เรื่องวุ่นวายของชีวิตในแต่ละวัน
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
ต่อยอด ตามฝัน

ที่พูดแบบนี้เพราะ นับแต่ที่ฉันทำซุปเปอร์แก๊คผสมมังคุดออกมา ฉันได้รับฟีดแบคจากลูกค้ามากมาย บางคนโทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"โรงงานน้ำซุปเปอร์แก๊คใช่ไหมครับ"
"ใช่ค่ะ" ฉันตอบรับ
"ตอนนี้คุณอยู่ไหน โรงงานอยู่ไหน ถ้าผมจะไปรับของ"
"ตอนนี้คงจะปิดแล้วค่ะ จะเอาตัวไหนคะ" ฉันมองนาฬิกา เกือบห้าโมงเย็นแล้ว
"คุณมีอะไรผมเอาหมดเลย คุณเชื่อไหมว่า คุณทำให้ผมตื่นเต้นมาก ว่าแต่คุณอยู่ไหน" เขาถาม
"ฉันกำลังจะไปแมคโคร พอดีมีของติดรถอยู่บ้าง ถ้าเอาก็มาเลยค่ะ" แล้วเราก็นัดแนะกัน
ตอนที่เขาลงจากรถเพื่อมารับของ สีหน้าแววตาเค้าตื่นเต้นมาก
"ผมเป็นโรคเหงือกอักเสบ รักษารากฟันมานาน หมดไปหลายหมื่น แต่มันกลับไม่หาย" เขาเล่าพร้อมยื่นหน้ามาหาฉีน
เฮ้ย! อะไรเนี่ย ฉันตื่นๆกับท่าทีแปลกๆของเขา
"คุณได้กลิ่นปากผมไหม" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก
อื๋ยยย!!! ฉันส่ายหน้า
"นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมยืนอยู่ใกล้คุณแบบนี้ไม่ได้ กลิ่นปากเหม็นมาก ผมรักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย เวลาคุยกับใครก็คอยปิดปาก หรือไม่ก็ต้องยืนห่างๆ ผมลำบากมาก ทำงานทำการก็อึดอัด ผมซื้อน้ำซุปเปอร์แก๊คคุณไปกิน สักอาทิตย์แล้วมั้ง วันหนึ่งผมกินหมูกรอบ เผลอกัดกรึบ ลืมไปว่าข้างนี้เคี้ยวไม่ได้ พอนึกได้ก็เฮ้ย ทำไมเคี้ยวได้ แล้วเมียผมก็บอกว่า กลิ่นปากผมไม่มีแล้ว"

ฉันพยักหน้าหงึกหงัก นึกภาพเมียเค้าที่ต้องอยู่กับกลิ่น น่าเห็นใจไม่น้อย
"เมียผมบอกให้ไปเหมามาเลย มีเท่าไหร่ไปซื้อมา" เขายิ้มแบบลูกผู้ชายอกสามศอกที่อยู่ในโอวาทภรรยา "ตกลงคุณมีในรถเท่าไหร่"

"มีประมาณ 8 กล่อง 16 โหล ขวดเล็ก 2โหล" พอดีมีลูกค้าสั่งและเราก็เลยพกติดรถมาเผื่อๆ
"เอาหมดเลย" เขาบอกโดยไม่ลังเล ไม่ต่อรองราคา และเป็นคนยกขึ้นรถเองทั้งหมด

นี่เป็นหนึ่งในความตื่นเต้นของเรา ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ทำให้เราอดทนยืนหยัดมาได้เพราะผู้คนเหล่านี้

ทุกคนที่รู้จักถามฉันว่า ฉันทำได้อย่างไร จากการทำพาสเจอร์ไรส์ ฉันไปทำสเตอริไรส์ ฉันรู้ได้อย่างไร ทั้งๆที่โดยพื้นฐานแล้ว ฉันเรียนจบด้านอักษรศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเชื้อโรคอะไรสักนิด แล้วฉันไปล่วงรู้ขั้นตอน วิธีการทำได้อย่างไร แถมยังได้ดีเด่นอีก(อันนี้คิดไปเองค่ะ)

