อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนประเทศไทยเรา...ขอโทษด้วยนะคะที่เจ้าบ้านไม่ค่อยได้อัพเดทเลย อย่าเพิ่งโกรธกันนะคะ ไม่มีเน็ตเล่นหง่า... :( “Just being alive is such a lovely and wonderful thing”. - Aya (1 litre of tears)

Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

อานิสงส์ของการไหว้พระสวดมนต์





 


สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ได้สอน

เรื่อง อานิสงส์การสวดมนต์ ไว้ว่า...



การสวดมนต์นี้ ต้องสวดให้ได้ใจความ ไม่สวดเร็ว

เกินไป หรือสวดช้าเกินไป เสียงดังพอประมาณ เพื่อให้เทพยดาทั้งหลายเป็น

พยานว่าท่านได้สวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิต

ตน และประโยชน์แก่จิตอื่น




*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน

คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่

ให้เข้ามารบกวนจิต ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ ทำให้

เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด




*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น

คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย ได้

เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วย

โดยการให้ทานโดยทางเสียง เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวด

มนต์ มีอยู่จำนวนมาก ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย เมื่อมีเหล่าพรหม

เทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่

สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่

สวดมนต์ ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัย

อันตราย ได้อย่างดีเยี่ยม



ดูก่อน.. ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้ การสวดมนต์เป็นการ

ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระ

รัตนตรัย ความกลัวก็ดี ความสะดุ้งกลัวก็ดี และความขนพองสยองเกล้าก็ดี

ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดีจะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั่นแล...









นอกจากนี้ การสวดมนต์ยังสามารถก่อให้เกิดอานิสงค์


ต่างๆ กับผู้ที่บำเพ็ญภาวนาอย่างสม่ำเสมอดังนี้ค่ะ...



1. เป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

2. เป็นการบำเพ็ญภาวนาอย่างหนึ่ง (ภาวนามัย)

3. ทำให้จิตบังเกิดกุศลได้ง่าย

4. ทำให้ใจสงบสุขุม

5. เหมาะสำหรับการเตรียมตัวก่อนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

6. สวดมนต์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

7. เป็นบุญที่ได้กล่าวคำศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้

8. เพื่อป้องกันภัยวิบัติ

9. เพื่อความสำเร็จในสมบัติทั้งปวง

10. เพื่อให้ทุกข์ต่างๆ หมดไป

11. เป็นการขจัดภัยต่างๆ

12. เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยต่างๆ



อย่างไรก็ตาม...อานิสงค์เหล่านี้อาจจะไม่บังเกิดผล หากเราขาดความตั้งใจ

และประพฤติตนไม่อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ต่อให้

สวดมนต์ขอพรจากพระจากเจ้าองค์ใด ก็ไม่อาจจะประสบความสำเร็จได้

อย่าลืมนะคะว่า การสวดมนต์เป็นการสร้างสมาธิและรำลึกถึงพระพุทธคุณ

พระธัมมคุณ และพระสังฆคุณ เพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคลกับตัวเรา ส่วน

การที่เราจะมีชีวิตดำรงอยู่อย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเราเอง

ด้วยค่ะ







Smiley เทวดา กับการสวดมนต์..และเทวดารักษาพุทธรูปที่บ้านผู้ที่สวดมนต์ประจำ Smiley


หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน ท่านเคยให้ธรรมะเรื่องเทวดากับการสวด

มนต์ไว้ว่า เมื่อเราสวดมนต์ภาวนา จะมีเทพยดามาร่วมสวดมนต์ด้วย ทำให้

บ้านและพระในบ้านผู้สวดมนต์มีเทพยดาดูแลรักษาไปด้วย เดิมทีหลวงพ่อ

ไม่เชื่อเรื่องเทวดามาร่วมชุมนุมในการสวดมนต์ แต่ท่านก็ได้พบเหตุการณ์ที่

ทำให้ต้องเชื่อ ดังนี้ค่ะ
.............................................................


