www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Vantage point , ฉลาดขยัก(ความลับ) ฉลาดคาย(ความจริง) (ตกม้า)ตายตอนจบ



...ระยะหลังผมจะอ่านข้อมูลหนังใหม่น้อยมาก คือดูแค่คร่าวๆว่าใครเล่นใครกำกับ แล้วถ้าไม่รู้จักผู้กำกับ ไม่แน่ใจว่าตัวหนังจะออกหัวหรือออกก้อย ก็จะไปประเมินคะแนนจากเว็บเมืองนอกก่อนว่า คุ้มค่าน่าตีตั๋วหรือเปล่า อย่าง Vantage point ก็รู้เพียงว่า เป็นหนังลอบสังหารประธานาธิบปีที่เล่าผ่านหลายมุมมอง



หนังเปิดฉากที่การรายงานข่าวถ่ายทอดให้เห็น ขบวนรถของประธานาธิบดีเดินทางมาถึงใจกลางเมืองในสเปน ผู้คนมากมายและนักท่องเที่ยวที่รอต้อนรับ เมื่อเริ่มต้นปราศรัย เสียงปืนสองนัดทำประธานาธิบดีกระเด็นจากแท่น ตามด้วยเสียงระเบิดสองลูก จากนั้น ความโกลาหลอลหม่านก็เกิดขึ้น

ช่วงเวลายี่สิบนาทีแห่งหายนะยังไม่ทันเฉลยความจริงใดๆ หนังก็เหมือนถูกกดปุ่ม rewind จากรีโมท แล้วย้อนเหตุการณ์ถอยหลังไปยี่สิบนาทีไปยัง จุดเริ่มต้นก่อนการลอบสังหาร เพื่อเล่าเหตุการณ์เดิมแต่เปลี่ยนมุมมองของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็น บอร์ดี้การ์ดของปธน. , ผู้ก่อการร้าย , นักท่องเที่ยว ฯลฯ



เสียงอุทานในใจที่เกิดตอนหนังย้อนไปรอบแรกคือ "เจ๋งวะ" เพราะ ปกติ หนังฮอลลีวูดจ๋าๆที่แบกต้นทุนสูงๆมักจะไม่ค่อยกล้าทำอะไรแหวกๆเท่าไหร่ ทั้งที่ว่ากันตามจริงแล้ว การเล่าเรื่องที่เก๋ไก๋สไลเดอร์แบบนี้ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ๆในวงการภาพยนตร์ เพราะหนังคลาสสิคเมื่อสิบกว่าปีก่อนอย่าง Rashomon ก็เป็นต้นแบบของหนังที่เล่าเรื่องราวการสังหารผ่านมุมมองของคนในเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน

หรือ ปีสองปีก่อนหนังชื่อเรื่องกิ๊บเก๋ 11:14 ที่เล่าเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายกับความตายและอุบัติเหตุ / A Stranger of mine หนังจารกรรมสัญชาติญี่ปุ่นที่แสนสนุกสุดฮา ก็อาศัยวิธีเล่าแบบกดปุ่ม rewind ย้อนหลัง พูดถึงเหตุการณ์เดียวกันแต่ผ่านมุมมองที่แตกต่าง ก็ล้วนเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ



… Vantage point หยิบยกจุดเด่นของหนังเก๋ไก๋สไลเดอร์เก่าๆเอามายำให้เข้ากับยุคสมัย โดยนำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองที่แตกต่างจาก Rashomon ใช้กระบวนการเล่าแล้วย้อนถอยหลังที่จุดเดิมๆ ทุกครั้งผ่านตัวละครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกันใน 11:14 และควบคุมให้เวลาดำเนินไปข้างหน้าแบบ real time เหมือนซีรี่ส์ 24 หรือ phonebooth

...งานกำกับหนังใหญ่ชิ้นแรกของผู้กำกับ Pete Travis ได้โชว์ความสามารถในการคุมฉากแอคชั่นให้ตื่นเต้นฉับไว และ ฉลาดที่จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ใช้’ความเป็นฮอลลีวูด มาผสมผสานกับ ความเก๋ไก๋ของหนังเก่าๆได้อย่างลงตัว นั่นคือ



ใช้ทุนมหาศาลสร้างเหตุการณ์อึกทึกคึกโครม ระดม CG สร้างฉากขับรถไล่ล่าได้ทั้งเว่อร์ทั้งมันส์ สร้างสรรค์ระเบิดหรือจับรถมาชนกันเปรี้ยงปร้างสมจริง ระดมดาราฟอร์มยักษ์ปักหลักประชันบทบาท
(เดนนิส เควด หลังเลิกกับเม็ก ไรอัน ได้บทเด่นๆและเล่นดีมาตลอด ส่วนแฟนๆของหมอแจ๊ค จาก Lost ก็ได้โอกาสสัมผัสตัวจริงหลังออกมาจากเกาะประหลาดเพื่อมารับจ๊อบเป็นบอดี้การ์ดในหนัง ไม่ใช่แค่นั้นยังมีทั้ง ฟอเรสต์ วิทเทเกอร์ , ซีกัวนี่ย์ วีเว่อร์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนก็มาในบทที่สมทบธรรมดาๆเสียด้วยซ้ำ)

และไม่ใช่ แค่มีทุนหนาเท่านั้น งานในส่วนที่ไม่ต้องใช้เงินมากอย่างตัวบทก็เขียนออกมาได้เด็ดทีเดียว โดยเฉพาะความสามารถในการขยัก(ความลับ)สลับคาย(ความจริง) ที่กระตุ้นเร้าความอยากรู้ของคนดูเหมือนตอนจบของซีรี่ส์ประเภท cliffhanger endings แบบ 24 ที่ชอบทิ้งให้คนดูทุรนทุราย ได้ดีเหลือเกิน ในการปิดตอนท้ายของแต่ละตอนด้วยการให้ ตัวละครเห็นอะไร ตัวละครตัวนั้นกำลังจะทำอะไร แล้วก็ตัดจบให้คาใจคนดู (ความลับเดียวที่หนังขยักไม่ค่อยดี คือ ตัวร้ายที่ ลับ ลวง พราง ไว้ เพราะบทหนังอ่อยให้ชวนสงสัยเกินไปหน่อย)

การเล่าเรื่องแบบ ย้อนถอยหลัง / เล่าซ้ำ / เปลี่ยนมุมมอง นั้นว่ายากแล้ว ที่เด็ดขาดเป็นอย่างยิ่งคือ การกำหนดให้เรื่องราวเป็นแบบ real time ยิ่งต้องพิสูจน์ฝีมือมากยิ่งกว่า สำหรับการที่จะต้อง set เหตุการณ์ set ฉาก set เรื่องราว ให้ไปพร้อมๆกัน แต่หนังก็เตรียมพร้อมมาอย่างดี ไม่มีหลุด



... ถึงแม้การกรอถอยหลังในรอบที่สี่ที่ห้า จะเริ่มเบื่อๆบ้างเพราะหลายช็อตหลายฉากก็ซ้ำๆกับของเดิม แต่ด้วยสไตล์หนังประเภทลักปิดลักเปิดความลับ จึงทำให้ความอยากรู้อยากเห็นไม่ลดน้อยลง นับได้ว่าเป็นเซอร์ไพรส์เรื่องหนึ่งของปีนี้ที่ผมดูด้วยความสนุกสนาน ลุ้นระทึก และ ชื่นชมตัวหนังอารมณ์ใกล้เคียงกับที่ได้ดูหนังแอคชั่นชั้นดีจากฮอลลีวูดอย่าง Bourne ultimatum

แต่ โอละหนอ เอวัง เมื่อหนังเข้าสู่ มุมมองสุดท้าย ความฉลาดของบทเหมือนจู่ๆก็หมดอายุขึ้นมา แล้ว มันก็พาให้หนังไปสู่บทสรุปเดียวกับ หนังฮอลลีวู๊ดเบๆนับร้อยนับพันที่เคยดู

