www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

อ่านแล้วมาคุยกัน ... "หนังสือรัก"



... วันนี้เป็นวันที่ "หน้งสือรัก" ของผมได้ลืมตาดูโลกอย่างเป็นทางการ และ นั่นหมายความว่า ก็จะเริ่มมีคนที่ได้อ่านมากกว่าตัวผมเองแล้ว ซึ่งก็คือ เพื่อนๆผู้อ่านที่มีหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ

งานเขียนชิ้นนี้ถือกำเนิดมาจาก Blog ดังนั้น ผู้เขียนซึ่งก็ควบตำแหน่งเจ้าของ blog ก็เลยขอใช้ Blog หน้านี้ เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนความเห็นกับ เพื่อนๆที่อ่านหนังสือแล้วครับ

เพื่อนๆที่ได้อ่านหนังสือแล้วคงจะได้เห็นว่า ในหน้งสือ มี ก่อนอ่านมาคุยกัน ดังนั้น ใน blog นี้ก็เป็นบทปิดท้ายของ"หนังสือรัก" สำหรับการ อ่านแล้วมาคุยกัน

เพื่อนๆอ่านจบแล้ว ... อยากบอก , อยากแชร์ความรู้สึก อยากพูดอยากคุย , ชอบ/ไม่ชอบอย่างไร , โดน/ไม่โดนอย่างไร , อยากให้เล่มหน้าเป็นอย่างไร หรือ มีคำถามค้างคาใจ

ผู้เขียนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มาแชร์ความเห็นกับผู้อ่าน มาตอบคำถาม และ น้อมรับคำแนะนำ คำติ-ชม เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงในโอกาสถัดไปครับ

หากหนังสือเล่มนี้จะมีประโยชน์ใดๆกับผู้อ่านไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง ผู้เขียนเองก็จะรู้สึกยินดีและดีใจไปพร้อมๆกับเพื่อนผู้อ่าน เช่นเดียวกัน หากหนังสือเล่มนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับความผิดพลาดนี้ไว้และขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยครับ

ขอบคุณครับ สำหรับทุกความเห็น และ ขอบคุณครับ สำหรับการรับ"หนังสือรัก"ไว้กับตัวคุณ

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
i_behind_you@yahoo.com



อ่าน เบื้องหลัง ... หนังสือรัก ได้ที่ --> คลิก

คำวิจารณ์ "หนังสือรัก" โดย นิตยสาร Volume --> คลิก


คำวิจารณ์ "หนังสือรัก" โดย นิตยสาร Hamburgur --> คลิก


เนื้อหาอีกบางส่วนที่ตั้งใจจะใส่ไว้ในหนังสือ ด้วยข้อจำกัดบางประการจึงไม่สามารถรวมอยู่ในเล่มได้ แต่ ทางสนพ.ใจป้ำครับ เอามาให้โหลดอ่านกันฟรีๆแล้วที่ --> คลิก (ถือซะว่าเป็น หนังสือรัก extended version ก็แล้วกันนะครับ)


ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

เริ่มต้นอ่านครั้งแรก ชวนคลิก ชวนคุยกันที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง



ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 22 ตุลาคม 2549
Last Update : 15 พฤษภาคม 2550 22:04:25 น. 89 comments
Counter : 5243 Pageviews.

 
เดินไปเจอเมื่อไหร่ จะหยิบทันทีเลยล่ะค่ะ


โดย: Mocha Macchiato วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:8:24:35 น.  

 
น่าเสียดายจังค่ะ

อยู่ไกล

เลยอดไป

ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:10:42:42 น.  

 
หนึ่งนาทีที่แล้ว พี่กำลังเซ็นลายเซ็นบนหนังสือรัก เล่มที่กำลังจะมาอยู่ในมือ=D

*เสียดายมากเลย ติดธุระ ไปเองไม่ได้ เลยโทรให้เพื่อนไปเอาให้ T-T แถมแบตกล้องเพื่อนก็หมด ถ่ายรูปพี่มาได้มัวๆรูปเดียวเท่านั้น ไว้จะรอดูรูปพี่จากเพื่อนๆในบล๊อกแล้วกันค่ะ
*ยังไม่ได้อ่าน อ่านเมื่อไหร่จะมาแชร์ความรู้สึกค่ะ
* เพื่อนบอกว่าพี่หน้าไม่ดุซะหน่อย ยิ้มให้ด้วย (ฮ่าๆ)
*ขอบคุณสำหรับลายเซ็นค่ะ


โดย: Abstract Life IP: 125.25.178.14 วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:14:18:06 น.  

 
หนังสือของพี่ที่เพื่อนฝากซื้อแล้วซื้อตามเนี่ย ตัดสินใจไม่ผิดเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับลายเซ็นแล้วก็ยอมถ่ายรูปด้วยนะคะ
แต่เอ พี่ก็ไม่เห็นจะหน้าดุเลยนี่นา คิดมากไปเปล่าคะ
ขอเป็นอีกคนที่ติดตามหนังสือพี่นะคะ (ไม่ค่อยชอบอ่านจากหน้าจอค่ะ สายตาสั้นเวลาเล่นคอม เอาไว้อุดหนุนหนังสือพี่ดีกว่าค่ะ)


โดย: non_nonae IP: 203.170.228.172 วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:21:13:00 น.  

 
... ขอบคุณมากๆคร้าบ เพื่อนๆที่อุตส่าห์มาอุดหนุนกันตั้งแต่วันแรก (มีคนแอบสงสัยก็เลยแอบมาบอกว่า อย่าแปลกใจที่ลายเซ็นอยู่ปกหลัง ก็เพราะ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" )

Mocha Macchiato / PADAPA--DOO ... ขอบคุณมากๆครับ

Abstract Life ... ขอบคุณมากๆเลยจ้าที่มาอุดหนุนกันตั้งแต่วันแรก ชอบไม่ชอบยังไงก็บอกได้เน้อ

non_nonae ... เพื่อนฝากซื้อแล้ววันนี้ก็ซื้อให้กับตัวเองด้วย น่ารักที่ซู้ดดด ขอบคุณมากๆเลยครับ (ขอบคุณมากคร้าบที่ให้เกียรติขอถ่ายรูป เขิลลนะเนี่ย มีคนมาขอถ่ายรูป)

ป.ล. แจ้งข่าวล่วงหน้าครับ สนพ.แจ้งว่า จะมีงานเปิดตัวแบบเป็นทางการอีกครั้ง น่าจะเป็นช่วง 2 อาทิตย์แรกของเดือนพ.ย. (ไม่วันอาทิตย์ 5 ก็ 12 พ.ย. นี่ละครับ) สถานที่น่าจะเป็นที่เดินทางสะดวก รู้กำหนดแน่ชัดจะแจ้งอีกครั้ง ถือโอกาสขอแจกเทียบเชิญเพื่อนๆไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยนะครับ แล้วมาเจอมาคุยกันพร้อมแถมลายเซ็นเน้อ (ตามนโยบาย พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ขอเซ็นหมดใจ)


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:22:46:26 น.  

 
วันนี้มัวแต่เขินค่ะพี่ เลยไม่กล้าขอถ่ายรูปด้วย พอมาอ่านค.ห.คุณ non_nonae ก็เลยแอบเสียดายเลย แงๆ แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับลายเซ็นและการพูดคุยนะคะ ไม่ค่อยกล้าคุยเยอะค่ะ เขิลล์ (ขนาดเขินแล้วนะนั่น)

สำหรับการเปิดตัวอีกที สงสัยจะไม่ได้ไปร่วมงานแน่ๆเลยค่ะ เพราะวันที่ 4-5 ไปสวนผึ้ง ไม่รู้จะกลับมาทันหรือเปล่า ส่วนอาทิตย์ที่ 12 แงๆ อยู่เชียงใหม่งานราชพฤกษ์ค่ะ แต่ไงจะส่งใจไปร่วมงานแทนนะคะ แต่คงเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้ไปพบปะเพื่อนๆร่วมบล็อคคนอื่นๆอีก

ป.ล. ยังไม่ได้อ่านหนังสือพี่เลยค่ะ แต่พลิกดูแล้ว ชอบค่ะ ชอบที่การวางรูปแบบแต่ละหน้าที่ไม่เหมือนหนังสือเล่มอื่น ดูสวยและน่าอ่านค่ะ


โดย: ลิปดา-พิลิปดา IP: 161.200.255.162 วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:0:55:38 น.  

 
ภาวนาให้เป็นวันที่สิบสอง สาธู้
วันที่ห้ากลับมาไม่ทันแน่เลย T-T


* ไปดูหนังในเทศกาลหนังกรุงเทพบ้างรึเปล่าคะ มีเรื่องอะไรแนะนำบ้างไหม?


โดย: Abstract Life IP: 125.25.178.14 วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:1:32:01 น.  

 
เรียบร้อยครับ ได้ทั้งหนังสือและลายเซ็นมาอยู่อยู่กับมือเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากนะครับที่เซ็นให้

ความรู้สึกเริ่มแรกที่ได้เปิดอ่านคร่าวๆ รู้สึกว่าเหนือความคาดหมายไปค่อนข้างมากคือ การมีรูปประกอบ และการลิงค์ของหนังในแต่ละโรง (บท) รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าจะประยุกต์มาจาก "สิ่งที่ชอบ" นั่งอ่านที่ Coffee World อยู่พักใหญ่ครับ น้ำตาแทบร่วงกับ Lost in translation เลยทีเดียวครับ

ความรู้สึกหลังจากอ่านเป็นบางโรงนะครับ เพราะยังอ่านไม่จบครับ รู้สึกได้ว่าเหมือเป็นการเขียนใหม่ที่กระชับเลยล่ะ ไม่รู้สึกว่าเคยอ่านมาแล้วแต่ประการใด ไม่เบื่อเลยนะครับ หลังจากอ่าน และแล้ว "หนังสือรัก" เล่มนี้คงอยู่ที่หัวนอนผมพร้อมกับ "หลับ" และ "คิทเช่น" ไว้สำหรับหยิบมาอ่านได้ง่ายๆ และอ่านได้ทุกวันแน่นอนครับ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:13:16:28 น.  

 
ผมยังเพิ่งได้แค่สแกนเนื้อหากับสไตล์ของหนังสือไปเองครับ ที่ได้อ่านจริงๆ จะเป็นช่วงคำนิยมและเกริ่นนำ ... แหม อุตส่าห์มีมุกเรื่องชอบดูหนังมาตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่ น่ารักดีอ่ะครับ ... แล้วก็เนื้อหาข้างใน คิดคล้ายๆ คุณเข็มขัดสั้น คือชอบทั้งในส่วนรูปประกอบสวยๆ (ที่เพิ่มขึ้นจากที่ใส่ไว้ในบล็อก), การเชื่อมโยงจากหนังเรื่องนึงไปยังอีกเรื่องนึง แล้วก็เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแนบท้ายในหนังแต่ละเรื่อง ... ทำให้หนังสือเล่มนี้ดูมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ แตกต่างจากหนังสือวิพากษ์หนังเล่มอื่นๆ
ส่วนข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอื่นๆ เด๋วถ้าได้อ่านจนจบแล้ว ผมจะมาเขียนเพิ่มนะคร้าบ


โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:11:40:00 น.  

 
บังเอิญประจวบเหมาะจริงๆที่เดินๆอยู่ในงานแล้วก็เหลือบไปเห็นโต๊ะไม้เล็กๆแถวโซนเอเทรี่ยมพอดี เห็นหนังสือหน้าตาคุ้นๆเลยเดินเข้าไปดูซะหน่อย แล้วก็....สอยมาหนึ่งเล่มพร้อมกับเจอตัวเป็นๆของเจ้าของบล็อค

สารภาพเลยครับว่าตั้งแต่ได้มายังไม่ได้อ่านเลย ยังอยู่ที่บ้านพร้อมกับหนังสือของอาประภาส
ลุงวินทร์และอะไรต่อมิอะไร เพราะตอนนี้ต้องขออ่านลุงแฮร์ริสันก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวตายคาห้องสอบกันพอดี

คาดว่าจะพาหนังสือพี่ไปทัวร์สุรินทร์ด้วยกันอีก 1เดือนข้างหน้าครับ ช่วงออกต่างจังหวัดน่าจะมีเวลาว่างเยอะกว่าในนี้


โดย: keano (jonykeano ) วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:0:08:14 น.  

 
กำลังเริ่มอ่านอยู่เลยค่ะ ชอบเหมือนพี่บลูยอชท์ตรงมุกดูหนังมาตั้งแต่ท้องแม่ ... ตกลงพี่พูดจริงใช่มะ ^^
แล้วก็ชอบตรงที่เอาเรื่องมาเชื่อมโยงกัน อ่านแล้วมันเห็นภาพดีอ่ะค่ะ...
ไว้เดี๋ยวอ่านจบจะแวะมาคุยกันใหม่
ว่าแต่...ไม่มีโอกาสได้เจอ จขบ. ตัวจริงเลย ... ไว้โอกาสหน้า (พิมพ์ครั้งหน้า ^^) คงมีโอกาสเอาหนังสือไปให้เซ็นเนอะ


โดย: SnowBelL.. ^^ IP: 210.246.161.53 วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:15:51:39 น.  

 
หวัดดีค่ะ

มาทักทายนะคะ หลังจากไปเจอหน้าค่าตากันมาแล้ว

เดี๋ยวอ่านแล้วจะมาคุยอีกครั้งนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:15:55:40 น.  

