www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"



.... ผมไม่คิดว่า เราควรเสียเงินค่าตั๋วให้กับหนังไทย เพียงเพราะแค่ว่ามันเป็นหนังไทย ผมไม่คิดว่าการสนับสนุนหนังไทยคือการยอมเสียเงินค่าตั๋วให้กับหนังไทยทุกเรื่องที่สร้างขึ้นมาโดยไม่คำนึงว่าหนังนั้นจะดีหรือแย่ เพราะ การเสียเงินดูหนังไม่ใช่การบริจาคทำบุญ แต่ เราควรเสียเงินไปเพราะรู้สึกว่าหนังเรื่องนั้น มันคุ้มค่าต่อการเสียเงิน

… ผมจึงไม่คิดจะเสียเงินไปดูก้านกล้วยในทีแรก เพราะผมมองไม่เห็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ เวลามองเห็นภาพนิ่งตามบิลบอร์ดผมก็เห็นว่ามันเป็นเหมือนลายเส้นจากเกมส์คอมพิวเตอร์ เวลามองโปสเตอร์มันก็มีเมฆรูปร่างช้างตัวโตละม้าย The Lion king และ ผมไม่คิดว่ามันจะมีดีคุ้มค่าต่อการเสียเงินในเมื่อสัปดาห์นี้มีหนังที่น่าสนใจมากกว่าอย่าง The Da Vinci Code และ Spring snow แต่แล้วผมก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะกระทู้ในพันทิป เมื่ออ่านความเห็นคนที่ไปดูรอบแรกๆมาเสียงส่วนใหญ่พูดไปในทิศทางเดียวกันว่าดีถึงดีมาก บวกกับตัวเองก็ชอบดูแอนิเมชั่นอยู่แล้ว ผมจึงไม่ลังเลที่จะไปพิสูจน์ ก้านกล้วย ในโรงภาพยนตร์


...ก้านกล้วย เล่าเรื่องของช้างเชือกหนึ่ง ก้านกล้วยเป็นเหมือนเด็กกำพร้าขาดพ่อตั้งแต่เด็ก มันอาศัยอยู่กับแม่แสนดีและผองเพื่อนในป่า ก้านกล้วยเฝ้าตามหาว่า ใครคือพ่อของมัน วันหนึ่งการมาของนกพิราบสื่อสารช่างพูดชื่อ จิ๊ดริด ทำให้มันได้ยินชื่อ ภูผา ซึ่งกระตุ้นความสงสัยในชาติกำเนิดตัวเองยิ่งขึ้นว่า ภูผา ช้างที่เข้าไปในวัง เป็นช้างสงครามที่ใครๆพูดถึงคือพ่อของมันหรือไม่ ก้านกล้วยจึงเริ่มต้นออกเดินทางและการเดินทางของมันนี่เอง ที่นำไปสู่การเติบโตเป็นช้างคู่พระบารมีแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ ร่วมออกรบเพื่อชาติบ้านเมือง

...เมื่อดูหนังจบลง ผมตอบได้ทันทีว่า ก้านกล้วย ไม่ใช่หนังที่ผมชอบมากมาย แต่เป็นหนังที่มีความดีในตัวและดีกว่าที่คาดไว้เสียด้วยซ้ำ


...ก้านกล้วย แบ่งเรื่องราวออกเป็นสองส่วนที่ให้ความรู้สึกสำหรับผมแตกต่างกัน

ก้านกล้วยวัยเด็ก คือ เรื่องราวที่หนังนำเสนอ ภาพครอบครัวและการเติบโตของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง หากเปรียบก้านกล้วยเป็นคน ก็เหมือน เด็กผู้ชายที่เติบโตมาในครอบครัวที่ขาดพ่อ ซึ่งในทางทฤษฎีพัฒนาการ เชื่อว่า เด็กผู้ชายที่เติบโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อ ยิ่งหากร่วมกับการขาดญาติผู้ชายในครอบครัว ย่อมทำให้เด็กคนนั้นขาด ต้นแบบของเพศชาย (role model) ที่จะถ่ายทอดบุคลิกลักษณะนิสัยใจคอและความเป็นเพศชายให้กับเขา และ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นอาจมีปัญหาในการสร้างอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง ก้านกล้วยใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตเฝ้าตามหาตัวตนของพ่อ ก่อนที่สุดท้าย แม้ชีวิตหลายปีของเขาที่ผ่านมาจะไม่มีพ่อเคียงข้างกายแต่เขาก็เลือกเดินตามทางของพ่อตัวเอง

ก้านกล้วยวัยผู้ใหญ่ คือ เรื่องราวประวัติศาสตร์และความรักชาติไทย เนื้อหาของหนังเล่าเศษเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาตรงกับช่วงเวลาที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชครองราชย์และไปจบลงที่สงครามยุทธหัตถีอันลือลั่น พล็อตในช่วงนี้เน้นไปที่ ความรักชาติและความภาคภูมิใจ

...บทภาพยนตร์ที่เขียนขึ้นมานั้น ผสมผสานสองส่วนนี้เข้าด้วยกัน โดยมี พ่อของก้านกล้วย เป็นเหมือนตัวละครที่เชื่อม สองส่วนของหนัง หรือ สองช่วงวัยของก้านกล้วยให้มาบรรจบกัน เมื่อก้านกล้วยได้พบพ่อ ก็เติมเต็ม ครอบครัวที่ขาดหาย และ ทำให้มันได้ค้นพบความหมายของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไปกับช่วงเวลาที่เหลือ

...สำหรับผมแล้ว เหตุที่ผมไม่ได้ชอบก้านกล้วยอย่างที่คิดไว้ เพราะผมชอบก้านกล้วยมากแค่โครงเรื่องส่วนที่สอง ในขณะที่ช่วงก้านกล้วยวัยเด็กผมได้แค่หลงใหลไปกับภาพบนจอ เนื้อหาในส่วนนี้ไม่ตรึงอารมณ์ มันเป็นช่วงที่ได้แค่ดูแบบเพลินๆ ซึ่งหากถามสาระคติสอนใจในช่วงนี้ก็หยิบออกมาได้อย่างบางเบา การถูกเพื่อนแกล้ง , การตามหาพ่อ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ให้ความเข้มข้นทางอารมณ์น้อยไปหน่อย หนังในช่วงแรกนี้ไม่ทำให้เห็นว่า การขาดพ่อ มีผลต่อตัว ก้านกล้วยอย่างไร และ ตัวเขามีพัฒนาการอะไรที่เติบโตขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป เราไม่เห็นว่าเขาได้เรียนรู้อะไรเมื่อเติบโตขึ้นมา หากหนังคิดจะเน้นแค่เรื่องราวประวัติศาสตร์ก็น่าที่จะย่นเวลาของช่วงนี้ลง

