www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข



...เคยลองสังเกตไหมว่า เราแบ่งชีวิตของเราไว้กับเรื่องอะไรบ้าง หากกระดาษแผ่นหนึ่งคือพื้นที่ชีวิตของเรา ลองหยิบดินสอมาตีตารางแบ่งพื้นที่ชีวิตของเราดูบ้างไหม ว่า เราให้ความสำคัญกับอะไรบ้างในชีวิตแต่ละวัน

พื้นที่ชีวิต ของคนเราแต่ละคนแบ่งความสำคัญไว้ไม่เท่ากัน

...บางคนแบ่งส่วนหนึ่งไว้ให้ครอบครัว ส่วนหนึ่งไว้ให้กับการงาน ส่วนหนึ่งไว้ให้กับความรัก ส่วนหนึ่งไว้ให้กับมิตรสหาย แล้วแต่ว่าจะแบ่งสัดส่วนมากน้อยต่างกันไปอย่างไร

....บางคนยกพื้นที่ชีวิตทั้งหมดไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น ยกพื้นที่ชีวิตให้คนรักทุกตารางนิ้ว หรือ บางคนก็ทุ่มกับงานจนแทบจะไม่เหลือให้กับอย่างอื่น เมื่อสูญเสียสิ่งนั้นไป ชีวิตคนๆนั้นจึงเหมือนกับสูญสลายทุกอย่าง

Elizabeth Masterson คุณหมอสาวที่ใช้พื้นที่ชีวิต 100 % ไปกับหน้าที่การงาน ตลอด 24 ชั่วโมงเธอมีแต่งาน ในขณะที่คนรอบข้างพูดถึง คนรัก ลูก ครอบครัว เธอได้แต่นิ่งรับฟัง คนใกล้ตัวเธอบางคนแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอพักที่เดียวกับเขา ในสายตาของคนอื่น เธอเหมือนไม่มีตัวตน เธอเหมือนคนซึมเศร้าสิ้นหวัง และ ในวันที่เธอกำลังจะเดินทางกลับไปฉลองตำแหน่งใหม่พร้อมไปพบกับคู่เดทที่พี่สาวนัดไว้ให้ คือ วันที่อุบัติเหตุรถยนต์พรากวิญญาณให้หลุดออกจากร่างของเธอ

David Abbott อดีตนักตกแต่งสวนที่ใช้พื้นที่ชีวิต 100% ของปัจจุบันไปกับอดีตที่ไม่มีวันย้อนกลับมา การสูญเสียภรรยาของเขาทำให้เขาใช้ชีวิตจมอยู่กับเบียร์ การนอน และ อยู่อย่างไร้จุดหมาย การมีชีวิตอยู่ของเขาก็ไม่ต่างจากวิญญาณของ Elizabeth เพราะมันคือชีวิตที่ไร้ตัวตน

...เมื่อเขามาเช่าห้องที่เธอเคยเป็นเจ้าของ นั่นคือ จุดเริ่มต้นที่วิญญาณไร้ร่างของ Elizabeth มาพบกับ ร่างกายที่เสมือนไร้วิญญาณ ของ David

...เธอจำไม่ได้ว่าเธอคือใคร เธอยังคิดว่าเธอยังมีชีวิตมีร่างกายปกติ และ คิดว่าเขาเข้ามาแย่งห้องพักของเธอ จนเขาทำให้เธอเชื่อว่าเธอเป็นเพียงวิญญาณ และ เขาก็ค่อยๆช่วยเธอตามหาตัวตนที่หลงลืมไป ด้วยการพาเธอไปยังสถานที่ที่คุ้นเคย ไต่ถามผู้คนที่รู้จักตัวเธอ

ถ้าเราเป็น Elizabeth คงเป็นเรื่องน่าเศร้า เมื่อพบว่า ผู้คนรอบข้างแทบจะไม่มีใครรู้จักเราเลยแม้แต่คนที่พักอยู่ใกล้ๆกัน คนอื่นๆมองเห็นเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างแห้งแล้ง จมจ่อม ดูหดหู่ไร้ชีวิตชีวา ในช่วงที่มีชีวิตแต่กลับใช้ชีวิตเหมือนไร้ตัวตน และ นั่นคือ Elizabeth ในสายตาคนรอบข้าง ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุ

... การรื้อฟื้นความทรงจำของ Elizabeth มันไม่ได้มีความหมายแค่การค้นหาความทรงจำ แต่มันยังเป็นเหมือนกับ การที่คนเราได้หยุดนิ่งแล้วย้อนดูชีวิตตัวเองที่ผ่านมา เธอได้เห็นภาพตัวเองที่ไม่เคยรู้ไม่เคยมองมาก่อน เพราะ ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ เป็นเหมือน ชีวิตของคนที่เดินไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว โดยไม่เคยหยุดนิ่งหรือย้อนมองดูชีวิตของตัวเอง กว่าจะรู้ตัวหรือมีโอกาสหันมามองบางครั้งมันก็สายเกินไป เราใช้ชีวิตทุกวันนี้เป็นอย่าง Elizabeth กันบ้างหรือเปล่า ?

