ชอบมากๆค่ะ
ขอบคุณนะคะที่ลงให้ได้อ่านค่ะ


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:03:43 น.  

 
แวะมาช้า เพราะงานเยอะค่ะ

เฮ่อ...จุว่า รัก มันไม่มีใครซ้ำของใคร เพราะรักเป็นเรื่องของคนสองคน

น่าแปลก ... ที่ ทำไม๊ ทำไม จุชอบเป้นคนที่ 3 เรื่อยเลย


คุณแร้ไฟ สบายดีนะคะ


โดย: กระจ้อน วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:33:53 น.  

 
...ขอน่างอ่านด้วยคนก้าบ...


โดย: สาวหน้าหวาน วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:36:37 น.  

 
ตอบได้เลยครับ ตอบผิด ตอบถูกมะเปงไร ฮาๆ
เล่นกันหนุกหนานอ่ะครับ ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมชมที่บล๊อคนะครับ


โดย: Qooma วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:11:30 น.  

 
แวะมาอ่านและซึมซับ...สิ่งดีๆ กลับไปค่ะ...
" คนเรา...มีความรัก...ต้องมีความซื่อสัตย์...ต่อกัน..."
ชอบ เบ็งเคย์....จัง


โดย: แดดร่มลมโชย IP: 203.144.130.176 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:12:28 น.  

 
เล่าเรื่องได้สนุกมากเลยค่ะ

แต่แปลกนะคะ

เรื่องสมัยเมื่อก่อนที่คนเอามาเล่าต่อ
ส่วนมากจะเป็นเรื่องเศร้าๆ

สงสัยคนเรา ชอบจำเรื่องเศร้าๆมากกว่า


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:11:34 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆคะ


โดย: ช็อคชิป วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:17:06 น.  

 
เศร้าซึ้ง..จังเลยค่ะ..

หายไปนานทั้งคู่เลยนะเรานิ

บางครั้งความรักอาจเกิดขึ้นได้โดย
มีความสุขเพียงได้คิดถึง
รู้รสได้เพียงความรู้สึก
อิ่มเอมได้โดยมิต้องเสพ..

อาจเรียกว่ารักด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ได้มัง

ขอให้มีความในวันหยุดพรุ่งนี้นะค่ะ



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:04:28 น.  

 
เอ่อ..... แบบว่าวันนี้อึ้งค่ะ.... ไม่ขำเลย

ขนลุก ๆ ด้วยอ่ะค่ะ แบบว่าบางท่อน บางตอนมันจี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด..... ที่หัวใจอ่ะค่ะ
....................................................................

สบายดีนะคะพี่.... คิดถึงมากมายก่ายกองเลยค่ะ...... ไม่ได้มาติดตามเรื่องราวดี ๆ ของพี่ตั้งนาน น๊านนนนน นานเลยค่ะ......

ช่วงนี้รัตน์กลับมาประจำการตามเดิมแล้วค่ะ.... แบบว่าเปิดร้านเน็ตเองเลยค่ะ เมื่อวานนี้..... อิอิ
....................................................................

ขอบคุณมาก ๆนะคะพี่ สำหรับความห่วงใย และการแวะไปถามไถ่.... ดีใจจังที่ยังไม่ลืมกันน่ะคะ....


โดย: largeface วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:42:14 น.  

 
แวะมาสุขสันต์วันหยุดเจ้าของบล็อกนะคะ เรื่องราวข้างบน วันหลังจะขอมาอ่านอย่างละเอียดนะคะ วันนี้ขอโทษจริงๆค่ะ


โดย: brasserie 1802 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:35:41 น.  

 
เห็นหัวเรื่องแล้วโดนจี๊ดเลย
แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเลยค่ะ

มาแปะชื่อไว้ก่อน นะ นะ

ยังสบายดีค่ะ แต่มีงานยุ่งเหลือเกิน แล้วจะแวะมาอ่านนะคะ


โดย: คุณล่าม (My Memory ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:19:06 น.  

 
จงรักภัคดี บางครั้งรักจางลงได้ เราจึงต้องใช้"ภักดี"ประคองความสัมพันธ์ต่อไป สองคำนี้จึงอยู่คู่กัน - งั้นมั้งครับ เหอๆ ผมมีความปรารถนาแบบโกวเล้งครับ คือ อยากให้คู่รักทุกคู่ได้อยู่ร่วมกัน


โดย: lomocat วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:12:10 น.  