คนมักจะเข้าใจว่า การสร้างหนังแอนิเมชั่นสำหรับเด็กอาจไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความลึกของบท ซึ่งผมกลับคิดตรงข้าม เพราะ หากหนังสามารถสร้างปมที่ดี ไม่จำเป็นต้องยุบยับซับซ้อน ขอเพียงมีความลึก มีพัฒนาการ มันก็จะช่วยถีบตัวให้หนังหลุดพ้นจาก ความเป็นแอนิเมชั่นธรรมดาๆ ไปเป็นแอนิเมชั่นที่น่าจดจำเมื่อเวลาผ่านเลยไป หนังแอนิเมชั่นหลายเรื่องที่ไม่ได้มีเนื้อหาซับซ้อน แต่สามารถผูกปมและใส่มิติให้กับตัวละครได้ดีพร้อมแสดงให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร อย่างเรื่องราวที่พูดถึงครอบครัวเช่น Lion king , Robot, finding nemo ฯลฯ อนิเมชั่นเหล่านี้ต่างก็มีปมในใจของตัวละครที่ผูกไว้และให้เวลาที่เดินผ่านเป็นการคลี่คลายและเติบโตของพวกเขา

...สำหรับผม ก้านกล้วยในวัยเด็ก ผมให้คะแนนในระดับเกือบเต็มในแง่ภาพและเสียง แต่ในด้านบทคือส่วนที่อ่อนแอ เพราะเห็นได้ชัดว่า เมื่อก้านกล้วยดำเนินมาถึงช่วงครึ่งหลังที่มันเติบโตขึ้น เป็นช่วงเวลาที่หนังสมบูรณ์พร้อมทั้งภาพ เสียง และ เนื้อหา

ครึ่งหลังของก้านกล้วยนี่เอง ที่ไม่ว่าชาติไหนก็คงไม่สามารถจะทำเรื่องราวในหนังได้ดีเท่าของเรา เพราะ ฝรั่งอาจสร้างภาพที่สวยเหมือนจริงแต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ จิตวิญญาณของความเป็นไทย ที่คงไม่มีชาติไหนจะถ่ายทอดออกมาได้เทียบเท่า เพราะเรื่องราวการรบยุทธหัตถีในหนังนั้น มันไม่ใช่แค่เป็นเรื่องราวที่มีความหมายต่อประวัติศาสตร์ประเทศๆหนึ่ง แต่มันคือเรื่องราวที่อยู่ในใจคนไทยทุกคนมาหลายชั่วอายุคน กับการที่เราเป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีบรรพบุรุษของเราต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดิน โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตัวเอง

บทหนังในส่วนนี้ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม แค่คิดก็ยากแล้วว่าจะดัดแปลงมันออกมาให้มีความสนุกสนาน ไปพร้อมๆกันทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ได้อย่างไร แต่หนังก็สามารถทำออกมาได้ ด้วยการผสมผสานตัวบทที่มีการปูอารมณ์ที่ดี มีภาพที่ดี มีบทสนทนาที่ดี (ไดอะล็อคของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ เพื่อนพ่อของก้านกล้วย ฟังแล้วขนลุกดีทีเดียว)

ช่วงเวลาของหนัง นับตั้งแต่ตอนที่ก้านกล้วยโตขึ้นและเข้าไปในวัง การออกรบยุทธหัตถี การพบความจริงของพ่อ และ ความหมายของการมีชีวิตอยู่ หนังไม่ใช่แค่สามารถสร้างความรู้สึกตื่นเต้น ชวนติดตาม แต่ยังสามารถปลุกเร้าความรู้สึกฮึกเหิมรักชาติได้ดีไม่แพ้หนังไทยที่ใช้คนแสดงอย่างบางระจัน


... สำหรับงานด้านภาพต้องชมว่า ภาพสวยและมีสีสันสะดุดตามากๆตั้งแต่ฉากแรกเปิดเรื่อง ฉากหลังในหนังตั้งแต่ในป่าไปจนถึงในวัง เช่น ใบไม้ , สายน้ำ , แสงเงา ฯลฯ ล้วนถูกเก็บรายละเอียดมาเป็นอย่างดีดูมีมิติ ตัวละครหลักๆอย่างก้านกล้วยและช้างตัวอื่นๆ มีการเคลื่อนไหวที่ดูเป็นธรรมชาติ ในงานด้านภาพหากจะมีให้ติก็คงเป็นในส่วนของตัวละคร”คน”ในเรื่องที่ดูหยาบๆ , แข็งๆ ทื่อๆ โดยเฉพาะตัวประกอบอื่นๆ แม้แต่นกอย่างจิ๊ดริ๊ด ที่เรียกสีสันได้มาก แต่ผมเองก็ยังรู้สึกว่า การออกแบบของเจ้านกช่างพูดตัวนี้ยังดูเรียบๆไปหน่อย และ ไม่ได้เป็นแค่จากภาพที่ยังไม่เนียน มันยังเป็นผลมาจาก คาแรกเตอร์ตัวละครหลายๆตัวยังดูขาดเสน่ห์พอสมควร ไม่มีตัวละครตัวไหนที่ดูน่าจดจำนอกจากตัวเอกอย่าง ก้านกล้วย และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งการบ้านสำหรับงานชิ้นถัดไปของผู้สร้างทีมนี้ กับคำถามที่คงต้องหาให้เจอว่า หากจะสร้างตัวละครขึ้นมานอกจากความสวยงามของภาพแล้ว ตัวละครนั้นจำเป็นต้องมีอะไรอีกที่จะทำให้คนดูตกหลุมรัก ตัวอย่างแอนิเมชั่นล่าสุดอย่าง Ice age 2 เป็นตัวอย่างที่ดีของ การสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครที่แทบทุกตัวในเรื่องล้วนมีดีมีเสน่ห์ และ ส่วนนี้เองเป็นส่วนที่หนังน่าจะสามารถพัฒนาขึ้นไปกว่าเดิมได้อีก เพราะมันไมได้เกี่ยวกับเงินทุนแต่เกี่ยวกับคนเขียนบทในการกำหนดรายละเอียดตัวละคร