ทั้งๆที่ ความเว่อร์และเหตุบังเอิญทั้งหลายที่หนังเล่ามาตลอดยังอยู่ในระดับที่รับได้ เช่น ตัวละครเอกแต่ละคนล้วนอึดระดับคนเหล็ก , ท่านประธานาธิบดีที่ฮีโร่จ๋าๆบวกการโปรอเมริกันแบบสุดเลี่ยน , รถที่พระเอกขับช่างเกาะถนนอย่างน่าอัศจรรย์ และ กล้องโซนี่แฮนดิแคมก็ยั่วเย้าชวนให้อยากถอนตังค์มามีไว้ติดตัวซักหนึ่งตัว ฯลฯ

แต่ บทสรุปที่ความบังเอิญมาประจวบเจอกันในฉากสุดท้าย เป็นการตั้งใจ จับยัด ทื่อๆ และ มักง่าย ถึงจะไม่ได้ห่วยหรือเลวร้ายเกินรับ แต่ กับความกล้าหาญและชาญฉลาดที่ทำได้ดีเหนือเกินมาตรฐานมาตลอดในตอนต้น เหมือนถูกตอนจบมาทำลายความรู้สึกดีๆเหล่านั้นลง จนอดคิดว่าถ้าให้ตัดฉากจบทิ้งแบบไม่ต้องมีเลยยังอาจจะดีเสียกว่า

สรุป ... เป็นหนังที่ทำดีและสนุกมากมาเกือบ แปดสิบนาที แต่ตกม้าตายและทำร้ายตัวเองในช่วงสิบนาทีสุดท้าย

สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน








ขอฝาก พ็อกเก็ตบุ้คสองเล่มที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนังเพราะ "หนังสือรัก" เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม ส่วน องศาที่ 361 หนังสือเล่มล่าสุดที่จะช่วยให้คุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมองหาจากผู้อื่น


เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม




ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 09 เมษายน 2551
20 comments
Last Update : 9 เมษายน 2551 3:57:09 น.
Counter : 6501 Pageviews.

 

ผมกลับมองว่าหนังจบได้ดีในระดับหนึ่ง หนังคายความจริงในก้นบึ้งของผู้พยายามก่อการร้ายว่าแท้จริงแล้ว มิใช่คนเลือดเย็นเห็นคนเป็นปลาเป็นผัก

ฉากหักรถหลบเด็กหญิงจนคว่ำ ผมว่าช่วยเติมเต็มหนังเรื่องนี้ให้มีมุมมองที่เป็นกลางมากขึ้น ไม่ใช่แค่มีพระเอกผู้ร้าย ไม่ได้มีแค่ฝ่ายผิดฝ่ายถูก ชวนให้เราคิดต่อว่าเรื่องราวนอกเหนือจากหนัง ว่าสหรัฐทำอะไรไปบ้าง จึงทำให้คนธรรมดา ตัดสินใจฆ่าคนมากมายในการนี้ แม้ทุกอย่างจะบังเอิญไปจนเกินงามสักหน่อยก็ตาม

 

โดย: BLuEMaNiA IP: 203.99.252.249 9 เมษายน 2551 11:43:39 น.  

 

ดูสนุก และได้ความบันเทิงจริงๆ แต่ก็ไม่อยากจะไปใส่ใจเรื่องบทมากนัก (เดี๋ยวเครียด) และผมมั่นใจเลยว่าฝั่งอเมริกาต้องเกลียดเรื่องนี้กันมากมายแน่นอน

 

โดย: YoiChi_KunG 9 เมษายน 2551 12:04:49 น.  

 

เป็นบทภาพยนตร์ที่มีความเเยบคายมากก สามารถเล่าออกมาโดยที่ลำดับเวลาที่ซับซ้อน สามารถเสนอออกมาโดยที่คนดูไม่งง

เป็นภาพยนตร์ที่ถือว่าบทดีรองจากภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงล่าสุด

 

โดย: nuw IP: 203.155.226.130 9 เมษายน 2551 13:14:13 น.  

