แอบขอเล่าว่าเราทั้งสอง สะเหร่อ มาก ไม่เอ๊ะใจ ว่า ตั๋วมันแพงแหะ ประมาณ 18 สิงคโปร์ดอลล่าร์ จิงจิงแล้วเขาให้เข้าไปดู underworld water ได้ด้วย แง่วว เลยไม่ได้ไป แต่แค่นี้ ยายแก่ก็เหนื่อยแล้ว เพราะต้องบินต่อไปที่ บริสเบรนเย็นนี้ ออกจากโรงแรมเก้าโมงเช้า ถึงโรงแรม หกโมงเย็น ได้ข่าวว่า wake up call มันตอนทุ่มหนึ่งนิ

ครั้งสุดท้าย มี turn around เหียกเหียก แบบ แนว โคลัมโบ พ่วงด้วยดาร์ก้า โชคดีแสน เมื่อ ฟ้าประทานให้ สิงคโปร์-บริสเบรน มาทำจากการแลกเขามา มีคนเอาด้วยยังแปลกใจ เพราะวั้นนั้นเป็นวันที่สิบเอ้ด กันยา เราจะอยู่สิงคโปร์วันที่สิบสอง ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิดของอิชั้น ใช่ค่ะ วันเกิดดิชั้น วันที่ สิบสอง กันยายน เตรียมของขวัญไว้ได้เลยนะคะ กร้ากก แลกแทบตายด้วยเหตุผลประการเดียวว่า เพื่อนวิศวะอีกคนซึ่งเป็นชาวสิงคโปร์ของเรานั้น เขา leave อยู่ช่วงนั้นพอดี เลยรู้ว่ามีคนจะพาไปเที่ยว เย้ เย้ เขาอุตสาห์ พาไปทานอาหารบนยอดเขา ปรากฏว่าวันนั้นร้านปิด แง่ว เลยลงมาทานอาหารบนพื้นดิน (เก็บจากพื้นมากิน) อะ! ล้อเล่น ถึงห้องจะรกสามร้อยหกสิบวัน แต่ก็ไม่ซกหมกขนาดนั้น food corner ยะ


นี่ไง อาหารวันนั้น แครอทเค้ก ทอด(จิงจิงคือหัวใชเท้าชุบไข่) คล้ายหอดทอดแหะ ไก่เสเต้ะ ,ก๋วยเตี๋ยวผัด และปลาหมึกผัดซอสเผ็ด

สุดท้าย ดันป่วยที่บริสเบรนตั้งหกวัน โอ้ยย เหงาสุดสุด เน้ตก็ไม่มีให้เล่น เป็นหวัด หมอไม่ให้บิน เชอะ เราไหวนะ แต่ กัปตันกะเพอร์เซอร์ บังคับให้ไปหาหมอ เลย อดบิน ไม่ได้ตังค์เลย เป็นประสบการณ์ ป่วยครั้งแรก ใน layover นะเนี่ย กลับมา เพื่อนต่างชาติ บอก รู้ไหมว่าเมืองไทยปฏิวัติ (จำได้ไหมค่ะ เป็นวันแรกที่
ทักษิน ประกาศ coup d”etat) ตรูจะไปรู้ได้ไง ป่วย ดักดานอยู่ที่นู่น เพิ่งกลับ เชอะ

พอละ ขอตัวไปอ่านหนังสือ เตรียมสอบเลื่อนชั้นแอร์ก่อนคะ จบห้วนห้วนเลยคะ ดิชั้นไม่ชอบสั่งเสีย บาย