 
อย่าลืมแวะไปดาวน์โหลดเนื้อหาที่ล้นหนังสือนะครับ เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว
//www.bynatureonline.com/download/source.php
ที่สำคัญ อย่าลืมแวะไปทักทายกันบ้างครับ


โดย: ByNature IP: 125.24.250.28 วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:16:18:40 น.  

 
ลิปดา-พิลิปดา ... เขินเหมือนกันครับ และก็ดีใจนะครับที่ได้เจอกัน / เรื่องอาร์ตเวิร์ค ถ้าทางสนพ.มาอ่านละก็ต้องกลับไปยิ้มแก้มปริแน่ๆ

Abstract Life ... ตั้งใจว่าจะให้เป็นวันที่ 12 เช่นกันครับ /ไม่ได้ดูเลยซักเรื่องครับ เล็งๆไว้ค่อยไปเก็บตามแผ่น กับ ตอนเข้าโรงที่มีซับไทยแล้ว

บลูยอชท์... แล้วจะรออ่านคอมเม้นต์เพิ่มเติมนะครับ

jonykeano ... พาหนังสือพี่ไปทัวร์อีสานนี่เอง อ่านจบแล้วเป็นไงก็มาคุยกันเน้อ

SnowBelL ... แม่เคยเล่านานแล้วครับ ตอนนั้นก็ฟังเพลินๆ พอจะต้องเขียนคำนำคิดขึ้นมาได้ เลย ถามแม่ย้ำอีกทีนึงว่าตกลงเป็นแบบนี้ๆจริงป่าว พอแม่คอนเฟิร์มก็เลยขอว่าจะเอามาลงนะ แม่ก็พยักหน้าหงึกๆ / ยังมีโอกาสเจอกันอยู่ครับ รอทางสนพ.เขาบอกอีกทีละกันนะ ว่าจะให้มาเจอเพื่อนๆอีกทีเมื่อไหร่

สาวไกด์ใจซื่อ ... ตื่นเต้นมั่กๆ ได้เจอคุณสาวไกด์ เพราะตอนแรกเห็นว่าจะมาไม่ได้ ดีใจเป็นอย่างยิ่งครับ

ByNature ... เด๋วจะทำลิงค์ไว้ด้านบนเน้อ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:23:28:18 น.  

 
คอมเมนต์บวกช่วยโปรโมตค่ะ อิอิ
//glorfindel.exteen.com/20061027/book-fair


โดย: ฺำBeeJang ขี้เกียจ Login IP: 221.128.104.156 วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:0:16:42 น.  

 
ชอบมากเลยค่ะ ซื้อมาแล้ว อ่านจบแล้ว ซึ้งมากๆ เข้าใจความรักมากขึ้น
ได้มุมมองที่ต่างออกไปทั้งๆที่ดูหนังเรื่องเดียวกัน


โดย: Tonoon IP: 124.121.73.193 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:19:19:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ได้หนังสือรัก
จากคนน่ารัก
และได้รู้จักรัก

ตอนนี้สัมผัสบทรักซ้อนรัก อยู่ค่ะ
ชอบและติดใจหลายๆบทรักของผู้เขียน !!!
อุ๊ยไม่ใช่ค่ะ ของหนังสือ

ประโยคที่ว่า" ความรักที่เรามีให้กับคนที่เรารักโดยไม่มีข้อแม้นั้น ก็จะเป็นความรัก ที่เราจะไม่มีวันสูญเสียไปตลอดกาลเช่นกัน"
และประโยคที่ว่า "ก่อนที่จะถามคนอื่น ว่าเขารักเราหรือไม่ ถามใจตัวเรา................... (จนถึง) มันทำร้ายจิตใจคนสองคนไปพร้อมๆกัน"
โดน โดน โดน ค่ะ

ขอเป็นเจ๊ดันนะคะ "ก็หนังสือเขาดีจริงๆค่ะ"
สวยตั้งแต่หน้าปก จนถึงเนื้อในเลยค่ะ

เดี๋ยวขอตัวไปสัมผัสบทรักตอนต่อไปค่ะ


โดย: หนังสือลัก IP: 58.9.157.6 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:22:50:42 น.  

 
ซื้อแล้วค่ะ แต่ว่าได้แต่เปิดผ่านๆ ..คือจริงๆอยากอ่านมากแต่ว่าจะสอบ(อีกแล้ว)

แวะมาแสดงความยินดีค่ะ (รู้สึกว่าจะขายดีนะคะ)


โดย: ~ ส้มๆอมชมพู ~ (ไม่ได้ล็อกอิน) IP: 203.157.14.246 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:23:04:37 น.  

 
ซื้อหนังสือแล้วครับ ซื้อมาวันเสาร์ที่ผ่านมา
ได้อ่านเกือบทั้งเล่มแล้วครับ
หลงเหลือเพียงบางบท(โรง) ที่อาจมีโอกาสได้ดูครับ ขอเก็บไว้ก่อน ชอบดูก่อนแล้วค่อยอ่านวิจารร์น่ะครับ

หนังสือและปกสวยมาก สวยกว่ารูปที่ post ไว้นะครับ และผมชอบ "ก่อนอ่านมาคุยกัน" นะ คนอะไรชอบดูหนังตั้งแต่ในท้องแม่ อิ อิ

ความรู้สึกตอนอ่านหนังสือกับอ่านใน blog สำหรับผม คล้ายกันนะครับ เนื้อหาในหนังสือ มีการกระชับ สลับ ตัด เปลี่ยน เพิ่ม ดังที่บอกไว้จริงๆด้วย และผมก็ชอบทั้งใน blog และในหนังสือครับ
และความรู้สึกขณะอ่านไปได้ซักพัก ก็เห็นด้วยกับชื่อหนังสือครับ "หนังสือรัก" รักหลากรูปแบบ ให้ข้อคิดดี ได้ดูหนังย้อนดูตัวได้ดีจริงๆ
และก็เห็นด้วยกับอีกหลายๆคน ที่บอกว่า"หนังสือเล่มนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว"


ยินดีดัวยครับสำหรับหนังสือรัก ดีๆ



โดย: DuZDe IP: 203.188.9.119 วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:8:39:17 น.  

 
จากการสแกนคร่าว ๆ เพราะอ่านแค่ช่วงคำนิยมและบทนำก่อนเข้าสู่เนื้อหาหลัก

โดยความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ชอบที่จะอ่านในบล็อคนี้มากกว่าให้ความรู้สึกเหมือนคุยกะเพื่อนที่นั่งดูนั่งอยู่ข้าง ๆ

แต่พอมาเป็นหนังสือแล้ว ให้ความรู้สึกเป็นทางการเพิ่มขึ้น และเนื้อหาแลดูถูกตีกรอบเปนระยะ ๆ แต่อย่างว่าคงมีปัจจัยในด้านการวางกราฟฟิครูปเล่มของหนังสือมาเป็นตัวแปรเลยทำให้เปนเช่นนี้

แล้วอีกอย่างหนึ่ง ชอบแบบปกสีชมพูที่จขบ.เองก้อชื่นชอบมากกว่าค่ะ น่าเสียดายที่สุดท้ายกลายมาเป็นปกแบบนี้ แต่ก้อโอเคกว่าปกแรกที่แลดูย้อนยุคมากมั่กเลยอะคะ

คอมเมนท์เท่านี้ก่อน เด๋วอ่านจบแล้วจะมาเมนท์อีกรอบนะคะ

แล้วเจอกันในงานเปิดตัวหนังสือค่ะ ไม่พลาดแน่นอนงานนี้



โดย: aorengja IP: 202.147.38.96 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:18:23:18 น.  

 
BeeJang ... ขอบคุณมากๆเลยคร้าบ

Tonoon ... ผู้อ่านได้อะไร ผู้เขียนก็ดีใจไปด้วยเช่นกัน


หนังสือลัก ... ขอบคุณจ้า

~ ส้มๆอมชมพู ~ ... รุ่นน้องพี่น่าร้ากมาก สอบผ่านไวไวได้คะแนนดีๆเน้อ

DuZDe ... ขอบคุณครับ เรื่องที่เหลือดูเสร็จเมื่อไหร่ หนังสือรักรออยู่ครับ

aorengja ... ในส่วนของเนื้อความ เป็นความตั้งใจของผมเองครับ ที่จะให้ต่างจากใน blog ตัวเอง เรียกได้ว่าเป็น งานรีเมค ให้เหมาะกับการเป็นหนังสือมากขึ้น และ คนอ่าน blog จะได้ไม่รู้สึกว่าซื้อไปแล้วก็ซ้ำๆกับที่เคยอ่าน ซึ่งก็รอลุ้นว่าผู้อ่านจะถูกใจหรือไม่ อ่านจบแล้วชอบไม่ชอบยังไง มาบอกกันต่อเน้อ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:21:23:11 น.  

 
ตอนนี้ได้อยู่กับบทรัก
"ความสุขความสุขของฉันคือการได้อยู่กับคุณ"

บทรักที่เรียกน้ำตาได้ดีคือ บางสิ่งที่อาจไม่เห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ และ หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
บทรัก คำลวง ความรัก ครอบครัว ทำให้เข้าใจความรักในครอบครัวได้ดีขึ้น

และรักที่ว่า ความรักของทั้งคู่เป็นความรักที่..........(จนถึง) ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข
เห็นด้วย อย่างยิ่งเลยค่ะ และนี่คือความสุขที่แท้จริงของการมีรัก

เฮ้อขอให้เจอทีเถอะ !!!


โดย: หนังสือลัค IP: 58.9.156.123 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:21:27:53 น.  

 
ขอคอมเมนท์เพิ่มเติมหลังจากอ่านจบแล้วนะคะ ชอบที่สุดของหนังสือเล่มนี้ในส่วนที่คุณเขียนในก่อนอ่านมาคุยกันค่ะ เพราะแลดูเป็นตัวคุณดี ให้ความรู้สึกเหมือนคนคุ้นเคยคนเดียวกันกับในบล็อคแห่งนี้

ส่วนเนื้อหาหลักนั้นเยี่ยมอยู่แล้วในการวิเคราะห์เจาะลึกถึงความสัมพันธ์ต่างรูปแบบของตัวละครในหนังเรื่องนั้น ๆ ภาษายังคงสวยงามและโดดเด่นอยู่เสมอ และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเสริมเพิ่มเติมให้คนที่ไม่ได้รักหนังเหมือนคนในห้องเฉลิมไทยได้มีความรู้เพิ่มเติม เข้าใจว่าผู้เขียนคงต้องการสื่อสารในวงที่กว้างขึ้น เลยเลือกใช้ภาษาที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิม โดยรวมแล้วดีค่ะ แต่เล่มหน้าอยากให้ใช้ภาษาที่อ่านแล้วเกร็งน้อยกว่านี้ได้มั้ยค่ะ เพราะเข้าใจว่าเจ้าของผลงานตั้งใจเขียนเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด แต่ในแง่คนอ่านแล้วมันแลดูเกร็ง ๆ ไปนิสนึงอะคะ

ปล. แอบโปรโมทหนังสือรักในบล็อคของตัวเองในวันนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ
//weblog.manager.co.th/publichome/aorengja/
ได้ผลตอบรับจากเพื่อนๆ เป็นอย่างไร จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบกันอีกทีค่ะ

ปล. 2 อ้อเขียนถึงเรื่องปลื้มสุด ๆ ที่เลือกคำนิยมของอ้อเองไว้ในหน้าเบื้องหลังการทำหนังสือรักนะคะ


โดย: aorengja IP: 203.170.228.172 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:06:24 น.  

 
ก่อนอื่นก็ขอ บอกก่อนนะครับว่ายังไม่เคยอ่านใน blog หรือรู้จักผู้แต่งมาก่อน
ปกติแล้วก็มักจะเป็นผีตาม board ทั่วไป

แต่ลองอ่านหนังสือแล้วก็ขอ commet นิดหน่อย
ในงานหนังสือผมเห็นหนังสือ ครั้งแรกก็ไม่เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นหนังสือ
วิจารณ์หนังทั่วไปที่ออกกันมามากมาย (แถมเจอในร้านที่มีแต่หนังสือ คอมอีกต่างหาก )
แต่ก็ลองหยิบมาอ่านดู ว่ามีเนื้อหาเป็นอย่างไรบ้าง

เมื่อได้อ่านผมรู้สึกชอบนะครับเพราะว่า เป็นการวิจารณ์ในมุมมองที่แตกต่างออกไปจาก
งานวิจารณ์อื่น มีการลงลึกถึงตัวของมนุษย์ การกระทำ และความรู้สึก ทำให้ชอบ
( อาจเป็นเพราะมาในแนวทางที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวด้วย )
ผู้แต่ง วิจารณ์ได้น่าสนใจ ไม่ยากเกินไปที่จะเข้าใจ และเมื่ออ่านก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก
ในการเรียงลำดับหนังก็น่าสนใจ ไม่รู้ว่าผมคิดเองหรือเปล่านะครับ การเรียง เหมือนจะเป็นการเรียง
จากความรักที่อยู่ในขั้นเริ่มต้นของผู้หญิงผู้ชาย แล้วค่อยๆไล่จนถึงความสัมพันธ์เมื่อแต่งงาน
การใช้ชีวิตคู่ การดูแลบุตร ( แต่มีบางเรื่องที่โดดนิดหน่อย ) ทำให้ผมคิดว่าในหนังสือเล่มนี้
ไม่ใช้การวิจารณ์ภาพยนตร์เหมือนหนังสือทั่วๆไป แต่เป็นหนังสืที่เสนอมุมมองความรัก
อธิบายความรัก ให้ผู้อื่นเข้าใจมากขึ้น สำหรับหนุ่มสาว อาจทำให้เขาเหล่านั้น เข้าใจความรักที่ตนเองมีอยู่
ทำให้บางคนกล้าที่จะมีความรักมากขึ้น และมองความรักในมุมทีเป็นหตุผล ในคู่แต่งงานอาจจะเป็นการอธิบายการใช่ชีวิตคู่
ทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันและกัน พ่อแม่ผู้ปกครองก็สามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูก
สุดท้ายก็ขอบคุณนะครับกับหนังสือดีๆ เล่มหนึ่งที่ทำให้ผู้อ่านได้เกิดมุมมองใหม่ๆ มากขึ้น
และเข้าใจความรักมากขึ้น


โดย: Kohaku IP: 161.200.255.162 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:02:31 น.  

