www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

น้ำตาลแดง + Piranha 3-D , ภาพยนตร์อุดมโปรตีนที่สะท้อนปัญหา เรตหนัง ของบ้านเรา



1. ตอนรู้ข่าวคนทำหนังหน้าใหม่ ทำหนังสั้น 6 เรื่องในแนวอีโรติก (แบ่งมาฉายก่อน 3 เรื่อง) พูดถึงประเด็น sex ในแง่มุมความสัมพันธ์ ก็คิดว่า น่าสนใจ เพราะหนังไทยไม่ค่อยมีแนวนี้

ถ้าจะมีส่วนใหญ่ก็ออกแนวหนังโป๊ หนังอาร์ หรือออกมาฮา อย่างผู้หญิง 5 บาป สองเรื่องสุดท้ายในแนวอีโรติกที่ดูแล้วชอบก็มีแค่ แม่เบื้ย กับ จันดารา

2. แต่พอยืนอ่านคำโปรยบนโปสเตอร์ “ปรารถนาจะมีรัก หรือ ร่วมรัก , เมียบนเตียง หรือ โสบนเตียง คุณจะเลือกใคร” ก็ทำให้เริ่มไม่มั่นใจว่า ผลงานจะออกมาเป็น หนังอีโรติกอาร์ตจริงๆ หรือเป็น แค่ หนังที่อยากขายฉากโป๊เรียกคนดู แล้วใส่สาระแบบยัดเยียดไปเพื่อให้ได้ข้ออ้างว่าเป็น ศิลปะ



3. ตัดใจควักเงินร้อยกว่าบาท เดินไปซื้อตั๋วหลังจากอ่านกระทู้ในพันทิปเหมือนมี เสียงแว่วพูดย้ำไปย้ำมาว่า "โอเด็ต โอ้วเด็ด" และ ก็เป็นอย่างที่เขาว่ากัน ตอนเปิดตัวสั้นๆที่คล้ายการ โหมโรงก่อนเข้าเรื่องจริง เพื่ออธิบายความหมายของ น้ำตาลแดง ว่าด้วยหญิงสาวเข้าพักโรงแรมเพราะช้ำใจจากสามีนอกใจไปจ้ำจี้กับสาวไม่เลือกหน้า

และ ตอนนี้เป็นตอนที่ยิ่งทำให้ เริ่มหวั่นใจกับเงินร้อยกว่าค่าตั๋ว เพราะ จริงอยู่ว่า บทสนทนาว่าด้วยความแตกต่างของ เพศชาย กับ หญิง ในแง่แรงขับทางเพศ เต็มไปด้วยแง่มุมในเชิงปรัชญา แต่มันก็เหมือนการสั่งสอนด้วยการจับคำพูดไม่เป็นธรรมชาติใส่ปากตัวละคร ตัดสลับ โชว์ฉากโจ๊ะพรึมพรึมที่ดูแล้วแทบจะไม่ต่างจากหนังโป๊เรตอาร์ทั่วไป

ทั้งนื้ทั้งนั้นไฮไลท์ก็เป็น นมโอเด็ต ที่เหมือนเป็นประเด็นที่กลบทุกอย่างไปหมดสิ้น ซึ่งแทบจะไม่จำเป็นต้องเห็นถึงขนาดจุก เพราะเห็นก็ไม่ได้ช่วยขยายประเด็นหนัง นอกจากจะขายความเป็น ‘โอเด็ต โอ้วเด็ด’

เรียกได้ว่า เป็นการเปิดตัวที่ลดความน่าสนใจลงอย่างมาก หากจะตัดทิ้งไปยังดีเสียกว่า ยิ่งเมื่อได้ดูสามตอนถัดมา ยิ่งพบว่า ตอนนี้เหมือนส่วนเกินที่ไม่เข้าพวก


4. สามตอนที่เหลือ คือ โสบนเตียง , รักต้องลุ้น และ ปรารถนา สิ่งที่ดีและโดดเด่นที่สุด คือ ฝีมือผู้กำกับทั้งสามคน ที่มองในแง่ ความเป็นหนัง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านภาพ , การเล่าเรื่อง ฯลฯ ถือว่ามีดีน่าจับตามอง เพราะ ภาษาหนังที่ใช้ดูมีความตั้งใจในการนำเสนออย่างมีชั้นเชิง

