www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง



ข้อมูล: หนังมีความยาว 91 นาที / กำกับโดย Carlos Saldanha ให้เสียงพากษ์โดย Ray Romano / John Leguizamo / Denis Leary และ น้องใหม่ Ellie แมมมอธสาวให้เสียงพากษ์โดย Queen Latifah , possum หนุ่มตัวหนึ่งให้เสียงโดย Seann William Scott / หนังได้รับเรท PG / ใน IMDB.com ให้คะแนนเรื่องนี้ 7/10 ส่วนใน //www.rottentomatoes.com ให้เรื่องนี้ Rotten ด้วยคะแนน 59 %


...4 ปีก่อน ยุคน้ำแข็ง( Ice age )ถือกำเนิดขึ้นมาโดย Blue sky studios ในยุค Disney เฟื่องฟู แต่มันก็สามารถตระหง่านขึ้นมาชนะใจคนดูได้อย่างไม่คาดฝัน ในยุคนั้นไม่มีใครกล้าอาจหาญมาชิงชัยเวที animation กับ Disney หรือถ้ามีก็ต้องล้มหายตายจากไปอย่างไม่ติดฝุ่น แต่ภูผาน้ำแข็งกลับสามารถตั้งตระหง่านขึ้นมาได้ Ice Age ไม่ได้ถือกำเนิดมาจาก Pixar จึงไม่ได้มีภาพที่โดดเด่นกว่า ไม่ได้ถูกสร้างโดยสตูดิโอจิบลิ จึงไม่ได้มีปรัชญาลึกซึ้งมากกว่า แต่สิ่งที่มีคือ มันสนุกกว่า animation หลายต่อหลายเรื่องที่ Disney เคยสร้างมา

ยุคที่สองของ Ice age ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งตามหลังการประสบความสำเร็จของภาคแรกถึง 4 ปี และ ยุคนี้ช่างแตกต่างจากครั้งแรกเหลือเกิน เพราะพวกเขากำลังอยู่ในช่วงของยุค Disney ขาลง ชนิดที่เรียกว่า ขนาดถูกประกบด้วย animation เกี่ยวกับสัตว์เหมือนกันอย่าง The wild ของ Disney แต่ Ice Age: The Meltdown สามารถเขี่ยทิ้งคู่แข่งได้อย่างไม่เห็นฝุ่น

... การยกพลขึ้นบกของเหล่างสรรพสัตว์จากดินแดนน้ำแข็ง นำทัพมาโดยตัวเอก อย่าง Manny the Mammoth , Sid the Sloth และ Diego the Sabre-tooth Tiger สามสหายที่ในภาคแรกได้มาทำความรู้จักผจญภัยร่วมกัน และ บัดนี้พวกเขาคือครอบครัวเดียวกัน

... ทั้งสามตัวและผองเพื่อนในดินแดนน้ำแข็ง ต้องพบกับมหันตภัยธรรมชาติที่คืบคลานเข้ามา นั่นคือ การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ซึ่งจะทำให้ เกิดปรากฏการณ์น้ำท่วมโลกบริเวณที่พวกมันอาศัยอยู่ ทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องหนีไปเพื่อหาเรือในตำนานที่จะพาพวกมันหนีเอาชีวิตรอด นอกจากน้ำที่กำลังจะไหลบ่ามาท่วมแล้ว ยังมีสัตว์ใต้น้ำหน้าตาประหลาดที่เหมือนเพชรฌาตรอคอยการจับสัตว์บกเหล่านี้เป็นอาหาร

...การเดินทางหนีน้ำ อาจดูเป็นพล็อตหลักของยุคน้ำแข็งภาคนี้ แต่ อีกเนื้อหาหนึ่งที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆกัน ยังคงพูดถึง ครอบครัว เมื่อมีข้อสงสัยถูกตั้งขึ้นมาว่า Manny อาจเป็น แมมมอธตัวสุดท้ายบนโลกใบนี้ มันกำลังจะสูญพันธุ์

การเดินทางครั้งนี้ทำให้ Manny ได้พบกับ Ellie ซึ่งใครต่อใครล้วนมองเห็นเหมือนกันว่า เธอคือแมมมอธตัวเมีย แต่ เธอกลับคิดว่าตัวเองเป็น possum เหมือนกับสองพี่น้องข้างกาย , Manny จะสามารถเอาชนะใจเธอและสืบเผ่าพันธุ์แมมมอธให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่ แถม ในเวลาเดียวกันนี้ยังต้องหาทางไม่ให้ตัวเองกับเพื่อนๆตกเป็นเหยื่อของเพชฌฆาตใต้น้ำ และ ถูกน้ำท่วมตาย