 

บางครั้งความรักก้อติดอยู่ที่ใจเราค่ะ

แม้ว่าเราจะไม่สามารถไปด้วยกันได้ก้อตาม

แต่ความสุขที่ได้รับจากกันจะคงอยู่เสมอค่ะ

ชอบนะ อ่านแล้วซึ้ง ๆ


โดย: NinG_CDC วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:05:09 น.  

 
อัพบล๊อกแล้วค่ะ...
ให้มีความสุขมากๆ ในวันหยุดพักผ่อนนะคะ...

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...


โดย: แดดร่มลมโชย วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:07:01 น.  

 
มันเป็นคำถามที่ตอบยากนะ


โดย: ณ มน วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:27:18 น.  

 
หุหุ เจ็บแปล๊บ ๆ นะคะ อ่านแล้วโดน อ่ะ คุณแร้ฯ

ไม่ต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ แต่สองคนรู้ว่า รักกันแค่ไหน ... เชื่ออย่างนั้น

คุณแร้สบายดีนะคะ


โดย: varissaporn327 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:11:42 น.  

 
สงสารเบ็งเคย์
แต่อยากเป็นแบบเบ็งเคย์


โดย: King Of Pain วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:19:44 น.  

 
ว่าแล้วเชียว คุ้นๆ

เบงเค นี่อยู่ในการ์ตูนหลายเรื่องมากเลยเนอะ
เบงเคกับโยชิสึเนะเนี่ย

สบายดีค่ะ ขอบคุณ
แต่เปิดเทอมแล้วเลยไม่ได้เขียนบลอกค่ะ


โดย: ชมฯ IP: 203.156.23.171 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:19:30 น.  

 
ขอบคุณที่นำเรื่องดี ๆ มาให้อ่านกันนะคะ

เบงเคย์เป็นคนดีจังเนอะ


โดย: -S n o w G i r l- วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:23:40 น.  

 
หวัดดีจ้าคุณแร้ไฟ ...สบายดีน่ะ

แวะมาอ่านค่ะ แต่ยาวมากๆเลย เด๋วกลับมาอ่านต่ออีกรอบค่ะ

แอบมาส่งยิ้มให้ 1ทีก่อนออกไปค่ะ


โดย: about_love วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:50:31 น.  

 
เคยอ่านเรื่องของเบ็งเคย์กับโยชิสิเนะค่ะ

เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ข้าพเจ้าจำชื่อเรื่องไม่ได้ แต่เป็นการนำประวัติศาสตร์มาจินตนาการต่อค่ะ

ซาบซึ้งและเศร้า เพราะตอนจบกลายเป็นสิ่งที่เริ่มมาตั้งแต่แรกหายไป


เหมือนกันบว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


โดย: เจ้าหญิงวีนัส (ohvenus ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:49:09 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ ประทับใจเบ็งเคย์จัง
วันนี้แวะเอารูปจขบ.มาแปะให้ดูค่ะ หน้าตาแบบนี้เลย

ป.ล.สนุกกับงานนะคะ


โดย: I am SeRaPh วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:39:07 น.  

 
เรื่องๆรักๆเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ไม่เจอกับตัวเอง

ไม่มีทางรู้ได้


โดย: Sugar and spice วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:15:36 น.  

 
เรื่องราวน่าสนใจครับ... มิน่ามันเหมือนนิยายยังไงๆ
แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนคิดว่าน่าจะเป็นไปได้นะ เพราะคนโบราณเขาจริงจังกว่าคนสมัยนี้เยอะ...


โดย: biggg วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:01:51 น.  

 
มาชวนไปงานบุญด้วยกันจ้า ตามไปอ่านรายละเอียดได้ที่บลอกณ มนนะคะ


โดย: ณ มน วันที่: 21 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:26:53 น.  

 
แวะเข้ามาทักทายตอนเย็น ๆ ค่ะ สบายดีไม๊ค่ะ


โดย: opleee วันที่: 21 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:29:53 น.  

 
เฮ้อออ

ซึ้งค่ะ

เรื่องนี้มีข้อคิดดีๆให้คิดตาม ชอบจัง


โดย: ตอง (Kazalong ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:50:25 น.  