นักแสดงทุกคน ทั้งสามตอน เล่นดีมาก ผิดวิสัยหนังค่ายนี้ที่บางทีนักแสดงสมทบหรือหน้าใหม่จะเล่นทื่อๆ แต่เรื่องนี้เนียนหมดทั้งผิวทั้งแอคติ้ง



5. ทั้งสามสามตอน มีเพียง ปรารถนา ที่รู้สึกว่า ลงตัวกับความหมายของอีโรติกอาร์ต เลือกเนื้อหาและนำเสนอได้เหมาะสมกับช่วงเวลาอันสั้น ในขณะที่ สองตอนแรกมีปัญหากับตัวบทและการตีความ

โสบนเตียง – เล่าถึง ชายที่มีคู่นอนเป็นนักศึกษาสาวสุดเซ็กซี่ ก่อนที่จะหักมุมในตอนท้าย ซึ่ง อาจจะสร้างความเซอไพรส์สำหรับคนดูได้บ้าง แต่ มันก็รู้สึกว่า ช่วงเวลาเกือบชั่วโมงที่เล่ามา เพียงเพื่อต้องการบอกแค่นี้จริงๆหรือ

เข้าใจข้อคิดที่หนังอยากจะบอกถึง การเป็นภรรยา การใช้ชีวิตคู่ และ บทบาททางเพศ แต่ มันเหมือน บทเรียนเพศศึกษาที่คนส่วนใหญ่ได้ยินมานักต่อนักแล้วกับประเด็น การเพิ่มรสชาติชีวิตคู่สามีภรรยาต้องให้ความสำคัญกับเรื่อง sex ด้วย

รักต้องลุ้น - ชั้นเชิงที่ใช้เล่า เกมส์ของวัยรุ่นที่อยากลุ้นอยากลอง โดยมีพ่อแม่เข้ามาสอดแทรก สลับกับการทำหนัง เป็น ตอนที่มีจังหวะลีลาการเล่าเรื่องดี การใส่มุกตลกเข้ามาก็ลงตัว แต่ลูกเล่นว่าด้วย การทำหนัง ที่ใส่เข้ามามันออกแนว เชิงสูง เกินไปที่ยากจะเข้าถึง

ด้วย เนื้อหาที่มีมันบางเบามาก ต่อให้เข้าใจว่าหนังจะเปรียบเปรย ชีวิตจริง ที่ไม่เหมือน หนังหรือละคร ที่สามารถปรับแก้ได้เมื่อผิดพลาด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เกิด impact ต่อคนดูไม่ว่าจะในด้านข้อคิดหรืออารมณ์เท่าไรนัก

ส่วน ตอน ปรารถนา ถือว่าน่าสนใจมาก ที่พูดถึง การเติมเต็ม ความปรารถนาทางเพศ ผ่านงานประจำ(นวด/สัก)ของคนสองคน ด้วยบุคลิกที่อาจจะมีข้อจำกัดในการสื่อสาร หรือ มีอุปสรรคบางอย่างที่ขีดกั้นการนำเสนอความต้องการของตัวเอง

แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็สามารถเติมเต็มอารมณ์ได้เสร็จสม โดยไม่ได้ประกอบกิจกรรมทางเพศกันตรงๆ แต่สื่อสารผ่าน งานของตัวเอง



6. ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ตีโจทย์หนังอีโรติกได้ดีแค่ไหน เป็น คำถามที่ตอบยาก เพราะโจทย์หนังอีโรติกอาร์ตจัดได้ว่าท้าทาย ตรง เส้นแบ่งระหว่าง หนังโป๊/ฮาร์ดคอ/พอร์โน กับ หนังอีโรติกอาร์ต มันไม่ได้มีเส้นแบ่งที่ปริมาณนม หรือ ฉาก xoxo