... Ice Age ภาคแรกเป็นหนังที่สร้างเพื่อเป็นหนังสำหรับครอบครัว มิตรภาพที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์มาอยู่ร่วมกัน (แมมมอธ , เสือ , สล็อธ , เด็กทารก ) จนพวกมันทำหน้าที่ของตัวเองรวมกันเป็นครอบครัวในการดูแลเด็กทารกและพาเขาสู่อ้อมอกพ่อแม่ มาถึงภาคสอง ประเด็นมิตรภาพและครอบครัวก็ยังคงอยู่ เราได้เห็นสองครอบครัวที่มีความเป็นครอบครัวโดยมิใช่เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันนั่นคือ

ครอบครัว แมมมอธ A ประกอบไปด้วย Manny , Sid , Diego

ครอบครัว แมมมอธ B ประกอบไปด้วย Ellie และ สองพี่น้อง possum

...พวกมันแม้จะมาต่างไฟลั่ม ต่างสปีชี่ส์ แต่การอยู่ร่วมกันโดยมีความเอื้ออนาทรแก่กัน , การไม่ทอดทิ้งกันแม้ยามยาก , การยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเพื่อนพ้อง ล้วนแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกมันล้วนทำหน้าที่ของการเป็นครอบครัวได้ไม่แพ้ครอบครัวใดๆใน Ice age

...ไม่เพียงเท่านี้ การเดินทางครั้งนี้ยังทำให้ ตัวละครแต่ละตัวได้รู้จักและพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกด้วย



Sid ... แม้จะดูสนุกสนาน ฮาๆไปวันๆ แต่ก็มันก็ฝันถึงการได้รับการยอมรับ สะท้อนถึงความรู้สึกด้อยในตัวเอง ดูได้จากการตั้งค่ายที่ตัวเองนั้นก็ไม่ได้มีความถนัด แต่ก็ยังฝืนทำแม้จะโดนแกล้งตลอดเวลา Sid ก็เหมือนคน ที่อยู่ในสังคมอย่างไม่มีความสุขเพราะรู้สึกตัวเองด้อยและโหยหาการยอมรับอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากภายนอก

Diego ... ต้องมารู้จักสิ่งที่เรียกว่า ความกลัว ซึ่งเป็นสิ่งที่มันไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย การเอาชนะความกลัวเป็นเรื่องยากเพราะมันไม่เคยต้องกลัวมาก่อน Diego ก็เหมือนคนที่ปกปิดความกลัวและความอ่อนแอภายใน คอยเอาแต่หลีกหนีสิ่งที่ตัวเองกลัวตลอดเวลา โดยเข้าใจผิดว่ คนเก่งกล้าคือคนไม่รู้จักกลัว เขาลืมไปว่า ไม่ว่าใครก็ย่อมที่จะมีความกลัวได้ทุกคน หากเราไม่รู้สึกถึงความกลัวแล้วเราจะสามารถเอาชนะมันได้อย่างไร

...การเดินทางครั้งนี้ Sid ที่ดูเหมือนจะเพ้อเจ้ออ่อนแอ แต่มันคือคนที่สอนให้ Diego ได้รู้จัก ความกล้าที่จะเอาชนะความกลัวในใจ และ Diego ก็ได้ทำให้ Sid รู้ว่า เพราะมี Sid จึงทำให้ครอบครัวนี้สมบูรณ์ มันเป็นที่ต้องการของทุกๆคนตลอดมาโดยที่มันไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าจากที่ใด

... ปีที่แล้ว ผลงาน animation จากค่ายใหญ่ๆต่างก็เป็นเรื่องของสิงสาราสัตว์ และ สัตว์เหล่านั้นก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าประทับใจเท่าใดนัก สิ่งที่หย่อนไปมากคือความสนุกที่ animation เรื่องหนึ่งพึงมี ความสนุกสำหรับ animation จะให้เข้าถึงทุกเพศวัยทำได้ยากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุกขำๆที่จะทำให้คนดูที่เป็นพ่อหัวเราะไปกับลูกตัวเล็กๆนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่าง Madagascar หลายมุกก็เด็กไปจนผู้ใหญ่อาจเบื่อได้ แต่ถ้ามุกบางมุกมีความเป็นผู้ใหญ่เกินไปอย่างใน Chicken little เช่น มุกล้อเลียนหนังต่างๆ เด็กก็อาจขำไม่ออก

