| |
ทางจักรยาน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างใหม่เกิดขึ้นในเส้นทางที่ผมขี่จักรยานไปทำงานเป็นประจำ สิ่งที่ว่านั้นคือทางจักรยาน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมาได้จังหวะพอดีกับการการเพิ่มของปริมาณรถยนต์บนถนนสายหลักเนื่องจากมีการเปิดเส้นทางเลี่ยงเมืองในอีกฟากหนึ่ง ทำให้ตรงนั้นกลายเป็นถนนวงแหวนที่คนเลือกใช้ ผลก็คือการจราจรเป็นจลาจลไปในบางโอกาสเมื่อเจ้าหน้าที่จราจรไม่อยู่คุมสัญญาณไฟในชั่วโมงเร่งด่วน การมาถึงอย่างถูกจังหวะของทางจักรยานจึงเป็นโอกาสอันดีที่ช่วยให้ผมไม่ต้องไปเป็นส่วนหนึ่งของการจลาจลนี้ด้วย สิ่งเดียวที่เสียดายก็คือ ทางจักรยานสายนี้มีส่วนให้คนใช้รถยนค์น้อยลงเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ก่อนจะเขียน blog วันนี้ได้ใช้เวลา 2 สัปดาห์ก่อนลองพยายามนับดูคนที่ขี่จักรยานสวนหรือแซงกันบนเส้นทางจักรยานซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นผู้ที่ใช้จักรยานเพื่อการเดินทางทำธุระเช่นกัน ไม่ใช่ขี่เพื่อออกกำลังกายตามสมัยนิยม สองสัปดาห์นับได้ 5 คนเท่านั้น ทั้งที่ทางจักรยานเส้นนี้ผ่านด้านหลังศูนย์ราชการของจังหวัดในระยะเผาขน ผ่านบ้านพักสวัสดิการของ 2 - 3 หน่วยงาน ที่รวมจำนวนผู้อยู่อาศัยแล้วน่าจะถึง 1000 คน ถ้าจะถามว่าเพราะอะไรจำนวนคนที่ใช้จักรยานเพื่อการสัญจรในเส้นทานี้จึงน้อยนัก ผมตอบได้ในทันทีเลยว่า เพราะหัวท้ายเส้นทางไม่ได้เชื่อมกับอะไรเลย ไม่ติดกับศูนย์การค้า ไม่ติดกับสถานีของระบบขนส่งมวลชนใดๆ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการคมนาคมที่คนส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการสัญจรในชีวิตประจำวัน เว้นแต่จะเป็นคนโชคดีอย่างผมที่ขี่จักรยานลัดเลาะตามซอกซอยจากบ้านมาออกตรงปากทางได้ แต่คนส่วนใหญ่ถ้าจะใช้ทางจักรยานเส้นนี้ก็ต้องเสี่ยงชีวิตฝ่าการจราจรมาบนทางหลวงขนาดสามช่องทางจราจรที่ไม่มีไหล่ทาง ทั้งยังไม่เหมาะแ่ก่การใช้ออกกำลังกายจริงจัง เพราะการออกแบบทางนิรภัยจราจรนั้นมุ่งหวังให้เป็นเส้นสำหรับการสัญจรจริงๆ ที่ใช้ความเร็วไม่มากนักและคนขี่ระวังตัวเองพอสมควร เนื่องจากตลอดเส้นทางมีทางร่วมเข้าออกสถานที่ราชการต่างๆ มากมาย บรรดาขาแรงทั้งหลายจึงยังคงใช้เส้นทางร่วมกับรถยนต์เพราะทำความเร็วได้ดีกว่า และมีทางร่วมทางแยกให้ต้องระแวงน้อยกว่า ทิ้งให้เส้นทางตรงนี้เป็นที่สัญจรของบรรดาขาอ่อนไปจนถึงขาแรงระดับกลางต่ำและผู้ใช้จักรยานเป็นพาหนะอย่างพวกผมเท่านั้น อันที่จริงไม่อยากจะบ่นอะไรนักหนาถ้าไม่ใช่เคยได้ข่าวว่า เส้นทางตรงนี้ใช้เงินไปเกือบ 