ปีใหม่ เลยได้ฤกษ์มาอัพบล้อคใหม่ให้ได้อ่านอีกครั้งค่ะ หรือถ้าไม่อ่านก็ดูรูปเนาะ วันนี้ พาเที่ยว เมืองที่สวยมาก ขอย้ำ! มากจริงจริง นั่นคือ เมือง Venice แห่ง Italy นั่นเองค่ะ ใครเคยไปคงจะพอเข้าใจความรู้สึกนะค่ะ ใครที่ไม่เคยวันนี้ดูรูปไปก่อนหน่า เอาไว้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แล้วถ้ามีโอกาศค่อยไปเด้อ ยังไม่สายเกินไปจ้า

เป็นไฟล์ทแรกที่ลูกเรือทั้งหมด 14 คน เน้นว่าทุกคน ออกไปเที่ยวด้วยกันหมดเลยค่ะ ทีมสปิริตช่างแรงกล้า

เริ่มด้วยห้องพักของโรงแรม NU Laguna Palace





นี่คือบริเวณหลังโรงแรมค่ะ มีเรือจอดไว้ จากตรงนี้เราสามารถไป Piazzale Roma ซึ่งจะเปรียบเสมือนศูนย์กลางการขนส่ง ที่รถเมล์ เรือ รถไฟ มารวมกันเพื่อจะไป Piazza S.Marco

แต่พวกเราประหยัดแกมงก จริงจริงฉลาดมากกว่า อิอิ เลยนั่งรถเมล์ สาย ๔ ถึงที่เหมือนกัน จ่ายไป 1 euro เหอเหอ


คลองรอบรอบ ค่ะ แต่นี้ยังไม่ใช่จุดหมายของเรานะ เพราะถ้ามาที่นี้ ต้องไป S.marco ถึงจะเรียกว่าถึง venice


ลักษณะโบสถ์ของที่นั่นค่ะ


จากซ้าย สาวอินเดีย ฟิลิปปินส์ เดี้ยน และ first officer


และแล้วก็ขอแวะข้างทาง ชิมพิซซ่า ของเด่นอิตาลี ชิ้นใหญ่มากก ค่ะ เขาจะตัดแบ่งขาย ชิ้นละสองยูโร



คลองนี้แหละค่ะ ที่อิชั้นมาขึ้นเรือเมล ที่เรียกว่า vaporetto




ถ่ายข้างคลอง แสนแสบ




ระหว่างทางขึ้นบันได มีคนมาขายกระเป๋าปลอมเต็มไปหมด ยังกะ ถนนในเซี่ยงไฮ้นะ





นี่คือรูป vaporetto ค่ะ ค่าโดยสาร 6 euro ต่างกับ Gondola ที่ค่าใช้จ่าย ถึง 100 euro ค่ะ มันเหมาะกับคู่สามี ภรรยา ที่มา honeymoon มากกว่าเนาะ


เริ่มออกเดินทางกันเลย!


ล่องเรือไปตาม Grand canal



นี่คือ สะพานชื่อดัง Rialto ค่ะ ส่วนเรือลำเล็กเล็ก นั่นใช่เลย คือ Gondola ค่ะ
แค่ราวราวห้าพันบาทเอ้งงต่อรอบ เหอเหอ



พระอาทิตย์ยามอัสดง อิอิ romantic สุดสุด


ถึงแล้ววว







กับ Captain David



กับ purser ที่ชื่อว่า Alexandra Antonescu สาวโรมันเนีย

หล่อนเป็นคนน่ารักสุดสุดค่ะ ถ้าใครอ่านบล้อค คุณมะเขือเทศน้อย ตอนที่พี่เขาลืมเอกสารไว้ที่บ้านคนนี้แหละค่ะ คนเดียวกันเลย เขาเป็นคนที่สู้มาก เก่งและแกร่งมาก ชีพูดได้ถึงสี่ภาษา ตลอดไฟลท์ก้อมีเรื่องขำขำมาเล่าให้ฟังค่ะ เช่น มีนักบินคนหนึ่ง แบบว่านิสัยไม่ค่อยดี อาเล็กซ์เขาถามว่าอ้อ ยูเป็นกับตันเหรอ นักบินคนนั้นเขาก็เหมือนบอกอาเล็กซ์ว่าให้หัดสังเกตเครื่องหมายบนบ่าบ้าง เขาก้อบอกอ้อโทดทีอิชั้นไม่เคยสังเกตุ กับตันคนนั้นก็สวนว่าเพราะยูผมบลอนด์อะสิ (มีความเชื่อว่าสาวบลอนด์จะไม่ค่อยฉลาดอ่ะค่ะ) ที่นี้หล่อนก้อสวนว่า ขอโทษนะตามสถิติ สาวบลอนด์มีไอคิวสูงที่สุดนะยะ เหอเหอ กล้ามากก แล้วพอเครื่องลง ลูกเรือก็ไม่ไปทานข้าวกะนักบินคนนั้น แต่ไปกะหล่อนหมดเลย นักบินบางคน เน้น บางคนเท่านั้นค่ะ คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า ทุกคนต้องเอาใจ แล้วอาเล็กส์ก็สอนว่า คนเราควรเคารพคนคนหนึ่งไม่ใช่เพราะ what you are but who you are ค่ะ อืมมม อิชั้นเห็นด้วยอย่างแรง! ฟันธง





ศูนย์รวมไข้หวัดนก

แล้วรอบรอบ Piazza S.Marco นี้ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกมากมายค่ะ อิชั้นก้อได้หน้ากากและก็ที่ติดตู้เย็นมาด้วยละ


หน้ากาก ราคา สนนตั้งแต่ 5-30 euro

นี่ไง ขอโชว์ 8 euro ว่าจะเอาไปวางในห้องนอนที่กทม


ที่เวนิส เนี่ยก็จะดังมากเรื่องเป่าแก้วค่ะ คุณเห็นลูกโป่งแก้วอันนั้นมะ อยากบอกว่า 400-500 euro ต่อลูก !!!

หลังจากเดินมาไกลแสนไกล พวกเราทั้งสิบสี่ ก็ต้องไปทานอาหารเย็นแล้วละค่ะ






อิชั้นเลือกเมนูแบบ 16 euro แบบมี starter เป็น lasagne เมนคอร์ส pork chop fried potato จบท้ายด้วย icecream


อิ่มหนำสำราญ แต่ระหว่างเดินทางกลับโรงแรม
ส้นรองเท้าบู้ทเจ้ากรรมดันหักไปข้างอิชั้นต้องลงทุนหักอีกข้างหนึ่งด้วยตัวเอง เพราะไม่งั้นเดินเหมือนคนเป๋ เสียบุคหลุกหลิก เหอเหอ แต่อย่างไรวันนี้ก็คุ้มสุดสุดแล้ว ตั้งใจว่าต้องมาอีกให้ได้ ค่ะ ไม่แน่ถ้ามีบุญพอ (จิงจิงแล้ว กรรมท่าจะเยอะกว่า) จะไปเที่ยวกะแฟน ฮิ้วววว เสียงจากหลายฝ่ายพออ่านบรรทัดนี้บอกว่าบอกว่า หาให้ได้ก่อนเถอะยะ !!!! อะจ้า อะจ้า ไปก่อนเด้อค่ะเด้อ บาย