 

เห็นด้วยทุกประการจริงๆค่ะ

เปิดมาให้ชวนกรี๊ดดดดดดด
กรี๊ดดดดด
กรี๊ดดดดด


แล้วก็ต้องมากรี๊ดตอนอีกที
เพราะสุดเซ็ง ฮ่าๆๆๆ

 

โดย: องค์หญิงการะบุหนิง IP: 202.129.0.134 10 เมษายน 2551 12:01:30 น.  

 

สนุกระทึก มันสะใจ และเว่อร์ดีครับ ฮ่าๆๆ ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ (ถ้าไม่นับตอนจบ) ถือว่าเป็นหนังแอ๊กชั่นที่ดีมากเรื่องหนึ่งครับ

ตอนท้ายนี่ พอพี่พระเอกปีนออกมาจากรถก็เริ่มเอ่อ...-_-" ไรว้า โดนชนขนาดนั้น โดดออกมาวิ่งต่อได้ทันทีเลย
อาถรรพ์ฮอลลีวู้ดนี่มันแรงจริงๆ กฎเหล็กที่ว่า พระเอกต้องไม่เป็นอะไรยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

 

โดย: absent-minded IP: 158.108.2.6 10 เมษายน 2551 17:06:00 น.  

 

ความเห็นที่ 1 สปอยไปหน่อยนะฮะ
คนอื่นที่ยังไม่ได้ดูเผลออ่านเข้าไปจะโดนด่าเอานะเออ

ปล.โดยส่วนตัวไม่ชอบตอนจบเรื่องนี้เหมือนกันฮะ
ปล2.ดูเรื่องนี้ที่พาราก้อนแล้วเสียอารมณ์มากๆ มีผู้ชายตัวใหญ่ๆ 2 ตัวมานั่งข้างๆ คุยกันทั้งเรื่อง
ขำมันทุกฉาก (มันขำตรงไหนฟะ???) เสียอารมณ์มากๆเลย

 

โดย: hAmlet IP: 124.121.138.124 11 เมษายน 2551 0:19:18 น.  

 

ตอนจบ ผมเฉยๆๆนะครับ คือก็ไม่ถึงกับว่าไม่ชอบอะไร
ก็คิดแบบว่า เอาละจบตามสูตรแค่นั้น
แต่ที่ตัดไปมาตอนแรกมันก็ดีครับ แต่ก็จริงที่พอผ่านไป4-5 ครั้งก็เริ่มเบื่อ
ตอนนั้นนึกในใจเลยอีกแล้วหรอ แต่พอดีเป็นตัดครั้งสุดท้ายเลยไม่เสียอารมณ์เท่าไหร่

 

โดย: ลี้คิมฮวง IP: 125.24.13.140 11 เมษายน 2551 1:15:27 น.  

 

เห็นหลายๆคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะ ว่าหนังสนุกมาก เก๋มาก ตื่นเต้นมาก แต่จบห่วยมาก จากที่อยากดู ก็เลยชะงักกึกไปเลยค่ะ

 

โดย: azzurrini IP: 118.174.38.4 11 เมษายน 2551 18:59:15 น.  

 

ดูแล้วเซ็งเป็ด

อเมริกา

 

โดย: Dorathesis IP: 58.8.127.241 14 เมษายน 2551 0:35:54 น.  

 

ในมุมมองของคนเรียนสื่อฯอะนะ
เรื่องนี้จงใจด่าสื่ออเมริกันอย่างเต็มที่ ทั้งการนำเสนอของสื่อมวลชน การอวยอเมริกันชนด้วยกัน รวมไปถึงการตอกย้ำ"ศีลธรรมของสื่อ"(ทุกฉากในตู้controlกล้องเห็นได้แจ่มมาก)
...สังเกตไหมว่า 90% ของหนังมีสื่อทุกรู้แบบกระจายอยู่...
ปล.อเมริกันไม่เกลียดหนังเรื่องนี้หลอกค่ะ สังคมอเมริกัน...พี่แกชอบการต่อต้านสงคราม...แม้จะเป็นคนก่อสงครามเองก็ตาม

 

โดย: goldensandy IP: 61.91.163.31 14 เมษายน 2551 5:01:37 น.  

 

ผ่านมาครับ

ผมว่าตอนจบลงตัวดีนะ กับการมีตัวละครตั้งแปดคน(หรือมากกว่า)แล้วสามารถขมวดปมทั้งหมดได้อย่างต่อเนื่องและลงตัว ถือว่าเกินมาตรฐานฮอลลีวู้ดไปมากแล้ว(ถ้าเป็นบรัคไฮเมอร์ หรือโจล ซิลเวอร์ อาจไม่มีหนังแบบนี้ขึ้นมาก็ได้) ฉากแอ็คชั่นก็ทั้งยาวทั้งมันส์(แม้ชวนให้นึกถึงบอร์นอยู่เหมือนกั รวมแล้วสนุกและคุ้มดีครับ

 

โดย: tHecHamp IP: 58.8.100.43 17 เมษายน 2551 2:14:45 น.  

 

คิดเหมือนกันว่า ตอนแรกดูตื่นเต้นมากๆๆ
แต่พอย้อนกลับหลายๆ รอบเริ่มเบื่อ
ยิ่งตอนจะจบยิ่งเซ็ง แอบลุ้นตลอดให้ผู้ร้าย
ลักพาตัว ปธน ให้สำเร็จ

อีกอย่าง ถ้าเป็น ผู้ก่อการร้ายจริงๆ ฆ่าคนมาทั้งเรื่องแล้ว
กะอีแค่เด็กคนเดียว ไม่น่าปล่อยเอาไว้อ่ะ

 

โดย: the Memory of Time IP: 222.123.210.250 17 เมษายน 2551 22:44:39 น.  

 

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 12

 

โดย: Mucki_girl IP: 193.24.32.38 18 เมษายน 2551 8:39:45 น.  

 

ผมไม่ยักคิดว่าหนังเรื่องนี้ตกม้าตายนะ
การที่ช่วงต้นเป็นการดำเนินเรื่องแบบชวนติดตาม
ไม่ได้หมายความว่าตอนท้ายต้องขมวดปมให้มากกว่านี้นี่นา
การที่ตอนท้ายเป็นการคลายปม+ความมันส์ในการไล่ล่า ผมว่ามันก็โอเคนะ
คิดว่าเป็นหนังที่ดูสนุกทีเดียวเรื่องนึงเลย คุ้มค่าตั๋วแน่นอน
ป.ล. แต่ก็เห็นด้วยที่ว่าตัวร้ายใจอ่อนเลยตายตอนจบ
ดูแล้วมันน่าจะเหี้ยมกว่านี้
แต่ก็อย่างที่ว่า "ผู้ร้ายก็มีหัวใจ" :P

 

โดย: donkiyote IP: 118.173.251.12 18 เมษายน 2551 14:02:56 น.  

 

จริงค่ะ ที่ว่าการย้อนเวลากลับไปหลายๆ รอบทำให้เราก็รู้สึกเบื่อเหมือนกันแต่ เราคิดว่าในมุมมองหลายมุมมองช่วยเติมเต็มให้ลืมความเบื่อไปได้
ผู้กำกับเก่งจังค่ะ
ทำให้หลายๆเหตุการณ์มันมาสัมพันธ์กันได้ขนาดนี้
ว่างๆคงต้องหา ซีรี่ย์ 24 กะ 11:14 มาชมบ้างแล้วละค่ะ

 

โดย: saviour IP: 58.64.72.199 18 เมษายน 2551 21:12:50 น.  

