Group Blog
 
 
สิงหาคม 2548
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

บล็อกแรก...ไหว้ครูครับ

เนื่องจากผมชอบเรื่องเดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ มากๆครับ ดังนั้นมาไหว้ครูและคารวะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันในแบบชาวมัชฌิมโลกนะครับ ขอยกเอาส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ เอาใจความในเล่มแรกของเรื่อง ผลงานแปลโดยคุณวัลลี ชื่นยง หน้า 369 ถึง 373 ครับ เป็นตอนที่พวกโฟรโดรวมทั้งอารากอร์นเดินทางถึงริเวนเดลล์และได้พบกับลุงบิลโบครับ ชื่อสไตรเดอร์และนายดูนาดานที่กล่าวถึงก็คืออารากอร์นนั่นเองครับ

*<-->**<-->**<-->*

สไตรเดอร์ก้มลงมองบิลโบอย่างเคร่งขรึม "ข้ารู้" เขาตอบ "แต่บ่อยครั้งข้ามักจะต้องงดความสำราญเอาไว้ก่อน เอลลาดานกับเอลโรเฮียร์กลับมาจากดินแดนป่าอย่างกะทันหัน ทั้งสองมีข่าวที่ข้าอยากจะฟังโดยด่วน"

"เอาเถอะ สหาย" บิลโบพูด "ตอนนี้ท่านก็ได้ฟังข่าวนั่นแล้ว ขอเวลาฉันสักครู่ได้ไหม ฉันมีเรื่องด่วนบางอย่างต้องการความช่วยเหลือจากท่าน เอลรอนด์บอกว่าฉันต้องแต่งเพลงของฉันให้เสร็จในตอนหัวค่ำนี่ แล้วฉันก็ติดเสียด้วย เราไปกันที่มุมห้อง และต่อให้จบกันเถอะ!"

สไตรเดอร์ยิ้ม "ได้ซี!" เขาพูด "ไหนลองว่าให้ฟังทีเถิด !"



โฟรโดถูกทิ้งไว้ตามลำพังชั่วขณะเนื่องจากแซมหลับไปแล้ว เขานั่งอยู่คนเดียวและรู้สึกเหงา แม้จะมีพวกพรายริเวนเดลล์ชุมนุมกันรอบตัวเขาเต็มไปหมด แต่พรายที่อยู่ใกล้ๆเขาต่างนิ่งเงียบ ตั้งอกตั้งใจฟังเพลง หาได้สนใจกับอะไรอื่นไม่ โฟรโดจึงเริ่มตั้งใจฟังบ้าง

ทันทีที่เริ่มฟัง ความงดงามของท่วงทำนองเพลงและถ้อยคำร้อยเรียงภาษาพรายก็สะกดเขาไว้ แม้เขาจะเข้าใจความหมายของมันเพียงน้อยนิดก็ตามที ดูคล้ายกับว่าถ้อยคำเหล่านั้นได้ก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ภาพของดินแดนอันไกลโพ้นและสิ่งเพริศแพร้วซึ่งเขาไม่เคยนึกฝันถึงมาก่อนปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ห้องโถงซึ่งมีแสงไฟสว่างไสวกลายเป็นไอหมอกสีทองเหนือท้องทะเลแห่งฟองคลื่นซึ่งครวญครางอยู่เหนือสุดขอบโลก ครั้นแล้วความงดงามนั้นก็ประดุจดั่งความฝันยิ่งขึ้นทุกที จนกระทั่งโฟรโดรู้สึกว่าสายน้ำเอ่อท้นสีเงินและทองซึ่งไม่มีวันสิ้นสุดกำลังไหลหลากท่วมตัวเขา เป็นรูปต่างๆนานาสารพันเหลือที่จะเข้าใจ กลายเป็นส่วนหนึ่งของอากาศอันสั่นไหวรอบตัว และท่วมท้นร่างของเขา เขาจมดิ่งอย่างรวดเร็วท่ามกลางแสงสว่างอันหนักอึ้ง ลงไปสู่อาณาจักรแห่งนิทราอันแสนลึกล้ำ

ณ ที่นั้น เขาเดินท่องอยู่นานในความฝันแห่งเสียงดนตรีซึ่งกลายเป็นสายน้ำไหลริน ครั้นแล้วทันใดนั้นมันก็กลับกลายเป็นเสียงเสียงหนึ่ง ฟังดูคล้ายกับเสียงของลุงบิลโบกำลังร้องเพลง ดังแผ่วๆในตอนแรก แล้วได้ยินชัดขึ้นเป็นถ้อยคำ

พรานทะเลแห่งอาร์แวร์นิเอน เออาเรนดิลผู้ยิ่งใหญ่
แล่นลิ่วนาวาเกรียงไกร ต่อจากไม้ในไพรนิมเบรธิล
หัวเรือหงส์ตระหง่าน ใบเรือเงินทะยานโลดลิ่ว
สว่างพร่างพลิ้วธงทิว ตะเกียงเงินริ้วระยับจับตา
ในอาภรณ์แห่งกษัตริย์ เกราะอ่อนเลื่อมระยับแสนสง่า
มรกตเขียวครามประดับอุรา โล่สลักอักขระพรายคู่กายา

จากเหนือล่องฝ่ามหาสมุทร ล่วงพ้นถิ่นแดนมนุษย์หล้า
รัตติกาลมืดมนเหลือคณา ล่องนาวาคืนกลับทวน
เอลวิงพลันโบยบิน นำซิลมาริลโชติช่วง
ขับไล่ความมืดมนทั้งปวง มอบสวมส่องทางสว่างครัน