...ก่อนหน้านั้น ทั้งสองคนล้วนให้พื้นที่ชีวิตถูกยึดครองด้วย การงาน และ อดีต จนไม่มีเนื้อที่เหลือเผื่อให้กับความสุข จนกระทั่งเมื่อทั้งสองคนได้พบกัน สำหรับ Elizabeth การได้เจอกับ David การได้สัมผัสตัวเขามันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับมีตัวตนขึ้นมาอีก และ เช่นกัน สำหรับ David การที่เขามี Elizabeth อยู่ข้างกาย มันก็ทำให้เขารู้สึกถึงชีวิตที่มีตัวตนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

... เพราะอะไรเขาจึงเป็นคนเดียวที่มองเห็นเธอ ? เพราะอะไรเวลาหลานจับมือเธอแล้วไม่รู้สึกอะไรแต่เธอสัมผัสความรู้สึกได้เมื่อพบกับเขา ? หนังให้ความรักเป็นคำตอบของคำถามเหล่านั้น คนที่เคยมีความรักคงจำความรู้สึกได้ว่า ความรู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่ ความรู้สึกของการมีตัวตนบนโลกใบนี้เป็นอย่างไรเมื่อความรักเกิดขึ้นในใจเรา

... ความน่าสนใจมากที่สุดที่ดึงดูดผมให้เลือกดูหนังเรื่องนี้ คือ หนังเป็นผลงานการกำกับของ Mark Waters ผู้กำกับที่มีผลงานหนัง comedy ที่ไม่ธรรมดาอย่าง Mean Girls และ Freaky Friday เขาทำให้หนังของตัวเองเป็นหนัง comedy มีดีกว่าหนังสูตรทั่วๆไป หนังของเขามีความลึกและมีชั้นเชิง ไม่เล่าเรื่องอย่างตื้นเขิน Mean Girls เป็นหนึ่งในหนังวัยรุ่นที่ดีมากเรื่องหนึ่ง (สำหรับผมมันดีในระดับเดียวกับ 10 things ihate about you หนังวัยรุ่นที่ดีที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา) ส่วน Freaky Friday ก็สามารถดึงความสามารถของสองนักแสดงออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ และ ไม่ได้มีมุกง่ายๆแค่ แม่-ลูกสลับร่างกัน

....ทั้งสามเรื่องรวมเรื่องนี้ มันเป็นหนังที่ตัวละครจะได้เรียนรู้จักตัวเองผ่านวิธีการที่แตกต่างกัน

ใน Mean Girls ... การถูกกลืนกินตัวตน กลายเป็น กลุ่มสาวพลาสติก ทำให้ตัวเอกได้เรียนรู้จักชีวิตมากขึ้น ได้รู้ว่า"เปลือก"ที่ผู้คนยกย่องและคนที่ชื่นชม"เปลือก"นั้นเป็นอย่างไร ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ก่อนที่จะรู้ได้จริงๆว่าเราจะใช้ชีวิตยึดอยู่ที่แก่นหรือเปลือก

ใน Freaky Friday ... การสลับร่าง มันทำให้คนเป็นแม่เข้าใจถึงความยากลำบากในการปรับตัวต่อการเป็นวัยรุ่นของลูกสาว และ มันทำให้คนเป็นลูกเข้าใจถึงความยากลำบากต่อการทำหน้าที่แม่ที่ดี

..ใน Just Like Heaven ก็เช่นกัน การที่ Elizabeth ได้มีโอกาสตามค้นหาความทรงจำ ทำให้เธอได้เห็นภาพตัวเองจากสายตาคนอื่นและ จากสายตาตัวเองในมุมมองไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้เธอค้นพบพื้นที่ชีวิตบางส่วนที่วิ่นแหว่งไป เมื่อเธอพบว่า การงาน ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เติมเต็มชีวิตเธอได้ ชีวิตของเธอที่มีงานวันละ 26 ชั่วโมง มันทำให้เธอแทบจะไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตส่วนอื่นๆ สวนหรือสวรรค์ที่เธอฝันอยากจะมี ก็เป็นได้แค่เพียงภาพฝันที่วาดไว้

หาก งาน คือ สิ่งที่ทำให้จิตวิญญาณของเธอหลุดลอยออกจากร่าง ทั้งในช่วงมีชีวิตหรือในช่วงปัจจุบัน อดีต คือ สิ่งที่ทำให้ เดวิด เหมือนไร้จิตวิญญาณเช่นเดียวกัน

Darryl คนขายหนังสือ บอก David ว่าเขาสัมผัสได้ถึงวิญญาณที่อยู่ในตัว David ที่ไม่ยอมไปไหน David คิดว่าหมายถึง Elizabeth แต่แท้จริงแล้ว Darryl กำลังหมายถึง ความทรงจำของภรรยา David ที่ครอบงำชีวิตปัจจุบันของเขาไม่ให้ไปไหน ไม่ใช่วิญญาณของอดีตภรรยาที่ลอยวนเวียนแต่เป็นความทรงจำที่ David ไม่ยอมปลดปล่อยมันทิ้งไป

... หากสวนที่เป็นเหมือนสวรรค์และมันคือตัวแทนของความสุข ไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะ Elizabeth ใช้เวลาทั้งชีวิตไปเพื่องานไม่มีเวลาในการสร้างมันขึ้นมา David เองก็มีส่วนที่ทำให้สวนหรือความสุขนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะ เขาทิ้งความเป็นนักตกแต่งสวนไว้กับอดีตไปแล้ว จนเมื่อ


ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มส่วนที่วิ่นแหว่งในพื้นที่ชีวิตของตัวเอง งานของเธอ และ อดีตของเขา ถูกความรักของเขาและเธอ มาแบ่งปันเนื้อที่ มันเป็นพื้นที่ชีวิตที่ทั้งสองคนยืนคู่กันแล้วสัมผัสได้ถึงความสุข ความรู้สึกมีตัวตน สวนของเธอก็ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป เมื่อเธอได้มาเข้ามากู้ชีวิตของ David ที่ทิ้งความเป็นช่างตกแต่งสวนไว้ในอดีตให้กลับมาอยู่ในโลกปัจจุบันเพื่อสร้างสวนร่วมกัน


