นอนไม่พอ..ส่งผลต่อสุขภาพ 1
Bravo...ดีใจที่ทำรายงานเสร็จสิ้นไปอีกหนึ่งวิชา ก็เลยชะแว้บมาเขียน blog
ซะหน่อย เฮ้อ..จะว่าไปแล้ว กว่าจะทำรายงานตัวนี้เสร็จ ร่างกายก็รู้สึกว่า
อ่อนเพลียเสียเหลือเกิน เพราะว่าเข้านอนตี 4 ตี 5 แล้วตื่นประมาณ 11 โมง
มาหลายวันแล้วล่ะค่ะ อาการหนักๆ เข้า ตื่นเที่ยงวันเลยก็มี (นอนกินบ้าน
กินเมืองซะอิ่มเลย)
แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ ต่อให้นอนตื่นสายขึ้นเพื่อชดเชย
ชั่วโมงนอนแค่ไหน ร่างกายมันก็ไม่มีสัญญาณบ่งบอกเลยว่า สดชื่นและ
หายง่วงแล้วนะ...ตรงกันข้ามเลยล่ะ กลับรู้สึกมึนงงและปวดหัวทุกเช้าที่ตื่น
ไม่กระปรี้กระเปร่าเอาซะเลย เอากาแฟเข้าช่วยก็แล้ว แต่ก็ยังง่วงอยู่ดี
มีวันนึงนะ แอ้ดื่มกาแฟเข้าไปปุ๊บ แทนที่มันจะรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นบ้าง
มันกลับง่วงค่ะ!! ง่วงทันที ราวกับว่ากินยานอนหลับเข้าไป ก็เลยอดสงสัย
ไม่ได้ว่า เอ๊ะ..นี่มันกาแฟ หรือยานอนหลับหว่า?? เหอ เหอ..แต่ก็ไม่สนใจ
นั่งทำงานไป กินกาแฟไป ด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ว่า เดี๋ยวสักพัก ร่างกาย
ก็ตื่นตัวและทำงานได้ตามปกติแล้ว
หารู้ไม่ว่ากาแฟถ้วยนั้นที่ดื่มไปหลัง
อาหารเช้า ส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร ทำให้โรคกระเพาะอาหารของแอ้
กำเริบขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ หลังจากทานข้าวไปแล้วพักใหญ่ๆ เกิดอาการขย้อน
ขึ้นมา หรือแม้แต่ทานข้าวไปตั้งแต่เช้าแล้ว ตกเย็น อาหารยังไม่ย่อยก็มีค่ะ
ก็เลยไม่กล้าทานอะไรเข้าไปอีก ต้องแบ่งทานเป็นมื้อเล็กๆ แต่หลายๆ มื้อ
หน่อย
นอกจากนี้ แอ้ก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มเสียสมดุลย์ เนื่องจากนอนไม่เป็นเวลา
และพักผ่อนไม่เพียงพอ จากเดิมที่เคยเข้านอนประมาณสี่ทุ่มหรือห้าทุ่มแล้ว
ก็ตื่นประมาณ 7 โมงเช้าเป็นกิจวัตร ตอนนี้ร่างกายได้ปรับเวลาของมันใหม่
เริ่มเคยตัวกับการนอนดึก ทานดึกขึ้น แล้วก็อดมื้อเช้าไปซะเฉยๆ (เพราะยัง
ไม่ตื่น) ทานอีกทีก็บ่ายโมงซะแล้ว ซึ่งมันก็เหมือนการทำลายระบบทางเดิน
อาหาร ระบบการย่อย และระบบลำไส้ทางอ้อม
บางทีเมื่อหิวบ่อยๆ
ในตอนดึก (ก็น้ำย่อยมันกลั่นตัวออกมาเวลาเครียดระหว่างทำรายงานหรือ
การบ้านน่ะค่ะ) ก็ต้องเดินไปหยิบนู่นหยิบนี่มาใส่ท้อง เลยทำให้กระเพาะมัน
ทำงานเรรวนไปหมด ระบบขับถ่ายก็แย่ลงๆ จากเดิมที่ท้องผูกอยู่แล้ว
กลายเป็นไม่ถ่ายไปเลยทั้งอาทิตย์ 
แล้วก็ยังมีอีกหลายๆ อาการที่เป็นผลพวงจากการนอนดึก ซึ่งเป็นการเปลี่ยน
แปลงในร่างกายของตัวเองอย่างเห็นได้ชัดค่ะ..