“หลวงพ่อครับ กระผมอยากทราบความคิดเห็นของหลวงพ่อที่มีต่อเทวดาที่

เขาสวดชุมนุมเทวดานั้น จะมีจริงหรือไม่”


หลวงพ่อจรัญท่านตอบในทันทีว่า “อาตมาเชื่อ ทำไมจึงเชื่อ อาตมาจะเล่าให้ฟัง”


แต่เดิมนั้นอาตมาไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดา เพราะอาตมาไม่เคยสัมผัสนี่ แล้ว

อาตมาจะไปเชื่ออย่างไร ในเมื่อแม่ชีก้อนทอง ปานเณร อายุ ๘๗ ปี มาบอก

กับอาตมาว่า เทวดามาสอนสวดมนต์


แม่ชีมาเรียนกรรมฐาน อาตมาสอนให้เดินจงกรม ให้พิจารณาเห็นหนอ แต่

แม่ชีเดินจงกรมแล้วไปคิดถึงเทวดา ไปเพ่งเทวดาเข้า เทวดาก็มา แกก็เก็บ

เงียบไว้ แต่แล้วในที่สุดแกก็เก็บไม่ไหวต้องการให้มีใครสักคนได้รับรู้เอาไว้

แกจึงมาบอกอาตมาว่า


“หลวงพ่อ ดิฉันเห็นเทวดาเจ้าค่ะ มาสอนสวดมนต์ให้ด้วยเจ้าค่ะ”


“เทวดาที่ไหนกับแม่ชีเอ๊ย อาตมาไม่เชื่อหรอก”

แต่แม่ชีก็ว่าไม่ได้โกหก อาตมาถามว่า “เทวดามาตอนไหนเล่า” แม่ชีบอกว่า

“พอดิฉันได้ยินนาฬิกาตี ๑๒ เป็นเวลาเที่ยงคืนเทวดาก็ปรากฏให้ดิฉันเห็นไม่

ได้มาเปล่านะคะ มาสอนให้ดิฉันสวดมนต์บทเมตตาใหญ่ ดิฉันจึงสวดได้”


อาตมาก็บอกให้แม่ชีไปถามเทวดาว่าอยู่ที่ไหน วันรุ่งขึ้นแม่ชีก็มาเล่าให้ฟังว่า

เทวดาอยู่ที่ต้นพิกุล ต้นพิกุลที่ว่านี่ อาตมาถามผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ เช่น

หลวงสมานวนกิจ อธิบดีกรมป่าไม่มาที่นี่ ในตอนที่แม่ชีเห็นเทวดา ประมาณ

พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงสมานฯ ว่า อายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี เทวดาบอกแม่ชีว่า เดิมอยู่

บนสวรรค์ แล้วละเมิดกฎต่อนางฟ้าจึงถูกให้ลงมาอาศัยวิมานต้นพิกุลอยู่จน

กว่าจะหมดกรรม แล้วก็บอกวันเวลาเอาไว้ชัดเจน อาตมาก็จดไว้แล้วก็เป็น

จริง พอถึงเวลาก็เหมือนที่เทวดาให้สังเกตสังกา


อาตมาก็ให้แม่ชีไปถามเทวดาว่า ไปชวนมนุษย์สวดมนต์ทุกบ้านหรือไม่

เพราะอาตมาเริ่มจะเชื่อ เพราะบทเมตตาใหญ่ที่แม่ชีสวดนี่ อาตมาไปหาที่

ไหน ๆ ก็ไม่เจอ จนกระทั่งไปรู้ว่า สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ ได้นำ

เอาไปต่อท้ายพุทธมนต์พุทธาภิเษก และตำรับนั้นไปตกอยู่กับ พระครูลมูล

วัดสุทัศน์ฯ พระครูลมูลนี้เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพนะ ทำสมเด็จเนื้อ