ดูอย่าง Catherine Breillat ผู้กำกับจากหนังชื่อกระฉ่อนเช่น Romance, Anatomy of Hell ที่อัดแน่นเพศกันเต็มสูบ เห็นกันชนิดถึงกึ๋นทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่ด้ามพลั่วยันผ้าอนามัย แต่เธอก็สามารถส่งหนังเข้าประกวดตามเทศกาลและคอหนังก็ยอมรับว่า เป็นหนังอาร์ตมากกว่าหนัง X ปลุกอารมณ์

เพราะ ประเด็นของหนังมันหนักแน่นเพียงพอ ฉากโป๊เปลือยทั้งหลายอาจจะแรงแต่มันก็มีเพื่อตอบโจทย์ของหนัง เช่นเดียวกับหนังเกาหลีหลายๆเรื่องเช่น Lies หรือ The Sweet of sex and love

ตรงข้ามกับหนังหลายเรื่อง ที่ใส่ปรัชญาหรือสาระลงไปซักหน่อย เน้นถ่ายเซ็กส์ซีนสวยๆ เพียงเพื่อให้มีข้ออ้างที่จะได้บอกว่า หนังเรื่องนี้เป็น งานศิลปะ แต่คนดูก็ล้วนเห็นไปในทางเดียวว่า เป็น หนังโป๊

แต่บางเรื่องอาจบอกยากยิ่งจนเป็นข้อถกเถียงเช่น 9 songs ที่ตัดสลับ กิจกรรมทางเพศแบบ'เล่นจริง เจ็บจริง ไม่พึ่งสลิงสตั๊น' กับ คอนเสิร์ตร็อค (แต่ ถ้าพิจารณาจริงๆ เราจะเห็น การเปลี่ยนแปลงในด้านปฏิสัมพันธ์ทางอารมณ์ ตาม ฉากเซ็กส์ซีน ที่ตัวละครค่อยๆเปลี่ยนไป ไม่ใช่ เน้นโชว์กิจกรรมทางเพศกันอย่างเดียว)

อย่างไรก็ดี ผู้ชมส่วนใหญ่ ย่อมให้คำตอบได้เมื่อได้ดูว่า หนังที่เราดูอยู่นั้น ผู้กำกับจงใจจะขายอะไร หรือ มีสัดส่วนใดมากกว่ากันระหว่าง ศิลปะ VS. จงใจยัดฉากเซ็กส์เพื่อขายหรือปลุกอารมณ์




7. สำหรับผม น้ำตาลแดง ทั้ง สามตอน จัดได้ว่า ค่อนไปทางศิลปะ หนังอีโรติกอาร์ต มากกว่า หนังอยากจะขายโป๊ แต่ ในความเป็นหนังอีโรติก ก็ดูเหมือนจะยังคงวนเวียนกับ ความพยายามใส่ฉากขาย คล้ายละล้าละลังว่าจะต้องใส่ฉากโป๊เป็นเสมือน ฉากภาคบังคับแค่ไหนดี และ เกิดความลักลั่นที่ยังไม่เนียนพอ

เช่น ฉากเซ็กส์ซีนในตอน โสบนเตียง มันดูขัดๆเขินๆ คือ จะโชว์ก็ไม่กล้าโชว์ให้เห็นเต็มที่ แล้วก็ชดเชยด้วยท่วงท่า กับ ช่วงเวลาอันยาวนานซึ่งก็ไม่ได้ดูจะเติมโจทย์ให้หนักแน่นขึ้น แถม ฉากเซ็กส์ซีน ยังเป็นจุดอ่อนของตอนนี้ เพราะถ่ายทำออกมายังดูก้ำกึ่งกับฉากโป๊ในหนังอาร์ส่วนใหญ่ ,

ฉากเซ็กส์ซีนในตอน รักต้องลุ้น ดูกำลังดี มีล้อเล่น มีเน้นภาพสวย แต่เมื่อเจอเนื้อหาในตอนสองก็บางเบาเกินไป การเล่าเรื่องแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านว่าจะสอนหรือเปล่า สุดท้ายคนดูอาจไม่เก็ตอะไรมากไปกว่า ฉากเข้าพระเข้านางของคู่วัยรุ่น และ มุกตลกที่ได้รับ




