Bloggang.com : cadeau : กดจุดฝ่าเท้ารักษาโรค 1

กดจุดฝ่าเท้ารักษาโรค 1

การกดจุดฝ่าเท้าได้กำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่

เมื่อ 5 พันกว่าปีก่อน ในสมัยจักรพรรดิหวงตี้ โดยเริ่มจากความเชื่อของ

ชาวจีนที่ว่า ในร่างกายคนเรานั้นมีเส้นลมปราณกระจายอยู่ทั่วไป ทำหน้าที่

เป็นทางเดินของเลือดลม ส่งสารอาหารและพลังงานไปหล่อเลี้ยงอวัยวะ

ต่างๆ ถ้าการไหลเวียนของเลือดลมติดขัดก็จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นได้

ดังนั้น ชาวจีนจึงใช้”การฝังเข็ม” ลงไปตามจุดต่างๆ เพื่อแก้ไขการติดขัดของ

การไหลเวียนนี้ในการรักษาโรค

บริเวณฝ่าเท้าของคนเราก็เช่นกัน มีเส้นลมปราณใหญ่อยู่ 6 เส้นเชื่อมต่อ

กับอวัยวะต่างๆ สามารถฝังเข็มกระตุ้นที่ฝ่าเท้าเพื่อรักษาความผิดปกติ

ของอวัยวะที่เกิดขึ้นได้ ความเชื่อดังกล่าวของชาวจีนสอดคล้องกับผลการ

ค้นคว้าวิจัยของบรรดาแพทย์นักวิทยาศาสตร์ในยุคต่อๆมาที่พบว่า ความผิด

ปกติที่เกิดขึ้นที่อวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายจะแสดงออกให้เห็นเป็น

ความผิดปกติที่พื้นที่บนส่วนหนึ่งส่วนใดของฝ่าเท้า และการกระตุ้นตำแหน่ง

ต่างๆ ที่ฝ่าเท้า สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของอวัยวะ

ต่างๆได้

"เท้า" มีความสำคัญอย่างไร ?

>แม้จะเป็นเพียงอวัยวะเล็กๆ แต่ "เท้า" ก็ทำงานหนักนะคะ โดยรับภาระหน้าที่

หลักๆ ดังนี้

1. รับน้ำหนักร่างกาย

โครงสร้างของเท้าประกอบด้วย กระดูก 28 ชิ้น ทำหน้าที่ในการพยุงกระดูก

เชิงกราน และกระดูกสันหลัง จึงเท่ากับว่าโอบอุ้มระบบโครงสร้างต่างๆของ

ร่างกายไว้ทั้งหมด ร่างกายจะมีการทรงตัวที่ถูกต้องได้ก็ขึ้นอยู่กับกระดูกทั้ง

28 ชิ้นนี้ ถ้าเกิดความผิดปกติขึ้น จะทำให้ความโค้งของเท้าเปลี่ยนไป อวัยวะ

ส่วนอื่นๆก็จะผิดปกติไปด้วย ก่อให้เกิดอาการต่างๆขึ้นกับร่างกาย เช่น

อาการปวด อาการชา การไหลเวียนของเลือดไม่ดี เส้นเลือดและน้ำเหลือง

เกิดการคั่ง กระดูกเชิงกรานผิดรูปร่าง กระดูกสันหลังและเส้นประสาท

อักเสบ หมอนรองกระดูกถูกทำลาย ปวดศีรษะ และอาการอื่นๆอีกซึ่งจะทำ

ให้เกิดความเจ็บปวดแก่ร่างกายขึ้นได้

2. รับการเคลื่อนไหว

การเคลื่อนไหวที่ถูกต้องของกระดูกทั้ง 28 ชิ้นขึ้นอยู่กับความสมดุลของ

แรงดึงกล้ามเนื้อและเอ็น หากแรงดึงนี้ลดลง กระดูกทั้ง 28 ชิ้นก็จะไม่

สามารถอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องได้ ความโค้งของเท้าก็จะเปลี่ยนแปลงไป

เช่น ปลายเท้าบิดออก (Splayfoot) ความโค้งของเท้าแบนลง (Flatfoot)

หรือส้นเท้าเปลี่ยนรูปร่าง (Clubfoot) เป็นต้น

3. ทำหน้าที่สะท้อน

ตามหลักกายวิภาคศาสตร์ กระดูกทั้ง 28 ชิ้นของเท้าถูกห่อหุ้มด้วยกล้าม

เนื้อ เส้นเอ็น และผิวหนัง การสะท้อนจึงเปรียบคล้ายคลื่นรีโมท ที่ให้กระแส

พลังงานจากเท้าไปสู่อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย

ศาสตร์แห่งการกดจุดสะท้อนเท้า

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า "กดจุดสะท้อนเท้า" อยู่บ้าง ซึ่งคำๆ นี้ ฟัง

