|
ดึงจังหวะชีวิตให้ช้าลง คำถามหนึ่งที่ชาวเราซึ่งขี่จักรยานไปทำงานมักจะโดนถามเสมอคือ เอาตัวรอดอย่างไรท่ามกลางการจราจรที่คับคั่ง คำตอบที่ผมตอบคือ ดึงจังหวะชีวิตให้ช้าลง ข้อดีข้อหนึ่งของการขี่จักรยานไปทำงานคือ ถ้าพาหนะของเราไม่เกิดมีอันเป็นไปอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างทาง เราจะใช้เวลาในการเดินทางในแต่ละวันเหลื่อมกันเพียงไม่กี่นาที ซึ่งประเด็นนี้แตกต่างจากการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือรถยนต์ส่วนตัว ที่วันดีคืนร้ายอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้การจราจรติดขัด ยืดระยะเวลาเดินทางออกไปอีกครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงได้ง่ายๆ เมื่อรู้เวลาเดินทางที่แน่นอนแล้ว ก็ย่อมที่จะบริหารเวลาได้สะดวก รู้ว่าควรจะออกจากบ้านเมื่อไรเพื่อให้ถึงที่หมายและมีเวลาจัดการกับกิจกรรมส่วนตัวในการทำความสะอาดร่างกายกับแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูดีก่อนที่เพื่อนพ้องร่วมงานจะทะยอยกันเข้ามา ระหว่างทางก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ มันไม่ได้น่าอายเลยถ้าหากคุณจะลงรถแล้วจูงข้ามถนนบ้างเป็นบางจุด ในทางกลับกันมันดีกว่าการปาดออกไปยังเลนขวาสุดท่ามกลางรถที่วิ่งกันคับคั่งด้วยความเร็วซึ่งสูงกว่าเพื่อจะใช้ช่องทางกลับรถ หรือหากต้องทำอย่างนั้นจริงๆ มันก็ไม่น่าอายเลยที่คุณจะหยุดรอชิดขอบทางด้านซ้ายจนกว่ารถจะว่างพอที่คุณจะออกรถตัดช่องทางจราจรไปได้ ถ้ากระแสจราจรติดๆ ขัดๆ ก็จงชะลอความเร็วลงเสียสักหน่อย อย่าพยายามแทรกเข้าไประหว่างช่องว่างของรถ พึงระลึกไว้เสมอว่า มอเตอร์ไซค์นั้นแทรกได้เช่นเดียวกับคุณและคล่องตัวกว่าคุณด้วยประการทั้งปวง ที่สำคัญน้ำหนักเขามากกว่า เจอกันทีไรคุณมีแต่จะเสียเปรียบ พึงระลึกไว้เสมอว่า ที่ปลายทางยังมีคนที่รอการไปถึงของคุณอยู่ ดึงจังหวะชีวิตให้ช้าลง แล้วคุณจะได้ไปเห็นหน้าพวกเขา |
Link |