8. น้ำตาลแดง นำไปสู่ ประเด็นที่น่าคุยมากๆ นั่นคือ กรณีเรตหนัง

ถึงหนังจะถือว่าดีระดับหนึ่งในแง่ความเป็นหนัง และ ไม่ใช่หนังเน้นขายโป๊ (ดูแล้วออกจะง่วงเป็นบางช่วงด้วยซ้ำ) แต่ก็ไม่ใช่ หนังที่เหมาะสำหรับเด็กๆ

มีหลายเสียงบอกผิดหวังที่โรงหนังปล่อยให้เด็กเข้ามาดูทั้งที่ติดเรต 18+ (โรงของผมยังเห็นสองสาวมัธยมต้นในชุดนักเรียนมาดู) ซึ่งถ้าเข้าใจเรื่องเรตหนังจริงๆ เราไม่สามารถโทษโรงหนังได้เลย

เพราะ เรต 18+ ไม่ใช่ เรตที่บังคับตรวจบัตร
บ้านเรา เรตบังคับตรวจบัตรประชาชนมีแค่ 20+

ส่วนเรตที่เหลือมีเพื่อให้ผู้ชม หรือ พ่อแม่พิจารณาความเหมาะสมในการเลือกหนังให้ลูกหลาน

การได้เรต 18+ ของน้ำตาลแดง ทำให้ผมสงสัยการตัดสินใจของกองเซ็นเซ่อร์ ในการเลือกแปะเรต ว่า นี่นะหรือ หนัง ที่เด็กม.ต้น หรือกระทั่ง ประถม สามารถตีตั๋วเข้ามาดูได้

เพราะถ้าเทียบกับเมืองนอก หนังเรื่องนี้น่าจะเข้าข่ายควรตรวจบัตรหรือมีผู้ปกครองร่วมเข้าชมด้วย ไม่ใช่ว่า ใครดูก็ดูได้ แบบ เด็กสิบสองสิบสามก็ตีตั๋วกันมาดู

เรตหนังของ น้ำตาลแดง น่าจะประมาณ R แก่ๆ แค่ไม่มี อวัยวะเพศให้เห็นจะๆ แต่ทุกอย่างครบครันตั้งแต่ masturbate , sexual activity จน orgasm แถมฉาก masturbate ยัง long take กันขนาดนั้น

(ยังนึกไม่ออกเลยว่า หนังฝรั่งที่ฉายวงกว้างแล้วติดเรตแค่ R เรื่องไหนที่มีฉาก ส่งตัวเองขึ้นสวรรค์แบบสมจริงไม่ได้เน้นตลก แล้วแช่กล้องตรงๆยาวนานขนาดนี้)

ลองเทียบกับ หนังไทย ที่เข้าฉายพร้อมกันอย่าง เจ้านกกระจอก

น้ำตาลแดง มีฉากช่วยตัวเองตั้งแต่ต้นจนเสร็จกิจเกือบสิบนาที , จุกน้อยลอยชูช่อ , หญ้าแพรกที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า , ท่วงท่ากิจกรรมเข้าจังหวะอันหลากหลายนับสิบ ได้เรต 18+

แต่หนังอย่าง เจ้านกกระจอก ที่มีฉากเดียวที่ พระเอกอัมพาตพยายามช่วยตัวเอง แต่ช้างน้อยอ่อนแอเกินกว่าจะทำได้ เพิ่มความเจ็บปวดในจิตใจที่ร่างกายไม่เหมือนเก่า ได้เรต 20+

เรื่องแรก หรือ เรื่องหลัง ที่จะส่งผลต่อเยาวชนมากกว่ากัน ถ้าคิดว่า จัดเรต เพื่อความเหมาะสมสำหรับเยาวชน


9. น้ำตาลแดง ทำให้เห็นว่า ระบบเรตบ้านเราน่าจะมีช่องโหว่ สำหรับการตัดเรตในเกณฑ์จำกัดอายุแบบจำกัดวัย (Restricted) แค่ เฉพาะเรต 20+