 
ในฐานะคนอ่านหนังสือรักนะคะ รู้สึกชอบบทวิเคราะห์เรื่อง mr.& mrs. smith มากๆ เลยค่ะ ปรกติเป็นคนชอบหนัง action ปนฮาแบบนี้อยู่แล้ว แต่ จขบ. ได้ชี้ให้เห็นบางอย่างที่แอบอยู่ข้างหลังความฮานั้น

และก็เพราะหนังสือเล่มนี้ทำให้ได้มีโอกาสดูหนังดีๆ อีกหลายเรื่องเลย


โดย: ban_ri IP: 125.24.245.215 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:58:45 น.  

 
อ่านถึงสุขสันต์วันวาเลนไทน์แล้วค่ะ

ถึงตอนนี้แล้วอยากมีแฟนเป็นคนสวนจังเลย


โดย: The constant gardenee IP: 58.9.162.11 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:13:35 น.  

 
เจอหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ SEVEN เห็นชื่อหนังสือก็สะดุดตาทันทีเลย ก็เลยหยิบจากชั้นมาจ่ายตังค์...
อ่านแล้วได้มุมมองความรักขึ้นมาหลากหลายแง่มุม..
ขอบคุณมากค่ะ จะแวะเข้ามาเยี่ยมชมที่ Blog บ่อย ๆ นะคะ


โดย: Lighter IP: 202.44.8.100 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:09:49 น.  

 
เย้ๆ จริงๆ อ่านจบหลายวันแล้วล่ะ แต่วันนี้เพิ่งจะได้มีเวลาพิมพ์ ยาวหน่อยนะครับ ทนๆ อ่านเอาหน่อยแล้วกันเน้อ

*** ความเห็นของผมต่อ 'หนังสือรัก' ***
+ ปกติหนังสือที่ผมซื้อ โดยเฉพาะตามงานสัปดาห์หนังสือฯ ผมมักจะสแกนเนื้อหา แล้วก็ได้แต่ดองๆ เอาไว้ ไม่มีเวลานั่งอ่าน ก็มี 'หนังสือรัก' เนี่ยแหละครับ ที่ตั้งใจอ่านซะจนจบเล่ม ถึงแม้จะอ่านแบบไม่ละเอียด แต่ก็จบหน้าสุดท้ายไปแล้ว โดยถ้าเรื่องที่ผมดูแล้ว ผมจะอ่านทั้งหมด ส่วนเรื่องที่ยังไม่ได้ดูก็จะอ่านเฉพาะเกร็ดด้านหลัง โดยข้ามเนื้อเรื่องไปก่อน เผื่อมีโอกาสได้ดูในวันข้างหน้า ...
+ จุดเด่น : อย่างที่เคยเขียนไปแล้วว่าหนังสือเล่มนี้มีเอกลักษณ์ของตนเองที่ต่างจากหนังสือวิจารณ์หนังเล่มอื่นๆ ทฤษฎีทางจิตวิทยา และเกร็ดเกี่ยวกับสิ่งละอันพันละน้อยในหนัง ไปจนถึงข้อคิดเกี่ยวกับความรักและการใช้ชีวิตได้ถูกสอดแทรกลงไปอย่างพอเหมาะพอเจาะ จนทำให้คนดูได้คิดและ 'เห็น' ตามคุณ จขบ. ไปด้วย รวมทั้งได้ต่อยอดความคิดในประเด็นอื่นๆ ออกไปอีก นอกเหนือจากการเข้าใจเนื้อหาของหนังเรื่องนั้นๆ มากขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว ... นอกจากนั้นรูปแบบการเขียน โดยการโยงเอาเรื่องหนึ่งไปเชื่อมโยงกับอีกเรื่องหนึ่ง ก็ไม่น่าจะมีเล่มไหนที่ทำแบบนี้อ่ะครับ
+ จุดสะดุดๆ (ไม่ใช่จุดด้อยหรอกนะครับ แค่อ่านแล้วสะดุดนิดๆ) : เข้าใจว่าคำในหนังสือน่าจะผ่านการพิสูจน์อักษรมาแล้ว แต่ก็ยังมีคำที่หลุดออกมาบ้างเหมือนกัน แต่ที่สะดุดจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการเว้นวรรค มีความรู้สึกว่าบางจุดที่น่าจะเว้นก็ติดกัน หรือบางจุดที่น่าจะติดกันก็ดันห่างกันเป็นคำๆ ซึ่งอาจเกิดจากการเรียงพิมพ์ให้แต่ละบรรทัดพอดีกันก็เป็นได้

= ยาวไปแล้ว ต่อข้างล่างแล้วกันน้า =


โดย: บลูยอชท์ (1) IP: 202.69.140.233 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:24:32 น.  

 
+ การเชื่อมโยงจากหนังเรื่องนึงไปยังเรื่องถัดไป สร้างสรรค์ดี เข้าใจหาจุดร่วมระหว่างหนัง 2 เรื่อง และเข้าใจว่าคุณ จขบ. น่าจะคิดมาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะต้องเริ่มด้วยเรื่องอะไร แล้วใช้ประเด็นไหนโยงไปยังเรื่องถัดไป จนไปจบที่เรื่องสุดท้าย มันถึงออกมาได้ดูดีเช่นนั้น ... และก็ยังคิดคล้ายๆ กับที่เพื่อนบางคนเขียนไว้อีกด้วยว่า เหมือนลำดับของหนัง จะเรียงจาก ความรักแบบเด็กๆ ค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ ไล่ไปจนถึงเรื่องการใช้ชีวิตคู่ จนกระทั่งจบลงด้วย 'ความรักอันเป็นนิรันดร์' ...

- เพื่อนสนิท กับ My best friend's wedding : โยงกันด้วยการบอกคำว่า 'รัก' ให้คนที่เรารักได้รับรู้
- My best friend's wedding กับ Brokeback mountain : โยงกันด้วยการแสดงออกซึ่งความรู้สึก ได้ และ ไม่ได้
- Brokeback mountain กับ April snow : โยงกันด้วยกรอบของสังคมที่บีบบังคับคู่รักตัวเอกของเรื่องเอาไว้
- April snow กับ Christmas in August : โยงกันด้วยชื่อเรื่องที่เป็นฤดู(ซึ่งเกิดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้) กับ ความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้
- Christmas in August กับ Closer : โยงกันด้วยการไม่เอ่ยคำว่า 'รัก' แต่ก็รู้สึกรัก ... กับการพูดคำว่า 'รัก' ทั้งๆ ที่ไม่รู้สึก
- Closer กับ Walk the line : โยงกันด้วย ความรักที่เป็นเกมส์ กับ ความรักฉันท์เพื่อนที่พัฒนากลายเป็นรักแท้
- Walk the line กับ Nana : โยงกันด้วย ความรัก และ 'มิตรภาพ'
- Nana กับ Lost in tanslation : โยงกันด้วย 'ญี่ปุ่น' และ มิตรภาพในความเหงา
- Lost in tanslation กับ About love : อันนี้ชอบมาก เพราะผมก็เคยเรียกว่า About love เป็น Lost in translation ฉบับเอเชีย
- About love กับ Perhaps love (ชื่อเรื่องคล้ายกันเชียว) : โยงกันด้วย ความรู้สึก กับ ไม่รู้สึก ในใจของตัวเอง
- Perhaps love กับ Mr. & Mrs. Smith : โยงกันด้วย การวิ่งไล่หาความรัก (ก่อนแต่งงาน) กับการใช้ชีวิตคู่หลังจากแต่งงาน
- Mr. & Mrs. Smith กับ Shall we dance : โยงกันด้วยการการแก้ปัญหาของชีวิตคู่
- Shall we dance กับ The break-up : โยงกันด้วย ตัวอย่างของการแก้ปัญหา กับ การทำลายชีวิตคู่
- The break-up กับ วัยอลวน4 : โยงกันด้วยชีวิตคู่ที่พัฒนากลายเป็นครอบครัวใหญ่ ที่มีลูกๆ มาเกี่ยวข้องด้วย
- วัยอลวน4 กับ Dear Frankie : โยงกันด้วยเรื่องของครอบครัวที่มีลูก(จริงๆ) กับ ความรู้สึกผูกพันเสมือนพ่อ-ลูกจริงๆ
- Dear Frankie กับ Always : Sunset on the 3rd street : (ลิงค์นี้ก็ชอบมาก) โยงกันด้วยสถานะความเป็นพ่อจำแลง ที่มีอยู่ในทั้ง 2 เรื่อง
- Always กับ In her shoes : โยงกันด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่มีใน Always ก็คือ ความเป็น พี่ กับ น้อง
- In her shoes กับ Be with you : โยงกันด้วย ความหมายของบทกวี ที่มีในเรื่องแรก กับ ชื่อเรื่องหลัง (เก๋ซะไม่มีอ่ะ! คิดได้ไงครับเนี่ย)
- Be with you กับ Red lights : โยงกันด้วย ชีวิตคู่ที่อยู่ในความทรงจำ กับ ชีวิตคู่ที่สมควรจะลืมเลือน
- Red lights กับ The constant gardener : โยงกันด้วย นิสัยของตัวเอกทั้งฝ่ายชายและหญิง จากทั้ง 2 เรื่อง
- The constant gardener กับ Prime : โยงกันด้วย ศรัทธาในความรัก กับ ความรักที่ต้องมีอย่างอื่นมากกว่านั้น เพื่อให้ชีวิตคู่สมบูรณ์
- Prime กับ Sad movies : โยงกันด้วยความรักที่ไม่สมหวัง แต่ก็เป็นการ 'จากกันด้วยดี'
- Sad movies กับ Eternal sunshine of the spotless mind : โยงกันด้วย ความทรงจำที่ดี(หรือไม่ดี)เกี่ยวกับรัก
*** และต้องขอบอกว่า บทวิจารณ์ Eternal sunshine ทำให้ผมเข้าใจหนังเรื่องนี้ขึ้นอีกเยอะมาก เพราะผมเพิ่งดูไปแค่รอบเดียว จึงยังจบต้นชนปลายไม่ค่อยถูก ใช้ 'ความรู้สึก' ดูอย่างเดียว ... และที่คุณ จขบ. เล่าถึง การทำงานของสมอง โดยเปรียบเทียบให้เห็นถึง การลบความทรงจำ กับ การลบความรู้สึก นั่นก็ทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งมากๆ ครับ
- Eternal sunshine กับ The notebook & The wedding : โยงกันด้วย การอยากลบความทรงจำ กับ การอยากเก็บความทรงจำไปชั่วชีวิต ...

+ มีบทสรุป อันเป็น 'รักนิรันดร์' เช่นนี้ น่าจะทำให้หนังสือเล่มนี้ (และเล่มถัดๆ ไปที่จะได้ตีพิมพ์) อยู่ในความทรงจำของคนอ่านบล็อกและคนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปชั่วนิรันดร์ เช่นกันครับ


โดย: บลูยอชท์ (2) IP: 202.69.140.233 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:31:26 น.  