1. หลังจากทำให้ร่างกายมันนอนดึกจนเคยชิน ก็ได้โรคนอนไม่หลับมาเป็น
เพื่อน แม้จะเข้านอนเวลาเดิม ยืดเส้นยืดสายก่อนนอนเพื่อให้ร่างกายผ่อน
คลายหรือแม้กระทั่งพลิกตัวไปมาหลายต่อหลายหน ก็ยังไม่หลับ เคยเข้า
นอนตั้งแต่สี่ทุ่มแล้วก็นอนแช่อยู่บนเตียงอย่างนั้นจนถึงเช้าเลยอ่ะค้า..
แต่แปลกนะ ถึงนอนไม่หลับ ตอนเช้าที่แอ้ตื่นมา ก็รู้สึกกระชุ่มกระชวย
สามารถทำนู่นทำนี่ได้อย่างสบายในช่วงเช้า แต่พอเข้าช่วงบ่ายแล้วล่ะก็ ไม่รู้
พลังมันหายไปไหนหมด มึนตึ้บเรยยยย
2. เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เวลาหายใจบางครั้งเหมือนมีลมมาอัด
แน่นอยู่บริเวณลิ้นปี่ block ลมหายใจเข้า-ออก ทำให้รู้สึกเหมือนหายใจ
ไม่ทัน ต่างจากเดิมที่เคยหายใจเข้า-ออกได้ครั้งละนานๆ คราวนี้ไม่สามารถ
แล้วล่ะ เพราะมีอาการจุกและหายใจไม่ทั่วท้อง สังเกตตัวเองว่าบางครั้งต้อง
พยายามฝืนหายใจโดย "การถอนหายใจ" คือ สูดลมเข้าไปเยอะๆ แล้วก็
ถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ออกมาแรงๆ ถึงจะรู้สึกลดอาการแน่นได้บ้าง
นอกจากนี้ บางครั้งก็ยังทรมานกับ "การหาว" ค่ะ คือ "หาวไม่สุด" บางที
หาวติดต่อกันเป็นสิบๆ ครั้งเลยนะ เหมือนกับร่างกายขาดออกซิเจน แต่หาว
เท่าไหร่ก็หาวไม่สุด หรือไม่ก็หาวไม่ได้เลยล่ะ ต้องอ้าปากค้างไว้นานๆ ให้
มันหาวให้สุดน่ะ เฮ้อ..อยากรู้จังเลยว่ามีใครเป็นเหมือนแอ้บ้าง
3. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ หัวเข่า และมีอาการฝ่าเท้าช้ำตอน
ตื่นนอน ไอ้โรคปวดเส้นปวดกล้ามเนื้อตามคอ บ่า ไหล่เนี่ย แอ้เป็นตั้งแต่
ตอนเรียนป.ตรีแล้วล่ะ สาเหตุหลักๆ ก็คงหนีไม่พ้น "ความตึงเครียด" ที่เกิด
จากการอ่านหนังสือหรือทำงาน (โดยเฉพาะพิมพ์งานหน้าคอมพิวเตอร์) ใน
ท่าเดิมเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานๆ แอ้เคยนั่งทำรายงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า
จนถึง 6 โมงเช้าของอีกวันนึงมาแล้ว ผลปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น ตื่นมาพร้อมกับ
อาการเส้นยึด เคล็ดขัดยอกบริเวณคอ บ่า และสะบัก เหมือนมีใครมานั่ง
อยู่บนบ่าเลยอ่ะค่ะ จึ๋ยย...