ลองดูตัวอย่างการจัดเรตติ้งเมืองนอก ที่มีการควบคุมร่วมด้วยอย่างเหมาะสม เช่น อเมริกา เรตหนังที่เริ่มมีการจำกัดอายุคนดู (Restricted) คือ เริ่มตั้งแต่ เรต R คือ ถึงจะไม่ได้จำกัดแบบ ห้ามดู แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะให้เด็กตีตั๋วมาดูกันเองครื้นเครงทั้งโรงเรียนอนุบาล



R - Restricted - Under 17 requires accompanying parent or legal guardian. The person is required to stay with the child under 17 through the entire movie, even if the parent gives the child/teenager permission to see the film alone.

ผู้ชมอายุต่ำกว่า 17 ปี ดูได้ แต่ ต้องมีพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายร่วมดูด้วย ไม่อนุญาติให้เด็กเข้ามาดูลำพัง


ถัดมาคือเรต X เดิม ที่กลายมาเป็น

NC-17 - No One 17 And Under Admitted

ต่ำกว่า 17 ห้ามดูเด็ดขาด ถึงจะมีผู้ใหญ่ร่วมด้วยก็ตาม





... ลองมาดูที่ อังกฤษ เรตที่เริ่มมีการจำกัดอายุคนดูคือ 15

15 Suitable only for 15 years and older. No one younger than 15 may see a '15' film in a cinema. No one younger than 15 may rent or buy a '15' rated video.

ต่ำกว่า 15 ห้ามดูในโรงหรือซื้อเช่ามาดู

18 Suitable only for adults. No one younger than 18 may see an '18' film in a cinema. No one younger than 18 may rent or buy an '18' rated video.

ต่ำกว่า 18 ห้ามดูในโรงหรือซื้อเช่ามาดู

R18 (Restricted 18) To be shown only in specially licensed cinemas, or supplied only in licensed sex shops, and to adults of not less than 18 years. (These films contain sexually explicit, pornographic content.)

จัดฉายได้เฉพาะโรงบางโรง หรือ มีจำหน่ายเฉพาะในร้านเซ็กส์ช็อป ไม่ให้ขายต่ำกว่า 18 ปี



...ดังนั้นของบ้านเราที่เริ่มการ จำกัดอายุแค่ 20 จึงเป็นเหมือนรูโหว่ ที่จะทำให้ วัตถุประสงค์ของการจัดเรตมีข้อบกพร่อง

น่าจะมีการปรับปรุง เกณฑ์การพิจารณาเรตติ้ง ไม่ใช่แค่ว่า เห็นจุกเห็นช้างน้อยรีบปล่อยเรตแรงๆ แต่ กับหนังที่โอ้ละหนอป้อจนถึงสวรรค์ แค่ไม่เห็นจุก แต่เห็นทุกซอกทุกท่วงท่า กลับปล่อยให้เด็กดูได้

น่าจะให้มี เรตจำกัดอายุที่ต่ำกว่า 20 ปี มากกว่า ที่จะไปบังคับคนทำหนัง หรือ ไปตัดไปเบลอ เพราะ กลัวว่าเด็กจะเข้ามาดู ทั้งๆที่มี ระบบเรตติ้งแล้ว



10. ในขณะที่ การจัดเรต ยังไม่เข้าที่เข้าทาง คนจัดเรตอาจจะยังไม่พบจุดลงตัว หรือ โรงหนังอาจจะยังไม่จริงจังเข้มงวด แต่อย่างน้อย ก็นับได้ว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่าในอดีต ที่มีการตัดหนังหรือเอายาหม่องมาป้าย (แม้ตอนนี้พอรู้ว่ายังมีตัดอยู่)

คนดูหนังมีโอกาสที่จะได้ดูหนังที่หลากหลายมากขึ้น และ การดูหนังก็มีโอกาสจะดูได้เต็มอรรถรสมากขึ้น

กลุ่มที่ควรตื่นตัวและให้ความสนใจในเรื่อง เรตติ้งหนัง คือ กลุ่มประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะ พ่อแม่หรือผู้ปกครอง เพื่อตัดสินใจว่า จะเลือกหนังเรื่องใดให้เหมาะกับลูกหลานที่เราดูแล

