Group Blog
 
 
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
9 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
บันทึกเก่าๆ

ผมหยิบเงินสามบาทวางเป็นค่าโดยสารเรือข้ามฟากแล้วเดินเข้าไปนั่งรอที่โป๊ะมองดูแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งวันนี้ลดระดับลงมาก เผยให้เห็นริมฝั่งที่เต็มไปด้วยซากสวะและหินโสโครก

หินโสโครก- - ใครหนอช่างเป็นผู้ดำริตั้งชื่อหินนี้ได้ลงคอ ถ้าหากผมเป็นหินโสโครก ผมคงน้อยใจวาสนาไม่น้อย เพื่อนๆหินคงไม่มีใครอยากคบค้ากับหินผู้โสโครกเป็นแน่แท้ ....

ผมจำได้ว่าเคยเรียนเรื่องน้ำขึ้นน้ำลง สมัยที่ยังนุ่งกางเกงขาสั้นไปเรียนหนังสือ แต่ตอนนี้ลืมไปเสียแล้วว่ามันเพราะอะไรจึงมีน้ำขึ้นน้ำลง

รู้สึกว่าพระจันทร์จะมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้น้ำขึ้นน้ำลงด้วย.........

เรื่องนี้มีพระจันทร์รู้เห็นเป็นใจกับเจ้าพระยา คิดจะกลั่นแกล้งให้คนชิงชังหินโสโครกเป็นแน่แท้

ผมมักจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอย่างนี้เสมอ คิดถึงโน่นถึงนี่ เกี่ยวกันบ้างไม่เกี่ยวกันบ้างปะปนกันไป มันก็ดีเหมือนกัน ช่วงเวลาสามสี่ปีที่ผ่านมา ผมไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดถึงภารกิจส่วนตัวของตัวเอง เพราะมัวแต่เอาเวลาไปคิดทำโน่นทำนี่เพื่อส่วนรวม เพื่อกิจกรรมเสริมหลักสูตรต่างๆ

ตอนนั้นน่าจะเรียนว่า เรียนเป็นหลักสูตรเสริมกิจกรรมมากกว่า

ผมจบปริญญาตรีมาด้วยเกรดเฉลี่ย ๓ กว่าๆ ชีวิตการเรียนปริญญาตรี ๔ ปี ที่ผ่านมา เคยรับรู้ถึงบรรยากาศทางวิชาการเพียง ๑ เทอม คือเทอมแรกที่เข้าไปเรียน เพราะเห็นรูมเมทอ่านหนังสือสอบจนเช้า เลยเอาบ้าง ผลที่ได้มาหรือครับ ไม่ต่างจากเทอมต่อมาที่ผมไม่ได้อ่านหนังสือสอบยันรุ่งเหมือนเทอมที่แล้วเลย

ตรรกะแบบคนได้เลขเกรด ๑ มันบอกผมว่า มีค่าเท่ากับ x ถึงจะอ่านหรือไม่อ่านมีค่าเท่าเดิม นับแต่นั้นมาผมไม่เคยอ่านหนังสือสอบแบบนั้นอีกเลย

สมัยที่สอบติดมหาวิทยาลัยใหม่ๆผมเคยโม้กับแม่ว่าจะเอาเกียรตินิยมให้ได้ คิดถึงวันนั้น วันนี้ยังอายไม่หาย พอมาเรียนเข้าจริงๆ ผมรู้ได้ด้วยญาณทัศนะทันทีว่า มันเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย เพราะนิสัยของผมนั้นเป็นอุปสรรคต่อเกียรตินิยมด้วยประการทั้งปวง

หลังจากเรียนจบผมรู้สึกยังเสียดายชีวิตอันเกลื่อนสุขคือการได้เรียน- - ซึ่งมีเวลาว่างมากมาย ที่จะใช้ให้หมดสิ้นไปกับการทำกิจกรรมชมรมบ้าง องค์การนักศึกษาบ้าง ดังนั้นมันจึงรู้สึกหวิวใจไม่น้อยที่นับต่อนี้ไปจะไม่มีโอกาสได้สวมชุดนักศึกษาอีกต่อไป ต้องไปเผชิญกับโลกกว้าง อ้างว้างโดดเดียว ไร้เพื่อน พี่น้อง ที่เคยห้อมล้อมกันมาเช่นเคย ผมจึงตั้งใจจะเรียนต่อด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ประการหนึ่งที่ชอบคุยให้ใครต่อใครฟังก็คือ

ขี้เกียจทำงาน

ใครฟังแล้วก็มักตามมาด้วยคำอนุโมทนาอันกอปรด้วยมธุรสวาจาว่า

“อืม..เจริญเนาะ เกาะพ่อแม่ไปเรื่อย”

ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มรับหรือพยักหน้ารับพรนั้นอย่างบริสุทธิ์ใจ

หลังจากที่นอนเล่น หายใจทิ้งอยู่พักใหญ่หลังจากเรียนจบขณะที่เพื่อนๆร่อนใบสมัครงานกันให้ว่อน วันนี้ผมให้บทสรุปกับอุปนิสัยของผมเอาไว้ว่า