...อีกจุดหนึ่งที่ผมชอบมากๆ คือ ดนตรีประกอบ แค่ฉากเปิดเรื่องนั้นก็สร้างความมั่นใจให้กับคนดูได้ตั้งแต่แรกว่า เรากำลังจะได้ดูแอนิเมชั่นไทยแท้ยิ่งกว่าแช่แป้ง ด้วยเสียงเครื่องดนตรีไทยและดนตรีประกอบแบบไทยๆ (ถ้าจำไม่ผิด เข้าใจว่า ฝีมือคุณดนู ฮันตระกูล) กับเพลงคุ้นหูเราอย่าง ช้าง ต้องยกนิ้วให้ดนตรีประกอบที่เรียกได้ว่าเด่นตลอดทั้งเรื่อง ในฉากที่ต้องไพเราะก็เพราะจับใจ ในฉากปลุกใจก็ฮึกเหิม ให้อารมณ์อลังการงานสร้างเป็นอย่างยิ่ง

...แม้ว่า ก้านกล้วย จะเป็นก้าวแรกของแอนิเมชั่น 3D ของไทยแต่ก้าวแรกนี้ก็นับได้ว่าเป็นก้าวที่กระโดดไปได้ไกลทีเดียว งานชิ้นนี้ภายใต้การกำกับของ คมภิญญ์ เข็มกำเนิด ผู้ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวงการแอนิเมชั่นเมืองนอกเมืองนามาก่อนที่จะมาทำเรื่องนี้ให้กับกันตนาแอนิเมชั่น เขาสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์นำมาประยุกต์ออกมาเป็นก้านกล้วย โดยไม่พยายามทำตัวเป็นดิสนีย์หรือบลูสกายเวอร์ชั่นไทย การผสมผสาน พล็อต+ภาพ+เสียง(ดนตรี)+บท ที่เคี่ยวมาอย่างลงตัว ทำให้ก้านกล้วย เป็นแอนิเมชั่น 3D ที่มีความเป็นไทยอย่างไม่จงใจยัดเยียด มีความร่วมสมัยที่คนชาติอื่นสามารถดูได้สนุกสนาน และ สิ่งที่จัดได้ว่าใจกล้ามากสำหรับการสร้างหนังแอนิเมชั่นเรื่องแรกมาขึ้นจอ คือ การหยิบเรื่องราวประวัติศาสตร์มาสร้างเป็นแอนิเมชั่นสำหรับเด็ก แทนที่จะสร้างหนังแอนิเมชั่นครอบครัวที่มีโอกาสขายได้มากกว่า

...ปีที่แล้วถือว่าเป็นปีที่น่าผิดหวังของหนังแอนิเมชั่น การมาของ Ice age 2 และ ก้านกล้วย ช่วยทำให้คนดูได้ลุ้นว่าปีนี้เราน่าจะได้ดูหนังแอนิเมชั่นดีๆ หากวัดคะแนนรวมแล้วผมเองให้คะแนน ก้านกล้วย มากกว่า หนังแอนิเมชั่นสิงสาราสัตว์ของปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Madagascar หรือ Chicken little ทั้งสองเรื่องนั้นอาจมีทีเด็ดตรง ภาพที่เฉียบขาดกว่า มีความลึกของบทมากกว่า มีตัวละครที่ขายเสน่ห์ได้มากกว่า แต่เมื่อเล่าเรื่องออกมาแล้ว ของดีของทั้งสองเรื่องนั้นไม่สามารถผสมผสานคลุกเคล้าได้กลมกล่อม ธีมหลายธีมเหมือนมีหลุดเปะปะไปตามรายทาง และ บางช่วงก็ยืดเยื้อจนน่าเบื่อ เป็นแอนิเมชั่นที่ดูจบแล้วไม่มีอะไรติดตามออกมาจากโรง ในขณะที่ก้านกล้วยอาจมีของดีในตัวบางอย่างที่ไม่ดีเทียบเท่าแต่สุดท้ายแล้วสามารถคลุกเคล้าได้ความลงตัวมากกว่า ดูจบแล้วประทับใจมากกว่าโดยไม่ได้คำนึงว่ามันเป็นของคนไทยหรือไม่เป็น เป็นหนังที่ดูจบอาจไม่ได้ชอบมากมาย แต่ ก็รู้สึกยินดีบอกต่อให้คนอื่นๆได้ไปดู

สิ่งที่ชอบ

1.เอกลักษณ์ความเป็นไทย ... ต้องชมและนับถือที่หนังมีความเป็นตัวของตัวเอง ตั้งแต่เนื้อเรื่อง , ลายเส้น , ดนตรีประกอบ เพราะหลายครั้งที่เราจะเห็นงานอนิเมชั่นของผู้สร้างใหม่ๆจะมีกลิ่นอายของดิสนีย์ติดมาโดยไม่รู้ตัว แต่เรื่องนี้ ทั้งภาพ พล็อต ดนตรี สามารถสลัดมันออกไปได้และใส่ความเป็นไทยเข้าไปอย่างลงตัว

2.ภาพ ... ไม่ต้องไปสนที่เม็ดเงินว่าลงทุนเท่าไหร่หรือว่ามันเป็นหนังเรื่องแรกเรื่องหลัง เพราะ ภาพในหนังส่วนใหญ่ถือว่าสอบผ่านด้วยคะแนนที่ยอดเยี่ยม

3.เสียง(ดนตรีประกอบ) ... หลายคนชอบpeach band หลายคนชอบพี่แอ๊ด ส่วนผมชอบเพลงช้างตอนต้นเรื่องและสกอร์ที่มีตลอดทั้งเรื่อง

4.ความกล้า ... ไม่ใช่แค่ความดีของตัวหนัง แต่ผมยังชื่นชอบความกล้าของบริษัทและผู้สร้างทั้งหลาย กับ การคิดจะสร้างแอนิเมชั่นของไทยๆเราขึ้นมา แถมยังเป็นเนื้อหาอ้างอิงประวัติศาสตร์ เพราะยากเหลือเกินที่ทุนรอนจะเอาไปสู้กับของฝรั่งมังค่าได้ หากผู้สร้างคนไทยคิดจะรวยจากการทำแอนิเมชั่นนั้น เป็นการคิดที่มีโอกาสเจ็บตัวสูง ก้านกล้วยกับทุนสร้าง 150 ล้านบาท เมื่อเทียบผลลัพธ์ที่ออกมาทั้งในด้านภาพและเสียงแล้ว ต้องถือว่าเป็นการใช้จ่ายเม็ดเงินที่คุ้มค่า และ กล้าหาญที่จะเริ่มต้น