...จากหนังตัวอย่างทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้มากไปกว่า เรื่องราวประมาณว่าเป็น romantic-comedy ที่วิญญาณนางเอกตายแล้วยังมีภารกิจคั่งค้างที่ไม่ได้ทำคล้ายๆกับเรื่อง Ghost ปรากฎว่าผมเดาผิด แต่มันก็เป็นความเข้าใจผิดที่ส่งผลดี เพราะเมื่อหนังเดินเรื่องไปซักพัก พอเริ่มมีรายละเอียดและประเด็นนำเสนอแตกต่างออกไป มันก็ส่งผลให้มันเป็นความบันเทิงที่ดูสนุก และ มีข้อคิด มากไปกว่าพล็อตรักโรแมนติกทั่วๆไป และ นี่ก็ยังคงเป็นความสามารถของผู้กำกับคนนี้ที่สามารถทำให้หนังตัวเอง แม้จะเป็นหนังสูตรสำเร็จเดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ สามรถมีดีแตกต่างจากหนังในแนวเดียวกัน เพียงแต่ว่าคราวนี้ความสามารถในจุดนี้นั้นยังไปได้ไม่ดีเท่ากับเรื่องเก่าๆก่อนหน้านั้น

... หนังเล่าเรื่องแบบสบายๆ เดินไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งร้อน มุกทั้งหลายเป็นสูตรสำเร็จที่คนดูเคยพบเห็นและเดาได้ไม่ยากเย็น จึงทำให้ไม่สามารถสร้างความประหลาดใจหรือความรู้สึกลึกกินใจได้มากมาย แต่ต้องชมผู้กำกับและนักแสดงสามารถนำเสนอความซ้ำซากหรือสูตรสำเร็จของมุกเหล่านี้ออกมาได้อย่างน่ารัก ชวนให้ประทับใจ

....การเฉลยเงื่อนปมบางอย่างไม่ทำให้ผมประหลาดใจมาก เพราะทุกอย่างในเรื่องมีการบอกใบ้อยู่เป็นระยะๆ แถมจุดเซอรไพรซ์ มันก็ไพล่ไปเหมือนกับหนังเกาหลีชื่อดังเรื่องหนึ่งอย่างมาก และ นี่คือจุดอ่อนที่ผมคิดว่าเป็นของ Just Like Heaven คือ ความเบาของมันจากที่กล่าวข้างต้นทำให้ฉากนี้สัมฤทธิ์ผลได้ไม่มากพอ เหมือนกับที่หนังเกาหลีเรื่องนั้นทำสำเร็จ ในหนังฉากเฉลยฉากนี้มาอย่างรวดเร็วและจบลงอย่างรวดเร็ว การเฉลยจุดนี้เหมือนเป็นแค่รายละเอียดเล็กๆของหนังก่อนที่จะตามมาด้วยความชุลมุนวุ่นวายของเหตุการณ์ถัดมา ทั้งที่นี่คือปมสำคัญหนึ่งที่น่าจะเล่นกับความรู้สึกคนดูได้มากกว่านี้

..สองนักแสดงนำ Reese Witherspoon + Mark Ruffalo เล่นกันอย่างสบายๆ ใครเป็นแฟนของ Reese Witherspoon ก็คงไม่ผิดหวังกับความน่ารักของเธอในเรื่อง มีฉากเสี้ยววินาทีสั้นๆฉากหนึ่งที่เธอเล่นได้ดีแต่มันตัดผ่านไปเร็วเหลือเกิน คือ ฉากตอนต้นเรื่องที่คนรอบตัวเธอพูดถึงครอบครัวแล้วบอกถึงความโชคดีที่เธอมีแต่งาน แล้วทุกคนก็จากไปเหลือเธออยู่หน้ากระจก ใบหน้าแววตาในกระจกของเธอในฉากนี้บอกความรู้สึกของคนที่ไม่รู้จักตัวเองและเป็นคนที่ยังไม่มีความสุขได้อย่างยอดเยี่ยม คงต้องรอดูเธอใน Walk the line ผลงานที่ส่งเธอเข้าชิงและคว้ารางวัลอยู่หลายสถาบันในตอนนี้ คนที่เล่นได้ขโมยซีนเป็นพิเศษคือ Jon Heder นักแสดงนำจาก Napoleon Dynamite (หนังของเด็กเนิร์ดปีก่อนที่ใครได้ดูล้วนชื่นชม) ที่มารับบทเป็น Darryl คนขายหนังสือผู้เชื่อเรื่องจิตวิญญาณ ซึ่งคอยปล่อยประโยคเด็ดๆในเรื่องอยู่เป็นพักๆ และ ทำให้ผมเกิดความอยากเสาะหา Napoleon Dynamite มาดูมากยิ่งขึ้นไปอีก

สิ่งที่ชอบ

1.ความเบาสบายๆ และ การเล่าเรื่องง่ายๆ ... หนังดำเนินเรื่องอย่างผ่อนคลาย สบายๆ นั่งดูไปแบบยิ้มไปน้ำตาซึมนิดๆไปเรื่อยๆ ผู้กำกับส่งต่อความเบาสบายมายังคนดู ผู้กำกับเล่าเรื่องแบบง่ายๆแต่สัมผัสได้ในใจคนดู แม้มุกจะเก่า เดาได้ แต่ ก็ยังน่ารักประทับใจอยู่ดี

2.รายละเอียดของเรื่อง ... ผมชอบที่หนังไม่เดินย่ำซ้ำรอยหนังแนวนี้อย่าง Ghost ประเภทที่ว่า วิญญาณยังไม่ไปไหนเพื่อให้ไปช่วยอะไรบางอย่าง หนังมีรายละเอียดแตกต่างออกไป มีมุมมองที่น่าสนใจมากกว่าแค่เรื่องความรัก หนังให้แง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนเราในทุกๆวัน

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ความเบาและง่าย ... ด้วยความเบาสบายของมันก็เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะหนังทำให้ช่วงท้ายที่น่าจะสร้างความประทับใจได้มากกว่านี้ ล่องลอยผ่านไปอย่างบางเบา หลายตอนที่ทำให้คนดูได้แค่น้ำตาปริ่มๆ ตัวหนังดูแล้วมีความสามารถที่จะเรียกความประทับใจได้มากกว่านี้ แต่มันก็แค่เกือบๆ ความง่ายของการเล่าเรื่องคือสิ่งที่ผมชอบ แต่ความง่ายของการคลี่คลายเหตุการณ์ทั้งหลายเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบ เช่น ตอนท้ายที่โรงพยาบาลกับการที่จู่ๆก็ลุกมาจากเตียงได้เป็นความง่ายที่ขัดความรู้สึกเกินไปหน่อย

สรุป … ดูแบบเบาๆสบายๆไม่เสียดายตังค์ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมคาดหวังไปน้อยด้วยหรือเปล่า ทำให้ไม่ผิดหวังแต่อย่างใด หนังอาจไม่ถึงกับประทับใจขีดสุดแต่มันก็ไม่ได้น่าเบื่อ หลายช่วงเวลาในหนังสามารถเข้าถึงใจคนดูได้ง่ายๆ ด้วยเหตุผลว่าเรื่องที่หนังกำลังบอกเล่าอยู่เป็นเรื่องใกล้ตัวเราทุกคน และ ด้วยความสามารถของนักแสดง+ผู้กำกับที่สามารถส่งต่อมันเข้าไปสู่ใจคนดู

ปล. หลังจากดูตัวอย่างของ Pride and Prejudice จบลงทำให้ผมยกมันขึ้นเป็น 1 ในหนังที่น่าดูที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของปีนี้ หนังตัวอย่างทำออกมาได้น่าดูมากๆ

ปล 2. คิดถูกมั้ยนี่ ซื้อแพ็คเกจตั๋วล่วงหน้า 10 ใบ 1000 บาท ของ Paragon Cineplex ไว้ คนขายยืนยันว่าหนังเข้าใหม่ดูได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งนั้น ขอให้จริงอย่างที่บอกด้วยเถิด เพราะกลัวเหลือเกินว่าจะเหมือนกับเงื่อนไขใจโลเลที่ผ่านๆมาของเครือ Major


ขอบคุณครับ สำหรับทุกเสียงโหวต ที่มีให้ Blog นี้ได้เป็น BlogGang Popular Award สาขาภาพยนตร์


ขอคิดค่าบริการต่อ 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป

ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง




 

Create Date : 16 มกราคม 2549
66 comments
Last Update : 15 เมษายน 2549 23:34:24 น.
Counter : 4465 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะ
คงต้องไปดูซะแล้ว อิอิ

 

โดย: zMee 16 มกราคม 2549 1:24:41 น.  

 



แวะมาอ่านก่อนไปดูหนังเรื่องนี้ค่ะ ว่าจะไปดูอยู่นะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลที่ช่วยให้ตัดสินก่อนการไปดูค่ะ

ช่วงนี้ยุ่งมั้ยค่ะ สบายดีรึป่าวค่ะ ทำงานมีความสุขนะค่ะ

คืนนี้ก้อหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ นะค่ะ

 

โดย: NinG_CDC 16 มกราคม 2549 1:48:45 น.  

 

ชอบนางเอกครับน่ารักดี

 

โดย: ชายคา 16 มกราคม 2549 6:32:22 น.  

 

ชอบ รีส มาก เธอมีเสน่ห์ที่สุด

 

โดย: jaa_aey 16 มกราคม 2549 7:56:18 น.  

 

ผมก็คิดว่าหนังมันเบาๆ ครับ

แต่ก็ไม่ได้เบาจนไร้สาระและเสียเวลา

เพราะอย่างน้อย ก็มีอะไรสนุกๆ ดีๆ ที่น่าสนใจ

ให้ผู้ชมได้หยุดคิด เปรียบเทียบตัวเองกับนักแสดงนำ

ว่า "แล้วฉันหล่ะ กำลังทำอะไรอยู่"

สำหรับผม ดูแล้วคิดถึงแฟนครับ

 

โดย: Marvellous Boy 16 มกราคม 2549 9:02:01 น.  

 

เห็นตัวอย่างแล้วอยากดูอยู่เหมือนกัน

แต่ไม่แน่ใจว่ามันต้องขนาดดูในโรงเท่านั้นหรือเปล่า? หรือรอเป็นแผ่นก็ได้?


แพ็คเก็จพารากอนน่าสนใจแฮะ ยังขายอยู่หรือเปล่าคะ?


อ้อ..เราว่าที่ทำงานคุณกะเราใกล้กันแหละ ดูหนังในโรงโซนๆ เดียวกันหมดเลย

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 มกราคม 2549 9:08:37 น.  

 

ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ

สงสัยว่าตอนที่พระเอกถามนางเอกว่าอยากจะทำอะไร แล้วทั้ง 2 คนนอนบนเตียง นั่นเค้าจะสื่อถึงอะไร?

แล้วทำไมหลานสาวเค้ามองเห็นหล่ะ?

ถ้าสมมุติว่ามีคนมาบอกว่า คนที่เรารู้จักยืนอยู่ข้างๆตัวเรา ทั้งที่เรามองไม่เห็น ก็ไม่รู้ว่าคิดยังไงเหมือนกัน? (ต้องคิดว่ามันบ้าก่อนแน่ๆ)

รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ชอบสลับอารมณ์ไปๆมาๆยังไงก็ไม่รู้ กำลังฮาฮาอยู่ แล้วก็เปลี่ยนเป็นเศร้า สับไปสับมาอยู่บ่อยๆ

 

โดย: cry_mandy IP: 58.9.31.218 16 มกราคม 2549 10:16:13 น.  

 

^รอแผ่นค่ะ เพราะไม่ได้ดูแหงมๆ

=)

 

โดย: hunjang 16 มกราคม 2549 12:30:19 น.  

 

โอเคค่ะ ถ้าได้ผ่านไปแถวนั้นจะซื้อเป็นเพื่อน ว่าแต่มันมีวันหมดอายุมั้ยอะคะ?