 
เพิ่งอ่านจบวันนี้สดๆร้อนเลยค่ะ มีอะไรอยากพิมพ์มากมาย แต่พอได้อ่านค.ห.พี่บลูยอชท์ไปก็ถึงขั้นอึ้งค่ะ เออ! แล้วกุ้งจะเขียนอะไรดีล่ะเนี่ย พี่เค้าเล่นเขียนซะดีขนาดนั้น เอาเป็นว่า ขอเขียนเท่าที่ความสามารถตัวเองพอจะมีละกันนะคะ

1. ชอบรูปเล่มและการจัดวางองค์ประกอบของหนังสือค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของภาพหรือสีของตัวอักษร ที่มีทั้งสีอ่อน สีเข้ม สีชมพู สีชมพูเข้ม สีฟ้า สีเขียว ฯลฯ ตำแหน่งภาพกับเนื้อเรื่องทำให้หนังสือเล่มนี้มีสไตล์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากหนังสือทั่วไป ไม่ดูน่าเบื่อหรือจำเจ ส่วนสีของตัวอักษรก็ช่วยเพิ่มความลึกของแต่ละคำ-แต่ละประโยคให้ชัดเจนและเข้าถึงความหมายได้มากขึ้น

2. ชอบการเชื่อมโยงของระหว่างบทค่ะ มันเหมือนบนสรุปของหนังแต่ละเรื่องก่อนที่จะเชื่อมถึงหนังเรื่องถัดไป รู้สึกว่าเหมือนเป็นคำจำกัดความสั้นๆแต่ชัดเจนของหนังเรื่องนั้นๆได้ดีเลย แถมยังช่วยแชร์ส่วนเหมือน-ส่วนร่วม-หรือส่วนต่างกับหนังเรื่องถัดไปในแง่มุมที่บางทีเราอาจนึกไม่ถึงหรือมองข้ามไป ซึ่งนับว่าทำได้น่าสนใจมากค่ะ

3. ชอบเนื้อหาค่ะ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของหนังสือเล่มนี้(และเล่มไหนๆก็ตาม) ถึงบางเรื่องจะเคยอ่านจากบล็อคนี้มาแล้ว แต่พอได้มาอ่านอีกก็ยังพบว่าน่าสนใจ ประกอบกับมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแทรกมาเพิ่ม ทำให้ได้รายละเอียดหรือความเข้าใจเกี่ยวกับตัวหนัง / ความรู้ทางจิตวิทยามากขึ้น ซึ่งตรงนี้สามารถเอาไปใช้กับตัวเองหรือคนรอบข้างได้ค่ะ

4. ชอบแง่มุมความรักที่เขียนถึงมากๆๆค่ะ มีประโยคแบบอ่านแล้วโดนอย่างแรง (คือทำเอาเกือบตาย) อยู่หลายประโยคเลยค่ะพี่ (ตอนนี้ก็จิ๊กมา 1 ประโยคมาใช้ในชื่อ msn ตัวเอง แหะๆ --> "แม้รู้ว่ามีทางเลือกที่จะไม่เจ็บปวด แต่บางครั้งความรักก็เจ็บปวด โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้...") แถมยังได้แง่มุมในการพัฒนาและประคองความสัมพันธ์ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะกับแฟน-กับพี่น้อง-หรือพ่อแม่ก็ตาม อันนี้พูดจริงๆนะคะ อ่านไปก็นึกถึงชีวิตตัวเองไปด้วยตลอดเลย แบบอืม! จริงด้วย / อืม! ใช่แฮะ (ที่สำคัญที่สุดคืออยากกล่อมให้แฟนตัวเองยอมอ่านจริงๆค่ะ เค้าจะได้เข้าใจว่าคนละเอียดอ่อนบนโลกไม่ใช่มีแค่เราคนเดียว และจะได้เข้าใจว่าทำไมเราถึงทำกับเค้าแบบที่จะไม่เหลือ unfinished business แล้ว) อีกอย่างคือช่วยทบทวนบางมุมที่เราหลงลืมไปแล้วค่ะ อย่างเช่นมุมที่พูดถึงวัยอลวน 4 ว่า "บ่อยครั้งพ่อแม่ยังคงมองเห็นลูกเป็นเด็กตัวเล็กๆเสมอ เหมือนที่ตั้มมองใบตองว่าเป็นเด็กที่เคยผูกกำไลให้... แต่แล้วเมื่อโตขึ้น แม้แต่แม่จะให้ผ้าพันคอ แม่เองก็คงยังไม่รู้เลยว่าจะถูกใจไหม..." คือประโยคนี้อ่านจบแล้วน้ำตาเกือบไหลค่ะ คือมันโดนใจจริงๆ และยังมีอีกหลายประโยคเลย

5. หลายประโยคในหนังสือที่พี่เขียนโดนใจมากอย่างที่บอกข้างต้นน่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคำจำกัดความของหนังแต่ละเรื่องอย่างเช่น "เธอคือภาพสุดท้ายในใจฉัน ..." หรือประโยคอื่นๆ เช่น"ไม่ใช่ความทรงจำที่ทำให้เจ็บปวด แต่เราเลือกเก็บความเจ็บปวดจากความทรงจำโดยไม่รู้ตัว" และมีโดนๆ แบบนี้แทรกมาในทุกเรื่องเลยค่ะ แถมแต่ละเรื่องยังมีหลายประโยคอีก จนไม่รู้แล้วว่าแอบจิ๊กเอาประโยคไหนไปใช้เป็นชื่อ msn ตัวเองอีกดี แถมยังเอาประโยคพวกนี้ไปปลอบประโลม+ให้ข้อคิดเพื่อนด้วยค่ะ พอดีมีเพื่อนเพิ่งอกหักมาอย่างแรง ก็เลยบอกมันไปด้วยประโยคจาก April Snow ที่กุ้งเขียนไปข้างต้นน่ะแหล่ะค่ะ บอกมันไปก็ย้อนมาบอกตัวเองอีกทางด้วย (แต่ตอนนี้กุ้งก็ยังยินดีจะเจ็บปวดเพราะความรักต่อค่ะ แหะๆ)

6. ชอบหนังที่เลือกมาค่ะ มีหลายมิติ-หลายแง่มุมดี ไม่ใช่พอพูดถึงรักก็จะเป็นรักแบบแฟนเท่านั้น และเรื่องที่เลือกมาก็ผสมกันระหว่างหนังตลาด/ตลาดจ๋าไปจนถึงหนังที่มีคนดูเฉพาะกลุ่ม ทำให้เข้ากับคนอ่านที่มีสไตล์การดูหนังหลายๆแบบได้ค่ะ

((ต่อค.ห.ถัดไปค่ะ))


โดย: ลิปดา-พิลิปดา IP: 161.200.130.180 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:40:42 น.  

 
7. หนูดันไปเผลออ่านบางเรื่องที่ยังไม่ได้ดู แล้วพบว่าสปอยล์ค่ะ อย่าง brokeback (เชยไปป่าวเนี่ยที่ยังไม่ได้ดู ก็ตอนนั้นเค้ามะอยู่เมืองไทยหนิหน่า) ก็เลยแอบเสียดายนิดหน่อยที่รู้ตอนจบแล้ว หรืออย่าง Chrismas in august ที่ถ้าคนยังไม่ได้ดูก็คงรู้ตอนจบไป โดยที่จริงถ้าไม่รู้ก็อาจจะแอบลุ้นว่าพระเอกจะไม่ตายก็ได้ (แต่โชคดีที่เรื่องนี้หนูดูแล้ว ตอนดูก็ยังหวังนะคะว่าไม่อยากให้ตายอะ สงสารนางเอกและสงสารคุณพ่อ) แต่ก็เข้าใจค่ะว่าบางเรื่องมันก็จำเป็นต้องพูดถึงอะนะ เพราะมันเกี่ยวพันกับสิ่งที่พี่ต้องการจะเขียนถึง อันนี้ไม่ว่ากันค่ะ ตอนนี้หนูก็เลยมียังไม่ได้อ่านบางเรื่องที่ตัวเองยังไม่ได้ดูและคิดที่จะดูอยู่ เพื่อกันการรู้เรื่องมากเกินไปค่ะ แต่จริงๆก็ไม่ได้อ่านเรื่องเดียวเองอะค่ะ คือแบบมันอยากอ่านไปหมดทุกเรื่องเลย (สงสัยว่าพอดีเรื่อง bb นั้นมันอยู่ต้นๆอะนะ เลยไม่ข้ามไม่ทัน) แต่ย้ำอีกทีค่ะว่าอันนี้ไม่ถือว่าไม่ดีค่ะ เพราะกุ้งเข้าใจว่าหนังสือวิจารณ์/วิเคราะห์หนังหรืออะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับหนังย่อมยากอยู่แล้วที่จะเขียนโดยไม่เปิดเผยเนื้อหา ยังไงก็ต้องมีพูดถึงบางส่วนอยู่ดี ไม่จะเป็นส่วนไหนก็ตาม (ก์ถือว่าอันนี้กุ้งมาบอกเล่าให้ฟังละกันนะคะ)

8. คราวนี้ขอติบ้างนะคะ มีคำสะกดผิด(บ้าง) ที่นึกได้ตอนนี้ก็มีคำว่า "ไอสครีม" (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ เพราะพอตอนนี้ไปเปิดหาก็ดันหาไม่เจอแล้วว่าอยู่ตรงไหน) คือจำได้ว่าตอนเอ็นฯ โดนย้ำคำนี้ว่าต้องสะกดว่า "ไอศกรีม" คือส/ศ เนี่ยไม่แน่ใจค่ะ แต่คำว่า "กรีม" เนี่ยจำได้ขึ้นใจเพราะรู้สึกว่ามันผิดไปจากที่เราเรียก (ยกเว้นว่าตอนนี้ราชบัณฑิตอนุโลมให้แล้วนะคะ คือตอนหนูเอ็นฯก็ผ่านมาหลายปีดีดักแล้ว) แต่ดีใจค่ะที่สะกดคำว่า "ล่ำลา" ถูก เพราะส่วนใหญ่คนใช่ว่า "ร่ำลา" กันเป็นแถว เรื่องแบบนี้กุ้งเข้าใจว่าอาจดูเหมือนเล็กน้อย แต่กับหนังสือของพี่ กุ้งก็อยากให้มันออกมาเพอร์เฟคท์ที่สุดเลยใช่มั้ยค้า (อย่าว่ากันน้า หนูก็ไม่ได้จับผิดอะไรนะคะ ไม่ได้จบอักษรศาสตร์ด้วย ก็บอกไปตามที่เจอเท่านั้นเองค่ะ)

อีกอย่างคือเรื่องแบ่งวรรคอย่างที่พี่บลูยอชท์บอก คือเข้าใจค่ะว่าบางทีต้องแบ่งคำออก เพื่อให้ตัวหนังสือโดยรวมออกมาดูสวยเพราะคั่นหน้ากับคั่นหลังตรงกัน แต่พออ่านจริงๆก็พบว่ามันสะดุดๆบ้างซึ่งก็พอรับได้ แต่แบบที่มาไม่ครบคำสิคะมันรู้สึกแปลกๆค่ะ (ลองดูหน้า 122 ย่อหน้า 2 ค่ะ เห็นชัดเลย เช่น --> "ไม่รู้ว่าจะแสดงออกความรักกับลูก อย่างไร" หรือ " แม่เองก็คงยังไม่รู้เ (ขึ้นบรรทัดใหม่) ลยว่าจะถูกใจไหม" เอ่อ! มันงงๆอยู่น้าพี่

**สรุปความรู้สึก**
โดยรวมถือว่าชอบหนังสือเล่มนี้มากๆๆๆค่ะ ไม่ใช่แค่เป็นพูดถึงหนังซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบ แต่ยังวิเคราะห์ไปถึงตัวละคร และสอดแทรกมุมมองความรักกับจิตวิทยาด้วย (ที่สำคัญคือมีประโยคสวยๆความหมายซึ้งๆตรึมเลย)

แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้กุ้งชอบคือ กุ้งได้ข้อคิดเพียบเลยค่ะ แบบบอกตัวเองว่าเราควรจะทำตัวอย่างไรถ้าเรายังต้องการที่จะรักษาความรักความสัมพันธ์ครั้งนี้ (เช่นการเลือกใช้คำพูดหรือการแสดงออกดังเรื่อง The Break up ว่าไว้ หรือความรู้สึกของพ่อแม่จากวัยอลวน 4 ที่พูดถึงไปแล้วอะค่ะ)

เพราะฉะนั้นถ้าเทียบกันโดยรวม กุ้งถือว่าข้อบกพร่องนิดหน่อยตรงคำผิดและการแบ่งวรรคถือเป็นเรื่องเล็กไปเลยค่ะ เพราะมันมิได้กระทบกับเนื้อหาและสิ่งที่พี่ต้องการจะสื่อแต่อย่างใด

ไปล่ะค่ะ รู้สึกว่าพิมพ์ซะย้าวยาว พิมพ์ได้ไงเนี่ย ไม่รู้ตัวเหมือนกันขนาดคิดไปพิมพ์ไปยังไงถ้ามีอะไรนึกออกอีก จะเข้ามาเพิ่มเติมนะคะ

ป.ล. ดีใจจริงๆที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และเป็นเล่มที่อยากแบ่งปันให้คนรอบข้างได้อ่านด้วยค่ะ



โดย: ลิปดา-พิลิปดา IP: 161.200.130.180 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:44:39 น.  

 
^
^
แหม ... ชมกันขนาดนั้น พี่ก็เขิลล์แย่สิฮับนู๋กุ้ง ใครบอกว่านู๋เขียนไม่ดีล่ะ ... นู๋ก็เป็นคนที่สามารถเขียนความรู้สึกและสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นตัวอักษรได้ดีคนนึง (และเขียนได้ยาวพอๆ กับพี่ด้วยจิ อิๆ) ...
ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่พี่เขียนกับสิ่งที่นู๋เขียนก็คือ ความเห็นพี่จะมองโดยภาพรวมและบทสรุป (เหมือนเป็นมุมมองของผู้ชายที่มองสิ่งต่างๆ บนโลก) ... ส่วนของนู๋จะเป็นการลงลึกในรายละเอียด โดยใช้ 'ใจ' และความรู้สึก กลั่นกรองออกมาเขียน (จะเห็นว่าพี่แทบไม่ได้เขียนถึงรายละเอียดในเนื้อหาเลย นอกจากเรื่องลิ้งค์ของหนังแต่ละเรื่อง เพราะเป็นจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ที่พี่ชอบ) ... ซึ่งมุมมองของนู๋ ก็เป็นมุมมองในแบบของผู้หญิง ที่จะชอบลงลึกในรายละเอียดและใช้ความรู้สึกในการพิจารณาสิ่งต่างๆ อ่ะจ้ะ ...

เด๋วไว้รออ่านความเห็นถัดๆ ไป น่าจะมีมุมมองใหม่ๆ เพิ่มมาอีกก็เป็นได้


โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:24:06 น.  