อ่านให้มาก ค้นคว้าให้มาก เรื่องพวกนี้หาอ่านได้ตามอินเตอร์เน็ต มันไม่ใช่อะไรที่เป็นความลับของสวรรค์ อ่านงานวิจัยแล้วพยายามทำความเข้าใจกับมัน อย่าใช้ข้ออ้างๆ ใดๆ เพื่อบอกว่า คุณไม่รู้ แล้วหวังพึ่งพานักวิชาการระดับด็อกเตอร์ คนเหล่านั้นไม่ได้มีอะไรเหนือคุณสักหน่อย

ฉันเคยเจอด็อกเตอร์หลายคน แถมยังมีประสบการณ์เรื่องจริงไม่อิงนิยายของเหล่านักวิชาการเหล่านี้ อย่างเช่น ปมด้อยของฉันและลูกของฉัน (อย่าเพิ่งคิดไปว่าฉันทำไปท้องไป ไม่ใช่ค่ะ). ลูกซุปเปอร์แก๊คพลัส ฟักข้าวผสมมังคุด ที่ขายดี แต่ไม่มีงานวิจัยของเหล่าด็อกเตอร์แปะติด. ทำให้ซุปเปอร์แก๊คดูด้อยๆไป ถ้าเทียบกับน้ำผลไม้เจ้าอื่น ฉันจึงเริ่มเสาะหาอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อที่ว่า อย่างน้อยยังมีสังกัด ไม่ใช่มวยวัดมวยวา จนกระทั่งเจอนักวิชาการท่านหนึ่ง มีชื่อเสียงระดับหนึ่งทีเดียว ฉันจึงโทรศัพท์ไปพูดคุยด้วย

อาจารย์ท่านนี้เป็นที่ปรึกษาให้กับอีกโรงหนึ่งอยู่ ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรแค่ไปทำความรู้จักกัน ฉันคิดเช่นนั้ร หลังจากพบหน้าคร่าตาทำความรู้จัก ฉันเริ่มได้รับโทรศัพท์จากท่าน ขอวัตถุดิบ ขอผงแห้ง ที่น่าเสียใจและอับอายแทนสถาบันการศึกษาคือ อาจารย์ขอของฉันไปแกะใส่กล่องตัวเองแล้วออกบู้ท แสดงผลงานวิจัย ทั้งหมดนี้ต่อหน้าฉันและโรงงานที่ขึ้นมาช่วยอาจารย์ออกบู้ทงานวิชาการครั้งนี้ สีหน้าอาจารย์ไม่รู้สึกอะไร บอกตรงๆ ว่า ฉันอาย ฉันเห็นหายนะประเทศชาติก็ตอนนั้นแหละ ถ้าระดับครูบาอาจารย์ทำ แล้วลูกศิษย์ละ...นี่แค่เรื่องนักวิชาการท่านหนึ่งนะ ที่น่าตกใจคืออีกไม่นานต่อมา ฉันเจออาจารย์ระดับด๊อกอีกท่านที่รับทำงานดีไซน์ให้ฉันในโครงการภาครัฐโครงการหนึ่ง แต่มันเศร้าที่งานนั้นเป็นงานก๊อปของเมืองนอก ฉันได้แต่กรีดร้องในใจว่า มันไม่ใช่ๆ ท่านนึกว่าเชียงใหม่อยู่ในหุบเขา จึงไม่รู้เรื่องภายนอกประเทศหรืออย่างไร จึงคิดว่าจะเอาอะไรมาให้ก็ได้ มิใยที่ฉันจะบอกว่างานนี้มันคล้ายคลึงงานของยี่ห้อหนึ่ง แต่ท่านด๊อกฯหาใส่ใจไม่ หน้าที่ท่านคือ ส่งงานเพื่อจบโครงการแล้วมาเบิกเงินภาครัฐ

นี่ฉันคงจะแก่ตัวลงไปมากจึงขี้บ่นขนาดนี้ กลับมาเรื่องการพัฒนาสินค้าของฉันดีกว่า อย่างน้อยการแบ่งปันประสบการณ์ของฉันอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านสักคน

ฉันใช้วิธีการศึกษาจากงานวิจัย ดูงานตามโรงงานต่างๆ บางทีก็ขอเข้าไปดูโรงงานตรงๆ บางทีก็แอ๊บเป็นผู้ซื้อ กะล่อนไปวันๆ เพราะฉันอยากรู้ว่าโรงงานต่างๆ ทำอย่างไร ใช้เครื่องมืออย่างไร แล้วนำมาทดลองกับตัวเอง ช่วงแรกก็มีเสียบ้างดีบ้าง จนทุกอย่างอยู่ตัว

ตอนไปยื่นขอหมายเลข อย. ตัวที่สอง มีช่องให้กรอกอายุผลิตภัณฑ์ ตุ๊หันมาถามนักวิชาเกินอย่างฉันเบาๆ "เราหมดอายุเมื่อไหร่"
"365 วัน" ฉันตอบ ก็ถ้า 7 วันไม่เสีย ปีหนึ่งก็ไม่เสีย ไม่ใช่เหรอ
ตุ๊ทำหน้าตลึง เราเพิ่งเปิดบริษัทฯ มาได้ไม่ถึงสี่เดือน แล้วฉันเอาที่ไหนไปบอกว่า หนึ่งปี

ก็อย่างที่บอกค่ะว่าฉันอ่านงานวิจัยและพูดคุยกับโรงงานมาเยอะ ฉันปะติดปะต่อวิธีการทำและเรื่องราวจนทำได้สำเร็จด้วยการลงทุนเพียงหลักพัน แล้วฉันก็มั่นใจว่าฉันมั่วได้ถูกต้อง

แล้วก็จริงอย่างที่ฉันคิด ตอนหลังที่เราได้มีโอกาสส่งสินค้าเข้าแล็บเพื่อเทสต์อายุผลิคภัณฑ์ ฉันจำไม่ได้ว่าผู้คนเรียกเจ้าเครื่องนี้ว่าอะไร แต่รู้ว่ามันย่นระยะเวลาได้ บอกอายุผลิตภัณฑ์ได้ แล้วของฉันก็มีอายุผลิตภัณฑ์ 2 ปี

การพัฒนาสินค้าของฉันไม่หยุดแค่นั้น หลังจากสินค้าเริ่มวางตามห้าง และมีลูกค้าประจำที่สั่งซื้อกินทีละล็อตใหญ่หลายราย มีลูกค้าสั่งไปขายที่ญี่ปุ่น ฟังดูก็ดีแล้วใช่ไหมคะ แต่อย่างที่บอกค่ะ เราไม่ได้หวังแค่นั้น แล้วจริงๆก็ไม่รู้ว่าเราหวังอะไร แต่รู้ว่าไม่ใช่แค่นี้


Create Date : 15 กรกฎาคม 2556
Last Update : 15 กรกฎาคม 2556 17:00:26 น. 2 comments
Counter : 533 Pageviews.

 
พี่เก่งมากๆคะ จบอักษรแต่มาทำอาหารนี้ นับถือๆ


โดย: Nan IP: 125.24.2.152 วันที่: 16 กรกฎาคม 2556 เวลา:2:29:44 น.  

 
..ชอบครับ up blog บ่อยๆนะครับรออ่าน...


โดย: k. IP: 117.47.0.98 วันที่: 18 กรกฎาคม 2556 เวลา:11:40:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวช่างถาม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add สาวช่างถาม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.