ส่วนเรื่องนี้สงสัยจะรอดูแผ่นแหละค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 มกราคม 2549 12:49:47 น.  

 

มีโอกาสจะไปดู ขอบคุณค่ะ

 

โดย: เตย (terrynop ) 16 มกราคม 2549 13:14:41 น.  

 

น่าดูมากเลยค่ะ

 

โดย: อพันตรี 16 มกราคม 2549 14:02:34 น.  

 



 

โดย: Michiyo 16 มกราคม 2549 16:50:17 น.  

 

เมื่อวานลังเลระหว่างเรื่องนี้กับ The Fog แต่รอบ The Fog มันลงตัวกว่า เลยดู The Fog ไปซะแล้ว เรื่องนี้เลยต้องรออาทิตย์หน้าเลย

 

โดย: W i n t e r b e r r y 16 มกราคม 2549 16:57:44 น.  

 

ใครเคยอ่านหนังสือนิยายแปลฝรั่งเศสเล่มนี้บ้างคะ



เล่มนี้แหล่ะที่เป็นที่มา...อืมม เรียกว่าให้แรงบันดาลใจเสียมากกว่ากับหนังเรื่องนี้ เพราะคุณสปีลเบิร์กซื้อไปแค่ความคิดที่ว่านางเอกเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่พระเอกเห็นคนเดียว

ตอนนี้พิมพ์ใหม่เปลี่ยนหน้าปกเป็นแบบนี้ค่ะ



เขาว่าแปลดีกันนะคะ
ฉันไม่รู้
บอกไม่ได้
เพราะว่า
เป็นคนแปลเอง

 

โดย: Mutation 16 มกราคม 2549 21:31:41 น.  

 

เขียนได้โดนใจมากเลยค่ะ ในทุกประเด็นที่กล่าวมา ตรงคำพูดที่ว่า "วิญญาณไร้ร่าง กับ ร่างที่เสมือนไร้วิญญาณ" ตอนดูรู้สึกแบบนี้เลยนะ แต่ไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดยังไง พอคุณใช้คำนี้มันเป็นคำที่ทำให้เห็นภาพสะท้อนของหนังที่สื่อออกมาได้ดีจริงๆ

ประทับใจหนังเรื่องนี้เหมือนกัน และชอบผลงานทั้ง 2 เรื่องของ ผกก. คนนีมาก ทั้ง Mean Girls และFreaky Friday

 

โดย: อานาตะโออาอิชิมัตสึ 16 มกราคม 2549 22:20:54 น.  

 

ดู napoleon Dynamite แล้วค่ะ
เชื่อเลยว่าถ้าเจ้าของblog ได้ดู ต้องเอามาพรีวิวแน่ๆ
^^

 

โดย: Dr.DreK IP: 58.10.207.118 17 มกราคม 2549 16:26:35 น.  

 

ไปดูเมื่อวานครับ.....

ชอบ....คับผม....
(ตามมาจากกระทู้คร๊าบ....)


 

โดย: โยตะ 17 มกราคม 2549 18:30:45 น.  

 

หนังสนุกดีครับ ถึงแม้ว่าจะดูขัดๆ อย่างที่เจ้าของ Blog บอก ในตอนนางเอกฟื้นที่โรงพยาบาล เพราะจูบพระเอก
หนังสือเรื่อง If only It were true ชื่อไทย ปาฏิหารย์รักต่างภพ ผมอ่านแล้วครับ สนุกดีครับ ผมชอบมาก เป็นนวนิยายของหนังเรื่องนี้แหละครับ เห็นใน Credit หนังนะครับ ว่าเอาเนื้อเรื่องมาจากเรื่องนี้ เพราะชื่อนักเขียน มาร์ค เลอวี เป็น Based on novel ครับ และรู้สึกว่าจะร่วมเขียนบทด้วยนะถ้าจำไม่ผิดที่อ่านมาจากเว็บของนักเขียนคนนี้
มาจ่ายค่าบริการและแนะนำหนังสือให้อ่านครับ

 

โดย: Hamee IP: 202.183.190.14 17 มกราคม 2549 18:52:44 น.  

 

good comment

 

โดย: paparella IP: 58.10.129.33 17 มกราคม 2549 19:59:52 น.  

 

ซึ้งมากๆครับ

 

โดย: เอก IP: 125.24.24.144 17 มกราคม 2549 20:49:05 น.  

 

ยังไม่เคยดูเลยค่ะเรื่องนี้

แต่ดูน่าสนุกจังเลยค่ะ

 

โดย: วัฌชา 17 มกราคม 2549 22:50:39 น.  

 

ง่า.... พอดีเป็นพึ่งเข้าใน blog นี้เป็นครั้งแรก ( ตามมมาจาก pantip อ่ะค่ะ )
ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยน้า

เรื่องนี้ดูแล้วสบายใจดีอ่าค่ะ เป็นหนังโรแมนติด - คอมเมดี้ ที่ชอบมาก ถึงมากที่สุด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้ดูหนังแนวนี้บ่อยก็ได้

สรุปว่า ชอบค่ะ

 

โดย: Fand G-ro IP: 203.188.53.178 17 มกราคม 2549 22:57:02 น.  

 

^
^
..ยินดีต้อนรับเสมอครับ ทุกความเห็นที่แวะเวียนเข้ามาไม่ว่าจะเหมือนหรือแตกต่างกันก็ตาม

ขอบคุณครับสำหรับทุกๆค่าบริการ ยังรอความเห็นท่านถัดๆมาครับ

 

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 18 มกราคม 2549 1:09:49 น.  

 

ถ้าไม่ได้มาอ่านคงจะไปดู เพราะชอบนางเอกค่ะ

ยินดีด้วยนะคะ ที่บล็อคได้รับรางวัล

 

โดย: varissaporn327 18 มกราคม 2549 9:59:54 น.  