“เป็นนักสุขนิยมและผู้ประพฤติความเกียจคร้านเป็นบารมี”
ในวัย ๒๕ ปี ใครหลายคนกำลังมุ่งมั่นไฟแรง อยากทำโน่นทำนี่ ฝันไกลไปถึงโลกหน้า สำหรับผมอยากเพียงแค่ขอให้วันนี้มีความสุข ไม่ทำให้ใครต้องทุกข์ใจ และไม่ต้องให้ใครมาทำให้ทุกข์ใจ

การได้นอนดึกแล้วตื่นสาย โดยไม่มีใครมาบังคับกะเกณฑ์หรือมีภารกิจใดๆมายืนรอให้สะสางนับว่าเป็นความสุขขั้นปฐมที่ผมออกจะยินดีอยู่ไม่น้อยสำหรับวันนี้

ผมเรียนจบหลักสูตรมาจากโรงเรียนบรรณารักษศาสตร์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ถ้าผมจะทำงาน อย่างน้อยก็มีงานบรรณารักษ์เป็นวิชาชีพรองรับได้ แต่ผมรู้ตัวดีว่าหากผมจบแล้วทำงานเสีย มันจะขัดกับ การเป็น “นักสุขนิยมและผู้ประพฤติความเกียจคร้านเป็นบารมี” ด้วยต้องเริ่มงานและเลิกงานเป็นเวลา ชีวิตตนเองต้องเริ่มมีระเบียบขึ้นมาในระดับหนึ่ง ซึ่งผมคงมีความสุขตามอัตภาพไม่ค่อยจะได้เท่าไรนัก

ความเกียจคร้านจึงผลักหลังผมให้มานั่งที่ท่าน้ำในวันนี้เอง
ผมเลือกสอบได้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยด้านศิลปะ-โบราณคดีที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ในวัยเด็กเดียงสายังไม่มาก เมื่อมีคนถามว่าโตขึ้นจะเป็นอะไร ผมมักจะตอบอยู่สองอย่าง คือ อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ และนักโบราณคดี ปานนั้น

จำได้ว่าเคยอ่านหนังสือศิลปวัฒนธรรมแล้วเห็นภาพอักขระโบราณในศิลาจารึกชอบมากจนจำมาเขียนเล่นๆบ้าง

วันนี้ได้มีโอกาสมานั่งเรียนที่นี่ผมรู้สึกว่าเกินความสามารถของนักเรียนผู้ทรยศต่อการเรียนในห้องพอสมควร สำหรับเพื่อนๆหลายคนที่เคยพบเจอกันสมัยยังเรียนมัธยม เขาตะบี้ตะบันเรียนพิเศษ ทำเกรดสามเกรดสี่ นั้นไม่น่าแปลกใจที่วันนี้หลายคนได้ทุน กพ. ทุนเรียนดีเรียนเก่ง ไปต่างด้าวต่างแดน มีอนาคตอันไพโรจน์เรืองรองอยู่ข้างหน้า บ้างคงได้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ข้าราชการกระทรวงหรูหราเป็นอาทิ แต่สำหรับผมผู้จบมัธยมปลายด้วยเกรดสวยงาม ๒.๒๒ นั้น การได้เผยอหน้ามาเรียนปริญญาโท แล้วนั้น มันเป็นสิ่งที่หลายคนที่เคยปรามาสถึงกับงงไปเหมือนกัน แต่อย่างว่าเมื่อประเมินจากพื้นฐานการเล่าเรียนแล้ว รวมถึงความเกียจคร้านด้วยแล้ว การจะได้มายืน ณ จุดนี้ มันเกินวิสัยไปพอสมควร

ผมชอบคำของ อาจารย์จารุวรรณ ธรรมวัตร ที่ว่า ชีวิตท่านได้ดีมาทุกวันนี้ เพราะมีผู้บังคับบัญชาดี และเพื่อนร่วมงานดี เพราะมันคล้ายๆกับผมที่ได้ดีทุกวันนี้เพราะเพื่อนดีและมีครูบาอาจารย์ดี

ขอกราบทุกท่าน ที่เมตตาทั้งผลักและถีบจนผมมาถึงจุดที่ดีทีสุดช่วงหนึ่งของชีวิต

เรือข้ามฟาก ท่าพระปิ่น-ท่าพระจันทร์เข้ามาเทียบท่า ผมเดินแบบไม่รีบเร่ง ด้วยเวลานั้นเหลือเฟือเหลือเกินสำหรับหนึ่งวัน

ชีวิตในบางกอกเกือบสามปีที่ผ่านมา มันแสนจะน่าเบื่อหน่ายที่สุดสำหรับคนที่เคยใช้ชีวิตแบบนิยมความสุขเยี่ยงผม

การต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมในอพาทเมนท์ที่ไม่รู้จักใครเลยสักคนนั้นมันเหมือนการกวักมือเรียก ความเหงา ที่เป็นเพื่อนเก่า ให้กลับมาเยี่ยมเยียนอย่างช่วยไม่ได้

อันที่จริงการได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนัก บางครั้งมันช่วยให้เราสามารถอยู่กับตัวเองและไตร่ตรองนึกคิดในสิ่งที่ต้องอาศัยความโดดเดี่ยวเงียบเหงาเป็นองค์ประกอบ



Create Date : 09 กันยายน 2548
Last Update : 9 กันยายน 2548 1:38:27 น. 8 comments
Counter : 881 Pageviews.

