กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ กรมการแพทย์แผนไทย หาหมอยาสมุนไพร ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ซึ่งมีการแบ่งตามเขตสาธารณสุข 12 เขตดังนี้
เขต 1 (เชียงใหม่)
เขต 2 (พิษณุโลก)
เขต 3 (นครสวรรค์)
เขต 4 (นนทบุรี)
เขต 5 (ราชบุรี)
เขต 6 (ชลบุรี)
เขต 7 (ขอนแก่น)
เขต 8 (อุดรธานี)
เขต 9 (นครราชสีมา)
เขต 10 (อุบลราชธานี)
เขต 11 (นครศรีธรรมราช)
เขต 12 (สงขลา)

เมื่อแต่ละเขตได้คัดสรรแล้วก็ได้ สุดยอดหมอยาหมด 12 ท่าน
จากนั้นก็มีการสอบแข่งขันกันอีก ให้เหลือ 4 ท่าน จากทั้งหมด 12 ท่าน
เมื่อได้ 4 ท่านแล้วก็จะมีการทดสอบที่ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จ.ระยอง
โดยให้มาตัวเปล่า การสอบจะให้เก็บหาสมุนไพรเฉพาะในสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ เท่านั้น เพื่อไม่ให้มีใครได้เปรีบเสียเปรียบ

หมอยาสมุนไพร ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ที่ได้ผ่านการคัดเลือก 4 ท่านมีดังนี้
1.หมอทอง เป็นชาวจังหวัดลำพูน เคยบวชเป็นพระสายป่ามา 20 พรรษา และต้องสึกออกมาเพราะไม่มีใครสืบทอดวิชาของบรรพบุรุษ เนื่องจากตระกูลของคุณพ่อเป็นหมอยา ที่บ้านมีตำรายาเก่าแก่มาก สมัยพระนางจามเทวีปกครองเมืองลำพูน ( พ.ศ. 1230 ) มารดามีฝีมือทางด้านช่างทอผ้าและตัดเสื้อ

2.หมอเดช เป็นชาวกาญจนบุรี บรรพบุรุษเป็นหมอยาพื้นบ้านมาหลายช่วงอายุคน ท่านเล่าว่าปู่ทวดของทวดของทวด ของท่านเป็นหมอยาสมัยกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 1 พ.ศ. 2112 ตอนนั้นพม่าได้ขนตำรายาไทย กลับไปพม่า หลายสิบเล่มเกวียน แต่เมื่อมาถึงกลางป่าเมืองกาญ เกิดเหตุเกวียนเล่มหนึ่งแตก ในเวลาใก้ลคำ่ ซึ่งป่าแถวนั้นมีสัตว์ดุร้ายมาก ทหารพม่าก็เลย ทิ้งเกวียนและโยนคัมภีร์ลงข้างทาง เพื่อไม่ให้นายทหารที่เป็นหัวหน้าเห็น ท่านเล่าว่าปู่ทวดของทวดของทวด ของท่านได้ไปพบ เลยขนไปเก็บซ่อนไว้ในถ้ำ และได้ทำลายแทงให้รุ่นต่อไปเพื่อจะได้เอาศึกษาเมื่อสงครามสงบแล้ว

3.หมอเสือ เป็นชาวเมืองนครศรีธรรมราช บรรพบุรุษของท่านได้เคยเป็นพระอาจารย์สอนที่วัดเขาอ้อ ปูได้สอนวิชาเพื่อสืบทอดวิชาของเขาอ้อให้ตั้งแต่เด็ก ท่านเล่าว่า ศาสนาพุทธได้เริ่มมาตั้งมั่นในเมืองนครศรีธรรมราชราวปี พ.ศ. 800 วัดเขาอ้อแต่เดิมเป็นสำนักเขาอ้อ ซึ่งคล้ายกับสำนักทิศาปาโมกข์แบบเดียวกันกับในประเทศอินเดีย ผู้ก่อสำนักเขาอ้อคือพรหมณาจารย์หรือพราหมณ์ผู้ทรงเวทย์ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดีย ดังนั้นวิชาที่ได้ท่านได้เรียนมานั้นเป็นสุดยอดวิชาก็ว่าได้

4.หมอหวาน เป็นชาวเมืองจันทบุรี ตระกูลของท่านเคยเป็นหมอประจำเจ้าเมืองจันทบุรีหลายสมัย ท่านเล่าว่า เมืองจันทบุรีมีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี
และเป็นเมืองที่ขอมสร้างขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงเมืองพิมาย เพชรบูรณ์ และลพบุรี เพื่อเป็นจุดเผยแพร่ วัฒนธรรมของขอม ไปสู่อาณาจักรทวาราวดี ตอนเสียกรุงศรีอยุธยาทั้งสองครั้ง เมืองจันทบุรีไม่ได้ถูกเผา แม้ตอนพระเจ้าตากมายึดก็ไม่ได้เผาบ้านเมือง ดังที่เราจะเห็นตำราที่ตกทดมาถึงทุกวันนี้ เช่น "ตําราโรคนิทานคําฉันท์” ซึ่งพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) อตีต เจ้าเมืองจันทบูร ได้เก็บรักษาเป็นอย่างดี นับว่าเป็นบุญของนักเรียนแพทย์แผนไทย หมอหวานหมั่นใจว่าตำรางที่ท่านที่ได้ศึกษานั้นเป็นตำราที่เก่าและถูกต้องครบถ้วนมากมากที่สุด

..... ขอถามเพื่อนๆ ว่าเชียร์หมอท่านไหนอยู่ครับ