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.บท(ช่วงเด็ก) ... ส่วนที่ดีของเนื้อหาและน่าจดจำ คือ ส่วนหลังจากที่ ก้านกล้วย โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ช่วงเวลาที่ก้านกล้วยยังเป็นเด็กอยู่ สิ่งที่ติดหัวผมมาหลังออกจากโรงกลับมีแค่ความสวยงามและน่ารักของภาพบนจอเท่านั้น หนังใช้เวลากับส่วนนี้มากก็น่าที่จะเสริมความหนักแน่นให้บทช่วงนี้ ยังดีที่ได้ภาพและเสียงบวกความน่ารักที่ทำให้หนังไม่ถึงกับน่าเบื่อ

2.เสน่ห์ตัวละคร ... อย่างที่ว่าไว้ ในแง่หลายเส้น ตัวละครคนหลายตัวที่ดูเหลี่ยมๆทื่อๆมึนๆ ยังเหมือนตัวการ์ตูนในทีวี , การแสดงความรู้สึกของช้างดูยังจะมีน้อยไปนิด ในแง่รายละเอียดของบท ตัวประกอบหลายๆตัวดูไม่มีเสน่ห์ ขาดจุดเด่นแม้แต่ตัวเอกที่ประกบคู่ก้านกล้วยอย่าง ชบาแก้ว ถึงรูปร่างจะอวบอั๋นแต่บทก็ดูแบนไม่น่าจดจำ

สรุป ... ก้านกล้วย ไม่ใช่หนังที่สมควรเสียตังค์เข้าไปดูเพียงเพราะมันเป็น หนังแอนิเมชั่น 3D เรื่องแรกของไทย ไม่ใช่เพราะมันเป็นหนังไทยที่ลงทุนสูง แต่มันเป็นหนังการ์ตูนที่มีคุณค่าในตัวเองมากพอกับการจ่ายค่าตั๋ว เป็นงานที่ห้ามพลาดเป็นพิเศษสำหรับคนดู 3 กลุ่มนั่นคือ คนรักงานแอนิเมชั่น , เด็กๆที่น่าจะมีความสุขกับการ์ตูนไทยๆที่ภาพสวยไม่เป็นพิษเป็นภัย และ คนรักช้าง ก้านกล้วยเป็นงานแอนิเมชั่นที่เอาไปโชว์ฝรั่งได้อย่างเต็มภาคภูมิไม่อายใคร เป็นแอนิเมชั่นไทยๆที่ผู้สร้างสามารถยืดอกอย่างเต็มภาคภูมิ จากเดิมที่เคยมี "ช้างกูอยู่ไหน"(ต้มยำกุ้ง) ถึงวันนี้ผู้สร้างก้านกล้วยสามารถตอบเสียงดังมั่นใจได้ว่า "ช้างกูอยู่นี่"


ป.ล. วันก่อนได้มีโอกาสตอบที่สัมภาษณ์ใน Esquire ตอนเขาถามว่า หนังไทยก้าวตามทันหนังเกาหลีหรือไม่ ผมเองคิดว่า ถ้าวัดกันด้วยคุณภาพแล้วเราอยู่ไม่ห่างกันมาก แต่กับภาพรวมอุตสาหกรรมหนังไทยเราคงตามไม่ทัน ด้วยเหตุผลสามส่วน คือ

ฝ่ายรัฐ - ไม่ได้มีท่าทีสนับสนุนมากพอ (แค่เห็นระบบโควต้าให้มีวันฉายหนังของชาติตัวเองของเกาหลีแล้วก็อดทึ่งไม่ได้ ลองเป็นหนังไทยเราถ้าไม่ดังจริง ก็ถูกคิงคอง หรือ ดาวินชี่ ยึดโรงจนเกือบหมดและต้องถอดโปรแกรมไปอย่างรวดเร็ว และ เมื่อโควต้าจะถูกลดลง แล้วได้เห็นการรวมพลของผู้สร้างหนังเกาหลีประท้วงก็ยิ่งน่าประทับใจในการต่อสู้เพื่อ ภาพยนตร์ อย่างแท้จริง)

ฝ่ายผู้สร้าง - หลายฝ่ายที่ทำหนังตีหัวเข้าบ้านหลอกฉายเอาเงินอย่างมักง่ายไปวันๆ

ฝ่ายคนดู - ต้องยอมรับว่าคนดูบางส่วนที่มีทีท่าคาดหวังกับหนังไทยไว้สูงลิบ ชนิดที่ว่า เพื่อนผมบางคนบอก ไม่ดูหนังไทยเพียงแค่เพราะมันเป็นหนังไทย หรือ บางคนจะยอมจ่ายเงินให้กับหนังไทยที่ต้องดีสุดๆชนิดเกรด A++ เสมอไป ทั้งที่บางเวลา เรายอมเสียเงินเสี่ยงไปดูหนังฝรั่งดังๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันดีหรือห่วยยังไง เราไม่ได้ยอมเสียเงินดูหนังฝรั่งเฉพาะเกรด A++ แต่หนังไทยที่รู้ว่าดีแน่ๆแม้ไม่ถึง A++ เรากลับไม่ให้โอกาส เรากลับไม่ยอมเสียเงินสนับสนุน

ด้วยสามปัจจัยนี้ย่อมทำให้หนังไทยยากที่จะตามเพื่อนบ้านเอเชียได้ทัน ดังนั้น ก้านกล้วยแม้จะไม่ใช่หนัง A++ สำหรับผม ผมเองก็ไม่รู้สึกเสียดายตังค์และยินดีเสมอที่จะเชียร์เวลาใครถามถึง เรามาให้โอกาสหนังไทยดีๆกันดีกว่าครับ

ป.ล.2 ... ยังอาสาเป็นหน้าม้ามาเชียร์ต่อ หนังยังไม่ออกจากโรง >> Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ



ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย หรือ แวะเวียนมาพูดคุยถาม-ตอบนอกเหนือบทความนี้ คลิกไปคุยกัน --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง



ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2549
52 comments
Last Update : 25 พฤษภาคม 2549 18:28:10 น.
Counter : 6373 Pageviews.