ส่วน เหตุผลที่ควรมี ช่วงอายุเหมาะสม
เหตุผลที่อาจมีคนทักว่า เด็กก็โหลดบิทมาดูเองได้ โป๊หรือโหดก็ช่างมันเถอะ
เหตุผลที่มีคนมักพูดว่า เด็กโตแล้ว เด็กคิดเองได้ ทำไมต้องไปจำกัดสิทธิ

เหตุผลเหล่านั้น ล้วนเคยเขียนถึงไปแล้วว่า ทำไมความรุนแรงถึงมีผลต่อการเสพสื่อ ชวนไปอ่านในบล็อกนี้ครับ

บทความชมก่อนเชือด (ตอน 1) : หนังโหดเลือดสาด หนังลาบเลือด เชือด แทง มีผลต่อคนดู (จริงหรือ?)
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=23-03-2009&group=5&gblog=108

บทความชมก่อนเชือด (ตอน 2) : หนังโหดเลือดสาด หนังลาบเลือด เชือด แทง มีผลต่อเด็กๆ (จริงหรือ?)
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=24-03-2009&group=5&gblog=109


และสุดท้ายต่อให้ระบบ ดีแค่ไหน แต่ผู้ใช้ระบบ ไม่ใช้ประโยชน์หรือไม่ร่วมมือ ก็นับว่า น่าเสียดาย

จะโทษคนทำหนัง,จะโทษผู้ประกอบการโรงหนัง หรือ เด็กในวัยอยากรู้อยากเห็นก็ไม่ได้ ในเมื่อ ไม่มีใครห้ามหรือเตือนเด็กตีตั๋วไปดู อู้วโอ้ว กับ น้ำตาลแดง หรือ ดูเนื้อกระจุยกระจายใน Piranha 3-D หนังที่ผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ เด็กๆดู แม้แต่น้อย





Piranha 3-D



... ถึงโปสเตอร์กับเนื้อหา ‘ปลาปิรันย่าถล่มประชาชี’ จะดูเป็นหนังเกรดบี แต่ นี่เป็นหนังทีมงานระดับเกรด A ที่จงใจเคารพหนังเกรดบียุคก่อนๆ และเป็นหนังที่ผมอยากดูที่สุดประจำสัปดาห์ ด้วยเหตุผล 4 ข้อต่อไปนี้

1. เป็นงานของผู้กำกับ อะจ๊า (Alexandre Aja) เจ้าพ่อหนังสยอง ที่เคยมีงานที่ดีมากอย่าง

High Tension - หนังฆาตกรโรคจิตที่โหดสุดขั้วแต่ปมทางจิตก็ซับซ้อนสุดกึ๋น (แต่แผ่นลิขสิทธิ์บ้านเราบางเวอร์ชั่นถูกตัดฉากสำคัญเสียจนสาวปมทางจิตไม่เจอ ทำให้กลายเป็นหนังโรคจิตดาดๆไปทันที)

The Hills Have Eyes – หนังรีเมคจากหนังเก่า ที่ใช้ชื่อไทยได้ถูกใจผมเหลือเกินว่า ‘โชคดีที่ตายก่อน’ และก็ทำออกมาได้โหดไม่ปราณีปราศรัยตัวละคร ถูกใจคอหนังลาบเลือดยิ่งนัก

แม้หนังเรื่องที่แย่ที่สุดอย่าง Mirrors ที่ให้ป๋าแจ๊ค บาวเออร์จาก 24 ไปเจอผีกระจก ในหนังรีเมคจากเกาหลี ก็ยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายจนรับไม่ได้เสียทีเดียว

ภาพรวมหนังของ อะจ๊า ยืนยันความชำนาญสำหรับการทำหนังสยองลาบเลือดแบบมีคลาส แม้หนังนั้นจะทุนต่ำหรือตั้งใจทำแบบเกรดบี

2. นี่เป็น 1 ใน 3 หนัง 3 มิติที่ตั้งใจสร้างเป็นสามมิติตั้งแต่ต้น แล้วผมเองอยากดูที่สุดของปีนี้ (อีกสองเรื่องที่อยากคือ Tron Legacy และ Resident evil4)