4. ปวดหัวข้างเดียว อาการนี้ก็เป็นมานานแล้วเวลาเครียดๆ สงสัยว่าตัวเองจะ
เป็นไมเกรน แต่ก็ยังไม่เคยปรึกษาแพทย์ให้แน่ชัด ได้แต่ทานยาแก้ปวดช่วย
ไปพลางๆ บางครั้งก็ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะปวดหัวจี๊ดๆๆๆ เหมือนมีใคร
เอาเข็มมาแทง แล้วอาการปวดก็จะเกิดขึ้นอีกเมื่อร้อนมากๆ หรือเวลาเจอ
แสงแดดแรงๆ ค่ะ ยิ่งวันไหนนอนน้อยๆ นอกจากจะปวดหัวและเบ้าตาแล้ว
ก็จะรู้สึกเหมือนหัวหมุนๆ ทรงตัวไม่ค่อยได้เลยล่ะ ไม่รู้ว่าเป็นโรคความดัน
โลหิตต่ำรึเปล่า
นี่แหละ side effect ของการนอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอ ผสมปนเป
กับความเครียดที่มีจนมากเกินไป ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าไม่ควรสร้างสุขลักษณะนิสัย
ในทางที่ผิดๆ แบบนี้ แต่มันก็ต้องมีบ้างล่ะน้าที่คนเราถึงคราวจำเป็นต้อง
นอนดึก เพราะภาระบางอย่าง เช่น ทำการบ้าน อ่านหนังสือสอบ หรือแม้แต่
ทำงานเร่งด่วนที่ office จนกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ
ทั้งนี้ การแก้ไขขึ้นอยู่กับว่า เรามีสติรู้ตัวอยู่หรือเปล่าว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
แล้วเมื่อรู้แล้วเราพยายามป้องกันไม่ให้ปัญหาหรือโรคเรื้อรังเหล่านั้นเกิดขึ้น
หรือเปล่า ไม่อยากให้เพื่อนๆ เอาอย่างแอ้เลยค่ะ เพราะแอ้มาแก้ปัญหาเมื่อ
มันสายไปแล้วล่ะ โรคสารพัดโรคมันเข้ามารุมเร้าจนกลายเป็นโรคประจำตัว
ที่ฝังอยู่ในตัวจนเคยชินไปซะแล้ว
สิ่งที่แอ้ทำได้ตอนนี้ก็คือ...
1. พักผ่อนให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้
2. พยายามออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เมื่อก่อนออกกำลังกายแทบ
ทุกวันค่ะ โดยการเล่นฟิตเนสสลับกับโยคะ ซึ่งโยคะเป็นการออกกำลังกาย
ที่ดีมาก ทำให้เราผ่อนคลาย ความตึงเครียดของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อก็จะ
คลายตัวลง ลดอาการปวดตามคอ บ่า สะบัก ไปได้เยอะเลยล่ะ
3. งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โดยเฉพาะกาแฟ ข้อนี้เนี่ย เคยทำได้แล้ว
พักนึงนะ แต่ว่าตอนนี้กลับเข้ามาสู่วัยเรียนอีกครั้ง มันก็มีเครียด มีนอนดึก
อีกล่ะ ก็แอบพึ่งกาแฟบ้างไม่มากก็น้อย (อิอิ) แต่บางวันก็พยายามเลี่ยงถ้า
หากว่าวันนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ทำรายงานหรืออ่านหนังสือดึกๆ ดื่นๆ ค่ะ
4. อาบน้ำอุ่น เปิดน้ำอุ่นแรงๆ แล้วหันหลัง ก้มคอให้แรงของน้ำที่ไหลจาก
ฝักบัวมันช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดค่ะ หรือในบางครั้งที่ปวด
กล้ามเนื้อมากๆ ก็เอาผ้าชุบน้ำร้อนจัด บิดพอหมาดๆ แล้วก็ประคบร้อน
บริเวณที่ปวด ทำให้คลายความตึงเครียดและแก้อาการปวดเมื่อยลงไป
เยอะเลย
5. ยืดเส้นยืดสายหรือเล่นโยคะก่อนนอน เวลานอนจะได้หลับสบายๆ ไม่ตื่น
มาปวดเมื่อยกลางดึก แต่บางคืนที่ถึงแม้จะยืดแล้วก็ยังปวดเมื่อยเคล็ดขัด
