แต่เช็ดแหก คือภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้านสมัยโบราณ

ที่ได้รับการถ่ายทอดมารุ่นต่อรุ่น ของคนล้านนา

ต้องมีคาถากำกับ เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความศรัทธาเชื่อมั่นในการรักษา
ระหว่างกัวซากับเช็ดแหกฉันไม่แน่ใจว่าใครเกิดก่อนใคร

..แต่เป็นภูมิปัญญาที่ใช้ได้ผลดี



อุปกรณ์ที่ใช้ก็มีคล้ายๆกัน


เช่น ใบไม้ ไพร มีดหมอ เขาสัตว์ เหรียญ ช้อน ขอบชามกระเบื้องฯลฯ
ขูดหรือถูไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย….
ที่มีอาการเจ็บปวดหรือมีอาการไม่สบาย
การกวาด การขูด การถู ถือว่าเป็นการนวดชนิดหนึ่ง
ที่ใช้ นวดเสียดสีกับผิวหนังแบบใช้อุปกรณ์ช่วย
ทำให้คลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
เลือดดีไล่เลือดเสีย น้ำเหลืองไหลเวียนดีขึ้น เพิ่มออกซิเจนเข้าสู่เนื้อเยื่อร่างกาย
เปิดรูขุมขนขับของเสียออกจากร่างกาย
กระตุ้นความร้อนทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญดีขึ้น
และยังช่วยปรับร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล


จากการศึกษาหาข้อมูล พบว่าประเทศในแถบเอเชีย เพื่อนบ้านของไทย
ใช้ศาสตร์นี้มานานหลายพันปีมาแล้ว
อุปกรณ์ที่ใช้ในการหล่อลื่นและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา น้ำสมุนไพร น้ำมนต์ น้ำแช่ส้มป่อย ยาหม่อง เป็นต้น

พิษที่เกิดจากการทำงานของเชลล์และทิ้งความร้อนไว้ในระบบเมตาบอลิซึม
คือสิ่งที่เป็นพิษร้อน ทำให้เกิดการเจ็บป่วยต่างๆ
หากได้รับการระบายของเสียในเชลล์ออกเสียบ้าง
จะช่วยการหมุนเวียนโลหิตได้ดี..
เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบคุ้มกันในร่างกาย…



อาการที่สามารถบำบัดได้โดยการเช็ดแหกหรือกัวซา
ก่อนที่จะลุกลามเป็นโรคร้ายต่างๆได้แก่


- การปวดเรื้อรัง เช่น ปวดต้นคอ ปวดหัว หัวไหล่ ปวดแขน ขา-เข่า
- โรคเกี่ยวกับความเครียด เวียนหัวหรืออาเจียน นอนไม่หลับ
- โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ หายใจอึดอัด หอบ เหนื่อยง่าย
- ปรับความผิดปกติของประจำเดือน



จุดลมปราณสำคัญๆที่ฉันได้ศึกษากับอาจารย์หมอ
เพื่อนำมาช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน
และปวดตึงบริเวณศีรษะ ที่เป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับ

 มีอยู่ 5 จุด


จุดซ่างซิง จุดนี้ใช้ในการปรับสมดุล ของจมูกและนัยน์ตา
ช่วยลดอาการปวดและช่วยสงบจิตได้
เป็นจุดที่ใช้ในการรักษาอาการปวด หัวบริเวณหน้าผากได้ดี
เหตุผลก็เช่นเดียวกับจุดจุดซ่านจู้
นอกจากนี้จุดนี้ยังใช้รักษา อาการอื่นๆได้อีก

เช่น อาการกระสับกระส่าย อาการสับสนจากความเครียด
ใช้จุดในการรักษา อาการปวดหัวจากโรคไซนัสอักเสบ
หรือใช้จุดนี้รักษาอาการจมูกดมไม่ได้กลิ่น
หรือปัญหาสายตาสั้น โดยเฉพาะในเด็กตำแหน่งของจุดนี้อยู่ที่บริเวณกลางศีรษะ
อยู่เหนือรอยเส้นผมด้านหน้ากลาง ศีรษะสูงขึ้นไปประมาณครึ่งนิ้ว