20 ล้านบาท โดยมีผลลัพธ์เป็นที่ขี่จักรยานออกกำลังกายของคนวันละประมาณ 2 - 300 คนเท่านั้น ให้น่าสงสัยกับความคุ้มทุนเป็นอย่างยิ่ง นี่ก็ได้ข่าวว่าจะมีการสร้างทางจักรยานเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาควบคู่ไปกับพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมโดยใช้งบประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าของโครงการเองกับประโยชน์ใช้สอยแล้ว มองอย่างไรก็ไม่คุ้มทุน ถ้าจะสร้างพนังกั้นน้ำ สามารถทำได้ถูกกว่านั้นมากโดยไม่ทำลายทัศนียภาพของแม่น้ำเข้าพระยา เท่าๆ กับที่การสร้างทางจักรยานเพื่อเป็นที่ขี่จักรยานเล่นของคนหนิบมือเดียว โดยไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องลดการใช้รถยนต์เพื่อประหยัดต้นทุนด้านพลังงานของประเทศก็ไม่คุ้มทุนเช่นกัน ตราบเท่าที่ยังขีดเส้นทางจักรยานโดยไม่คิดถุึงการใช้จักรยานเป็นพาหนะทดแทนรถยนต์ ต่อให้โฆษณาอย่างไร คนก็ไม่หันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะกันได้หรอกครับ แล้วอย่างนี้จะลงทุนมากมายไปทำไมกัน
 สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ โดย: peepoobakub
 วันที่: 13 มีนาคม 2560 เวลา:16:36:24 น. |
Link |
||||||||||
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
หลายปีแล้ว
ยอมรับว่าการปั่นจักรยาน ง่ายต่อการออกกำลังกาย ปกติจะจ๊อก
กิ้งวันละหลาย กม. แต่ใจของเรา ไปล่วงหน้า แต่กายยังไปได้
ไม่ไกล..
การจ๊อกไม่เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ "ติด" การออกกำลังกาย
จึงยากสำหรับคนที่จะออกกำลังกาย
ระยะหลัง เห็นคนปั่นจักรยานเยอะขึ้นแบบ คาดไม่ถึงคงเป็นด้วย
กระแส... แล้วอีกอย่าง คนปั่น ไม่เหนื่อยมากเหมือนจ๊อกกิ้ง
คนจึงนิยม... ทำให้กระแสการเงิน กระจาย คงทำภาษีได้เยอะ
ส่วนถนนที่แบ่ง ให้มีเลนจักรยานด้วย ผมเห็นด้วยสำหรับที่สร้าง
ใหม่ แต่จะแบ่งถนนเก่ามีเลนจักรยานด้วย ยากมากครับ มันแคบ
ผมเองบางครั้งใช้ฟุตบาทปั่นไป ที่สวนสาธารณะ เลี่ยงการเสียง
จากอุบัติเหตรถยนต์ชน... แต่ก็เลือกถนนนะครับ เกรงว่าจะไป
รบกวนคนเดินถนน
ปัจจุบัน ผมไปปั่นที่ไหนจะ ห้อยจักรยานไว้ท้ายรถ ไปถึงที่ค่อย
ปั่น.. และคงจะเหมือนหลาย ๆ คนที่ทำเช่นนั้น
ที่ บึงหนองบอน อุโมงต้นไม้ คนนำรถจักรยานไว้ในรถเก๋งเยอะ
มาก กว่า 200 คน เต็มพื้นที่ จนค่อนข้างแออัด
มีคนรู้จักผม ยังปั่นจักรยานไปทำงานทุกวัน ทั้งที่มีรถยนต์ปั่น
มาหลายปีแล้วครับ
ส่วนการสร้างถนนเพิ่ม ตัดถนนริมแม่น้ำ.. นั้นเกินกว่าที่ผมจะให้
ความเห็นครับ.. เพราะกระทบหลายอย่างมาก