 

อุ้ย คนแรกหรือนี่...
เห็นด้วยกับประเด็นหนังเกาหลี vs หนังไทยนะครับผม... คนไทยส่วนใหญ่เลยล่ะ เป็นแบบที่พี่ว่า..

สำหรับ "ก้านกล้วย" ผมเองก็ชอบคาแรคเตอร์ของก้านกล้วยกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมากที่สุดเหมือนกัน และที่ชอบมากๆอีกอย่างก็คือภาพธรรมชาติและวัง ที่แสดงความเป็นไทยได้ดีมากๆ และเนียนมากๆ ด้วย.. (ฉากในป่า เยี่ยมไปเลยครับ)

พูดถึงตัวละคร ทำให้ผมนึกถึง Spirited Away เลยครับ (เพิ่งนั่งดูเมื่อบ่ายนี้) เพราะเรื่องนี้ตัวละครแบบรายทางยังน่ารักน่าชังน่าจดจำ (โดยเฉพาะเจ้าโคมไฟ ที่เหมือนโคมไฟพิกซาร์ซะไม่มีล่ะ ^^) เป็นตัวอย่างที่ดีครับ
-- เสียอย่างที่คนทำซับไทยดีวีดีเหมือนแปลไว้ไม่จบเรื่อง แปลได้พักนึงก็วนลูปไปตอนต้นเรื่องใหม่เฉยเลย

พูดไปพูดมาก็จะมาลงที่ว่า ป่าของก้านกล้วยสวยมากกก...

 

โดย: nanoguy IP: 203.113.16.241 25 พฤษภาคม 2549 1:30:48 น.  

 

ไปดูเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ดูกับเด็กๆ
มานดูหลายรอบแล้ว เราดูรอบแรก
มานบอกบท เล่าเรื่องแทนหนังตลอด
ดุก็แล้ว ห้ามก็แล้ว เหนื่อยใจเลย
สรุปดูหนังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ คงต้องหาโอกาสดูอีกรอบ

 

โดย: wanwitcha 25 พฤษภาคม 2549 10:23:44 น.  

 

อยากดูเลยเชียว

ดูออลเวย์สแล้วค่ะ ชอบพอควร แม้บางช่วงจะรู้สึกว่ามัน "จงใจ" ไปนิด แต่ประทับใจในระดับหนึ่งเลยค่ะ

ดูพาราไดซ์นาวหรือยังคะ?

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 25 พฤษภาคม 2549 11:11:54 น.  

 

ตอนแรกก็ไม่แน่ใจในคุณภาพ(ของบท) ส่วนตัวภาพการ์ตูนนั้นดูดีอยู่แล้ว ... แต่พอมาอ่านบทวิจารณ์ของ คุณ จขบ. แล้ว เพิ่มความมั่นใจได้อีกอักโข จากตอนแรกอาทิตย์นี้ว่าจะดู X-Men3 คาดว่าคงจะได้ดูก้านกล้วยอีกเรื่องอ่ะครับ ... หนังไทย ถ้ามีดีพอ ผมก็ยินดีอุดหนุนเสมอ ถึงจะไม่ถึงระดับ เลอเลิศ เอาแค่ดูแล้วไม่รู้สึกว่ามันแย่ ก็โอแล้วอ่ะครับ
ปล. ชื่อภาษาอังกฤษของก้านกล้วย อ่านแล้ว จั๊กจี้พิลึก อิๆ

 

โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 25 พฤษภาคม 2549 11:12:53 น.  

 

หวัดดีค่ะ
ว่าจะเอาเด็กๆไปดูเหมือนกัน ตั้งใจว่าจะไปดูจริงๆไม่ใช่แรงโปรโมท แต่พยายามจะไปดูหนังไทยให้มากที่สุด เผื่อว่าผู้สร้างจะได้มีกำลังใจสร้างหนังดีๆ (คงเป็นเหตุผลที่ค่อนข้งไม่ได้เรื่องนะคะ)
ปกติก็ไม่ได้ดูหนังไทยทุกเรื่องค่ะ ใช้เซนท์เอาว่าเรื่องนี้คงดี จากตัวผู้กำกับ หรือนักแสดงอะไรประมาณนี้ ก็จะเป็นผิดหวังเสียเยอะแต่พยายามคิดว่าเอาน่า อุดหนุนคนไทยด้วยกัน (ล่าสุดที่ผิดหวังคงเป็นเรื่อง ช้างกูอยู่ไหน..555)
เรื่องนี้ก็ไม่คาดหวังมากแต่ตั้งใจจะไป พอมาอ่านบทวิจารณ์ก็ยิ่งรู้สึกอยากจะไปมากขึ้น
จ่ายค่าอ่านแล้วนะคะ..

 

โดย: จรมาเจอ IP: 58.8.117.190 25 พฤษภาคม 2549 13:56:22 น.  

 

รัก ก้านกล้วยมากกกกๆ

 

โดย: ดาด้า IP: 125.25.142.88 25 พฤษภาคม 2549 18:58:49 น.  

 

สาวไกด์ใจซื่อ ... ว่าจะไปดูอาทิตย์หน้าครับ พอดีวันนี้เลือกไปดูหนัง X แทน ก็สนุกดีนะครับ ปีนี้หนัง summer ไม่ดีมากมายแต่ก็ยังไม่เจอเรื่องไหนที่ถึงขั้นย่ำแย่

 

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 26 พฤษภาคม 2549 1:03:07 น.  

 

ยังไม่ได้ดูเลยอ่ะค่ะ

 

โดย: octavio 26 พฤษภาคม 2549 11:55:11 น.  

 

กลับไทยเดือนหน้า (วันที่ ๙) มันจะยังมีฉายอยู่หรือเปล่าครับ อยากดูจัง

 

โดย: absent-minded IP: 222.212.69.126 26 พฤษภาคม 2549 12:41:57 น.  

 

เป็นอนิเมชั่นที่สนุก ภาพสวย ตัวการ์ตูนวาดได้น่ารักดี เสียงพากย์สนุกสนานดีค่ะ
ดูแล้ว รู้สึกว่าก้านกล้วยสนุกได้ใจกว่า chicken little เยอะเลย
ชอบไดอะล๊อกขอสมเด็จพระนเรศวรตอนปลุกใจทหาร ที่ว่ากองทัพเรายิ่ง เล็ก ชัยชนะเรายิ่ง ใหญ่ ปลุกใจได้จริงๆ
เห็นด้วยว่าถ้าทำให้ตัวละครก้านกล้วยมีความลึกในแง่พัฒนาการด้านจิตใจมากกว่านี้จะดีมากๆเลยค่ะ(ในหนังเห็นแต่พัฒนาการด้านร่างกาย)

สรุปคือชอบ และ อยากให้ไปดูกันนะคะ
ได้โปรด !!! 555

 

โดย: ชบาแก้ว IP: 58.9.157.231 26 พฤษภาคม 2549 21:49:24 น.  