 
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่มีเผื่อแผ่ให้แก่กันจ้า



โดย: noooon010 IP: 58.136.17.123 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:59:01 น.  

 
อ่านเเล้วครับ หลายๆประโยคในหนังสือ สร้างความรู้สึกจี๊ดๆๆๆ ในหัวใจครับ ได้รับทราบเเง่มุมของความรัก รักระหว่างเพื่อน เเฟน สามีภรรยา คู่ที่เเต่งงานนานเเล้ว .....

รอเล่มต่อไปนะครับ


โดย: บิกวอร์ IP: 203.188.53.54 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:28:51 น.  

 
เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสดูเรื่อง closer ค่ะ + มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว (เห็นแล้วก็ซื้อเลย) แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า
1.ทําไม Alice ถึงต้องปิดบังชื่อจริงตัวเองล่ะคะ พยายามวิเคราะห์แล้วก็ยังไม่เข้าใจสาเหตุว่า เพราะอะไร?
2.ตอนจบที่ Anna นอนข้างๆ Larry แล้วจะสังเกตเห็นว่าเธอตัดผมสั้นคล้ายๆ Alice เจ้าของblog คิดว่าหนังต้องการจะสื่ออะไรหรือเปล่าคะ
แบบว่ายังไม่มีเพื่อนคนไหนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้ว เลยไม่มีที่ปล่อยของ....
ป.ล.ขอบคุณค่ะ ชอบหนังสือของคุณมากๆเลย
himaejang@hotmail.com


โดย: แอม IP: 203.118.105.199 วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:14:42:49 น.  

 
อยากบอกว่าหนังสือของคุณหายากมากเลยนะครับ ว่าจะซื้อเป็นส่วนหนึ่งของของขวัญแต่งงานให้เพื่อนด้วย เพราะมีความหมายดีๆหลายๆอย่างเกี่ยวกับ"รัก" แต่หาทั่ว central ลาดพร้าวไม่พบเลยอ่ะ


มายินดีอีกครั้งครับผม


โดย: noooon010 IP: 58.136.19.147 วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:23:50:17 น.  

 
^
^
... ถามทางสนพ.แล้วครับ ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว มีทั้งที่ร้านแพร่พิทยา และ ดอกหญ้า หาไม่เจอ ลองถามกับทางร้านได้ครับ บอกชื่อหนังสือแล้วงง ลองให้ search จากชื่อ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ดูนะครับ

แอม ... ขอบคุณมากครับที่รับหนังสือรักไว้ในครอบครอง / อลิซไม่บอกชื่อจริง ถ้าดูจากการที่เธอยอมอยู่และไม่พูดเรื่องกิ๊กกับแดน เดาเอาว่า เธอเองก็เป็นคนหนึ่งที่ยอมจะอยู่กับความไม่จริง เพราะมันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอหากต้องเผชิญกับความจริงแต่เจ็บปวด และ การไม่เปิดเผยชื่อ ก็คงเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ป้องกันตัวเองเป็นการปกปิดตัวตนไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด สำหรับเรื่องนี้ ยังมีความเห็นเพื่อนๆที่น่าสนใจอีกหลายความเห็นเลยครับ ชวนไปอ่านต่อที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=01-2005&date=25

ลิปดา-พิลิปดา ... เรื่อง Spoil ผมลังเลใจอยู่นานครับ แต่ผมตัดสินใจไม่ใส่เตือนเหมือนใน blog เพราะ ผมมองว่า การแทรกคำเตือน จะทำให้อารมณ์ในการอ่านสะดุด หากทำให้ต้องรู้จนเสียอรรถรสก่อนดู ต้องขออภัยเพื่อนๆผู้อ่านไว้ตรงนี้ด้วยครับ

ยินดีต้อนรับสู่ Blog และ ขอบคุณครับกับทุกๆความเห็นที่เข้ามาติ-ชมและพูดคุยกันครับ

ป.ล. คุณบลูยอชท์เข้าใจถูกแล้วครับ เรื่องที่ว่าการเรียงทั้งยี่สิบห้าเรื่องนั้นเป็นความตั้งใจ นอกจากเนื้อหาแล้วยังเป็นเรื่องของอารมณ์อีกด้วย ซึ่งถ้าอ่านเรียงไปตั้งแต่ต้นจนจบก็จะได้อีกอารมณ์หนึ่งจากอ่านแยกเป็นเรื่องๆครับ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:23:19:01 น.  

 
อ่านไปร้องไห้ไปหลายบท ( ชักจะสงสัยว่าตัวเองเป็น dysthymia หรือเปล่าเนี่ย?? )

สนุกค่ะ อ่านแล้วรู้สึกต่อเนื่องดี สนุกกว่าอ่านในบอร์ดเป็นตอนๆ

อย่าลืมรวมเล่มออกมาเรื่อยๆ นะคะ จะรออุดหนุน


โดย: boomba IP: 203.156.185.37 วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:14:21:33 น.  

 
อีกนิดนึงนะ
ไม่ค่อยชอบตัวหนังสือเท่าไหร่ อ่านแล้วแปลกๆ ยิ่งตัวชื่อเรื่องเพื่อนสนิท รู้สึกโบราณๆ ยังไงไม่รู้

font ในเล่มก็ไม่คุ้นตา แรกๆ เลยอ่านยากนิดนึงอ่ะค่ะ


โดย: boomba IP: 203.156.185.37 วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:15:56:04 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาตอบ
จะเข้ามาติดตามลงานต่อไปนะคะ


โดย: แอม IP: 203.118.109.173 วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:13:38:14 น.  

 
เพิ่งซื้อมาค่ะ ยังไม่ได้ฤกษ์เปิดอ่านเลย
แต่เห็นก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน
ลป.โหวตให้นะคะ ด้วยข้อหา บล๊อกโดนใจ


โดย: นางกอแบกเป้ วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:15:28:31 น.  

 
อ่านแล้ว ...ชอบจัง!!!


โดย: beside u IP: 124.121.141.188 วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:22:28:37 น.  

 
สวัสดีค่ะ..เป็นครั้งแรกที่เขียนเพราะไม่เก่งเรื่องอินเตอร์เนต...ครั้งแรกที่เห็นหนังสือเล่มนี้เมื่อเดือนก่อนสะดุดตามากเลย..เพราะหนังในหนังสือมีหนังที่ชอบอยู่หลายเรื่องค่ะแตไม่ได้ซื้อตอนนั้นเพราะรีบไป..เพิ่งได้ซื้อเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว..อ่านแล้วดีมากค่ะเพราะหลายเรื่องที่ดูก็รู้สึกเหมือนในหนังสือเล่มนี้แต่บ่อยครั้งที่ดูก็ไม่รูจะคุยกับใครเพราะส่วนใหญ่ไปดูคนเดียวพอได้อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนมีเพื่อนคุยเวลาเราดูหนังจบเลยค่ะ..มีหนังอยู่เรื่องหนึ่งที่ไม่มีในหนังสือแต่เชื่อว่าก็มีแง่คิดดีๆเหมือนกัน คือ เรื่องจดหมายรัก.(หนังไทย)พอดูเรื่องนี้มันทำให้รู้สึกว่า.รักแท้บางทีก็อยู่ไกลแสนไกลแต่หัวใจก็ยังทำให้เราได้ไปเจอกับมัน ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเราอาจมีใครซักคนรอเราอยู่ในที่ใดที่หนึ่งแล้วคงมีซักวันที่โชคชะตาพาเราไปพบกับเขาแล้วบางครั้งเราอาจจะรักเขาได้มากอย่างที่ต้นรักเดียวก็ได้......ขอบคุณค่ะ


โดย: angee IP: 202.57.176.230 วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:18:11:16 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณผม...

อ่านหนังสือรักจบแล้วล่ะ ตอนแรกที่ไปซื้อ ชอบรูปเล่มหนังสือมากๆ เลย เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เก๋ดีค่ะ ^_^

ขอยกตัวอย่างประโยคที่จี๊ดใจเราบางส่วนนะ เรียงตามสารบัญเรื่องเลยค่ะเพราะตอนแรกกะจะอ่านไล่จากหนังโรง 1 ไปโรงที่25 แบบต่อเนื่องแต่ทำไม่ได้เพราะบางเรื่องเรายังไม่เคยดู(น่าเสียดายจัง)


"ความรักคือเรื่องราวของคนสองคน โลกสองใบที่ต้องประคับประคองประนีประนอม ให้หมุนไปพร้อมๆ กัน" จาก My Best Friend's Wedding

"ต่างฝ่ายต่างเป็นรองเท้าคนละข้าง ที่รู้สึกว่าอีกข้างใส่แล้วไม่เข้าคู่กัน" จาก In Her Shoes
ชอบตรงที่คุณผม...เข้าใจเปรียบเทียบนางเอกทั้งสองกับรองเท้าได้เห็นภาพดีจัง

อ่านงานเขียนของคุณแล้วก็เหมือนได้อ่านใจตัวเองไปด้วย ทำให้เข้าใจชีวิตกับความสัมพันธ์มากขึ้นว่ามันมีหลายรูปแบบและหลากระดับไปตามกาลเวลา

ขอให้ขายดีๆ ได้พิมพ์เพิ่มนะคะ แล้วก็จะรอเก็บผลงานเล่มต่อไปแน่นอน (โดยเฉพาะ Season Changes ^_^)


โดย: ASANO's lover IP: 203.118.113.120 วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:9:49:24 น.  

 
ซื้อมาได้ระยะนึงแล้วครับ แต่ยังไม่สามารถอ่านไล่ตั้งแต่เรื่องแรกไปเรื่องสุดท้ายได้ ได้แต่อ่านเป็นเรื่องๆ ไป เพราะบางเรื่อง (จริงๆ ก็หลายเรื่องเลยล่ะ) ก็ยังไม่ได้ดูเลย อยากอ่านแบบเอาประสบการณ์ (การดู) ของตัวเองมาเสริมกับบทวิเคราะห์ไปด้วย

ชอบส่วนที่เป็นข้อความเชื่อมระหว่างหนังแต่ละเรื่องด้วยครับ ละเมียดละไมและละเอียดละออมาก

ปล. ถึงจะไม่มีคำนิยมของตัวเองในหนังสือเล่มนี้ แต่ก็ยังมีคำนิยมของรุ่นพี่ที่มหาลัยมาพิมพ์ไว้แทน ถือว่ายังมีเรื่องให้ได้โฆษณาคุยกับคนอื่นอยู่ อิอิ


โดย: absent-minded IP: 222.212.96.111 วันที่: 26 ธันวาคม 2549 เวลา:2:03:11 น.  

 
สวัสดีปีใหม่น๊า...คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ

ตั้งใจจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นนานแล้วเหมือนกัน แต่ไม่มีเวลาว่างสักที ช่วงนี้ได้หยุดยาวปีใหม่เลยถือเป็นโอกาสนี้เลยละกันเนอะ

ด้านเนื้อหา
ขอให้คำว่า "เนื้อหาดีมากๆ" ซึ่งคงครอบคลุมอยู่แล้วอ่าเนอะ เพราะได้อ่านๆๆ ความคิดเห็นของคนอื่นๆ คิดว่าแต่ละคนเขียนชื่นชมได้โดนใจไม่น้อยเลย เลยแทบไม่ต้องเขียนอะไรเพิ่ม

อ่านยังไม่ทันจบก็รีบแนะนำให้คนอื่นๆ ได้อ่านต่อ เพราะเนื้อหาเค้าดีจริงๆ ที่ชอบมากๆ ก็คงเป็นประโยคที่คุณบอกว่า
"มนุษย์ตราบใดที่ยังไม่ได้หลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เราทุกคนล้วนต้องการถูกค้นพบ" อ่านประโยคนี้แล้วเข้าใจหัวใจตนเองมากขึ้นเลยว่าไอ้ที่เราเคยไม่เข้าใจก่อนหน้านี้ แท้ที่จริงแล้วมันเป็นแบบนี้นี่เอง

ด้านรูปลักษณ์
ในด้านของหนังสือ สวยงามดีค่ะ แต่ขอบอกในส่วนของการเว้นวรรคเช่นเดียวกับความคิดเห็นด้านบน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะผู้อ่านเป็นคนอ่านละเอียดอยู่แล้วในทุกๆบรรทัด เลยอดรู้สึกสะดุดตาทุกครั้งที่อ่านเจอไม่ได้

ปล. จะรอซื้อเล่มต่อไปค่ะ


โดย: ดอกคูณที่จากไป IP: 222.123.21.28 วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:22:34:30 น.  

 
ซื้อมาอ่านแล้ว ซึ้งมากอะนะ เข้าใจหนังมากขึ้นจิงๆอะ แต่บางเรื่องไม่ได้ดูแค่อ่านในหนังสือก็โครตซึ้ง getเลย


โดย: pin IP: 125.24.144.80 วันที่: 6 มกราคม 2550 เวลา:12:39:35 น.  

 
เข้าไปเจอหนังสือเล่มนี้ในเซเว่นแถวลาดกระบัง วันนั้นอยู่ในอารมณ์เซ็งอย่างมาก พอหยิบมาอ่านก็อ่านจนจบในร้านเลยค่ะ กะว่าถ้ามีเงินเมื่อไหร่จะซื้อทีหลัง แล้วก็มาเจอหนังสือเล่มนี้อีกที่ในวันธรรมศาสตร์บุ้คเฟสติวัล ก็เลยซื้อเก็บไว้เลยทันที ตอนนี้กำลังไล่ดูหนังที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้วยังไม่เคยดูอ่าค่ะ ชอบมากเลย ทำให้รู้สึกลึกซึ้งกับหนังที่ดูมากขึ้น


โดย: dekzer IP: 125.25.208.213 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:12:16:15 น.  