3.ไม่ธรรมดาเลยที่หนังสไตล์เลือดสาดเกรดบี ไม่มีสาระแยบยลจะคว้าคะแนนจาก นักวิจารณ์ ถึง 80% จากเว็บมะเขือเน่า

4.เวอร์ชั่นบ้านเราถูกใจคอหนังลาบเลือดเต็มสูบ เพราะคนที่ดูมาแล้วยืนยันว่า ‘เลือดกระจาย นมกระจุย ช้างน้อยกระเจิง’ กันเต็มตาเลยทีเดียว



... ผลลัพธ์ที่ออกมา ทั้งสี่ข้อที่คาดหวังตอนต้นถือว่า สมหวังไปพอสมควร

ตัวหนังคล้ายๆกับสองงานเก่าของ อะจ๊า ที่ใช้เวลาอุ่นเครื่องนานพอสมควรจนคนดูตายใจเผลอเบื่อหาวไปหลายรอบ แต่พอถึงบทเอาจริง อะจ๊า ละเลงเลือดได้ไม่มีกั๊ก‘ เลือดกระจาย นมกระจุย ช้างน้อยกระเจิง’ สมคำร่ำลือ

ความโหดของ Piranha 3-D ต่างจากสามเรื่องก่อน คือ โหดแบบไม่ได้สยองสมจริง ดูรู้ว่าตั้งใจให้อารมณ์ออกเป็นกึ่งแฟนตาซีนิดๆ ประเภทเลือดพุ่งกระฉูดเป็นน้ำแดงแบบ Kill Bill ดูแล้วให้ความรู้สึกสนุกเหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกาผ่าบ้านผีสิง

และเป็นจุดแกร่งของผู้กำกับคนนี้จริงๆ ที่เล่นจังหวะสยองได้แบบพอเหมาะพอเจาะ ไม่มากไม่น้อยไป สอดแทรกมุกตลกๆได้อย่างกำลังดี

คุณภาพหนังอาจจะยังไม่ดีเด่นเทียบเท่า High Tension กับ The Hills Have Eyes แต่ก็เป็นงานที่ออกแนวระทึกสนุกสนานที่น่าพึงพอใจในแง่ มอบความสนุกได้แบบต่อเนื่อง บวกกับได้เห็นคนเก่าๆมีฝีมืออย่าง ริชาร์ด ไดรย์ฟัส หรือ อลิซาเบธ ชู ที่โดนอาถรรพณ์ออสการ์

แว่วว่าภาคสองจะแวะมาเยือนเมืองไทย น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และได้ข่าวว่า อะจ๊า จะไปทำหนัง Cobra เห่าไฟสายฟ้า ยิ่งตื่นเต้นยิ่งกว่า นึกถึงตอน สตอลโลน เคยเล่นตอนนั้นยังไม่ถึงใจเท่าไหร่เลย


ป.ล. ระบบสามมิติไม่ได้ดีมากๆ แต่ ถ้าเลือกได้จัดสามมิติไปจะดีที่สุด

เพราะ หนังฉลาดที่จะใช้ ความเป็นสามมิติ ในการใส่ลูกเล่นกับคนดู อาจไม่ถึงกับ Final destination ที่โยนอะไรใส่ตาคนดูชวนหวาดเสียวตลอด แต่ออกแนวมีลูกเล่นในการโยนของดีใส่คนดูเป็นระยะๆ

(ของดีมีอะไร โปรดติดตามชมได้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ)


***
***

ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(วางอยู่ตามร้านหนังสือทั่วไทยแล้ว)










อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า








 

Create Date : 30 สิงหาคม 2553
6 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 3:17:55 น.
Counter : 25080 Pageviews.