 

ตามมาชม

 

โดย: โยธิน IP: 58.8.74.83 27 พฤษภาคม 2549 10:32:57 น.  

 

บังเอิญว่าเป็นแฟนหนังการ์ตูนอยู่แล้วด้วย
ก็เลยทำให้หลงรักหนังแบบนี้ได้ง่ายๆ
ยิ่งตอนที่เป็นเด็กนี่ หน้าตาน่ารักมาเลยค่ะ
รู้สึกว่าเป็นหนังที่เทียบเท่าระดับสากลได้เลย

แต่ขัดใจนิดนึง
ตรงช่วงฉากที่ ก้านกล้วยลุกขึ้นมาฮึดสู้ ในการฝึกรบหน่ะ
รู้สึกว่าจะได้รับอิทธิพลมาจากหนังเรื่องอื่นพอสมควรเลยนะ
(ถ้าผู้ผลิตไม่ได้มีแรงจูงใจจากหนังเรื่องอื่น ในฉากนี้ ก็ขออภัยด้วยค่ะ)

 

โดย: Being Bee IP: 161.200.255.164 28 พฤษภาคม 2549 0:16:05 น.  

 

+ ในส่วนบท ... ผมว่าคนเขียนบทก็ฉลาดพอตัวทีเดียวล่ะ ที่เอาก้านกล้วยมาผูกโยงเข้ากับเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของไทย ทำให้น่าดูมากขึ้น เพราะถ้าเป็นชีวิตของช้างธรรมดา มันก็คงดูธรรมดาไป ... ส่วนช่วงก้านกล้วยตอนเด็ก ก็คงให้เด็กเอาไว้ดูสนุกๆ แหละครับ สำหรับภาคบังคับของพล็อตการ์ตูนแนวนี้ ถึงจะมีให้เห็นอยู่เยอะ แต่ก็ทำได้แบบเนียนๆ
+ ความเห็นส่วนตัวผม มีความรู้สึกว่า ถึงแม้ภาพทั้งหลายที่ออกมาจะดูสวย ดูดี (โดยเฉพาะฉากในป่า และยิ่งภาพกรุงศรีอยุธยาที่เป็นวัง รวมทั้งในหอเทพกุญชร นี่ดูแล้วขนลุกครับ) ... แต่ตัวการ์ตูนบางตัว (ส่วนใหญ่จะเป็นคน) มันมีลักษณะเหมือนตัวการ์ตูนของฝรั่งหรือญี่ปุ่นไปหน่อย ... แล้วก็ช่วงฉากรบ อาจดูโหดไปนิดสำหรับเด็ก (เล็กๆ)
+ ชอบดนตรีประกอบเช่นกัน เป็นส่วนสำคัญนอกเหนือจาก เนื้อเรื่อง, บรรยากาศ, ฉากบางฉาก (เช่นการลอยกระทง, ฟ้ามุมเงยที่เห็นพระจันทร์, ป่าเขาของเมืองไทย, วังอยุธยาและเพนียดคล้องช้าง ฯลฯ) ที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีความเป็นไทยอยู่เต็มเปี่ยม ... ที่ฝรั่งน่าจะชอบ และทึ่ง ถ้าได้ดูอ่ะครับ
+ ก่อนเข้าโรง ผมดื่มน้ำเยอะไปหน่อย ปวดฉี่แทบตาย แต่ก็ไม่อยากลุกออกไป กลัวพลาดฉากสำคัญ ตอนเพลงพี่แอ๊ดขึ้นนี่ อั้นจนเกือบลุกจากเก้าอี้ไม่ขึ้นแน่ะ เหอะๆ

 

โดย: บลูยอชท์ (รอบ ๒) IP: 210.1.33.130 29 พฤษภาคม 2549 12:10:47 น.  

 

ตอนไปดูไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ทั้งทางด้านบท และภาพ แต่ปรากฎว่ากลับทำได้ดีเกินคาดทั้ง 2 อย่าง เห็นด้วยกับคุณเจ้าของ blog ทุกอย่างครับ ช่วงตอนต้นเรื่องรู้สึกน่าเบื่อนิดๆ มาเริ่มสนุกเอาตอนกลางๆ เรื่องแหละครับ

ดีใจครับที่คนไทยทำได้ขนาดนี้

 

โดย: LeO2N IP: 203.114.124.183 29 พฤษภาคม 2549 23:55:29 น.  

 

ตั้งใจไปดูอยู่แล้วหลังจากเห็นตัวอย่าง..ว่าต้องมีอะไรดีๆ ชวนติดตามเป็นแน่ โดยเฉพาะสไตล์ของเอนิเมชั่น ที่เหนือความคาดหมาย(จากแค่จ๊ะทิงจา) อะไรก็ตามที่เป็นความตั้งใจของคนทำหนังไทย ก็ยินดีสนับสนุนและดูอย่างเอาใจช่วย ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เป็นหนังไทยที่ดูสนุกกว่าหนังที่มีคนจริงๆ มาแสดงเสียอีก หรือว่าดาราไทยแสดงไม่ถึงตัวละครการ์ตูนซะแล้ว

จริงๆ ช่วงต้นของเรื่องนั้นคนเขียนบทคงพยายามให้ความลึกกับตัวละครตามสมควร แต่เนื่องจากคงอยากให้บุคลิกความน่ารักของตัวการ์ตูน(ในสไตล์ดีสนีย์)ยังคงอยู่ เรื่องราวจึงอดไม่ได้ที่จะเอาใจเด็กๆ กับความสนุกสนานของตัวละครหลากหลาย (ทั้งช้างและคน ซึ่งตัวโตพอๆ กัน..อิอิ)