ผงดีมากนะ มีละก็เก็บเอาไว้ให้ดีเชียว


อาตมาไปขอตำรับมาตรวจสอบที่วัด ท่านพระครูลมูลบอกว่าไม่ได้ๆ ตำรับนี้

ของอาจารย์ อาตมาให้ใครยืมไม่ได้ อาตมาก็บอกว่าไม่ได้เอาไปเลย แต่จะ

เอาไปสอบทานอะไรหน่อย แล้วก็เล่าความจริงให้ท่านฟัง ท่านก็ใจอ่อนบอก

ว่า เอ้าเอาไปเถอะให้ยืมเจ็ดวัน แล้วเอามาส่งคืนนะ อาตมาก็เอามาเป็นตัว

ขอมทั้งนั้น อาตมาก็บอกแม่ชีว่า มาท่องให้อาตมาฟังหน่อย แม่ชีก็เริ่มท่อง

ก็แกอายุ ๘๗ แล้วนี่นะ ก็ยานคางกว่าจะหลุดออกมาได้ตามประสาคนแก่


โยมเชื่อไหมล่ะว่า แม่ชีก้อนทอง คนนี้เป็นคนไม่รู้หนังสือ อ่านหนังสือไม่

ออก ตัวขอมยิ่งไม่กระดิกใหญ่ แล้วเมตตาใหญ่ที่แกท่อง อาตมาก็ไม่เคย

เห็นมาก่อน แกท่องด้วยความมั่นใจ อาตมาสอบกับต้นฉบับขอมของ

ท่านพระครูลมูล ปรากฏว่าไงรู้ไหมโยม


“ตั้งแต่ตัวแรกจนตัวสุดท้ายไม่มีผิดเลย”


อาตมาถามว่าเทวดาไปชวนคนสวดมนต์ทุกบ้านหรือเปล่า เทวดาบอกกับแม่

ชีมาว่า


“เปล่า บ้านไหนจัดที่บูชามีโต๊ะหมู่ มีพระพุทธรูปตั้งไว้ แล้วเจ้าของบ้านสวด

มนต์ เทวดาก็มาร่วมสวดมนต์ด้วย พระพุทธรูปเหล่านั้น ที่ไม่ได้เข้าพิธีอะไร

เช่ามาบูชาจากเสาชิงช้า หากเจ้าของบ้านเอามาสวดมนต์ไหว้พระทุกวันด้วย

ใจศรัทธา เทวดามาสวดมนต์ หนักเข้าก็เลยเข้าสิงรักษาองค์พระเอาไว้ ก็เลย

ศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ ทำให้เกิดสิริมงคลในครัวเรือน"


หลวงพ่อพระพุทธโสธรนั้น คนกราบไหว้บูชากันมากเลยมีเทวดามารักษา

๑๖ องค์ ทำให้เกิดอภินิหารนานาประการ พระพุทธรูปสำคัญ ๆ ก็มีเทวดา

รักษาทั้งนั้นแหละ


เทวดาท่านว่าอย่างนั้นและเทวดาก็ว่าบ้านไหนมีพระพุทธรูปแค่ตั้งโชว์ เทวดา

ก็ไม่ไปสวดมนต์ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทำวัตรสวดมนต์ เทวดาก็ไม่มา

ผ่านเลยไปเลย มาไม่ลงมาสวดมนต์ คนเราก็มีเทวดารักษา คนดีมีศีลธรรม

เทวดาที่เป็นบัณฑิตรักษา ถ้าคนชั่วขี้เหล้าเมายาทำชั่ว เทวดาพาลพวก

มิจฉาทิฐิก็มารักษา


อาตมาถามต่อไปว่าแล้ว “เวลาพระสัคเคกาเมจะรูเป เทวดาลงมาหรือ

ไม่” เทวดาว่า “รีบลงมา เทวดาบัณฑิตมาก่อน พอเห็นเจ้าภาพกินเหล้าเมา

หงำกันในงานบุญก็เบ้หน้าแล้วกลับ เทวดาพาลก็เข้ามาแทนที่ เลยเกิดเรื่อง

เกิดราวตูมตามนั่นแหละ!







ขอบคุณที่มา: คุณมาตรมณี

*//board.palungjit.com/showthread.php?t=115450

*//board.palungjit.com/showthrea...B4%C1%B9%B5%EC
Create Date : 28 เมษายน 2551
4 comments
Last Update : 28 เมษายน 2551 17:31:57 น.
Counter : 555 Pageviews.

 

ไม่ได้สวดมนต์มานาน จะเริ่มสวดแล้วค่ะ

 

โดย: วาฬอันดามัน 28 เมษายน 2551 17:47:23 น.  

 

 

โดย: CrackyDong 28 เมษายน 2551 18:16:47 น.  

 

อนุโมทนาสาธุคะ

 

โดย: taley sea far 28 เมษายน 2551 22:42:11 น.  

 

อนุโมทนาบุญคะ ขอบพระคุณมาก

 

โดย: วฤนดา IP: 27.55.236.1 8 กันยายน 2556 3:49:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


cadeau
Location :
Tasmania Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




Friends' blogs
[Add cadeau's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.