 

paragon cineplex เปิด 24/1
บัตรดูได้ถึง 31/12
บัตร160 ขาย 100 คาดว่าเปิดโรงเมื่อไร คงหมด

 

โดย: p IP: 210.246.72.76 18 มกราคม 2549 18:43:56 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ดีๆ นะคะ เราได้ไปดูก่อนเข้ามาอ่าน blog นี้ค่ะ ด้วยส่วนตัวชอบหนังเรื่องนี้เพราะเบาและสบาย หลายๆ ตอนเรียกรอยยิ้มจากเรา ใครเหนื่อยๆ อยากดูหนังสบายๆ "Just Like Heaven" ก็เป็นหนังเรื่องนึงที่น่าสนใจค่ะ

ปล. เข้า blog นี้เป็นประจำ แต่เพิ่งมีโอกาสแสดงความเห็นครั้งแรกค่ะ

 

โดย: beanona IP: 70.108.118.91 19 มกราคม 2549 8:03:50 น.  

 

สวัสดีค่ะ มาจ่ายค่าบริการเช่นเคยค่ะ (หลังจากแอบงกมาหลายที)

กุ้งเพิ่งไปดูเรื่องนี้มาเมื่อวานค่ะ ตอนดูก็ว่าคุ้นๆ อยู่ว่าเหมือนกะหนังสือที่เคยอ่านไปแล้วเมื่อราว 2 ปีที่แล้วเลย แล้วก็ใช่จริงๆ ด้วยค่ะ เพราะมันคือหนังสือเล่มเดียวกับที่คุณ Mutation ในค.ห.16 เอามาโพสต์ให้ดู มิน่าไอ้เราก็เดาเรื่องถูกซะเกือบหมดเลย

ป.ล. ยินดีที่ได้รู้จักผู้แปลค่ะ

 

โดย: ลิปดา-พิลิปดา 19 มกราคม 2549 16:09:48 น.  

 

ดี แบบเรื่อยๆ
ส่วนตัวไม่ประทับใจเท่า 10 Things ค่ะ อาจจะคาดหวังไปนิด หลงรักพระเอกมาจากเรื่อง 13 Going on 30, My Life without me, etc. น่ะค่ะ
ปล. คุณ จขกท. เขียนวิจารณ์เก่งจังค่ะ ตามอ่านมาหลายเรื่องแล้วเหมือนกัน เขียนต่อไปเรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: คากินั๊ง IP: 61.91.97.52 19 มกราคม 2549 16:12:14 น.  

 

คุณผมอยู่ข้างหลังคุณดู In Her Shoes หรือยังคะ?

มีคนมาเชียร์ให้ดูในโรง อย่ารอแผ่น


เลยมาถามความเห็นคุณน่ะว่าเป็นไงบ้าง

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 19 มกราคม 2549 16:40:14 น.  

 

ดูแล้วค่ะ ชอบนะ หนังดูแบบไม่ต้องคิด อะไร

 

โดย: jangs IP: 203.114.118.163 19 มกราคม 2549 17:22:43 น.  

 

เราว่าหนังดำเนินเรื่องเรื่อยๆมันสื่อให้มองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวเราซึ่งบางทีเราอาจมองข้ามมันไปอ่ะเป็นหนังที่ดูเเล้วคุ้ม

 

โดย: =BrEEZe= IP: 202.156.6.52 19 มกราคม 2549 19:30:14 น.  

 

น่าดูดีนะ

 

โดย: ไอ IP: 202.28.21.4 19 มกราคม 2549 21:48:02 น.  

 

ตอบคุณ สาวไกด์ใจซื่อ ... ดูแล้วครับ หนังดีทีเดียว ประทับใจ แม้ช่วงแรกผมจะรู้สึกว่ามันแกนๆไปหน่อย พอดำเนินเรื่องถึงครึ่งหลังแล้วจับอารมณ์คนดูได้ดี มีประเด็นให้กลับมาคิดให้พูดถึงมากมาย ตัวละครมีรายละเอียดและปมในตัวทุกตัว แค่ดูหนังก็เดาได้แล้วว่า ตวต้นฉบับที่เป็นหนังสือต้องดีมากเป็นทุนเดิมแนๆ

ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น

 

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 19 มกราคม 2549 23:12:22 น.  

 

ถามอีกรอบ

แล้วดีขนาดที่ต้องดูในโรงเท่านั้นอ๊ะเปล่าคะ?

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 20 มกราคม 2549 9:09:26 น.  

 

อ่่านแล้วเผ่นตามเคยครับ...

 

โดย: Print 43 IP: 203.170.247.203 20 มกราคม 2549 11:15:38 น.  

 

ไปดูมาแล้วคราบ เมื่อวานนี้
ชอบที่นางเอกเป็น "วิญญาณที่ต้องการมีชีวิต"
แต่พระเอกกลับเป็น "ชีวิตที่ไม่มีวิญญาณ"
ชอบในช่วงแรกๆ งะแต่ช่วงหลังๆ อย่างที่คุณบอกว่าหนังเฉลยง่ายไปนิด และพอจะคาดเดาได้ตลอดทั้งเรื่อง

 

โดย: zatoru IP: 58.11.110.54 20 มกราคม 2549 17:57:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ

มาขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 20 มกราคม 2549 21:15:05 น.  

 

ว่าจะพาแฟนไปดู หนุงหนิงๆ

 

โดย: nok IP: 58.8.246.251 21 มกราคม 2549 9:40:49 น.  

 

อยากดูมากๆเลยค่ะ เคยอ่านหนังสือแล้วสนุกดี แต่ยังไม่มีเวลาเลยไม่ได้ไปดูน่ะ

 

โดย: yammy IP: 202.28.27.5 21 มกราคม 2549 11:43:21 น.  