ความสนุกและมุกตลกนี่เอง เป็น จุดเด่นของ Ice Age: The Meltdown ไม่น่าแปลกใจหากมันจะทำเงินถล่มทลาย เพราะมันสามารถทำให้คนดูทุกเพศทุกวัยหัวเราะอย่างมีความสุขตลอดช่วงเวลาความยาวของหนัง เรียกได้ทุกมุกที่หนังยิงออกมาได้ผลทั้งสิ้นสุดแต่ว่าจะยิ้มมากยิ้มน้อยหรือหัวเราะเท่านั้นเอง

…บทของ Ice age ในภาคนี้ดูมีมิติและความลึกน้อยกว่าในภาคแรก เนื้อหาแทบจะไม่มีอะไรมากมายนัก แต่ สิ่งที่ถูกทดแทนมาคือ ความสนุกสนานเฮฮาที่มากกว่า และ ความตลก ที่ดูจะมากกว่าภาคแรกเสียด้วยซ้ำ ตัวบทหนังภาคนี้มีดีตรงที่สามารถคงความสนุกสนานได้ยาวนานและทำให้น่าติดตามโดยไม่รู้สึกเบื่อ การเล่าเรื่องขนานกันไประหว่าง การหนีน้ำ+สัตว์ร้าย และ การเอาชนะใจแมมมอธสาว ทำได้อย่างกลมกลืนลงตัว

...ตัวละครในเรื่องถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ลักษณะตัวละครนั้นถูกพัฒนาให้มีรายละเอียดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีตัวละครเพิ่มขึ้นมากมายกลายเป็นสองครอบครัว แต่การมีบทที่ดี ทำให้ทุกตัวมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นของตัวเอง ที่สำคัญตัวละครเหล่านั้นล้วนมีชีวิตชีวา ทำให้หนังเดินไปข้างหน้าด้วยความสดชื่นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ฉากเปิดเรื่องในแค้มป์ทำให้เราได้พบกับตัวละครประกอบมากมายที่น่ารักและมีความเป็นตัวของตัวเอง บางตัวโผล่มามีส่วนร่วมแค่ไม่กี่วินาทีคนดูก็จำได้อย่างแน่นอน (เช่น ลองคิดถึง ครอบครัวเม่น ดูก็คงจำพวกมันกันได้) นี่คือ ผลงานที่น่าชื่นชมในการสร้างตัวละครที่ดีและน่าจดจำ

น้องใหม่อย่าง Possum สองพี่น้อง แรกๆดูน่ารำคาญ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ดูเหมือนทั้งสองตัวคุ้นเคยกับบทตัวเองมากขึ้น และ เล่นกันออกมาได้ขำคุ้มค่าตัวที่จ้างมาเล่นเป็นอย่างดี ฉากที่ทำท่าเหมือน Robert Deniro ใน Meet the parents ว่า ฉันจับตามองแกอยู่ กับ ฉันจะจำพวกเธอไว้ในใจ เรียกได้ว่าลีลาเหลือรับประทาน

แต่ Ice Age จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีมันตัวนี้ มันผู้ซึ่งเป็นต้นตอของมหันตภัยร้ายทั้งสองครั้งสองภาค เรียกได้ว่าพระเอกของงานตัวจริงสำหรับผมย่อมต้องเป็นของ Scrat กระรอกป่าผู้บ้าเม็ดถั่วอย่างเป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่าถ้ามี Ice age 3 แล้วไม่มีมันอยู่ด้วยแล้วละก็ คงหมดเสน่ห์น่าดู ในภาคนี้มันมีโอกาสได้เล่นมากขึ้น ทั้งเปิดเรื่องและปิดเรื่องเลยทีเดียว รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายน่าจะเก็บมันไว้พิจารณา ทั้งจากแววตาโหยหาเม็ดถั่วทองคำตอนท้ายด้วยความปรารถนาแรงกล้า หรือ แววตาเกรี้ยวกราดยามต้องปกป้องต่อสู้สิ่งที่ตัวเองรักกับปิรันย่าจอมโหด นี่แหละอีกหนึ่ง คาแรกเตอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี

สิ่งที่ชอบ

1.ความสนุก + มุกตลก … หากใครถามว่า Ice age 2 มีดีอะไร ผมสามารถตอบได้โดยอัตโนมัติอย่างไม่ต้องคิดว่า มันเป็นหนังสนุกและตลกเอามากๆ ความสนุกของมันสามารถชดเชยเนื้อหาที่ไม่ได้ลึกซึ้งเท่าภาคก่อนหรืออนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ

2.สิงสาราสัตว์ ... คนออกแบบตัวละครสามารถสร้างจุดเด่นของแต่ละตัว และ คนเขียนบทสามารถกระจายความสำคัญให้กับตัวละคร เป็นผลรวมที่ทำให้สิงสาราสัตว์ใน Ice age 2 เป็นทีมสัตว์นักแสดงที่ยอดเยี่ยม

3. Scrat ... ออกมาไม่กี่ฉาก ส่งเสียงให้ได้ยินไม่กี่คำ ก็ทำให้คนจดจำมันได้มากกว่าหลายๆตัวละครในเรื่อง เช่นนี้แล้ว จะให้ไม่หลงรักเจ้าตัวละครน่ารักน่าชังตัวนี้ได้อย่างไร

สรุป ... คุ้มค่าตั๋วเป็นอย่างยิ่ง สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจตลอดเวลาที่นั่งดู ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักหนังanimation (Disney คงได้แต่ต้องยอมรับว่า ถึงเวลายุคน้ำแข็งครองเมืองแล้ว) ,ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักหนังที่ดูจบแล้วอารมณ์ดี หลายคนกลัวว่าโตแล้วดูการ์ตูนจะไม่สนุก ลอง Ice age 2 ดูสักครั้งแล้วจะพบว่า ความเป็นเด็กในตัวเรายังไม่หายไปไหน


ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง




ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 22 เมษายน 2549
20 comments
Last Update : 22 เมษายน 2549 0:12:47 น.
Counter : 3716 Pageviews.

 

ไปดูมาแล้วครับ ตลกดี ดูแล้วยิ้มได้ ชอบเจ้าScrat ที่สุดเลย (เสียดาย อดไปสวรรค์)

 

โดย: Markabyte 22 เมษายน 2549 0:19:30 น.  

 

 

โดย: แ ม ง ป อ 22 เมษายน 2549 0:24:55 น.  

 

อย่างงี้ต้องพิสูจน์ความเป็นเด็กในตัวแล้วล่ะครับ
ต้องปอกเปลือกออกเพื่อดูขนาดของจินตนาการในเซลล์สมอง และความเยาว์วัยในวานวันขอรับกระผม

 

โดย: ดำรงเฮฮา 22 เมษายน 2549 0:33:01 น.  

 

อยากดูเรื่องนี้มากๆเลย ชอบหนังAnimationอยู่แล้วด้วย ยิ่งอ่านแล้วก็ยิ่งอยากดูใหญ่เลย แต่คงต้องรอสอบเสร็จก่อนง่ะ หวังว่าหนังคงยังไม่ออกนะ

 

โดย: เด็กหญิงริมขอบฟ้า 22 เมษายน 2549 0:49:34 น.  

 

ชอบดูการ์ตูนมากๆ

 

โดย: Zantha 22 เมษายน 2549 6:13:56 น.  

 

จะพาหลานๆ ไปดูวันนี้ค่ะ

 

โดย: grappa 22 เมษายน 2549 7:02:47 น.  

 

ตลกมากเลย ไปดูรอบแรกแล้วยังไอยากไปดูรอบสองอยู่เลย ขำมากๆ จนได้ว่าขำจนน้ำตาไหลเลยล่ะ อิอิ ชอบมุขในเรื่องนี้ โดยเฉพาะตอนที่ตัวอื่นๆ(ไม่รู้เค้าเรียกว่าตัวอะไร)ทำตามsid อยากลงไปดิ้นๆหัวเราะกับพื้น แล้วก็ตอนที่ฉันจับตาดูคุณอยู่เหมือนจะเจอในmeet the focker แล้วก็ตรงI believe I can fly เพลงนี้เก่าแล้วเนอะ ชื่นชมคนเขียนบทจังเลย อิอิ ใครยังไมได้ไปดูไปดูน้า แนะนำๆ

ปล คราวนี้คุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ ไม่ได้เขียนสิ่งที่ไม่ชอบไว้ด้วย อิอิ

 

โดย: Luci>feR IP: 222.152.99.219 22 เมษายน 2549 8:08:53 น.  