 

-- SPOIL ELERT คอมเมนท์นี้มีบางส่วนที่เปิดเผยเนื้อหาและบทสรุปของหนัง--

- ชอบช่วงต้นเรื่องมากๆค่ะ ถึงจะย้อนไปมาหลายรอบจนหลายคนในโรงขำ แต่ไม่รู้สิ กุ้งลุ้นอะค่ะ อยากดูมุมมองของคนอื่นๆในเหตุการณ์อีก ค่อยๆลุ้นปมแต่ละปมว่ามันตรงกะที่เราเดาไว้หรือเปล่าแต่ขัดใจตอนจบค่ะ รำคาญเด็กผู้หญิงอย่างแรง มันโง่เกินจริงไปอะค่ะ ที่จริงก็โตพอจะดูรถก่อนข้ามถนนเป็นแล้วและก็มาหยุดอะไรกลางถนนพอดีเนี่ย และผู้ก่อการร้ายก็ใจดีเกินค่ะ กล้ายิงคนได้ตั้งเยอะ แต่ดั๊นมาปรานีต่อเด็กในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานด้วย (ถ้าเป็นช่วงปกติ ข้ามถนนปกติก็แล้วไปอย่าง) แต่โดยรวมถือว่าชอบค่ะ ดูสนุกเอามันส์ได้

 

โดย: ลิปดา-พิลิปดา IP: 58.9.10.56 18 เมษายน 2551 21:32:28 น.  

 

+ คิดเห็นคล้ายๆ กัน ครับ ... 4 มุมมองแรก ผมชอบมาก ทำได้ดีและแต่ละเหตุการณ์ก็โยงกันได้อย่างน่าเชื่อถือ ... แต่ความเว่อร์ที่เริ่มปรากฏตั้งแต่มุมมองของ ปธน. ไปจนถึงตอนจบ เลยทำให้หนังลุ้นระทึกสุดมันส์ตอนต้นเรื่อง ... กลายเป็น "หนั๊ง หนัง" ตามสูตรแอ๊คชั่นฮอลลีวูดดาดๆ ไปได้ซะนี่

 

โดย: บลูยอชท์ 24 เมษายน 2551 16:21:23 น.  

 

เพิ่งได้ดูเมื่อวานค่ะ

ส่วนตัวคิดว่า บทเรื่องนี้ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร
แต่วิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ตะหากที่โดดเด่น

แล้วตอนจบง่ายไปหน่อยอ่ะ
ผู้ร้ายที่วางระเบิดที่แท่นปราศรัย แต่หักรถหลบเด็กคนเดียว..
แล้วพี่เค้าไม่คิดบ้างเหรอว่าระเบิดอันโน้นจะไปโดนเด็กตายกี่คน - -"

 

โดย: SFFC IP: 125.27.1.76 30 กรกฎาคม 2551 18:03:39 น.  

 

ผมกลับคิดว่า กลายที่ผู้ร้ายหักหลบเด็กมันสมเหตุผลแล้ว
การฆ่าคนตายทั้งเรื่อง ทั้งยิง ทั้งระเบิดเป็นแผนที่วางไว้ล่วงหน้า
แต่จะขับรถชนเด็กนี่มัน เกิดชั่วพริบตา ตัดสินด้วยสัญชาตญาณ ไม่ใช่การวางแผน

ส่วนการจบแบบนี้ เหมือนจะสูตรสำเร็จ แต่มันก็คลายปมแล้ว ไม่ได้ถึงกับตายตอนจบหรอกครับ

 

โดย: หนุ่ม IP: 125.25.244.77 17 สิงหาคม 2551 2:45:38 น.  

 

ตอนดูโคตรปวดหัวเลย คือมันวิ่งๆทั้งเรื่อง แล้วยังต้องอ่านซับไตเติ่ล แต่มาชอบเอาตอนจบนี่แหละ เป็นส่วนเติมเต็มของหนังที่ดี แสดงถึงความเป็นคนของคนที่เรามองเป็นผู้ร้ายที่อาจจะไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด แค่อุดมการณ์ๆไม่ตรงกันกับคนบางกลุ่ม

 

โดย: หมาย IP: 171.7.163.12 27 เมษายน 2555 17:23:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.