 

ชอบกล่องคอมเมนท์จังเรยค่ะ
ตอนนั้นเห็นเนื้อเรื่องย่อแล้วก็...เอ้ ใช่หนังสือที่เราเคยอ่านรึป่าวหว่า ได้ยินแว๊บๆว่าเค้าทำเป็นหนังแล้ว พอเข้ามาอ่านบลอก ก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

 

โดย: a r i t s u m e m o o n IP: 161.246.1.33 21 มกราคม 2549 11:57:39 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ ส่วนตัวชอบนางเอกอยู่แล้ว เรื่องนี้คงไม่พลาด

 

โดย: nok IP: 58.8.72.206 21 มกราคม 2549 13:16:44 น.  

 

ชอบมาก ๆ เลยค่ะ ดูไม่เบื่อเลยตลอดเรื่อง เราค่อนข้างจะคิดตรงข้ามกะหลาย ๆ คนนะเรื่องที่นางเอกฟื้นน่ะ ก็การดำเนินเรื่องมันก็บอกให้เรารู้อยู่แล้วนี่นาว่าทำไมเธอถึงฟื้นได้ ไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันดูฟื้นง่าย ๆ อย่างที่หลาย ๆ คนคิดเลย ลองกลับไปดูดี ๆ นะคะ แล้วจะรู้ว่าเนื้อเรื่องมันดำเนินมาให้เป็นไปยังงัยน่ะค่ะ

 

โดย: เพิ่งไปดูมาเหมือนกัน IP: 202.57.170.164 21 มกราคม 2549 16:30:44 น.  

 

ชอบจังคิดค่าดู เป็น comment เดี๋ยวจะไปดูเลยมาหาข้อมูลก่อนว่าจะดูอะไรดี ไม่ค่อยมีเวลาไปดูหนังเลย

 

โดย: momo IP: 61.19.197.226 21 มกราคม 2549 17:28:28 น.  

 

ขอบคุณ สำหรับ...เรียกว่าอะไรดีล่ะ บทความเรื่องนี้ละกัน เป็นคนที่ชอบดูหนังเหมือนกัน แต่ว่าหนังแบบนี้ที่มีเนื้อหาเบาๆมันก็ทำให้คนดูรู้สึกสบายๆมากขึ้นนะ

 

โดย: wertine IP: 203.151.140.119 21 มกราคม 2549 22:32:39 น.  

 

หนังสนุกดีนะครับ แต่ก็งงๆตอนที่พระเอกนอนกับนางเอกบนเตียงนิดหน่อย ว่าต้องการสื่ออะไรกันแน่

 

โดย: hAmlet IP: 61.91.161.23 22 มกราคม 2549 16:00:58 น.  

 

ชอบมากเหมือนกันค่ะ
-นางเอก พระเอก สื่ออารมณ์ได้ดีค่ะ น่ารักมาก
-เนื้อหาซ่อนอะไรหลายอย่าง แต่ถ้าดูผ่านๆไม่คิดไรมากก็จะได้ความน่ารัก โรแมนติกไปเต็มๆค่ะ

 

โดย: B IP: 202.44.8.98 22 มกราคม 2549 21:55:31 น.  

 

อย่างนี้ต้องไปดูซะแล้ว
แต่มีคนบอกว่าหนังสือสนุกกว่าหนังไม่รู้จิงป่าว ?
แต่ชอบดูหนังแนวนี้ค่ะสบาย ๆ ไม่คิดมาก

 

โดย: MMM IP: 58.11.34.84 28 มกราคม 2549 14:14:40 น.  

 

เพิ่งไปดูมาวันนี้เองค่ะ
ปกติไม่ได้ชอบดูหนังในโรงเป็นพิเศษ ยิ่งหนังโรแมนติคคอมเมดี้นี่ น้อยเรื่องมากๆที่จะได้ดู
แต่เรื่องนี้มีเพื่อน2คนบอกว่า ดูแล้วร้องไห้น้ำตาไหลพราก,ไปดูเหอะ เข้ากะชีวิตพวกเราดี นางเอกเป็นหมอ......วันนี้ก็เลยไปดูมา

รวมๆแล้วชอบมากเลย มันทั้งโรแมนติค+คอมเมดี้จริงๆ โดยเฉพาะมุขบางมุขนี่ฮามากๆ ตอนจบก็ซึ้งดี แอบสังเกตเห็นคนในโรงร้องไห้กันเพียบ แต่ว่ามันไม่เห็นจะตรงกะชีวิตเราตรงไหนเลยนะเนี่ย ......

ก็ไม่เคยขยันแบบนางเอกซะที

 

โดย: โยเกิร์ตฯ IP: 202.28.181.10 1 กุมภาพันธ์ 2549 22:31:14 น.  

 

เรื่องนี้ตั้งใจไปดูมากๆ แต่ถึงวันนี้ยังไม่ได้ดู คงรอแผ่นค่ะ

 

โดย: ต๋องตึง 11 กุมภาพันธ์ 2549 22:36:42 น.  

 

คงต้องรอดูจากแผ่นหนะค่ะ อยู่บ้านนอกมะมีโรงหนังอิ...อิ...ขอบคุณที่วิจารณ์หนังได้ดีหลายๆเรื่องทำให้ดูหนังได้อรรถรส+ อิ่มเอมในอารมณ์ค่ะ อ่านวิจารณ์แล้วเรื่องไหนน่าหนุกก็ตามไปดู ทีละเรื่องๆ จากที่ดูแบบไม่คิดอะไร ก็ทำให้ใช้สมองมากขึ้น

 

โดย: nam IP: 58.147.98.38 4 มีนาคม 2549 19:53:04 น.  

 

 

โดย: IP: 203.114.124.133 6 มีนาคม 2549 18:44:09 น.  

 

ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ

 

โดย: kuk IP: 202.47.227.149 7 มีนาคม 2549 11:01:37 น.  