 

เรื่องเรตต่างประเทศคงต้องหาเวลาศึกษาจริงจังได้แล้วครับ ที่เขียนและอธิบายกันมาหลากหลายไม่ตรงกันเท่าไหร่

ผมมีโอกาสสนทนากับเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ก็พูดประมาณว่าเรตในอเมริกาที่ได้รับความนิยมสุดคือ PG-13 เพราะเด็กต้องพาผู้ปกครองมาดูด้วย (โดยส่วนตัวคิดว่ามั่วได้อีก) คาดว่าตามความเข้าใจของเจ้าหน้าที่คนนี้เรตหนังในอเมริกาเขาเข้มงวดก่อนถึงเรต R เสียอีก

ส่วนเรต NC-17 ซึ่งในอดีตจัดว่ายังมีหนังที่กล้าทำเรตนี้ออกมาฉาย แล้วมีคนดูระดับหนึ่ง มีโรงให้ฉาย แต่ตอนนี้ในอเมริกา(คาดว่าเป็น PTA) สามารถทำให้เรตดังกล่าวมีโรงหนังฉายได้ไม่กี่โรง เขาทำได้ยังไง

 

โดย: yuttipung IP: 115.87.132.64 30 สิงหาคม 2553 3:08:38 น.  

 

ผมเห็นด้วยกับ คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบน้ำตาลแดง
ผมขอชื่นชมเด็กกลุ่มนี้ที่กล้าและท้าทายมากๆกับการหยิบอีโรติกมาทำเป็นหนัง ซึ่งมันเสี่ยงมาก แต่เด็กกลุ่มนี้ถ่ายทอดความเป็นอีโรติกออกมาได้ดีและสวยงามในเชิงภาษาภาพยนตร์ ทั้งที่เป็นผู้กำกับหน้าใหม่และเป็นเรื่องแรกของพวกเค้า ทำให้ผมอยากติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปของเด็กกลุ่มนี้เลย สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกหลังจากดูหนังจบที่ไม่ใช่แค่แง่คิดเท่านั้น แต่ผมได้รู้สึกถึงความตั้งใจที่เด็กกลุ่มนี้(ผู้กำกับ)ใส่หัวใจลงไปในงานจริงๆ

 

โดย: kittikorn IP: 124.120.222.13 30 สิงหาคม 2553 5:28:29 น.  

 

อ่านแล้วชอบภาษาของคุณจัง
อ่านแล้วง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ไม่ได้ใช้ศัพท์สูงเหมือนนักวิจารณ์ทั่วไป
จะติดตามอ่านจ้า

 

โดย: Nui IP: 192.168.8.231, 203.155.81.151 2 กันยายน 2553 16:28:57 น.  

 

พี่หมอครับ ผมขออนุญาตินำบทความของพี่หมอไปลงในเว็บ siamzone ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันนะครับ

ปล. ชอบการเขียนของพี่มากเลย

 

โดย: BlurayHD IP: 58.9.101.6 2 กันยายน 2553 21:27:43 น.  

 

ขอดูหนังอาร์เรื่องอุ่นไอรัก

 

โดย: ณัชคมสิน IP: 27.130.8.214 25 กันยายน 2553 21:57:12 น.  

 

ผมพึ่งมีโอกาสได้ดูน้ำตาลแดง (ดูแผ่น) ผมกลับเห็นตรงข้ามกับเจ้าของบล็อก ผมคิดว่าเรื่องแรกคือ "น้ำตาลแดง" เป็นเรื่องที่ดีมากไม่แพ้เรื่อง "ปรารถนา" ไม่ใช่เพราะบทพูดที่ดูยัดเยียด แต่เป็นเพราะอารมณ์ เหตุผลและการแสดงออกของตัวละครต่างหาก ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า นมของตัวละคร (และของโอเด็ต) เป็นสิ่งที่ล่วงละเมิดไม่ได้ ซึ่งต่างกับ "โสบนเตียง" และ "รักต้องลุ้น" โดยสิ้นเชิง

อยากชวนคุยมากกว่านี้ แต่รู้สึกว่าเจ้าของบล็อกจะมีเวลาทำบล็อกน้อยลง ถ้าผมเขียนของตัวเองครบถ้วนแล้ว จะมาโพสอีกครั้ง

 

โดย: พึ่งผ่านมา IP: 58.64.90.114 21 ธันวาคม 2553 18:22:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.