ก็เลยต้องวกมาถึงโปรดักชั่นดีไซน์ น่าเสียดายที่สไตล์การวาดของเรายังหาเอกลักษณ์ชัดเจนไม่ได้เท่าการ์ตูนญี่ปุ่น สไตล์ของตัวการ์ตูนจึงหลากหลายปนเป ทั้งน่ารักมั่ง น่าชังมั่งรวมๆ กันไป ยังดีที่ตัวก้านกล้วยดูลงตัวที่สุด ส่วนสารพัดช้างอื่นๆ ก็แปลกประหลาดมหัศจรรย์ไปตามแคแรคเตอร์ที่พยายามจะสร้าง ซึ่งสัดส่วนของช้างตัวใหญ่ที่ขายาวๆ จะดูแปลกอยู่ แต่กระนั้นก็ยังดูโอเคกว่าดีไซน์ของตัวมนุษย์ ซึ่งตั้งใจเป็นการ์ตูนสุดฤทธิ์สุดเดช จนรู้สึกประหลาดที่เห็นกองทัพการ์ตูนสารพันแคแรคเตอร์ยกทัพมาตีกัน การออกแบบตัวละครมนุษย์ที่ลงตัวที่สุดคงจะเป็นสมเด็จพระนเรศวร ที่ดูดีและได้บุคลิกที่สุด ก็เลยนึกแปลกใจว่าทำไมไม่วาดตัวละครอื่นให้บุคลิกลักษณะใกล้คนมากกว่านี้ ยังจะดูเข้าท่ากว่า คงเป็นเพราะเนื้อเรื่องช่วงหลังนั้นเริ่มซีเรียสขึ้นด้วย ทำให้แคแรคเตอร์ตลกๆ แบบการ์ตูนดูไม่เข้ากัน

ฉากหลังโดยเฉพาะในส่วนของป่าเขาลำเนาไพร ทำได้ดีและแฟนตาซีสวยงามอย่างน่าทึ่ง หากแต่ฉากปราสาทราชวังในกรุงศรีนั้นดูแข็งๆ ไปบ้าง หรือสมจริงไปบ้างเมื่อเทียบกับตัวละครการ์ตูนทั้งหลาย กระนั้นก็ให้ความรู้สึกเป็นไทยๆ ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร อย่างที่คุณ จขบว่าไว้ หากแต่รายละเอียดของ texture และการ render ภาพถ้าทำได้ละเอียดกว่านี้อีกสักหน่อยโดยรวม ก็จะทำให้ดูเนียนและตื่นตากว่านี้ จะรู้สึกแปลกๆ บ้างตรงเอา effect ของเปลวไฟ.. ของแสง.. ของท้องฟ้าที่ดูสมจริง เข้ามาปนเปกับความเป็นการ์ตูน

เห็นด้วยอีกประการหนึ่งคือ ดนตรีประกอบที่โดดเด่น และชอบสำเนียงไทยๆ ที่ไม่เคยได้ยินมานาน (นับตั้งแต่โหมโรง) แต่คราวนี้ดูจะผสมผเสกับแนวสากลอยู่ไม่น้อย อยากให้ทำสำเนียงไทยๆ ได้หมดทั้งเรื่องก็จะเยี่ยม ที่ชอบอีกอย่างคือการเลือกเครื่องดนตรีเสียงแปลกๆ ดูเป็นเอกลักษณ์ ทำให้สะดุดหูดี แต่ที่เฉยๆ คือเสียงพี่แอ๊ด คาราบาวอะ ฟังแกร้องแล้วเหนื่อยๆ พิกล สงสัยฟังเพลงโฆษณาเบียร์ช้างเยอะไป..อิอิ คงอยากจะมาร์เก็ตติ้งจ๋า ขายของๆๆ จ้า...

คนไทยดูเรื่องนี้จะได้ความรู้สึก และอารมณ์ความประทับใจกว่าต่างชาติแน่นอน ด้วยความรู้ในเบื้องลึกด้านประวัติศาสตร์ ให้ความรู้สึกฮึกเหิมภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย และความกล้าหาญของสมเด็จพระนเรศวร นับว่าทำฉากต่อสู้ได้อารมณ์ดีทีเดียว แต่ออกจะจบห้วนๆ ไปเล็กน้อย แล้วภาพลายไทยมาขั้นกับการ์ตูนมันก็สะดุดความรู้สึกเล็กๆ เอาเหอะ..ได้แค่นี้ก็ประเสริฐแล้ว เอาไปโชว์เมืองนอกได้สบายๆ เลย หนับหนุนๆ..

 

โดย: Bkkbear IP: 124.120.199.28 30 พฤษภาคม 2549 10:52:29 น.  

 

เข้ามาอ่าน เพราะอยากจะรู้ว่า ควรจะคาดหวังมากแค่ไหน กับการชมภาพยนต์เรื่องนี้

 

โดย: mda IP: 203.159.12.16 31 พฤษภาคม 2549 13:29:10 น.  

 

แค่สงสัย......
ทำไมช้างของพม่าตัวโตและมีอาวุธมากกว่าเรา ?
คนพม่าก็ตัวอ้วน ๆ คนไทยผอมเล็กนิดเดียว ?

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็สนุกดี เด็ก ๆ คงชอบ

 

โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 203.144.196.34 1 มิถุนายน 2549 9:02:51 น.  

 

ชอบมากๆ คือ การลอยกระทง ที่ทำเป็นอนิเมชั่น โคตะระสวย กับเพลงสไตร์ไทยๆ

 

โดย: seam-c IP: 58.9.101.211 1 มิถุนายน 2549 21:50:14 น.  

 

อยากดูเหมือนกัน... แต่อยากดู Always มากกว่า... เลยต้องรีบไปดูก่อน... เดี๋ยวมันจะออก (ท่าทางคุณจขบ.นี่สมัครเป็นป๋าดันเรื่องนี้สุดๆเลยเนอะ...แปะทุกหน้าเลย ^^)
ไม่ได้คาดหวังอะไรกะหนังเรื่องนี้เลย เพราะกลัวว่าจะไปผิดหวังซะ...
แต่อย่างนึงที่เดาถูกตั้งกะได้ยินพล็อตเรื่องเลยคือ... เรื่องนี้น้าแอ๊ด คาราบาวต้องมีแจมแน่ๆ... เหอๆ... หนัง-ละครอย่างนี้เอาทุกเรื่องเลยเนอะ... ^__^

 

โดย: snowbell IP: 58.136.73.115 6 มิถุนายน 2549 3:34:07 น.  