 
อ่านจบแล้วค่ะ ใช้เวลาไม่นานเลย อ่านแล้วเพลินดี ได้มุมมองของตัวละครในส่วนที่เรานึกไม่ถึงค่ะ พอคิดตามที่อ่านแล้วรู้สึกว่าได้เข้าใจตัวละครมากขึ้น เมื่อเข้าใจเหตุผลในการกระทำของตัวละครก็จะได้มองในมุมบวกมากขึ้น เพราะเวลาดูอาจไม่ได้คิดลึกซึ้งมากนัก ภาพในหนังสือก็สวยด้วย น่าซื้อเก็บอย่างยิ่งค่ะ ขอบคุณนะคะที่เขียนหนังสือดี ๆ ให้อ่าน


โดย: Majic in the air IP: 58.9.193.22 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:23:57:54 น.  

 
ได้มีโอกาสรู้จักหนังสือเพราะเพื่อนวางทิ้งไว้ และอ่านเพราะไม่รู้จะทำอะไร ความบังเอิญมักจะมีข้อดีเสมอ แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่สิ่งตามมาคือตั้งใจอ่าน และอ่านจบรวดเดียว จากนั้นก็หยิบมาอ่านอีกหลายหน ชอบที่เราไม่ต้องไปวิจารณ์คนอื่น เพราะเชื่อว่าคนทำหนังนั้นตั้งใจสูงและทำเพื่อเอาใจคนดูหนัง ดังนั้นจะอย่างไรเขาก็อยากให้หนังเป็นที่ถูกใจมากที่สุด ชอบหนังเล่มนี้เพราะการดูหนังนั้นเป็นการเรียนรู้ชีวิตอีกแบบ และสอนเราให้มีมุมมองที่หลากหลาย ขอบคุณที่ได้รู้จักหนังและ blog นี้


โดย: happyann IP: 203.151.46.130 วันที่: 23 มกราคม 2550 เวลา:18:13:51 น.  

 
เพิ่งได้หนังสือรักมา แต่ก็อ่านจบภายในรวดเดียวค่ะ (อ่านข้ามหนังบางเรื่องที่ยังไม่ได้ดูค่ะ รอดูหนังก่อนแล้วค่อยอ่านต่อ ;p )

สิ่งที่คุณเขียน เหมือนเป็นหนังสือที่ให้กำลังใจทั้งคนที่มีรัก เสียรัก และไร้รักเลยค่ะ.. อ่านแล้วได้มุมมอง ได้แง่มุมอีกแบบ ที่บางที่ก็ไม่เคยเห็น และไม่เคยคิดด้วยว่าหนังจะสื่อออกมาในรูปแบบนี้ด้วย
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วอบอุ่นค่ะ อ่านแล้วก็อมยิ้ม และรู้สึกเหมือนมีกำลังใจชีวิตขึ้นมาบ้างค่ะ

ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ นะคะ


โดย: S.S. วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:17:52:52 น.  

 
ซื้อมาตั้งนานแล้วครับ แต่ยังอ่านไม่จบเลย โดยรวมในส่วนของเนื้อหาไม่ผิดหวังครับ แต่ที่ขัดตามากๆคือ Layout และกราฟฟิคต่างๆ ผมว่ามันดูเชยเกินไปนะครับ อ่า...แต่ยังไงก็ชอบนะครับ


โดย: OTTO IP: 202.134.119.218 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:10:53:00 น.  

 
อ่านแล้วครับ ไปแอบอ่านจากเพื่อนมาครับแบบนี้ต้องขอไปซื้อมาเก็บไว้เลย อิอิ


โดย: than (ราม-ไทย-จีน ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:11:20:32 น.  

 
อ่านแล้วครับ ขอยืมคำวิจารณ์จากนิตยสาร volume ฉบับปักษ์หลังเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วมาโพสต์แล้วกัน

(หนัง) เล่าเรื่องความรัก

ดิฉันเคยเห็นชื่อ ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ มานานพอสมควรในเว็บไซต์ชื่อดัง ‘พันทิป’ และมีโอกาสได้คลิกเข้าไปอ่านเรื่องราวที่ ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ โพสต์ไว้ รวมถึงเคยเข้าไปเยี่ยมเยียนบล็อกอันเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้อยู่บ่อยครั้ง
พบว่าข้อเขียนของ ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ เกี่ยวกับหนังเรื่องต่างๆ ที่เขาชวนคุย และเปิดประเด็นนั้นเต็มไปด้วยมุมมองน่าสนใจ บวกกับการถ่ายทอดด้วยภาษาและความเข้าใจที่ลึกซึ้ง จนบางทีหนังเรื่องเดียวกันที่เราต่างเขียนถึง ดิฉันในฐานะคอลัมนิสต์ (ที่เขียนงานแล้วได้เงิน) ยังรู้สึกร้อนผ่าว เมื่อพบว่าตัวเองเขียนได้ไม่ดีเท่า ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ (ซึ่งเขียนเพื่อแบ่งปันความรู้สึกดีๆ จากหนัง)
ดังนั้นเมื่อได้รับหนังสือเล่มนี้ ดิฉันจึงไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อยที่จะหยิบมาแนะนำ ด้วยเพราะคิดไว้แล้วว่าสักวันหนึ่ง งานเขียนในบล็อกนั้นจะต้องถูกตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ และคงดีไม่น้อยที่ความแพร่หลายของสื่อหลากหลายแขนงทั้งสิ่งพิมพ์หรือสื่อไอทีจะช่วยให้คนรักการดูหนังมากขึ้น เหมือนเช่น ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ และดิฉัน
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหนังก็จริง แต่อย่างที่ผู้เขียนกล่าวไว้ในคำนำ ว่านี่ไม่ใช่บทวิจารณ์หนัง แต่เป็นการพูดถึงความรัก ความสัมพันธ์ผ่านเรื่องราวของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง โดยเลือกข้อเขียนเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ในหนังทั้งหมด 25 เรื่อง มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นหนังที่ดิฉันเคยดูแล้ว และมากกว่า 70 เป็นหนังในดวงใจของดิฉันเช่นเดียวกัน
เสน่ห์อย่างแรกของหนังสือเล่มนี้ และงานเขียนของ ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ คือวิธีการเขียน การเรียบเรียงเรื่องราวที่กำลังจะถ่ายทอด ซึ่งแตกต่างจากข้อเขียนคอลัมน์แนะนำหนังในนิตยสารทั่วไป เพราะไม่ได้มีแค่ข้อมูลของหนัง เรื่องราวโดยย่อ หรือข้อคิดที่ได้ แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึกที่ผู้เขียนมีต่อหนังเรื่องนั้น ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาด้วยภาษาที่สวยงาม เป็นกันเอง ประหนึ่งการถ่ายทอดความรู้สึกอันสวยงามจากหนังระหว่างเพื่อนสู่เพื่อน เหมือนการพูดคุยผ่านตัวหนังสือ ที่อารมณ์ของมนุษย์ไม่ได้ตกหล่นไปในระหว่างบรรทัดแม้แต่น้อย
และที่โดดเด่นมากกว่านั้นคือ ความเข้าใจอันลึกซึ้งต่อประเด็นของหนังซึ่งผู้เขียนถ่ายทอดได้อย่างคมคายและแยบยล ทั้งในเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ หรือเกร็ดต่างๆ ที่ผนวกเข้ามาทำให้เรื่องราวสมบูรณ์มากขึ้น ให้เราได้ซึมซับความรู้สึก ประเด็น ข้อคิด มากกว่าการดูหนังอย่างเปล่าดายเพียงคนเดียว ข้อเขียนเหล่านี้เติมเต็มความรู้สึกจากการดูหนัง พร้อมยังทิ้งอารมณ์ให้ได้กลับไปใคร่ครวญต่อ เหมือนหนังดีๆ สักเรื่องที่ดูแล้วไม่เคยจบไปจากความทรงจำ และไม่รู้สึกเขินอายที่จะหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้ง และอีกครั้ง หนังสือเล่มนี้ก็เช่นเดียวกัน
ดิฉันชอบหนังเรื่อง ‘Closer’ และข้อเขียนในหนังสือเรื่องนี้ ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ เขียนแจกแจงความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้ง 4 ได้ดีเยี่ยม ทำให้เราเห็นถึงตัวตน รูปแบบ ของความสัมพันธ์ที่เกาะเกี่ยวคนไว้ด้วยกัน หรือฉีกขาดคนสองคนออกจากกัน แล่เนื้อประเด็นอันคมคายของหนังออกมาตีแผ่ได้อย่างลึกซึ้ง และทำให้เราหวนคิดว่า ภายใต้ความสัมพันธ์ครั้งหนึ่งในชีวิต เราเคยทำตัวเองเป็นใคร Dan, Anna, Larry หรือ Alice
เช่นเดียวกันกับเรื่อง ‘Prime’ ที่ข้อเขียนของเขาพาเราเข้าไปสำรวจความสัมพันธ์อันซับซ้อนที่ไม่ได้มีเพียงคำว่ารักระหว่างคนสองคน แต่ภายใต้ความสัมพันธ์หนึ่งๆ ที่จะเจริญเติบโตขึ้นไปได้ยังมีปัจจัยอีกหลายหลาก ที่นอกเหนือคำว่ารัก และดูเหมือนว่า ‘ผมอยู่ข้างหลังคุณ’ จะเข้าใจเป็นอย่างดี
และที่ประทับใจที่สุดคือหนังเรื่อง ‘Eternal Sunshine Of The Spotless Mind’ หนังในดวงใจใครหลายๆ คน (รวมถึงดิฉันด้วย) ที่พูดถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนสองคนได้อย่างลึกซึ้งเกินกว่าหนังเรื่องใดๆ และข้อเขียนในหนังสือเล่มนี้ยิ่งทำให้เราเข้าใจตัวหนัง ประเด็นของหนังมากขึ้น คมคาย และชัดเจน เหมือนว่าเขาคือคนเขียนบทหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว
ถึงแม้บางเรื่องราวอาจจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ แตกต่างจากประเด็นที่เราเคยอ่าน เคยพบเจอไม่ว่าจะเป็นในหน้านิตยสาร หรือที่อื่นๆ แต่ความโดดเด่นในการพูดถึงเรื่องความรัก และความสัมพันธ์ของหนังสือเล่มนี้ ลึกซึ้ง เต็มไปด้วยอารมณ์และเสน่ห์ที่คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าช่างอ่อนหวาน ละมุนละไม และที่สำคัญหนังสือเล่มนี้พยายามชักชวนผู้คน ที่รักการดูหนังให้แบ่งปันอารมณ์บางอย่างร่วมกัน มีความสุขและเรียนรู้ไปกับมัน
มิใช่เพียงการกุมมือคนรักเดินเข้าโรงภาพยนตร์ในวันหยุดสุดสัปดาห์


โดย: รติ (แอบชอบ คห. ข้างล่าง ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:15:11:37 น.  

 
แวะมาบอกว่าได้อ่านหนังสือของคุณแล้ว

ขอชมรูปเล่ม ทำสวยงาม ภาพประกอบก็ดูดี สีสันเยี่ยม
งานเขียนก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะเราว่าคุณน่ะอยู่ตัวอยู่แล้ว

คงมีติดเรื่องหนึ่งคือ สำหรับคนที่ไม่ชอบรู้ตอนสำคัญของหนัง อ่านแล้วอาจมีที่ได้เจอจุดนั้นบ้าง ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งคนที่กลัวเรื่องนี้ โชคดีที่เราดูแล้วทั้งนั้น เลยอ่านได้ ส่วนที่ยังไม่ได้ดู ก็คงไม่ดูอยู่แล้วก็เลยอ่านได้สบายๆ

หมายเหตุ รออ่านเล่มต่อไปนะคะ อ่านบนกระดาษมันให้อารมณ์ที่ดีไปอีกแบบเทียบกับที่อ่านบนหน้าเว็บ


โดย: cottonbook วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:32:13 น.  

 
ทราบข่าวหนังสือจากนิตยสารอีกที เห็นเค้าว่าน่าอ่าน จึงออกเดินทางตามหา เนื่องจากอยู่ห่างจากเมืองศิวิไลซ์ ทำให้กว่าจะได้หนังสือมา เผาพลาญเชื้อเพลิงไปแล้วกว่า สิบ ลิตร และแล้วก็ได้ "หนัง(สือ) รัก" มาครอบครอง ชอบมากคะ แต่ว่า เริ่มจะทำความยุ่งยากให้กับตัวเองแล้ว เพราะต้องไปวิ่งหาหนังมาดูอีกหลายเรื่อง อันเนื่องมาจาก "คุณที่อยู่ข้างหลังฉัน" อย่างไรก็ตาม ยังอ่านไม่ถึงหน้าสุดท้าย แต่ก็ขอติติงเล็กน้อย ในเรื่องของคำผิดที่มีอยู่ประปราย และการตัดคำ ซึ่งบางตอนทำให้เสียอรรถรสในการอ่านไปบ้างเล็กน้อย last but not least ขอบคุณมากคะที่ทำให้ได้แง่มุมความรักมากมาย โดยที่ไม่ต้องเอาหัวใจตัวเองไปทดสอบให้ได้ความรู้นั่นมา (ไปบวชดีก่า - รักนี้ ช้ำน้ำ - มนุษย์ยากแท้หยั่งถึง)


โดย: ochinosuke IP: 222.123.85.117 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:24:20 น.  

 

โอ้แม่เจ้า
หนังสือเค้าออกข้ามปีมาแย้ว อิฉันถึงเพิ่งมีโอกาสไปซื้อหามาครอบครอง เนื่องด้วยทนไม่ด้าย..ไม่ได้จริงๆ ที่เข้าไปอ่านมุมไหนๆๆๆก็จะต้องมีคำ(อ้อน) ฝากหนังสือเล่มน้อยๆ ไว้ในห้องใจที่อบอุ่น(มั๊ง)
เมื่อวาน ไปดูหนังนเรศวร รอบสอง(กะดูผู้กองเบิร์ดอย่างเดียวน่ะ อิๆ ) ตรงเข้าร้านดอกหญ้า หน้าเมเจอร์ที่เชียงใหม่ ถามคนขายด้วยความมั่นใจมากถึงมากที่สุด ว่า หนังสือรัก อยู่มุมไหนคะ (หลังจากกวาดสายตาไปรอบๆแล้วไม่พบ)
คนขายหยิบหนังสือชื่อ "รัก" มาให้ อิฉันปฏิเสธว่า ไม่ใช่ค่ะ หนังสือเกี่ยวกับหนังน่ะ
คนขายอึ้ง แล้วรีบกดคอมฯดู เอ๊ะ...มันก็มีอยู่ในสต๊อกของร้านนี่นา สักพักใหญ่ๆ คนขายก็ไปควานจากมุมใดมุมหนึ่งมาให้ 1 เล่ม อิฉันรีบสำรวจตลาดให้คุณ ถามว่า ยังมีอีกหลายเล่มไม๊ คนขายบอก มีค่ะ( แต๊ว.. ) นึกว่าขายดีจนเกลี้ยงเสียอีก (ฮา)

ได้ฤกษ์อ่านประมาณเที่ยงคืน แค่เริ่มต้นก็โดนใจมั่กๆ เพราะอะไร เพราะอิฉันเป็นคนบ้าเจ้าชายน้อยมากๆ มีทุกเวอร์ชั่น หมายถึงจะพิมพ์ปกแข็ง ปกอ่อน ซื้อมาเก็บเรียบ แถมมีเวอร์ชั่นพิมพ์ในลาว(อ่านภาษาลาวจากปก ประมาณ ท้าวน้อย) มีคนรู้ว่า บ้าเจ้าชายน้อย อุตส่าห์ซื้อมาฝาก
อ่านจบในเวลาอันรวดเร็ว อันเนื่องด้วยจะอิน กับเรื่องที่เคยดูและมีประสบการณ์ร่วมเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นคนบ้าดูหนัง แต่ก็ดูหนังที่เข้าฉายในโรงฯเท่านั้น เพราะเคยพยายามกับหนังที่ไม่เข้าฉายมาแล้ว ดูที่บ้าน ไม่หลับ ก็ ขอพักครึ่ง(ซึ่งหมายถึงไม่ได้ดูอีกเลย) แถมยังมีแผ่นที่เคยปลื้ม ซื้อเก็บไว้เต็มห้อง แต่.. ไม่ได้ดูหรอก แค่มีไว้ครอบครองก็อุ่นใจประมาณนั้น!!! กำลังจะบอกว่า เนื้อหาที่คุณเขียน หลายเรื่องไม่ได้ดู เลยไม่อินเท่าไหร่ แต่ก็กำลังพยายามจะตามดูอยู่ ถ้าทำได้น่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่ได้ดูในโรงฯแล้ว บางเรื่องก็นานมาก จนจำความไม่ได้ แต่ก็ชอบวิธีการเขียนของคุณนะคะ โดยเฉพาะวิธีแยกแยะอารมณ์-ความรู้สึก-มุมมองทางจิตวิทยา ทำให้เข้าใจอะไรๆ(แล้วมันอะไรล่ะ) ได้มากขึ้น
ที่ชอบเป็นพิเศษ คือ เกร็ดความรัก จาก หนัง เพื่อนสนิท " หากรักใครสักคน อย่าลังเลรีรอที่จะบอกความรู้สึกดีๆที่มีให้อีกฝ่ายรับรู้ แม้อาจต้องแลกกับความรู้สึกผิดหวังเสียใจ แต่ก็คุ้มแล้วไม่ใช่หรือ......" อะฮ๊า โดนซ๊ะ!! ฮือๆ เพราะในชีวิตจริง สมมตินะ ว่าเป็น ดากานดา ไปสารภาพกับไข่ย้อย แล้วไอ้ไข่ย้อยมันก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม จะกี่ปีผ่านไป มันก็ไม่เหมือนเดิม>> แล้วจะไม่ให้อินได้ไง

สรุปคือ ชอบอ่ะ ดีใจที่มีหนังสือเล่มนี้ให้อ่าน ดีใจที่ในโลกนี้ ไม่ได้มีแต่เราที่บ้าหนัง แต่ยังมีคุณและเพื่อนๆอีกหมื่นพันล้านคน ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้!!


โดย: สาวสวยรึเปล่าจากเชียงใหม่ IP: 58.136.69.234 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:43:57 น.  

 
รู้สึกว่าตัวเองเชยมาก ๆ พอได้อ่านเมนต์ของคนอื่นแล้ว แบบว่าหนังสือออกมาข้ามปีแล้ว เพิ่งซื้อหนังสือรักเมื่อวานค่ะ ตอนแรกที่เห็นชื่อหนังสือแล้วไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกับหนัง ( นึกว่าเป็นพวกหนังสือความไร้สาระ ) เลยเกือบจะมองข้ามไป แต่พอเห็นปกมีรูปนานะก็เลยลองเปิดอ่านดู ดีใจมากเลยค่ะที่ไม่ได้มองข้ามมันไป เพราะว่าเป็นหนังสือที่ดีมาก ๆ พอกลับมาอ่านที่บ้านก็วางไม่ได้เลยจนอ่านจบ แบบว่าน้ำตาไหลไม่หยุดเลยค่ะ ทำให้เรารุ้ว่าหนังบางเรื่องที่เราดูแล้วมองข้ามบางสิ่งบางอย่างที่มันต้องการสื่อออกมา จากที่เราคิดว่าไม่เห็นมีอะไรแต่จริง ๆ แล้วมันซ่อนอยู่ ทำให้เข้าใจและซาบซึ้กับมันมากขึ้น ส่วนหนังที่ยังไม่ได้ดูก็ทำให้เข้าใจมันก่อนที่จะไปดู จะได้ไม่มองข้ามมันอีก พอดียูบีซีฉายเรื่อง About Love ทำให้ดูแล้วรู้เรื่อง เข้าใจการกระทำของตัละครทั้งหมด ( พี่ที่นั่งข้าง ๆ เค้างงกันหมด ) ^ ^ แอบภูมิใจ ไม่เสียดายตังค์เลยค่ะที่ได้ซื้อมา ทำให้ได้เจอกับคนรักหนังเหมือนกันในบลอคนี้อีก


โดย: นู๋เจนน๊าไม่ใช่แจน IP: 203.113.70.11 วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:1:12:36 น.  

 
อ่านจบรอบ 2 เมื่อคืนครับ เพราะเพื่อนเพิ่งเอามาคืน
ชอบบทวิจารณ์ Lost in translation มาก
จะรออ่านบทความใหม่ๆอย่างใจจดใจจ่อเหมือนเคยครับ


โดย: Sixteenth IP: 202.28.181.9 วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:22:19:45 น.  

 
หาซื้อยากครับ
ไปเจอที่ร้านเจ๊เซี๊ยมข้าวมันไก่ ตรงข้ามสวนเสือ เลยรีบซื้อเลย มีลด 10 บาทด้วย
คนเขียนเป็นคนชลบุรีหรือเปล่าครับ


โดย: ตาแว่น IP: 202.83.210.244 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:17:41:47 น.  

 
หนังสือรัก

1. คำบ่น
เราว่าเรามาเขียนไว้แล้วตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก bloggang แต่หาไม่เจอ สงสัยว่าไปเขียนไว้ที่หน้าอื่น ... เอิ๊กๆ มาตอนแรกๆ หลงบ่อยๆ blog นี้ เนื้อหาเยอะสุดๆ … เขียนใหม่คงมากกว่าเดิมเพราะอ่านหลายรอบแร้ว อิอิ


2. คำชม
“หนังสือรักอ่านแล้วรู้สึกดี เพิ่มความเข้าใจ ขยายมุมมองความรักรูปแบบต่างๆ มีประโยชน์ต่อผู้อ่านและคนรอบข้าง”

ผู้เขียนเป็นเซียนในการสื่อสารผ่านตัวหนังสือชนิดเห็นภาพ (ทุกคนแถวนี้รู้ดีอยู่แล้ว) ... สร้างอารมณ์ร่วมให้อมยิ้ม เหงา เศร้า ซาบซึ้ง หรือซึม ไปกับความรักรูปแบบต่างๆ จากหนัง และมุมมองความรักจากผู้เขียน หากมองด้วยตาก็อาจเหมือนหนังสือใหม่อีกเล่ม แต่อ่านแล้วจะพบว่าเป็นงานสร้างสรรค์ในการสื่อสารสาระจากหนัง ให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์มากกว่าเพียงบันเทิง มีเสน่ห์เฉพาะตัวแตกต่างจากหนังสือแนววิจารณ์หนังทั่วไป

ลองอ่านดู แล้วจะเข้าใจว่า ทำไมคนที่อ่านแล้วอยากให้คนข้างๆ ได้อ่านด้วย ทำไมต้องไปหาหนังที่เคยดูแล้วมาดูอีกรอบ หรือทำไมหลายๆ คนบอกว่าจะรอติดตามเล่มต่อไป


3. คำติ
ทั้งในหนังสือและใน blog นี้ ไม่มีคำเตือนว่าตัวหนังสือสามารถทำให้เสพติดได้ อิอิ

4. ข้อเสนอแนะ
… เล่มหน้าควรทำ version e-book เพิ่มเติม สำหรับคนรักการอ่านตัวหนังสือผ่านหน้าจอ + เพื่อน blog จากต่างดาว เอ๊ย! ต่างแดนจะได้อ่านด้วยกัน (ถ้าไม่มีใครทำ เราขอจองลิขสิทธิ์ e-book เล่มหน้า ไม่ล้อเล่นนะ หุหุ)

... ขอ Space หรือที่ว่างเพิ่มขึ้นจ้า … อาจด้วยเนื้อหาที่ตั้งใจให้ผู้อ่านอย่างเต็มที่ (จนล้นเล่ม เป็น extened version ตาม link ด้านบน) ทั้งเล่มเลยมีที่ว่างในหนังสือน้อยเกินไป Space ก็สำคัญเพราะทำให้หนังสือน่าอ่าน ให้ผู้อ่านได้พักสายตา ได้ซึมซับอรรถรสระหว่างบรรทัด ระหว่างหน้าเพิ่มเติมด้วยค่ะ


โดย: bua ja วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:1:49:07 น.  

 
สวัสดีคับทุกๆคน


โดย: ปลั๊กไฟ IP: 203.188.1.158 วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:11:54:07 น.  

 
i love you


โดย: ittipol sunprasert IP: 58.10.140.8 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:11:01:16 น.  

 
เข้ามาแอบอ่านบล็อคอยู่ก็หลายครั้ง (เป็นปีเลยแหละ) ก็เลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่เข้ามารายงานตัวซะที เพราะปกติแล้วไม่ค่อยชอบพิมพ์เท่าไหร่นัก

เมื่อวานเพิ่งได้ฤกษ์ไปซื้อ "หนังสือรัก" เอามาเก็บไว้เป็นของตัวเอง พออ่านแล้วก็รู้เลยว่าดีกว่าอ่านจากหน้าเวบเป็นไหน ๆ ยังไงก็ขอให้มีเล่ม 2 ออกมาเร็ว ๆ นะคะ ยังไงก็จะติดตามแน่นอนค่ะ (ถึงจะซื้อช้า แต่ก็ซื้อนะ อิอิ)

ปล.ขอติเรื่อง layout ของหนังสือหน่อยนะคะ ส่วนตัวไม่ถึงกับไม่ชอบการที่มีตัวหนังสือบนภาพ แต่ดูจากในเล่มแล้วมันทำให้อ่านยาก และขัดตานิดหน่อย แต่ในเรื่องของการเขียน ชอบอยู่แล้วค่ะ ไม่งั้นคงไม่ซื้อหรอก อิอิ เป็นกำลังใจให้นะคะ

เอ๊ะ อีกเรื่อง อ่านแล้วอยากรู้จักคนเขียนจัง ว่าจะเข้าใจคนทุกคนเหมือนกับที่เขียนหรือเปล่า "เพราะตัวเองก็เหมือนจะเข้าใจคนอื่น ว่าจะต้องมีเหตุการณ์ หรือบางสิ่งบางอย่าง ที่ทำให้แต่ละคนแสดงออกที่ต่างกันไป แต่บางทีตัวเองก็แอบน้อยใจคนอื่น ว่า เอ๊ะ แล้วคน ๆ นั้นจะไม่เข้าใจเราบ้างหรืออย่างไรกันนะ"

เลยมีเรื่องนึงอยากจะถามว่า "คนที่เข้าใจคนอื่น ต้องเป็นคนที่ยอม ปล่อยวาง ให้กับคนอื่นด้วยหรือไม่" ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ตัวเองไม่เห็นด้วยกับการแสดงออก หรือการกระทำแบบนั้น แต่ด้วยความที่เข้าใจ ก็เลยต้องเฉย ๆ และปล่อยวางไป แต่คน ๆ นั้นก็ยังไม่เลิกแสดงออกหรือทำการกระทำเช่นนั้น จนตัวเองต้องกลับไปคิดว่า เอ๊ะ แล้วเราต้องทำตัวอย่างไร จะต้องยอมคนแบบนี้ต่อไปหรือเปล่า?? เพียงแค่เพราะว่าเราเข้าใจว่าเค้าแสดงออกแบบนี้เพราะอะไรอย่างนั้นหรือ เราจึงต้องถูกคนอื่นทำร้ายความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนั้นหรือ??(ไม่เคยโกรธนะ แต่น้อยใจเท่านั้นเอง) อีกอย่าง คำว่า "ช่างมัน" "ไม่เป็นไร" เป็นคำพูดที่ตัวเองใช้ปลอบตัวเองมากที่สุดแล้วแหละ


โดย: eunhye IP: 58.9.139.251 วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:17:43:23 น.  