 
สวัสดีครับ คุณเเร้ กลับมาที่บล็อกคุณเเร้ มีอะไรให้คิด เเละพักใจได้เสมอเลย เยี่ยมครับ พูดถึงความซื่อสัตย์ สมัยนี้หาได้ยากยิ่งครับ เเต่ด้วยส่วนหนึ่งสภาพสังคม เเละอะไรร้อยเเปดที่เจริญขึ้น คนเราก็เเปรเปลี่ยนตามได้ง่ายขึ้นครับ

ผมมองว่าถ้าเรารักษาความซื่อสัตย์ในยุคนี้ไว้ได้ ถือว่าสุดยอดจริงๆ ครับ บทพิสูจน์ความเป็นคนมีให้ทดสอบมากเหลือเกิน

เรื่องที่เเต่งต่อมาเนียนนี่มากเลยครับ คุณเเร้ผมก็ไม่เคยรู้ถึงประวัติของ เบงเคย์มาก่อนเลย ขอบคุณที่นำมาฝากกันครับ


โดย: Dark Secret วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:58:09 น.  

 
ไม่ค่อยได้เข้ามาค่ะ

แต่เข้ามาก็ได้อ่านอะไรดีดีทุกครั้งเลย

สุขสันต์วันพุธนะคะ

Photobucket - Video and Image Hosting


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:56:34 น.  

 
ชอบประโยคขึ้นต้นมาก ๆ

"ขอยืมไปแขวนคอตัวเองหน่อย"

สุดท้ายกระดาษที่เปิดมาเขียนเพียงคำสั้น ๆ ว่า

"ซื่อสัตย์"

555 ไว้การละ ไว้จะเขียนใส่กระเป๋าให้ใครบางคนพกทุกวัน ไว้เตือนสติ


โดย: Ta Pling วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:49:52 น.  

 
ประทับใจแต่เศร้าจังนะคะ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ



โดย: หยิ๋งแป๋ม วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:43:12 น.  

 

เศร้า แต่เข้าใจ


โดย: มัชฌิมา วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:47:52 น.  

 
แวะมาซึ้งอีกรอบค่า


โดย: haiku วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:40:43 น.  

 
แวะเข้ามาทักทาย ฝันดีนะค่ะ


โดย: opleee วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:09:08 น.  

 
สวัสดีจ้า
แวะมาทักทายตอนเกือบจะบ่ายวันเสาร์จ้า
กินข้าวกลางวันอ๊ะยังเอ่ย


โดย: ปลาสวย (pp_b23 ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:42:53 น.  

 
เป็นผู้ชายที่น่ารักจังเลยค่ะ
เค้าน่าจะเกิดในสมัยนี้นะ
จะได้ตามจีบ


โดย: แร่ใยหิน วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:25:59 น.  

 
หน้าที่-ความรับผิดชอบ กับ ความรัก

ถ้าต้องเลือกคงลำบากนะคะ


โดย: rebel วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:46:55 น.  

 
เอิ๊กกกกกกกก ขำๆๆ

นึกว่าแต่งเองนะเนี่ย



โดย: My Memory วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:21:31 น.  

 
จำได้ว่าผมมาอ่านแล้วรอบหนึ่ง รอบนี้มาอ่านอีกรอบครับ


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:18:28 น.  

 
....เจนนี่แวะมาชวนไปเที่ยว ทุ่งดอกทานตะวันด้วยกันค่ะ อย่าลืมแวะไปเที่ยวกับเจนนี่น่ะคะ....


โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:05:50 น.  

 
แวะมาทักมาย ช่วงนี้ยุ่งไปหน่อยน่ะคุณแร้


โดย: hypnosis วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:53:57 น.  

 
จ๊ะเอ๋.... พี่แร้ไปสบายดีนะคะ.....
แวะมาเยี่ยม มาส่งความคิดถึงค่ะ


โดย: largeface วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:46:27 น.  

 
^
^
จ๊ากกกก จ๊ะเอ๋.... พี่แร้ไปสบายดีนะคะ...
..
..
พ้มยังไม่ตายนะขอรับ 55555
สบายดีครับ แต่งานแยะมาก จะอัพในเร็ววันครับพ้ม


โดย: รักแร้ หอมชื่นใจ IP: 58.9.143.6 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:03:31 น.  