 

อยากดูง่า

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 22 เมษายน 2549 9:05:26 น.  

 

ชอบตั้งแต่ภาคแรก
ดูซะสองรอบ

ภาคนี้ก็ยังอยากดูมากๆค่ะ
เปนการ์ตูนที่น่ารักชะมัดจริงๆ

 

โดย: prncess 22 เมษายน 2549 9:11:46 น.  

 

ผมรัก Scrat มากๆเลยครับ ฮาตอนเต้นบัลลเลต์มากๆ นึกถึงแล้วยังฮาอยู่เลยครับ

 

โดย: เข็มขัดสั้น 22 เมษายน 2549 10:49:40 น.  

 

เจ้า Scrat นี่สุดๆจริงๆครับ... (Oaks to die for)

น่าเสียดาย ผมเอง(แอบ)อยากให้ตอนจบเป็นว่า ต่างคนก็ต่างไปตามลิขิตตัวเอง... แล้วภาคสามค่อยมาเจอกันอีกที...

แต่จบแบบนี้ก็แฮปปี้เอนดิ้งดี..

**อ้อ Possum สองพี่น้องชื่อ Crash กับ Eddie นะครับ

 

โดย: nanoguy (nanoguy ) 22 เมษายน 2549 15:20:24 น.  

 

รอ รีวิว เรื่อง Perhaps love อยู่นะคะ

 

โดย: มิ้นท์ IP: 58.8.11.166 23 เมษายน 2549 2:26:27 น.  

 

ชอบscratมาก น่ารักเป็นบ้าอยากมีไว้สักตัว

 

โดย: yatiko IP: 203.146.55.130 24 เมษายน 2549 11:31:22 น.  

 

สวัสดีค่ะ
เป็นหนังที่ยิงมุขตลกได้ไม่หยุดเลย ยิงทีไรขำกระจาย
เนื้อเรื่องดูง่ายกว่าภาคที่แล้ว แต่ก็สนุกดีมีสาระเหมือนที่คุณผมอยู่ข้างหลังคุณเขียน เช่น
การต้องการการยอมรับจากคนอื่น
การสามารถยอมรับตนเอง
การต่อสู้กับความขัดแย้งในใจ
และความรู้สึกว่าตนเป็นที่ต้องการของคนอื่น
เป็นต้น
สรุปคือเป็นหนังที่ฮา ขำ สนุกและมีสาระดีๆด้วยค่ะ

 

โดย: Old age IP: 58.9.162.58 24 เมษายน 2549 23:03:34 น.  

 

แหงะ ... พลาดมา 2 อาทิตย์ล่ะ หวังว่าอาทิตย์หน้าคงยังมีรอบเหลืออยู่นะ ... เด๋วได้ดูแล้วจะมาเม้นต์เพิ่มอ่ะคับผม

 

โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 25 เมษายน 2549 17:47:46 น.  

 

ไปดูมาแล้วครับ สนุกดี ใช้ได้ แต่ผมเสียดายตัวละครพอสซั่มสองตัว ที่เราไม่ค่อยรู้จักว่าลักษณะนิสัยมันเป็นยังไง มันคือตัวอะไร คิดว่าถ้ารู้จักกันก่อนน่าจะฮากว่านี้อีก

 

โดย: eYacht IP: 61.7.164.19 25 เมษายน 2549 23:22:15 น.  