 

เป็นหนังรักที่น่ารักดีค่ะ ชอบความรู้สึก และสิ่งต่างๆที่พระเอกมีต่อนางเอก น่ารัก น่าประทับใจ และน่าสงสาร(ตอนหลังๆดูแล้วน้ำตาคลอสงสารพระเอกจัง)
คุณผมอยู่ข้างหลังคุณเขียนได้ดีมากเลยค่ะ ได้แง่มุมที่ลึกและโดนใจ
ผู้กำกับเก่งนะคะ ทำหนังที่เหมือนไม่มีอะไรให้มีอะไรได้
นักแสดงสองคนเล่นได้ดี โดยเฉพาะพระเอกสื่ออารมณ์ได้ดีค่ะ

 

โดย: Just like heavy IP: 61.91.137.50 12 มีนาคม 2549 17:08:56 น.  

 


ขอบคุณครับ

 

โดย: สยาม IP: 158.108.92.77 24 มีนาคม 2549 15:45:35 น.  

 

Napoleon Dynamite ต้องดูให้ได้นะครับ :D

 

โดย: หน่อย SNC IP: 58.136.93.96 6 เมษายน 2549 19:44:53 น.  

 

เหมือนนั่งดูชีวิตตัวเอง

 

โดย: medicolilith IP: 125.24.68.143 19 เมษายน 2549 21:01:58 น.  

 

ดูแล้วร้องไห้เลยอ่ะ ชอบมาก

 

โดย: EE IP: 124.157.178.128 21 เมษายน 2549 17:14:17 น.  

 

น่ารัก สดใส ตามสไตล์หนังแนวนี้ ไม่มีตอนไหนที่เบื่อหรือไม่ชอบเลย

 

โดย: บะหมี่หยกหกก้อน IP: 202.44.136.50 2 พฤษภาคม 2549 13:30:39 น.  

 

เพิ่งได้ดูเรื่องนี้จากแผ่นอ่ะค่ะ
ก็ดูได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ
พระเอกนางเอกเล่นเข้าขากันดีจังเลย
น่ารักดีค่ะ(ตัวคนที่เล่นพระเอกนี่ เราพยายามหาหนังที่เค้าเล่นแบบนี้ มาดู อยากจะลบภาพตัวละครที่เค้าเล่นใน In the Cut เหอ เหอ )
ปล. Napoleon Dynamite สนุกดีค่ะ
แผ่นลิขสิทธิ์ของค่าย Pacific Marketing บลา ๆ ๆ

 

โดย: tae IP: 202.57.169.107 15 สิงหาคม 2549 3:13:35 น.  

 

รับซ่อมคอมพิวเตอร์ทั้งในและนอกสถานที่โทร.026510797

 

โดย: hmong IP: 58.136.103.116 1 ตุลาคม 2549 14:48:20 น.  

 

ชอบครับหนังเรื่องนี้ แอบทิ้งไว้ให้ภรรยาดูเหมือนกัน
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๐ ครับ

 

โดย: คนขับช้า 24 ธันวาคม 2549 1:22:40 น.  

 

คล้ายกับหนังเกาหลีเรื่องอะไรเหรอ นึกไม่ออกค่ะ แต่หนังเรื่องนี้สนุกมากๆ ซึ้งใจดี

 

โดย: ฮานะ IP: 203.157.48.150 30 ธันวาคม 2549 14:50:25 น.  

 




ต้องบอกว่าตัวเองชอบหนังเรื่องนี้มากๆๆคะ..หวังไว้ว่าคงมีสักวันที่จะมีใครคนหนึ่งมาจัดสวนให้คะ..

 

โดย: vintage 2 เมษายน 2550 12:27:47 น.  

 

ตัวหนังไม่ได้ประทับใจอะไรมาก
เพราะว่าไม่ค่อยชอบหนังแนวรักสูตรสำเร็จแบบนี้เท่าไหร่
ดูเบาๆ สบายๆ
แต่มุมมองที่คุณหยิบมาน่าสนใจดีค่ะ
อาจจะลองเอามาดูใหม่

เคยอ่านหนังสือมาก่อนแล้ว เลยไม่ค่อยตื่นเต้นด้วย หนังสือนี่ก็ไม่ชอบพลอตนะคะ แต่ชอบสำนวนกับสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาในเนื้อเรื่อง เป็นความมคิดดีๆ ทั้งนั้นเลย

 

โดย: The SoVo (http://kangalala.spaces.live.com/) IP: 124.102.110.226 26 สิงหาคม 2550 21:09:39 น.  

 

ฝึกภาษาอังกฤษอยู่ เลยซื้อเรื่องนี้มาดู
ดูหลายๆรอบแล้วก็ยังไม่เบื่อเลยค่ะ
ยิ่งทำให้ชอบขึ้นไปอีก
เลยอยากทราบมุมมองของคนอื่นๆบ้าง
ว่าชอบเหมือนกันมั๊ย

***เราชอบหน้านางเอกตอนอยู่ในห้องน้ำเหมือนกัน มองเงาตัวเองผ่านกระจกพร้อมกับทาลิปสติกไป

***แล้วที่ว่าเหมือนหนังเกาหลีคือเรื่องอะไรคะ อยากรู้ด้วย

 

โดย: หนูจะเป็นเด็กดี IP: 124.121.147.197 3 พฤศจิกายน 2551 16:59:20 น.  

 



หนังสือ Marc Levy (มาร์ก เลอวี) (หน้าปกตามนี้ พิมพ์ครั้งที่ 1 ทั้งหมด)

ประกอบด้วย

- ปาฏิหาริย์รักต่างภพ
- เจ็ดวันเพื่อหนึ่งนิรันดร
- จะตามติดชิดเธอทุกชาติไป
- ปาฏิหาริย์รักคืนใจ
- ทุกสิ่งอันที่เรามิเคยเอื้อนเอ่ยต่อกัน

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 6051589 13 กันยายน 2565 11:05:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.