 
อ่านเรื่องนี้ เอ๊ะ ขอไม่เชื่อได้ไหม ตรงที่ว่า ทำไมเราถึงรักใครไม่ได้อีก โดยเฉพาะผู้ชายนะ จ้างก็ไม่เชื่อจริงๆ อิอิ

หายตัวไปนานมาก ยังคงหายตัวไปอีกสักพัก แต่พยายามแวะมาอ่าน ก็เรื่องสนุกขนาดนี้ เพลินได้ดีแท้ ปลายปีแล้วขอหนีเที่ยวกับสามีละกันจ๊ะ


โดย: nuyo (CooKiiE ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:59:42 น.  

 

ขอบคุณนะคะ ที่เอาเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟัง
เหมือนได้อ่านหนังสือจบไปเล่มหนึ่งเลยค่ะ
คิดดูแล้ว ชาวญี่ปุ่นถือเรื่องความซื่อสัตย์มาก
สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกที่สำคัญและยิ่งใหญ่
ที่บุคคลหนึ่งพึ่งจะมีต่อผู้อื่นนะคะ
ถ้าลองนักการเมืองของไทยมีความซื่อสัตย์อย่างเบ็งเคย์
เมืองไทยก็คงจะไม่เป็นอย่างทุกวันนี้แน่นอน






โดย: มาริอา วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:40:53 น.  

 
แฮ่ๆ เพิ่งแอบมาอ่าน ค่อนข้างสายไปมากมาย โทษทีนะคะ

สนุกจังค่ะ ประทับใจเรื่องนี้มาก (อีกแล้ว) สาถือว่า ความซื่อสัตย์ เป็นสิ่งสำคัญมากอย่างนึงในชีวิตคนเรา สามารถใช้ได้ในทุกๆ เรื่อง ทั้งการงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรัก สายึดหลักนี้มากๆ เลย แต่ก็อย่างว่าแหละ คนที่เราซื่อสัตย์ต่อเค้า ก็ควรจะทำตัวซื่อสัตย์ให้สมกับที่เราไว้ใจเค้าด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ได้ โอกาสที่แต่ละคู่จะผิดหวังในความรัก คงลดน้อยลงไปเยอะเลยเนอะ

ขอบคุณเรื่องดีๆ สำหรับวันนี้นะคะ ชอบจัง ^^


โดย: mini mini วันที่: 21 ธันวาคม 2549 เวลา:14:27:26 น.  

 
สนุกค่ะ คิดว่าคุณแร้ไฟ คงประทับใจ เบงเคย์ เช่นกันถึงนำอยากมาถ่ายทอดให้กับแฟนๆๆผู้อ่านของคุณแร้ไฟ รู้นะว่าคุณแร้ไฟรัก และ ห่วงใย แฟนๆๆของคุณเหมือนเบงเคย์ เช่นกัน ใช่ไหมหล่ะ


โดย: ส้มโอ๋ IP: 203.151.141.194 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:44:18 น.  

 


โดย: ร่เเ IP: 124.120.94.207 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:19:14:06 น.  

 
อยากรู้เรื่องเราวเกี่ยวกับโยชิสึเนะ หรือ โอชิวากะ มารุ หรือ ชานาโอ มากกว่า โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกับ ลูกสาวของตระกูลไทระนะ ที่เคยพบกันตอนเด็กที่วัดที่ชานาโออยู่มากกว่า
เพราะถ้าใครได้อ่านในชานาโอ ขุนศึกสะท้านปฐพี แล้วจะจำได้ว่าตอนที่ทั้งสองจะแยกจากกัน ผู้เขียนได้มีข้อความไว้ว่า ไม่มีใครรู้ว่าการพบกันอีกครั้งของทั้งคู่จะกลายเป็นโศกนาฏกรรม ที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ อยากรู้ว่ามันเศร้ายังไง ก็ในเมื่อสองคนเขาก็ดูจะรักกันดี


โดย: may_pjen IP: 203.113.41.103 วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:13:13:03 น.  

 


โดย: IceIcy (lcelcy ) วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:16:01 น.  

 

emo/emo11.gif>


โดย: 0; IP: 124.121.36.36 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:58:30 น.  

 
ผมก็อ่านเรื่องขุนศึกอ่ะ

ตอนนี้เล่ม21เองอ่ะ

22มายังนะอยากอ่านมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: xมาllดกllฟ๊บ IP: 124.122.200.11 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:21:41:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แร้ไฟ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...หน้าเหนื่อยๆ
...นอนน้อยๆ
...นั่งนิ่งๆ
...นึกนานๆ......^_^
Friends' blogs
[Add แร้ไฟ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.