 


เอาความสุขมาแบ่งปันค่ะ

ราตรีสวัสดิ์นะคะ


โดย: อิงคยุทธ วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:3:04:53 น.  

 
นั่นสินะทำไมมันถึงชื่อหินโสโครก...
คนตั้งชื่ออาจจะไปพบหินที่โสโครกจริงๆมีตะไคร่น้ำเกาะเต็มก็ได้นะ


โดย: rebel วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:5:54:22 น.  

 
ใช้ภาษาได้เสียดสีมากคะ


โดย: InDePenDent gr. IP: 58.9.240.9 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:1:40:45 น.  

 
สวัสดีครับ ว่าแล้วเชียวว่าคุณต้องจบบรรณารักษ์ เพราะคำว่า cybrarian คือบรรณารักษ์โลกไซเบอร์ ผมก็จบบรรณารักษ์เหมือนกันครับ ด้วยเกรดเฉลี่ย 3 กว่าๆ (เผอิญได้เกียรตินิยมไว้ประดับหลุมศพแม่ได้ภูมิใจ)เหมือนกัน ผมก็ห่างไกลจากคำว่าเด็กเรียนมากมายนักก่อนสอบแทนที่จะอ่านหนังสือ กลับอ่านแต่การ์ตูนเพราะมีความเชื่อว่าก่อนสอบต้องผ่อนคลายครับ 555 อยากรู้จักนะครับ เพราะผมเป็นประชากรส่วนน้อย (บรรณารักษ์ผู้ชาย)ของสังคมบรรณารักษ์ จบมาก็ทำงาน ไม่สนุกสนานเหมือนตอนเรียน คิดแล้วก็ได้แต่เสียดายที่ไม่เที่ยวตั้งแต่ตอนเรียน (เพราะตอนเรียนหน่ะ ทำงานไปด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลาเที่ยว) บ่นไปมากมาย รุ่นพี่บอกว่า พวกเรียนบรรณารักษ์จะเก็บกด พูดมากจู้จี้บี้บ่น ซึ่งผมก็คงจะเป็นอย่างนั้น ฮา



โดย: นายลีโอ IP: 202.29.22.189 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:14:14 น.  

 
ข้าพเจ้า...รู้ตัวเสมอว่า ตนนั้นเปนผู้มีความพอเพียงในการงาน อันเปนภาษาสากลว่า...เกียจคร้าน

ทว่า...ข้าพเจ้าก็พอใจที่จักมีเวลาได้เอกขเนกบนชานเรือนอันกว้าง เพื่อละเลียดสายตาไต่ตามอักษรแห่งหนังสือเล่มโปรด พร้อมเงี่ยโสตเสนาะเสียงระฆังลม ณ ชายคา ดังกรุ๋งกริ๋ง

ท่ามกลางสายลมไล้ผิวกายแลแสงแดดอันอ่อนโยนที่ลอดรำไรผ่านร่มไม้ใบบัง

เท่านี้ก็สุขแสนสุข...


โดย: ระนาดแก้ว (ระนาดแก้ว ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:55:40 น.  

 
อยากรู้จังค่ะว่า cyberian นี่ รหัสอะไรคะ เพราะเราก็จบบรรณารักษ์ที่มหาวิทยาลัยด้านศิลปะแห่งนี้เหมือนกันค่ะ


โดย: PP IP: 161.200.255.162 วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:18:44:37 น.  

 
ชอบสำนวนมากค่ะ ถ้าสนใจจะทำหนังสือขาย บอกนะคะ

จะติดตามค่ะ


โดย: รตี IP: 125.25.155.7 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:23:00:22 น.  

 
บังเอิญผ่านมาค่ะ ...

ไม่รู้จะเรียกว่า บังเอิญหรืออะไรดี ... ตอนนี้กำลังค้นหาบางอย่างอยู่ คลิกลิงค์ไปเรื่อยๆ ก็มาเจอบล๊อคนี้พอดีเลย

สำนวนการเขียนสนุกจับใจจริงๆ รู้สึกอ่านแล้วสบายใจดี

แต่ก็ยังไม่เจอที่ค้นหา ฮ่าๆ แต่รู้สึกสบายใจขึ้นที่จะค้นหามันต่อไป

ขอโทษนะคะ ถ้าอ่านแล้ว งงๆ ... เพราะก็ งงๆ กับชีวิตอยู่เหมือนกัน ฮ่าๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ ^^


โดย: Z. IP: 125.24.13.65 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:30:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cybrarian
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add cybrarian's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.