จุดไป๋หุ้ย ตำแหน่งของจุดนี้อยู่ที่กลางศีรษะอยู่ระหว่างยอดหูทั้งสองข้าง
ช่วยสงบจิต ช่วยฟื้นคืนสติผู้หมดสติ ช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง
ช่วยไปปรับโดยการเพิ่มหรือลดระดับหยางให้อยู่ในระดับพอดี
จุดนี้เป็นจุดหลักในการ รักษาอาการปวดหัวแบบทั่วไปและอยู่บริเวณกลางศีรษะ
ช่วยรักษาอาการหนักๆ และอาการเกร็งของคอ
ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะจากความความดันโลหิตสูงหรือต่ำ และยังใช้จุดนี้รักษาอาการแขนขาสั่น
อาการหมดสติ อาการอัมพาตด้านใดด้านหนึ่ง อาการชัก ความจำเสื่อม
อาการเวียนศีรษะ อาการสับสน นอกจากนี้ยังมีการนำเอาจุดนี้ไปช่วยรักษาอาการ มดลูกหย่อน
ริดสีดวงทวาร และอาการเลือดออกไม่หยุด


จุดเฟิงฉือ ตำแหน่งของจุดเฟิงฉืออยู่บริเวณด้านหลังของคอ
บริเวณท้ายทอย..คงไม่ต้องระบุตำแหน่งให้ชัดๆ
เพราะฉันไม่ได้ให้คุณกดจุดลมปราณ
แต่จะแนะนำให้คุณใช้อุปกรณ์ขูดผ่านผิวหนังในบริเวณดังกล่าวเท่านั้น
จุดเฟิงฉือ เป็นจุดที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง ที่ใช้ในการปรับสมดุล
ของร่างกายในส่วนของศีรษะและอวัยวะสัมผัสต่างๆ


จุดเจียนจิ่ง..อยู่ในบริเวณบ่าทั้งสองข้าง
หากบริเวณนี้เกิดความตึงเครียดเพราะภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
หรือระบบภายในปรวนแปรที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้น
เกิดจากความเครียด..เกิดจากสภาพอากาศหรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ
ส่งผลให้เกิดความเครียดในระดับจิตใต้สำนึก
มีการอุดตันของเลือดลมในบริเวณนี้ที่ไปหล่อเลี้ยงสมอง





…สัญญาณหรือลางบอกเหตุ

อย่างปล่อยทิ้งไว้..ไปเช็คร่างกายและตรวจวัดสายตา


เช่นมีเมื่อคุณอาการปวดศีรษะแบบเรื้อรังเป็นเวลานาน

 ตาแดง น้ำตาไหล ตาพร่า ไมเกรน อาการใจสั่น

 ความดันโลหิตสูง

หากปล่อยไว้นานอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอัมพฤกอัมพาตได้..
การเป็นแพนิคอาจเป็นสัญญาณเตือนภัย…ให้ฉันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
…ก่อนที่จะลุกลามไปเป็นโรคอื่นได้
เป็นแพนิคนี่ยังไม่รุนแรงอีกใช่ไหม ฮา ฮา


เพียงไม่กี่จุดที่กล่าวมาก็สามารถทำให้คุณผ่อนคลายและหลับสบายได้แล้ว
ฉันไม่ได้แนะนำให้คุณกดจุดลมปราณ…
เพียงแนะนำให้รู้จักคุณสมบัติของเขาไว้บ้าง
แล้วใช้อุปกรณ์ขูดผ่านจุดเหล่านั้น
ก่อนลงมือขูดทายาหม่องลงบนผิวหนัง..ยาหม่องเขียวเสลดพังพอนหรือย่านาง
น่าจะเหมาะกับอากาศร้อนๆของบ้านเรา…
จากนั้นชโลมด้วยน้ำมันหรือครีมทาผิว
เพื่อหล่อลื่น กันการระคายเคืองจากการขูด
วางน้ำหนักมือพอดีๆกำลังสบาย

จำแบบง่ายๆ หน้าผาก กระหม่อม ขมับ ทัดดอกไม้ บ่าทั้งสองข้าง
ขูดลงไปสักสามสิบครั้งในแต่ละจุด.
แต่หากต้องการขูดทั้งตัว ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญค่ะ



แอมอร