ดูเผินๆ แล้วอาจจะนึกว่าเป็นการนวดเท้าธรรมดา แต่หารู้ไม่ว่า การนวดเท้าที่

เคยเป็นศาสตร์รวมอยู่ในการนวดแผนไทยนี่แหละ ได้มีพัฒนาการไปสู่

ศาสตร์ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าและสามารถรักษาโรคร้ายทั้งหลายทั้งปวงได้อย่าง

เหลือเชื่อ

ศาสตร์การกดจุดสะท้อนเท้านี้ถูกนำมาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักทั่วเมืองไทย

โดยท่านอาจารย์ สมบูรณ์ รุ่งโรจน์สกุลพร ประธานมูลนิธิพัฒนาศาสตร์การ

นวดกดจุดสะท้อนเท้า (ประเทศไทย) ผู้ซึ่งพลิกผันชีวิตจากนักธุรกิจมาเป็น

ปรมาจารย์ทางด้านการนวดกดจุดเท้าเพื่อรักษาโรค

"10 ปีที่แล้ว ผมป่วยสารพัดโรค กระเพาะ ไมเกรน ไต ความดันโลหิต

เครียด ฯลฯ ตอนนั้นคนจีนในมาเลเซียมากดจุดเท้าให้ ผมก็สงสัยว่า เขารู้ได้

อย่างไรว่า ผมเป็นโรคอะไรตั้งหลายอย่าง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ตรวจโรค บางทีรู้

มากกว่าตรวจในโรงพยาบาล"

อาจารย์บอกว่าการแค่นำฝ่าเท้าทั้งสองประกอบเข้าด้วยกัน จะปรากฏโครง

สร้างที่สมบูรณ์ของร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นเสมือนกระจกสะท้อนอวัยวะภาย

ในร่างกาย ถ้าร่างกายบกพร่องแค่ 5-10% เท้าก็สามารถบ่งบอกโรคได้

ไม่ต้องดูอื่นไกล พวกเท้าแห้ง เท้าตาปลา ก็ส่อถึงระบบภายในบางส่วน

บกพร่องเสียสมดุล

การกดจุดฝ่าเท้า ต่างกับการนวดเท้าอย่างไร ?

การกดจุดสะท้อนเท้า แตกต่างจากการนวดฝ่าเท้าทั่วไปที่ใช้ไม้กดหรือแค่

ใช้มือนวดธรรมดาที่ช่วยให้ผ่อนคลายและกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียน หากแต่

การนวดกดจุดสะท้อนเท้านี้จะต้องกดลึกกว่า ต้องมีความแม่นยำในเรื่อง

ตำแหน่งจุดสะท้อน และทำไปในทิศทางที่ถูกต้อง มิฉะนั้นกล้ามเนื้อหรือ

อวัยวะภายในที่ส่งผลสะท้อนจะเกิดปัญหาได้ อีกทั้งยังต้องเลือกใช้การกด

ทางใดทางหนึ่ง เช่นกดจากซ้ายมือมาขวามือ หรือกดจากขวามือมาซ้ายมือ

เมื่อกดฝ่าเท้าตรงไหนรู้สึกว่าเจ็บมากแสดงว่าอวัยวะนั้นมีข้อบกพร่องคือทำ

งานไม่ปกติแสดงว่าอวัยวะส่วนนั้นไม่แข็งแรง การกดจุดฝ่าเท้า อุปกรณ์หลัก

ที่ใช้กดก็คือ นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้

การนวดกดจุดสะท้อนเท้ามีจุดสำคัญ 62 จุดบนฝ่าเท้า ซึ่งเป็นจุดปลาย

ประสาทของอวัยวะภายในร่างกาย แต่ละจุดจะมีระบบการรับรู้ทั้งหมด 7

ระบบ

1. ระบบขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ :

ถ้ามีปัญหาปัสสาวะบ่อย เป็นนิ่วในกระเพาะ ท้องผูก สามารถใช้การนวดกดจุด สร้างสมดุลรักษาโรคได้

2. ระบบสมอง :

นอนไม่หลับ ไมเกรน มึนศีรษะ เครียด อัลไซเมอร์ เส้นโลหิตในสมองตีบ

3. ระบบฮอร์โมน :

ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีลูกยาก มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศ

4. ระบบประสาทสัมผัสตา จมูก และหู

5. ระบบไขสันหลังตั้งแต่กระดูกคอ เอว ก้นกบ ตะโพก ขา

6. ระบบภูมิต้านทาน

7. ต่อมน้ำเหลือง

อาจารย์ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า "การนวดตามจุดระบบต่างๆ จะช่วยให้อาการ

ดีขึ้น มีหลายคู่ไม่มีลูก แล้วมากดจุดกระตุ้นระบบฮอร์โมน การนวดกดจุด

สะท้อนเท้าจะใช้นิ้วข้อ นิ้วชี้ นิ้วโป้ง ไม่มีการใช้อุปกรณ์อื่นๆ อย่างน้อยต้อง

นวดประมาณ 3 ครั้งติดกัน ก่อนนวดจะแช่น้ำอุ่นให้เลือดไหลเวียน บางคนมี

อาการบกพร่องมากกว่า 10 จุด"

...จะว่าไปแล้วคนเรามักจะละเลยและไม่ใส่ใจดูแลรักษา "เท้า" ให้เทียบ

เทียมกับการเอาใจใส่อวัยวะสำคัญอื่นๆ เช่น ตับ ปอด ม้าม หัวใจหรือว่าลำ

ไส้ใหญ่ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น "เท้า" ก็เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญไม่น้อย

ไปกว่าอวัยวะเหล่านั้นเลย เพราะมันสามารถสะท้อนหรือบ่งบอก “สุขภาพ”

ของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว...

"เท้า" สัมพันธ์กับอวัยวะในร่างกายอย่างไร ?

"เท้า" 2 ข้างนั้นมีความสัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายที่แตกต่างกันออก

ไป โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 จุด (5 เท้า) ด้วยกัน คือ

1. ฝ่าเท้าข้างซ้าย: บ่งบอกสุขภาพของอวัยวะซีกซ้ายที่ประกอบด้วยหัวใจ

ม้าม ไต ฯลฯ

2. ฝ่าเท้าข้างขวา: บ่งบอกสุขภาพของอวัยวะซีกขวาที่ประกอบด้วยตับ ถุง

น้ำดี ไส้ติ่ง ฯลฯ

3. หลังเท้า: บ่งบอกสุขภาพของต่อมทอนซิล ขากรรไกร ต่อมน้ำเหลืองที่

ปอด ทรวงอก กระบังลมทั้งสองข้าม

4. เท้าด้านใน: บ่งบอกถึงสุขภาพจมูก กระดูกคอ กระดูกหลัง กระดูกเอว

ก้นกบ ช่องคลอด อวัยวะเพศ มดลูกและลูกอัณฑะทั้งสองข้าง

5. เท้าด้านนอก: บ่งบอกสุขภาพของไหล่ ข้อศอก หัวเข่า สะบัก รังไข่

ทั้ง 5 เท้านี้จะประกอบรวมกันเป็นมนุษย์ ซึ่งนับรวมแล้วมีจุดต่างๆ ที่ปรากฏ

บน 5 เท้าทั้งสิ้น 62 จุดด้วยกัน เป็นจุดที่เป็นปลายประสาทของอวัยวะใน

ร่างกาย 62 จุด หรือที่เรียกกันว่า “จุดสะท้อน”

ทั้งนี้ อาจารย์สมบูรณ์ ได้ยกตัวอย่างเพื่อขยายความคำว่า "สะท้อน" ให้เห็น

ภาพง่ายๆ เช่น เวลาที่เราใส่รองเท้าผ้าใบหรือคัตชูนานๆ จะรู้สึกอึดอัด

นั่นแสดงว่ามันกดสะท้อนถูกตำแหน่งนิ้วโป้ง ซึ่งนิ้วโป้ง หรือนิ้วหัวแม่เท้านั้น

เป็นตำแหน่งของจมูกพอดี จึงทำให้เรารู้สึกอึดอัด หรือเวลาที่เราใส่รองเท้า

ปลายแหลมๆ และรัดแน่นๆ ก็จะรู้สึกว่าไหล่จะบีบ และเกิดอาการเมื่อยขึ้นที่

บริเวณไหล่ นั่นก็เพราะถูกบีบตรงนิ้วก้อย ซึ่งเป็นตำแหน่งของไหล่ จุดเหล่า

นั้น เรียกกันว่า "จุดสะท้อน"

การนวดเท้า 3 ระดับ

- ระดับแรกหรือระดับพื้นฐาน คือการนวดเพื่อสุขภาพ

- ระดับที่สอง คือการนวดเพื่อปรับความสมดุล

- ระดับที่สาม คือการนวดด้วยพลังชี่

ประโยชน์จากการนวดเท้า

การจุดสะท้อนเท้าส่งผลต่อร่างกายในหลายระดับด้วยกัน ที่เห็นชัดๆ คือ

1. ช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติและสร้างภูมิต้านทานโรค

2. ช่วยในเรื่องของการขับของเสียออกจากร่างกาย ดังนั้น ก่อนนวดต้องให้

ดื่มน้ำ 1 แก้ว และหลังนวดอีก 1 แก้ว

3. มีผลต่อการกระตุ้นอวัยวะทุกส่วนในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ เสริมสร้าง

กระดูกและกล้ามเนื้อให้เป็นปกติ ปรับการทำงานของระบบประสาท

4. ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงดูอ่อนกว่าวัย ทำให้เลือดลมเดินเป็นปกติ

ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต ยิ่งคนที่นวดเท้าเป็นประจำยิ่งไม่ต้องห่วงเรื่อง

อัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะจะมีการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนตลอด แถมยัง

ช่วยปรับฮอร์โมนของร่างกายให้เป็นปกติอีกด้วย

>> สาระเกี่ยวกับการกดจุดฝ่าเท้าเพื่อรักษาโรคและเคล็ดลับการดูแลเท้า

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ อ่านต่อ "วิธีกดจุดฝ่าเท้าเพื่อรักษาโรคต่างๆ ที่นี่"<< ค่ะ

ขอบคุณที่มา :

*หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2548

*The Federation of Thai Industries

*สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา

*//www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=232

Create Date : 25 เมษายน 2551

Last Update : 26 เมษายน 2551 0:01:04 น.

16 comments

Counter : 8093 Pageviews.

โดย: yosita_yoyo

วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:19:13:02 น.

แวะมาอ่านดีจังค่ะ ขอบคุณมากค่ะกับความรู้ดี ๆ

โดย: Father_to_daughter

วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:20:17:09 น.

แวะมาอ่าน..ผ่านมาทักทายจ้า

มีความสุขกับวันหยุดนะคะ

โดย: gripenator

วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:12:45:39 น.

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]

โดย: yosita_yoyo

วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:13:09:28 น.

ขอบใจจ้ะ

โดย: ป้าจิน IP: 124.120.99.225 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:13:03:51 น.

มีประโยชน์มากมายเลยค่ะ
อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับการกดจุดทีรักษาอาการปวดประจำเดือนโดยเฉพาะค่ะ

โดย: หนูน้อย IP: 202.28.62.245 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:22:24:02 น.

ขอบคุณคะสำหรับสาระดีๆ

โดย: ศิลา IP: 58.147.40.178 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:14:41 น.

อยากได้ข้อมูลทั้งหมด ขอความกรุณาส่งมาทางอินเตอร์เน็ตให้ไดไหมค่ะมีภาคภาษาอังกฤษก็คงดีมากนะค่ะ e-mail thanchanok_thailand@yahoo.com ขอขอบตุณล่วงหน้าค่ะ ตอนนี้อยู่ที่อังกฤษค่ะ

โดย: ธัญย์ชนก IP: 90.200.39.92 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:1:24:06 น.

อยากเอาใจสามีโดยการกดจุดฝ่าเท้า เพราะเห็นว่าทำงานหนัก ทุกวัน ขอบคุณที่มีสาระดีๆ ให้อ่าน ค่ะ

โดย: สุวรรณา ค่ะ IP: 114.128.2.253 วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:20:06:56 น.

จะลองเอาไปใช้กับอาม่าค่ะ
อาม่ามีอาการเริ่มต้นของอัมพฤกษ์
ขอบคุณที่ให้สาระดีๆ ขอให้ทีมงานทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

โดย: hippo_cm IP: 118.172.61.120 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:20:47:22 น.

อ่านแล้วเกิดความรู้สึกดีๆมากครับ เราเองน่าจะทำได้นะ แค่เนี๊ย

โดย: สัญญลักษณ์ IP: 125.26.154.152 วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:9:46:10 น.

ปวดเมนส์กดตรงไหนคะ

โดย: ไก่ IP: 118.174.29.111 วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:9:12:00 น.

มีอาการชาที่ฝ่ามือฝ่าเท้าทำไงค่ะ

โดย: sucaya IP: 192.168.52.206, 58.137.207.250 วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:10:47:47 น.

_/l\\_ ขอบคุณหลายๆครับ

โดย: d^_^b dekslum IP: 113.53.158.189 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:31:32 น.

ขอบคุณสำหรับเจ้าของบลอคที่นำความรู้มาแจกจ่ายให้ผู้อื่นขออนุโมทนา และขอบอกว่าบลอคน่ารักมากๆๆ (จริงๆนะ) ชอบจ้ะ

โดย: greentea IP: 203.113.99.210 วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:10:51:23 น.

ถ้าโรคมะเร็งต้องยกให้ อาจารย์หวังช่วยเพราะท่านรักษาให้ดี/หายมาหลายรายแล้ว.แต่ไม่ลงข่าวเพราะไม่อยากดัง..คนป่วยที่มาก็มาจากโรงพยาบาลเอกชนดังๆกันทั้งนั้นที่หมอไล่กับไม่รักษาต่อแต่กับรอดได้ด้วยอาจารย์หวังช่วย....089-1289304 กทม

โดย: บอกต่อ IP: 125.25.36.189 วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:19:41:41 น.

cadeau

Location :
Tasmania Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]

Friends' blogs

[Add cadeau's blog to your web]

Links

BlogGang.com