 

อิๆ เพิ่งได้ไปดูมาครับ (แถมด้วย Match point ไปอีกเรื่อง) เสร็จแล้วก็เพิ่งได้มาอ่านเม้นต์แบบเต็มๆ ของคุณผมอยู่ข้างหลังคุณและแฟนบล็อกทุกๆ ท่าน ... จริงๆ ที่รออยู่ ไม่ใช่อะไร แต่ดูไม่ทันต่างหาก แค่นี้ก็ดูอาทิตย์ละ 2 เรื่องแล้ว กะว่า Ice age น่าจะยังอยู่แน่ๆ ซึ่งก็คาดการณ์ถูก ... แต่ที่ผิดอย่างมหันต์ก็คือ การเลือกดู Perhaps love แทน Hell เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ... เพราะพออาทิตย์นี้ตั้งใจมากเลยว่าจะไปดู Hell ... อ้าว ดันออกแล้วซะงั้น แต่ Perhaps love ยังยืนโรงที่สกาล่าเหมือนเดิมซะนี่
+ เผอิญผมยังมีความเป็นเด็กในตัวสูงอยู่มั้ง เลยยังรู้สึกขำกระจายอยู่ (มากกว่าคนข้างๆ ทั้งซ้ายและขวา) เป็นอันมาก
+ เหมือนทุกๆ ท่านแหละครับ ชอบหลายๆ มุกตลก, ความน่ารักของตัวการ์ตูนต่างๆ รวมทั้งประเด็นเรื่อง "ครอบครัว" "ความกลัว" และ "การยอมรับ" ของทั้ง 3 ตัวเอก ... แต่ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือ อนิเมชั่นเรื่องนี้ยังผูกโยงให้คนฉุกคิดถึงสภาวะ Green House Effect ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่น้ำแข็งทั้งแถบขั้วโลกและตามยอดเขาสูงต่างๆ กำลังละลายลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย ... ถึงแม้ภาพในการ์ตูนอาจดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย มันก็เป็น "ประเด็น" ที่สามารถเอาไปขบคิดกันต่อได้ล่ะครับ
+ Scart ภาคนี้ถือเป็นตัวเอก เพราะเป็นตัวแรก (หรืออาจเป็นสาเหตุด้วยซ้ำ) ของทั้งตอนที่เกิดเรื่อง (น้ำแข็งเริ่มละลาย มีน้ำไหลพุ่งออกมา) และตอนปิดเรื่อง (น้ำแข็งแยกและน้ำไหลออกไป) ... ซึ่งก็นับว่าใช้ได้ เพราะออกมาทีไร คนดูก็ฮาแตกฮาแตนทุกครั้งไป
+ ตอบคุณ Licifer คห.7 : Sid เป็นตัวสล็อธครับ ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง เจ้าตัวนี้เป็นสัตว์ที่ขี้เกียจ ... เอ๊ย เอาเป็นว่า เคลื่อนที่ได้ช้าที่สุดในโลกก็แล้วกัน ประมาณว่าต้นไม้ 1 กิ่งต้องใช้เวลาเป็นวันๆ ที่จะคืบไป
+ ชอบสโลแกนของคุณ nanoguy : Oaks to die for จัง ... อิๆ เห็นภาพเลยอ่ะครับ

 

โดย: บลูยอชท์ รีเทิร์น IP: 210.1.33.130 3 พฤษภาคม 2549 0:11:45 น.  

 

เนี้ยว~

เพิ่งไปดูมาเมื่อวานเหมือนกัน ดูให้คลายเครียด จากแอดมิชชั่น ไม่เคยดูภาคแรกเพราะปกติค่อยชอบดูการ์ตูนเท่าไรเพราะกลัวว่ามันจะเด็กเกินไปสำหรับเรา แต่ก็นั่นแหละคลายเครียดๆเลยไปดู แต่ขอบอกเลยนะว่าชอบมาก ชอบกระรอกน้อยมากๆอ่ะยิ่งตอนสุดท้ายที่เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ อย่างฮาเลยคะ ถ้าเรื่องของสาระเรายกให้เป็นเรื่องของการยอมรับ ของ Sid

 

โดย: Conch 3 พฤษภาคม 2549 7:59:58 น.  

 

ไปดูมาแล้วก็ชอบมากๆ หนังมันสอนอะไรเราได้ตลอด ถ้ามีลูกก็จะพาลูกไปดูล่ะค่ะ สอนอะไรที่มันยากๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมากจนน่าเบื่อ...

ดูเสร็จแล้วออกมาจากโรง ก็อมยิ้มอยู่ได้นานโขเลยค่ะ

 

โดย: stubborn IP: 210.86.174.3 8 พฤษภาคม 2549 18:00:24 น.  

 

ชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากทั้งภาค1และภาค2เลย

 

โดย: แมมมอธ IP: 117.121.208.2 10 ตุลาคม 2551 18:38:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
22 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.