ดั้นด้นฝ่าพายุและผองภัย จนบรรลุแผ่นดินไกลอีกฟากฝั่ง
ปัจจิมแดนอันเป็นนิรันดร์ สวรรค์แห่งวาลินอร์และเอลดามาร์
ท่องถิ่นลี้ลับแสนงาม อิลมารินสูงตระหง่านเหนือภูผา
สู่บัลลังก์แห่งจอมเทพผู้เรืองฤทธา ณ ท้องพระโรงอนันตกาล

สร้างนาวาลำใหม่ลิ่วล่อง มิธริลเรืองรองส่องสว่าง
ซิลมาริลดั่งโคมไฟส่องทาง ธงพราวทิพย์พลังแห่งเทวา
เอลเบอเรธนิรมิตแสง สุกสว่างพร่างแพร้วจำรัสจ้า
ติดปีกแห่งนิรันดร์ลงนาวา ลอยข้ามตะวันจันทราเวิ้งนภาลัย

เขาล่วงลาจากมิดเดิ้ลเอิร์ธ เมื่อเนิ่นนานหลายอสงไขย
ล่องนาวาสู่ฟากฟ้าไกล เป็นดวงดาวส่องไสวในนภา
เป็นเปลวเพลิงแห่งเวสเทิร์นเนส เรืองรุ่งวิเศษในเวหา
ส่องโคมทองชั่วกัลปา โคจรท่องฟ้านิรันดร



เมื่อเพลงจบ โฟรโดลืมตาขึ้น มองเห็นลุงบิลโบนั่งอยู่บนม้าตัวเตี้ย กลางวงล้อมของผู้ฟังซึ่งยิ้มและปรบมือ

"ขอฟังอีกเที่ยวเถอะ" พรายตนหนึ่งพูด

บิลโบลุกขึ้นโค้งคำนับ "ฉันแทบลอยแล้ว ลินเดียร์" เขาพูด "แต่ร้องซ้ำเดี๋ยวจะน่าเบื่อ"

"ไม่น่าเบื่อสำหรับท่านหรอก" พวกพรายตอบพลางหัวเราะ "ท่านก็รู้นี่นาว่าท่านไม่เคยเบื่อที่จะร้องเพลงของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ฟังเพียงครั้งเดียว เราตอบคำถามของท่านไม่ได้หรอก !"

"อะไรนะ !" บิลโบร้อง "นี่พวกท่านบอกไม่ได้รึว่าตรงไหนเป็นฝีมือของฉัน ตรงไหนเป็นของนายดูนาดาน"

"ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราที่จะบอกความแตกต่างระหว่างบุคคลสองคนที่ไม่เป็นอมตะ"

"เหลวไหลน่า ลินเดียร์" บิลโบทำเสียงขุ่น "ถ้าท่านแยกความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับฮอบบิทไม่ออก ความคิดวินิจฉัยของท่านก็อยู่ในระดับต่ำกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก มนุษย์กับฮอบบิทแตกต่างกันอย่างกะถั่วกับแอ๊ปเปิ้ลเลยทีเดียว"

"อาจจะใช่ สำหรับแกะแล้ว แกะตัวอื่นๆย่อมไม่เหมือนตัวมันเองเลย" ลินเดียร์หัวเราะ "หรือไม่ก็สำหรับคนเลี้ยงแกะ แต่พวกเราไม่ได้ศึกษาเรื่องของผู้ที่ไม่เป็นอมตะ เรามีธุระอื่นต้องทำ"

"ฉันไม่ขอต่อล้อต่อเถียงกับท่านหรอก" บิลโบว่า "ฉันง่วงนอนเต็มทีหลังจากฟังดนตรีกับร้องเพลงมากๆนี่ ฉันจะปล่อยให้พวกท่านเดากันไปเอง ถ้าพวกท่านต้องการอย่างนั้น"

เขาลุกขึ้น เดินไปหาโฟรโด "เอาละ เรียบร้อยแล้ว" เขาพูดค่อยๆ "มันออกมาดีกว่าที่ลุงคิดไว้เสียอีก ไม่ค่อยมีใครขอลุงฟังเป็นครั้งที่สองบ่อยนัก หลานคิดว่าอย่างไร"

"ผมไม่ขอเดานะครับว่าตรงไหนฝีมือใคร" โฟรโดพูดยิ้มๆ

"ไม่จำเป็นหรอก" บิลโบบอก "ที่จริงเป็นฝีมือลุงเองทั้งหมด ยกเว้นอารากอร์นยืนยันให้ลุงใส่เรื่องมรกตเขียวลงไปด้วย ดูเหมือนเขาจะคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ลุงไม่รู้ว่าทำไม เห็นได้ชัดว่าเขาคิดถึงเรื่องทั้งหมดนั่นเกินกว่าลุงจะเข้าใจ เขาบอกว่า ถ้าลุงกล้าจะแต่งเพลงเกี่ยวกับเออาเรนดิลในคฤหาสน์ของเอลรอนด์ก็เป็นเรื่องของลุงเอง ลุงสงสัยว่าเขาจะพูดถูก"

*<-->**<-->**<-->*

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ จะเพิ่มบล็อกใหม่ทุกวันจันทร์ครับ แต่ว่าจะเป็นหัวข้อใดนั้นก็แล้วแต่ความเหมาะสมครับ




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2548
0 comments
Last Update : 12 กันยายน 2548 13:35:06 น.
Counter : 808 Pageviews.


พญาเหยี่ยว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พญาเหยี่ยว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.