|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
โรคความดันสูง..หมอแอมมาเอง
ขอเล่าย้อนไปเมื่อครั้งที่มีบอลยูโร ผู้เขียนมีอาการหัวหมุน และวิงเวียนศีรษะ หัวอุ่นๆตัวร้อนลุมๆคล้ายจะเป็นไข้ เดินไปทานข้าว เจอพี่พยาบาลที่เดินสวนทางมา ทักว่าทำไมหน้าซีดจัง พี่พยาบาลแนะนำให้ไปที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน เพื่อวัดความดัน โดยไม่ต้องขึ้นบัตร ปรากฎว่า ความดันสูง 190/110
สร้างความตื่นตกใจไปทั้งอีอาร์ พยาบาลส่งตัวเข้าพบคุณหมอโดยด่วน คุณหมอนัดให้เจาะเลือดในเช้าของอีกวัน ปรากฏว่าไขมันสูง และความดันสูง ทำอย่างไรก็ไม่ยอมลด คุณหมอสั่งยาให้มาทาน และนัดเจาะเลือดทุกสามเดือน
หลังจากนั้น ชีวิตวนเวียนกับการไปพบแพทย์ และได้ยาเพิ่มมาเรื่อยๆโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถามคุณหมอว่าทำไมต้องตรวจเลือด คุณหมอบอกว่าต้องตรวจเช็คตับไต เพราะการกินยา ทำให้ตับไตต้องทำงานหนัก
เจอคำสะดุดใจที่ว่า เราสามารถเป็นหมอที่ดีที่สุดของตัวเองได้ เครื่องมือที่เราจะใช้ในการศึกษา ก็คือร่างกายของเราเอง นั่นคือจุดเปลี่ยนของชีวิต ทำให้ผู้เขียนเริ่มตระหนักและหันมารักและดูแลตัวเอง ไม่อยากกินยาอีกต่อไป ต้องทำอย่างไร
ไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อลดละเลิกพฤติกรรมแย่ๆของตัวเอง ศึกษาแพทย์ทางเลือก และแพทย์แผนไทย ผสมปนเปไปกับแพทย์แผนจีน ศึกษาหาความรู้จากผู้รู้ จากหนังสือ จากสำนักหลายสำนัก เพื่อนำมาปรับใช้กับตัวเอง หันมาให้ความสนใจตัวเอง และเริ่มเรียนรู้ที่จะเป็นหมอเพื่อรักษาเยียวยาตัวเอง
อาการที่ร่างกายแสดงออกมา
ผู้เขียนเป็นสาวเนื้ออุ่น เวลาที่ไปเผลอเจอใครจับมือ เขาจะไล่ให้ไปเข้าห้องน้ำ เพราะมืออุ่นและตัวอุ่นอยู่ตลอดเวลา จะรู้สึกมึนๆศีรษะในช่วงบ่าย กลับถึงบ้านต้องนอนสักพัก เพราะรู้สึกเพลียมาก กลางคืนนอนหลับไม่สนิท ฝันมาก ตื่นเช้ามารู้สึกคล้ายๆยังไม่ได้นอนบางวันตื่นสายแต่ก็ยังไม่รู้สึกสดชื่น
ในแต่ละคืนตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำสองครั้ง ทั้งๆที่ก่อนนอนก็ไม่ได้ดื่มน้ำ ตื่นมาในตอนเช้ามีอาการคอแห้งกระหายน้ำมาก มีแผลในปาก และเหงือกบวมบ่อยๆ รู้สึกร้อนในและกระหายน้ำ ท้องผูกเป็นประจำ บางครั้งถ่ายแข็งมากมีเลือดปนออกมา เป็นริดสีดวง ปัสสาวะสีเข้มคล้ายน้ำชา เคยมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะขัด กะปริดกะปรอย
พฤติกรรมส่วนตัว
นั่งทำงานหน้าคอมฯ ครั้งละนานๆไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบถ เป็นคนเอาจริงเอาจังกับงานมาก หากงานไม่เสร็จจะไม่ลุกไปไหน เป็นคนมีความรับผิดชอบสูง และค่อนข้างกังวล หากเป็นช่วงเร่งด่วนชอบนำงานมาทำต่อที่บ้าน อยู่เคลียร์งานจนดึก หากไม่เสร็จบางครั้งกังวลจนนอนไม่หลับ บางวันที่ยุ่งมากๆลืมดื่มน้ำ ทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา ลืมเข้าห้องน้ำอั้นไว้จนกว่างานจะเสร็จ
พฤติกรรมการดื่มน้ำและทานอาหาร
ดื่มน้ำเฉพาะที่รู้สึกหิวเท่านั้น ทานข้าวเสร็จบางทีก็ลืมดื่มน้ำ ชอบทานผลไม้รสหวาน เช่น ทุเรียน ลำไย มะม่วง เงาะ มังคุด ขนุน น้อยหน่า ขนมหวาน เช่น ข้าวเหนียวถั่วดำ ฝอยทอง มะม่วงกวน พุทรากวน ตังเม ตุ้บตั้บ กล้วยเชื่อม ขนมกรุบกรอบ ขนมพายต่างๆ ของทานเล่นๆแต่ทานแบบจริงจังหวังอิ่ม เช่นไข่ปลาหมึก ปลาหมึกบดราดน้ำจิ้มหวานๆ ถั่วทอด แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด เป็นต้น
เป็นคนทานข้าวน้อย แต่ทานกับข้าวเปลือง ชอบอาหารรสเผ็ดร้อน รสจัดติดไปทางรสเค็ม กับข้าวส่วนใหญ่จะเป็นประเภทผัด และทอด ประเภทหมูกรอบ สามชั้น หนังไก่ทอด ขาหมูมันๆ สเต็ก ชอบเนื้อเค็ม ปลาเค็ม ไข่เค็ม ของหมักดองต่างๆ
สรุปอาการ
ตัวอุ่น มืออุ่น หัวอุ่น ในตอนบ่ายปวดหัวตุบๆคล้ายมีไข้ต่ำๆ ตาพร่าๆปวดตึงบริเวณไหล่ ปวดหัวไมเกรนเป็นประจำ มีอาการร้อนใน กระหายน้ำ ปากเป็นแผล เหงือกบวม ท้องผูก อุจจาระเหนียวหนืด เป็นริดสีดวงทวาร กลางคืนลุกขึ้นมาถ่ายปัสสาวะบ่อยๆ ไขมันสูง ความดันเลือดสูง