 
ชอบมากๆๆๆเลยนะ


โดย: wat heng IP: 124.120.85.178 วันที่: 12 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:28:11 น.  

 
โชคดีที่ได้ซื้อ....หนังสือรัก
ได้รู้จักความสุขที่โหยหา
ได้ผ่านพ้นความทุกข์รุกเข้ามา
และรู้ว่า...รักแท้..นั้นเป็นฉันใด


โดย: SNS/NS IP: 124.120.85.178 วันที่: 12 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:33:06 น.  

 
พอดีอ่านหนังสือไอน้ำเจบเว๊ปนี้กกอเลยลองเข้ามาดู


โดย: โมเม IP: 222.123.114.231 วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:13:35 น.  

 
จาไป....หามาอ่านบ้างนะ...


โดย: iamorange วันที่: 17 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:39:19 น.  

 
รอซื้อหนังสือเล่ม 2 ค่ะ
ตอนนี้ติดตามผลงานในCREAM และ ALL อยู่
ถ้าเขียนเล่มไหนอีกช่วยแจ้งให้แฟนๆทราบด้วยนะค่ะ
โชคดีค่ะ




โดย: SNS?NS IP: 124.120.75.136 วันที่: 24 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:55:25 น.  

 


โดย: Billy IP: 83.32.166.31 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:06:17 น.  

 


โดย: Pierre IP: 201.252.222.217 วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:36:48 น.  

 


โดย: Fredy IP: 210.214.50.5 วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:36:34 น.  

 


โดย: Hassan IP: 213.119.111.163 วันที่: 29 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:47:48 น.  

 


โดย: Maurice IP: 200.126.246.62 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:09:25 น.  

 
ยินดีด้วยนะคะ
สำเร็จจนได้
จำได้ว่าครั้งก่อนที่เคยคุยกัน
นานมากแล้ว
หนังสือคุณยังไม่เสร็จเลย
ได้แต่บ่นว่าส่งไปสำนักพิมพ์แล้ว
แป๊บเดียวหนังสืออกมาวางขายแล้ว
ต้องไปหาดูซะหน่อยว่าเป็นยังไง


โดย: september IP: 203.131.212.85 วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:15:28:54 น.  

 


โดย: Max IP: 201.221.18.154 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:21:21:43 น.  

 


โดย: Landon IP: 213.37.210.99 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:22:50:57 น.  

 


โดย: Nickolas IP: 84.120.12.155 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:23:42:19 น.  

 
It's nice





โดย: fish_hfd IP: 72.36.130.90 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:17:04:08 น.  

 
หวัดดีค่ะ หลงทางเข้ามา ก้อเลยท่องเที่ยวคุณจนจบ จนกระทั่งขวนขวายโทรเช็คหนังสือคุณทันทีค่ะ แล้วก้อไปเจอที่ร้านแพร่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าววันนี้ตอนเย็นอ่านนะคะ ถ้าได้เรื่องอย่างไรจะกลับมาเขียนค่ะ


โดย: เชอรี่ IP: 124.120.149.101 วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:15:18:04 น.  

 
วันนี้เงินเดือนออกแล้วจะซื้อมาอ่านนะ

แต่..คง..อีกนานกว่าจะอ่านจบ

เพราะตกภาษาไทย..

จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเจอหนังสือเล่มนี้เหมือนกันแต่ไม่ได้คิดว่าคนเขียนจะเป็นคุณ

แล้วจะมาวิจารณ์...


โดย: ฉันอยู่ข้างหลังคุณอีกที IP: 202.28.181.9 วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:16:19:08 น.  

 

เฮ้อ มะวานเราไปสาปปาดา หนังสือมา
เราขอบอกว่าไม่เจอหนังสือเธอเลยซักร้าน
เธอไม่คิดจะไปโชว์ตัวแจกลายเซ็นต์บ้างหรอ
เราแนะนำตอนนี้กำลังจะมี มหกรรมหนังสือที่ พารากอนนะ
เราจะพยายามหาซื้อละกัน


โดย: ฉันอยู่ข้างหลังคุณอีกที IP: 202.28.181.9 วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:12:19:08 น.  

 
ดีจ๊ะ
แว่ะมาดูหง่ะไม่น่าเชื่อเยยน่ะว่าอายุยังน้อยอยู่เยยเก่งจังมีพ็อคเก็จบุ๊คของตัวเองหง่ะ ยังไงก็มาเม้นท์ให้แย้วน้าไว้ว่างๆๆไปเม้นท์ให้ด้วยน่ะจ๊ะ แต่พอดียังไม่ทำบ๊อคหง่ะ พอดีเพิ่งสมัครวันนี้อ่ะจ๊ะ แห่ะๆๆ ไงก็ขอให้ขายดีๆๆน่ะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้น้า


โดย: papirunya IP: 86.135.105.77 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:4:49:34 น.  

 
เพิ่งซื้อมาเมื่อวานค่ะ ที่ซีเอ็ดหาดใหญ่ เหลือเล่มเดียวเอง โชคดีที่ซื้อทัน
บางหน้าก็อ่านยากไปหน่อยค่ะ เพราะตัวหนังสือกับแบ็คกราว ลายไปนิดนึง
แต่เนื้อหาดีมากๆ ค่ะ จะติดตามไปเรื่อยๆนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: wendy IP: 202.12.73.5 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:12:57:27 น.  

 
ซื้อมาอ่านแล้วค่ะ ตอนที่ซื้อไม่ได้รู้จักมาก่อนหน่ะค่ะแต่เผอิญว่า พยายามหาหนังเก่าๆมาดู แล้วเห็นว่า หนังที่เขียนไว้ในหนังสือก็เป็นหนังที่ชอบๆทั้งนั้นเลย ....
ยังไง จะคอยติดตามผลงานต่อไปนะคะ
ขอแอ๊ดไว้ด้วยนะคะ


โดย: The bitter sweet person วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:12:23:42 น.  

 
อ่านสนุกครับ อ่านแล้วได้รู้จักโลกกว้าง เสียดายที่ไม่ได้ดูหนังทุกโรง แต่อย่างน้อยก็ได้ดูมากวก่าครึ่งที่คุณหมอได้นำเสนอ และบางเรื่องก็คงจะต้องกลับไปดูอีก เพราะตอนที่ดูตอนนนั้น ไม่โดนและไม่ get พอมาอ่านหนังสือจึงนึกได้ และคงจะต้องไปหยิบมาดูอีก

รูปเล่มหนังสือ (หน้าตา) ดูดี น่าซื้อ แบบว่าออกแบบได้เจ๋งเลยครับ (ต่างจากองศาที่ 361-, คิดเองนะครับ หนังสือไม่น่าซื้อ แบบว่าไม่เย้าหรืออยากให้ซื้อ สีก็หม่น ๆ ถ้าเป็นคนก็ไม่หล่อ ไม่สวย ดูไม่ดี แต่มีอะไรดีอยู่ข้างใน เห็นมั้นละครับ มองแต่ด้านนอก ไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน ซึ่งเกือบจะพลาดโอกาสหนังสือดี ๆ ไป) ภาพประกอบในหนังสือก็สวย เสียดายที่ตัวหนังสือเล็กไป และหนังสือมีขนาด-เล่มเล็กไป ถ้าหนังสือโตกว่านี้ หนากว่านี้ ตัวหนังสือพิมพ์ให้ใหญ่กว่านี้ คงจะดีมากขึ้น

ขอให้มีเล่มสอง ออกมาไว ๆ นะครับ เพราะคิดว่าคุณหมอนักดูหนัง คงมีเรื่องหนังรัก สะสมอยู่ใน Stock เพียบเลย

ส่วนตัวชอบหนังเกาหลี -The Classic-ตนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต มาก ๆ เลย เสียดายที่คุณหมอไม่ได้เขียนวิจารณ์ในห้องเก็บหนัง โดยส่วนตัวถึงแม้ว่าเรื่องจะเชย แบบหนังน้ำเน่าแต่เขาทำให้เป็นหนังน้ำดี เพลงประกอบยอดเยี่ยมมาก รวมทั้งดาราที่แสดงก็เข้าถึงบททุกคน ดูทีไร น้ำตาซึมทุกครั้ง และดูมากกว่า 40 ครั้งแล้ว

อยากให้คุณหมอวิจารณ์หนังอินเดียสักเรื่องอะครับ หนังอินเดียที่เป็นหนังรักมีมากมาย และมีรักหลายประเภท ซึ่วคนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึง ผมว่าหนังที่เกี่ยวข้องกับความรักแล้ว ชาติที่ทำได้ถึงอารมณ์ คือหนังอินเดีย ขอแนะนำให้คุณหมอหา "ฟ้ามิอาจกั้นรัก" มาดูนะครับ ดูแล้วอยากให้คุณหมอวิจารณ์ในบอร์ดด้วย ผมหวังว่าคุณหมอคงจะวิจารณ์หรือ พูดถึงหนังเรื่องนี้ได้อย่างดี อยากอ่านหรือฟังความเห็นของคุณหมอในประเด็นที่หนังนำเสนอ

มีหนังในหนังสืออีกหลายเรื่องที่ผมจะต้องหาเก็บไว้เป็นส่วนตัวอย่าง วัยอลวน 4 Dear Frankie(?)
Note Book ฯ เสียดายที่ชาร์ลีไม่อยู่ในหนังสือรัก แต่ไปอยู่ในองศาที่ 361

ตอนนี้อ่านจบแล้ว แต่ไม่ได้อ่านจบในวันเดียวหรืออ่านจบจบในครั้งเดียว(ต่างจากองศาที่ 361 ที่อ่านครั้งเดียวจนจบเลย เพราะอ่านแล้ว วางไม่ลงและไม่อยากให่หนังสือถึงหน้าสุดท้าย แบบว่า ยังไม่พอ ยังจะขอต่ออีก) แต่ก็อ่านจบภายในสองวัน คาดว่าอ่านองศาที่ 361 รอบสามจบแล้วจะมาอ่านหนังสือรักอีกรอบ และจากนี้ไม่ว่าจะไปไหน จะเอาหนังสือสองเล่มนี้ติดกระเป๋าไปด้วย เวลาว่างหรือเวลาฆ่าเวลา หรือเวลารอรถเมล์ รอเพื่อน จะได้หยิบขึ้นมาอ่านอีก และได้แนะนำให้เพื่อน ๆ ได้อ่านด้วย

แม้จะเข้าเพิ่งเข้ามาในบอร์ดนี้ แต่จะขอบอกว่า บอร์ดนี้น่าสนใจ บทความแต่ละบทความที่คุณหมอเขียนเอาไว้ สุดยอดเลยครับ เมื่อมีเวลาว่างผมก็ทยอยเข้าไปอ่านบทความเก่า ๆ ซึ่งทำให้ได้รู้อะไร ในด้านที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย คุณหมอเป็นนักวิจารณ์หนังที่ยอดเยี่ยมครับ เป็นมืออาชีพ แบบว่าอยู่แถวหน้าได้สบาย ๆ เลย ขอคารวะ นะครับ

ขอบคุณครับที่เขียนบทความดี ๆ ให้อ่าน ได้แบ่งปันความรู้ให้คนอื่น ๆ ได้รู้ ประเสริฐแท้ครับ






โดย: เสียงแคน IP: 203.158.177.4 วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:18:18:12 น.  

 
ซื้อแล้วครับ งานหนังสือ อยู่ ชม.หาซื้อไม่ได้ แหะๆ

เดี๋ยวขออ่านจะมาเล่าให้ฟังนะครับ


โดย: Boatmaster IP: 112.142.1.34 วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:2:16:22 น.  

 
พอดีเจอคนแนะนำมาเลยลองเข้ามาอ่านทดลองดูก่อนค่ะ
ไว้จะไปหามาอ่านเป็นของตัวเอง


โดย: nicealoha IP: 125.24.180.74 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:23:13:34 น.  

 
พยายามหา หนังสือรักอยู่

แต่หาเท่าไหร่ก้อไม่มีเลย

จะพิมพ์อีกไหมคะ อยากอ่านมากกก


โดย: sunny IP: 124.122.92.57 วันที่: 2 สิงหาคม 2553 เวลา:15:47:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2549
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.