 

ดูแล้ว ชอบมากค่ะ
แม้ว่า การขมวดปมตอนจบ จะ ดูสั้นๆไป

แอบบอกว่า คุณแม่รีเควสเลยนะคะ
ถึงได้ไปดูเนี่ย
น่าขอบคุณ คุณแม่เราจริงๆ
555+
จะบอกว่ามาแอบอ่านบ่อยๆ ค่า
ไม่ค่อยได้โพสเท่าไหร่

ช่วงนี้ ค่าอะไร ก้อแพง แถม เราต้องเจียดเงินไปทำอะไรบางอย่าง
เลยไม่ค่อยมีตังดูหนังโรงเท่าไหร่ค่ะ

 

โดย: vodca IP: 124.121.135.237 22 มิถุนายน 2549 6:34:07 น.  

 

 

โดย: ณัฐกาน IP: 124.157.184.174 23 มิถุนายน 2549 18:48:13 น.  

 

หนูช้อบชอบ อยากดูอีก ชอบมาก

 

โดย: หนูนา IP: 124.120.49.86 11 กรกฎาคม 2549 10:06:04 น.  

 

ใครไม่ได้ดูนะ เช้ยเชย ฮิฮิฮิ

 

โดย: หนิง IP: 124.120.49.86 11 กรกฎาคม 2549 10:10:43 น.  

 

อู้หู่สุดยอด

 

โดย: นรสิงค์ IP: 124.120.50.75 15 กรกฎาคม 2549 18:21:44 น.  

 

 

โดย: 5 IP: 61.7.129.38 29 กรกฎาคม 2549 10:11:14 น.  

 

 

โดย: nut IP: 125.24.2.141 3 สิงหาคม 2549 16:20:45 น.  

 

ชอบดูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: ตี๋ IP: 58.9.199.175 5 สิงหาคม 2549 17:49:29 น.  

 

นันอยากดูก้านกล้วย

 

โดย: นัน IP: 124.121.126.100 6 สิงหาคม 2549 14:27:34 น.  

 

ชบาแก้ว รัก ก้านกล้วย

 

โดย: นัน IP: 124.121.122.58 7 สิงหาคม 2549 7:31:33 น.  

 

หนุ้กหนุกแต่ดูไม่จบอยากดูอีกจัง

 

โดย: XxxX IP: 125.25.27.89 8 สิงหาคม 2549 19:21:48 น.  

 

บาย

 

โดย: ไม่รู้ว่าทำอะไร IP: 125.25.27.89 8 สิงหาคม 2549 19:23:28 น.  

 

 

โดย: รบ่รงารนง IP: 203.172.130.98 13 สิงหาคม 2549 13:49:39 น.  

 

 

โดย: เฉลิมชนม์ คำเฉย IP: 58.147.122.124 22 สิงหาคม 2549 19:40:41 น.  

 

 

โดย: ong IP: 203.172.117.44 30 สิงหาคม 2549 19:39:21 น.  

 

ก้านกล้วยหนุกสุดๆ แต่ดูแล้วซึ้ง

 

โดย: นุก IP: 203.151.46.131 30 กันยายน 2549 11:30:54 น.  

 

 

โดย: kkk IP: 124.157.173.186 27 ตุลาคม 2549 18:27:55 น.  

 

เรื่องนี้ดูในโรงภาพยนตร์ทั้งครอบครัว มีภรรยา ลูกสาว ๖ ขวบ และลูกสาว ๓ ขวบ (เป็นการดูหนังในโรงฯ ครั้งแรกของเด็กๆ) ทุกคนชอบกันหมด ยังเก็บตั๋วหนังไว้อยู่เลย
ลูกสาวคนเล็กเห็นช้างก็เรียก กล้วยๆ แบบเด็กๆ
ส่วนผมมีความรู้สึกตอนท้ายว่าบรรพบุรุษของเราอุตส่าห์ต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองมา ทำไมคนปัจจุบันจ้องทำลายแผ่นดินเกิด บังเอิญตอนนั้นการเมืองยังอึมครึม

 

โดย: คนขับช้า 24 ธันวาคม 2549 14:03:08 น.  

 





 

โดย: สาธิต IP: 125.25.4.103 21 มกราคม 2550 10:26:42 น.  

 

 

โดย: ออ IP: 61.19.31.74 24 มกราคม 2550 15:18:51 น.  

 

รักน่ะเด็กโง่

 

โดย: อาน IP: 61.19.31.74 24 มกราคม 2550 15:21:21 น.  

 

 

โดย: 12485 IP: 222.123.27.192 28 มกราคม 2550 13:56:46 น.  

 

ควายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: โอโซน IP: 58.181.177.102 9 เมษายน 2550 12:52:58 น.  

 

55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555











 

โดย: perth IP: 125.25.146.176 29 เมษายน 2550 21:44:49 น.  

 

 

โดย: เจ IP: 125.25.219.25 9 มิถุนายน 2550 12:14:31 น.  

 

ดกดกดกดกด

 

โดย: ดกดกดกดกดกด IP: 125.26.247.7 22 มิถุนายน 2550 11:32:42 น.  

 

ชอบมากครับเรื่องนี้ ให้ 10 เต็มเลย

 

โดย: lkunl IP: 144.5.59.109 1 กรกฎาคม 2550 14:29:03 น.  

 

ก้านกล้วย ใจกล้ามากครับ

 

โดย: ... IP: 124.157.185.7 2 สิงหาคม 2550 18:17:55 น.  

 

ไอ้ควายเอยไม่สนุกเลย

 

โดย: ...1 IP: 124.157.185.7 2 สิงหาคม 2550 18:19:43 น.  

 

ชอบมากเลยนะ
ยิ่งตอนนี้เรียนโปรแกรม Flash กับ photoshop อยู่
เลยพอจะนึกภาพแอนิเมชั่นออก

 

โดย: ฉันอยู่ข้างหลังคุณอีกที IP: 202.28.181.9 3 พฤศจิกายน 2550 15:46:00 น.  

 

ชอบ

 

โดย: แบงค์ IP: 61.7.191.179 11 มกราคม 2551 12:38:59 น.  

 

ชอบดูมากๆเลยครับผมสาธุเห็น

 

โดย: แบงค์ IP: 61.7.191.179 11 มกราคม 2551 12:40:52 น.  

 

หนูชอบจิ๊ดริ๊ดมักมากกกกกกกกกกกค่ะ

 

โดย: ไอซ์ IP: 125.26.251.116 29 สิงหาคม 2551 10:10:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.