ยอกอยู่ แอ้ก็จะลงมานอนบนพื้นไม้พื้นกระดานล่ะ แล้วก็หาหมอนใบเล็กๆ
รองบริเวณหลังหัวเข่าเพื่อให้แนวกระดูกสันหลังตรงตามระนาบพื้น เพราะ
บางทีการนอนบนที่นอนที่นุ่มๆ เป็นเวลานานติดต่อกัน ก็ทำกระดูกสันหลัง
คดงอได้เหมือนกันนะคะ บางครั้ง แอ้ก็คลายปวดด้วยวิธีนอนท่าศพแบบ
โยคะค่ะ (คือ นอนหงาย กางแขน กางขาออกไปด้านข้าง หรือไม่ก็เอามือ
ประสานไว้ตรงกลาง) บางคืนแอ้หลับทั้งๆ ที่อยู่ในท่าศพโดยไม่มีหมอน
รองคอ หรือหลับทั้งๆ ที่ยืดอยู่ก็มีค่ะ เหอเหอ..ก็มันสบายนี่นา
6. ดื่มน้ำอุ่นๆ ก่อนนอนและตอนตื่นเช้า แต่ว่า ดื่มตอนก่อนนอนน้อยหน่อย
เพราะกลัวต้องลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำกลางดึก ส่วนตอนเช้าดื่มประมาณ 1-2
แก้วก่อนอาหารเช้า ช่วยปรับสมดุลย์ร่างกายในเรื่องการย่อยอาหารและ
ระบบขับถ่ายค่ะ
7. ทำ Detox ขับสารพิษและช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น จริงๆ แล้ว
ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วล่ะ เพราะอยู่ไกลบ้าน หาซื้อไม่ได้ และถึงมีก็ทำได้ไม่
สะดวก เพราะต้องใช้พื้นที่ในห้องน้ำเยอะหน่อยค่ะ (นอนรอให้กาแฟ
ออกฤทธิ์ในห้องน้ำ อิอิ) ทำแล้วตัวเบาดีจริงๆ แล้วก็รู้สึกว่ากระชุ่มกระชวย
ขึ้น (อันนี้ขึ้นอยู่กับระบบภายในของแต่ละบุคคลนะ) แต่ว่า แอ้ก็รู้สึกว่ามัน
อาจจะทำให้เราเคยตัวไปบ้าง เพราะเมื่อทำบ่อยๆ เข้า อาจจะทำให้ลำไส้
เคยตัว ต้องรอการกระตุ้นของกาแฟที่สวนเข้าไป เหมือนกับการใช้ยาระบาย
ล่ะค่ะ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องการคลายเครียดนี่ พูดยากค่ะ เพราะมันขึ้นอยู่กับแต่บุคคล
ว่ามีวิธีการทำให้ตัวเองหายเครียดได้ยังไง ในกรณีแอ้ แค่ฟังเพลง ร้องเพลง
ทำขนม เล่นกีฬา-โยคะ หรือแช่น้ำอุ่น ก็ช่วยให้หายเครียดได้ แต่บางคนทำ
แล้วอาจจะไม่ช่วยเท่าที่ควร ก็ต้องลองดูกันน้า ว่าใครถนัดแบบไหนและ
คิดว่าทำแล้วสบายดีทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ที่สำคัญ..พยายามอย่าให้
เครียด แล้วก็นอนแต่หัวค่ำ พักผ่อนให้เยอะๆ จะดีกว่า กลไกการทำงานใน
ร่างกายจะได้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีสมรรถภาพนะค้า..
อ่าน "นอนไม่พอ..ส่งผลต่อสุขภาพ 2" ต่อที่นี่ค่ะ |
|
| Create Date : 24 เมษายน 2551 |
| Last Update : 24 เมษายน 2551 21:01:21 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 2629 Pageviews. |
 |
|
โดย: ป้าจะอิ๊บ (jipnaja  ) วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:20:23:18 น. |
|
|
|
| โดย: korean4life วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:21:33:56 น. |
|
|
|
| โดย: nattawut IP: 125.24.156.174 วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:22:33:39 น. |
|
|
|
| โดย: หนู IP: 1.47.196.87 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:14:29:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [