พฤศจิกายน 2548

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
นิ้วกลม เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์
กุมภาพันธ์ หนังของชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง คนอื่นไม่เกี่ยว โดยคุณนิ้วกลม (IDCHULA)
? on: March 04, 2003, 04:30:21 PM ?

-----------------------------------------------------

กุมภาพันธ์ หนังของชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง คนอื่นไม่เกี่ยว

นี่คือหนังที่สะท้อนความคิดของหนุ่มสาวในยุคนี้ได้อย่างชัดเจน
หรือไม่ก็เป็นการตอกย้ำภาพของหนุ่มสาวในยุค"หลังสมัยใหม่"ให้มั่นใจขึ้นไปอีก
คุณเห็นตัวละครกี่ตัวในหนังเรื่องนี้?
แน่นอนมีตัวละครพอสมควรที่ลอยหน้าลอยตาอยู่บนจอภาพยนตร์
หากที่คุณ"เห็น"จริงๆ มีแค่สองคนเท่านั้น!

แก้วตา และ จีรเดช เป็นตัวแทนของหนุ่มสาวในยุคที่ไร้"สิ่งยึดเหนี่ยว"
ไม่มี"หลัก"ให้เกาะเกี่ยวใดๆ ไม่มีจุดมุ่งหมาย ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต!
หนังเรื่องนี้พยายามไม่เล่าปูมหลังของตัวละครหลักทั้งสองตัวอย่างจงใจ
"พ่อ" ของแก้วตา ปรากฏในหนังเรื่องนี้ในลักษณะของเสียง เพียงหนึ่งครั้ง
มีคนดูกี่คนที่จะเอ่ยถามถึง แม่,พี่,น้อง...และบรรดาญาติคนอื่นๆ หรือที่เรียกรวมว่า "ครอบครัว"
ฝ่ายจีรเดชนั้นไม่ต้องกล่าวถึง เขาคือคนที่ไร้อดีตอย่างแท้จริง
คนดูรู้เพียงว่า เขาคือคนไทยที่ลักลอบไปทำงานที่อเมริกา และพยายามหาทางกลับ
ข้อมูลนอกเหนือจากนั้น หนังก็จงใจละเอาไว้ในฐานที่ไม่ต้องเข้าใจ

"เพื่อน" กลับกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าในสายตาของผู้ทำหนังเรื่องนี้
หนังทำให้เราเห็นว่า เพื่อนต่างหากล่ะที่เข้าใจ เพื่อนต่างหากล่ะที่เป็นคนยอมรับฟัง
เพื่อนต่างหากล่ะที่เป็นคนให้อภัย เวลาเดือดร้อนก็ได้เพื่อนนี่แหละที่คอยช่วยเหลือ
และเพื่อนที่แหละที่จะเป็นคนหาทางออกให้ชีวิต

นี่คือตัวอย่างเพื่อยืนยันต่อข้อสังเกตในย่อหน้าเมื่อสักครู่
-แก้วตาขายงายศิลป์ไม่ได้ ไม่มีใครซื้อ แต่เหมียวซื้อ
-พ่อไม่ชอบให้ทำงานศิลป์ แต่เพื่อนช่วยจัดนิทรรศการให้
-แก้วตาแย่งแฟนหมวยไป เมื่อขอโทษ หมวยก็ให้อภัยแต่โดยดี
-แต่พ่อไม่เคยให้อภัย อีกทั้งยังไม่ให้เงิน จะให้ต้องมีข้อแม้ว่าให้กลับมาช่วยงานที่บ้าน
-แก้วตาอยากไปนิวยอร์ค ก็ได้เหมียวเป็นคนจัดการเรื่องวีซ่าให้
-โดยที่ไม่ต้องบอกพ่อแม่ให้รู้ซักแอะ
-แก้วตาจำจีได้ในตอนท้าย เมื่อยากกลับไปก็ได้หมวยกับเหมียวไปร่วมตามหา
-ทั้งที่ยังไม่เห็นหน้าพ่อแม่เลยซักครั้ง

ครอบครัว ถูก"ซ่อน"ไว้อย่างแนบเนียนโดยไม่เลือกที่จะกล่าวถึงให้เสียเวลา
ถ้ามีใครถามขึ้นมาอาจถูกตอบกลับว่า "ก็มันไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง" หรือ "มันเป็นส่วนเกินของหนัง"

สัญลักษณ์ "ปีก" ที่ถูกสื่อออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นนกในกรง ภาพวาดของแก้วตา
รูปปั้นที่น้ำพุ ล้วนสื่อสารถึงความต้องการ"อิสระ"ของหนุ่มสาวยุคนี้อย่างชัดแจ้ง
อิสระจากการถูกปิดล้อมทั้งเรื่องการยอมรับของผู้ใหญ่, การยอมรับจากฝรั่ง, การยอมรับในผลงาน
ซึ่งในหนังเรื่องนี้ ก็คือ อิสระจาก"โรคร้าย" ที่ขีดเส้นตายไว้กับชีวิตของแก้วตาแล้ว

"ความแปลกแยก" กับคนกลุ่มใหญ่ เป็นลักษณะเด่นที่ปรากฏอย่างชัดเจนในตัวละครหลักทั้งสอง
แก้วตา ทำงานศิลปะที่สังคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ (ไม่ซื้อ)
จี มีความรู้สึกแปลกแยกกับผู้คนในเมืองใหญ่ที่ไม่ใช่"บ้าน"ของตัวเอง
อีกทั้งยังต้องทำงานผิดกฏหมาย(กฏของสังคม) ทำให้รู้สึกอยู่เสมอว่าตัวเองต่างจากคนส่วนใหญ่
ทั้งคู่จึงรู้สึกอ้างว้างและเปลี่ยวเหงาอย่างยิ่ง

ไม่แปลก เมื่อคนสองคนที่เหงาสุดขีดโคจรมาพบกัน ก็เกิดความสัมพันธ์ขึ้นได้ โดยไม่ยากเย็นนัก
ทั้งที่หนังก็ไม่ได้เล่าให้เราฟังว่า ความรักที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไร คำพูดที่ตัวละครพูดกันนั้น
เราแทบจะนับประโยคได้ หรือคำพูดในเชิงลึกซึ้ง ที่ทำให้คนสองคนเรียนรู้ รู้จักกัน นั้นไม่ได้อยู่ในหนัง
แต่คนดูควรจะอนุมานเอาเองได้ อย่างนั้นหรือ? หรือนี่อีกภาพของหนุ่มสาวยุคนี้ ความสัมพันธ์ผิวเผิน
เร็วและฉาบฉวย? ความรักที่แท้ย่อมผ่านด่านของความไม่เข้าใจและทำความเข้าใจต่อกัน
หลายต่อหลายรอบมิใช่หรือ?

สก๊อต คือเพื่อนคนเดียวของจี เพื่อนที่ทั้งรับฟังและยอมพูดคุยด้วย
ภาพของสก๊อตในเงามืดก็เป็นตัวแทนของจี และ แก้วตา เช่นกัน
คือ คนที่ถูกสังคมมองข้าม และหลบอยู่ตามซอกหลืบของ"เมือง"
แน่นอนหนุ่มสาวเหล่านี้มีความฝันเล็กๆ และอยากให้"เมือง"หันมา"มอง"พวกเขาบ้าง

Do you believe in destiny?
ประโยคนี้ถูกเอ่ยขึ้นมาถึงสองครั้งด้วยกัน หนุ่มสาวเหล่านี้กำลังรอปาฏิหาริย์ พรหมลิขิต
และปล่อยให้โชคชะตาพาตัวเองไป เหตุเพราะเขาเหล่านั้นไม่มั่นใจในพลังของตัวเองอีกต่อไป
ไม่มีความดีงามแท้จริงให้เกาะเกี่ยว กระแสหลักของสังคมถูกพวกเขาเมิน
เช่นเดียวกันกับความคิด"นอกกรอบแบบปัจเจก" คิดแบบเป็นตัวเอง ของพวกเขาก็ถูกสังคมมองข้าม
คำถามคือ ทางสองเส้น ความคิดแบบใหม่กับเก่าจะรวมกันได้ ณ จุดไหน?
อะไรคือสิ่งที่พวกเขาควรทำกันแน่? หรือเราควรปล่อยชีวิตไปตามดวง?

การที่หนังเล่าเรื่องอยู่กับตัวละครทั้งสองโดยไม่เล่าไปถึงสิ่งอื่นๆ หรือบริบทรอบๆของตัวละคร
ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรักของคนสองคนโดยไม่สนใจใครโดยแท้
ภาพการ"เห็นแต่ตัวเอง" "คิดถึงแต่ตัวเอง" ซึ่งเป็นความคิดของคนหนุ่มสาวในปัจจุบัน
ถูกแสดงออกอย่างแจ่มแจ้ง ไม่มีปิดบังจนกระทั่งจบเรื่อง

ความแปลกแยก เหงา เปล่าเปลี่ยว และถวิลหา"บ้าน" คือบรรยากาศของหนังเกือบทั้งเรื่อง
ความรักคือสิ่งที่ตัวละครทั้งสองขาดหาย และต้องการ
ในตอนท้ายเรื่อง หลังจากที่จีพูดว่า "เธอจำฉันได้ เธอยังไม่ลืมฉัน"
มีเสียงของสก๊อตเพื่อนจรจัดคนนั้นว่า "นั่นแหละ คือ รัก"
ว่าแต่..แน่ใจแล้วหรือว่าใช่?
แก้วตาจำจีได้ แต่ลืมใครไปหรือเปล่า?

"จะมีมั้ยนะ ผู้ชายสักคนที่รักเราจริงๆ" แก้วตาหันไปถามหมวยที่กำลังเหม่อมองทะเลกว้างเบื้องหน้า
คำตอบของคำถามนี้ ไม่ได้ถูกบรรจุลงในหนังเรื่องนี้ แต่มีอยู่จริงในโลก
ใครน่ะเหรอ? ก็ผู้ชายคนที่แก้วตาโทรไปหาแล้วไม่ยอมพูดคุยด้วยในตอนต้นเรื่องนั่นไง
ภาพนกที่บินออกไปจากกรงอาจแสดงถึงความอิสระ แต่ก็แสดงถึงความไร้ที่พักพิง และไร้จุดหมายด้วยเช่นกัน
ความรัก ความเข้าใจ ที่หนุ่มสาวทั้งหลายโบยบินตามหา เอาเข้าจริง มันก็อยู่ที่"บ้าน"นี่เองแหละ
ไม่แปลกหรอกถ้าแก้วตา และจีรเดชจะหาไม่เจอ เพราะในหนังเรื่องนี้ ไม่มี"บ้าน"ปรากฏให้เห็น!

โดยคุณ : นิ้วกลม - [ 23 ก.พ. 2003 , 19:14:55 น. ]

//februarymovie.arch60.com/webboard/index.php?board=6;action=display;threadid=451





Create Date : 23 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2548 12:48:31 น.
Counter : 475 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