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ตื่นนอนตอนเช้า ดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ สองแก้วใหญ่ ในระหว่างวัน ในที่ทำงานวางน้ำไว้ใกล้ตัว ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เฉลี่ยจิบไปเรื่อยๆตลอดทั้งวัน ไม่ดื่มน้ำเย็นจัดในมื๊ออาหาร เพราะเกรงจะไปรบกวน การทำงานของน้ำย่อย กระเพาะอาหารย่อยอาหารราว 30 นาที หลังจากนั้นจึงดื่มน้ำได้เป็นปกติ
และในระหว่างวัน ดื่มเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เย็น เช่นน้ำใบบัวบก น้ำเก๊กฮวย น้ำจับเลี้ยง น้ำแตงโม น้ำหล่อฮังก้วย น้ำย่านาง น้ำตำลึงหวาน เฉาก๊วย เพื่อลดภาวะร้อนภายในร่างกาย เพิ่มเมนูผักเข้ามาในเมนูอาหาร ลดปริมาณเนื้อสัตว์ลง เปลี่ยนจากเนื้อเป็นปลาและเต้าหู้ ผลไม้ เปลี่ยนมาเป็นผลไม้รสเย็น เช่น แก้วมังกร มันแกว แคนตาลูป แอปเปิ้ล มังคุด เป็นต้น
ทำงานด้วยความผ่อนคลาย ลุกเดินออกไปนอกอาคาร มองท้องฟ้า มองใบไม้สีเขียวๆ สูดอากาศเข้าเต็มปอด แล้วค่อยกลับมานั่งทำงาน นอนไม่เกินห้าทุ่ม ตื่นเช้าๆมาออกกำลังกาย
ผลจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เกือบสองปีที่ทานยาลดความดัน หลังจากเปลี่ยนพฤติกรรม ความดันลดลงมาเป็นปกติ คุณหมอสั่งงดยาลดความดัน และยาละลายไขมัน ไม่ต้องโดนเจาะเลือด อาการร้อนในหายเป็นปลิดทิ้ง อาการไมเกรนที่เคยเป็นในช่วงวันนั้นของเดือนก็หายไปเช่นกัน อาการท้องผูกหาย และริดสีดวงทวารทุเลากลับมาขับถ่ายได้เป็นปกติ ไม่ปวดทรมานเวลาขับถ่ายอีกต่อไป
หลังจากที่เปลี่ยนพฤติกรรม ทำให้หลับสบายตลอดทั้งคืน ไม่ต้องลุกมาปัสสาวะบ่อยๆเหมือนก่อน ซึ่งนั่นคงไม่ใช่ปาฏิหาริย์จากสิ่งใดเลย แต่เป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดจากวินัยในตัวเราเอง
ลองฟังเสียงร่างกายของตัวเอง เพราะคุณย่อมรู้ดีกว่าใครๆ หากรักตัวเอง เรามาเป็นหมอให้ตัวเองกันเถอะค่ะ ครั้งหน้าคนเป็นสะบักจม มาขอคำแนะนำและให้ช่วยสังเกตุอาการ ว่าเกิดจากพฤติกรรมอะไร อย่าลืมตามอ่านนะคะ
แอมอร
Create Date : 03 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 3 มิถุนายน 2554 22:41:24 น. |
|
20 comments
|
Counter : 7559 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:5:58:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:6:39:09 น. |
|
|
|
โดย: Calla Lily วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:9:39:07 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:22:41:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:6:11:17 น. |
|
|
|
โดย: kapeak วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:8:05:03 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:16:19:47 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:16:42:38 น. |
|
|
|
โดย: SongPee วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:19:37:09 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:23:44:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:03:40 น. |
|
|
|
โดย: tanH2O วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:12:50:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:6:29:44 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:12:53:37 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:14:51:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]
|
บางที ปลายทางก็ไม่ได้สำคัญมากไปกว่า
.....
สิ่งที่อยู่ระหว่างทาง
..............^^.... และความสุขในปัจจุบัน
ก็เป็นสิ่งที่เราจับต้องได้
....^^.....^^......
โดยไม่ต้องรอคอย
ความสุขของอนาคต
ปูปรุง
|
|
|
|
|
|
|
|
หูยยยย.. พี่แอมคะ
190/110 นี่มานความดันทุรังสูงหนิ
มุก <งัว> ยังก้าเล่นอิก +55
แต่ว่าน่าตกใจจริงละค่ะ
พี่แอมมาเล่าบอกอย่างนี้ เป็นประโยชน์มากเลย ..
น้ำช่วยรักษาโรคเหมือนกันนะคะ