เวลาสามเดือนผ่านไป ไวจริงๆ สำหรับชีวิตคนเป็นแม่ วันๆคิดถึงแต่ลูกน้อย แต่ก็ยังคงมีข้อผิดพลาดนานาประการเกิดขึ้นกับคุณแม่มือใหม่อย่างเรา
ใครจะไปคิดล่ะว่าสิ่งที่เราคิดว่าดีสำหรับลูกน้อยจะย้อนกลับมาทำร้ายลูกน้อยได้ ตอนตั้งครรภ์ก็คุยกับคุณแม่หลายๆคน ต้องทำนั่น ต้องกินนี่ อย่างโน้น อย่างนี้ แล้วเราก็เลือกที่จะดื่มนมวัววันละ 0.5 ลิตรเป็นต้นไป (หมายความว่าบางวันกินหลายลิตร กินแทนน้ำกันไปเลย) และเสริมโปรตีนจากไข่ไก่วันละ 2 ฟอง เพราะไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ กินมันอย่างนั้นไป 6-7 เดือน
ผลที่ได้ตอนนี้ ลูกสาวมีผื่นขึ้นบนหน้า ลำคอ ข้อพับ และเริ่มลามไปทั้งตัว ทายาหายแล้วก็กลับมาเป็นอีกตลอดตั้งแต่อายุได้เดือนกว่า นอกจากนั้นก็ยังหายใจเสียงดังครืดคราด ช่วงแรกๆก็ดังแค่ตอนกลางคืน เราเข้าใจว่าเป็นเพราะอากาศเย็น หลังๆก็เป็นมันทั้งกลางวันกลางคืน คุณแม่เลยต้องคอยเฝ้าลูกสาวตลอดเพราะเค้าจะดิ้นเพราะหายใจไม่สะดวกจนตื่น ทำให้นอนหลับไม่เพียงพอ เกิดงอแง อารมณ์ไม่ดีตามมาอีก
เคยเข้าไปหาข้อมูลเจอหลากหลายข้อแนะนำ บ้างก็บอกว่าเป็นปกติของเด็กเพราะระบบทางเดินหายใจยังพัฒนาไม่เต็มที่ บ้างก็บอกว่าแพ้นมแม่ เราก็ลองงดอาหารประเภทนม ถั่ว ไข่ ไปรอบนึงตอนลูกสาวอายุเดือนกว่าๆ ผื่นหาย แต่หายใจเสียงดัง เราก็เลยคิดว่าไม่ใช่สาเหตุ ก็กลับมากินเป็นปกติ ทีนี้หายใจเสียงดังทั้งกลางวันกลางคืนเลย แถมผื่นก็กลับมาอีก หาหมอก็ไม่ช่วยอะไร (หมอเด็ก) ตอนนี้ก็เลยกลับมาพิจารณาอาหารของคุณแม่อีกรอบ ตั้งแต่วันที่ 3 กินแต่ข้าว ผักสีเขียว เกลือ น้ำตาล ถ้าทอดก็ใช้น้ำมันปาล์ม (งดน้ำมันถั่วเหลือง) กล้วย ผลก็พบว่าคืนเมื่อวานซืนกะเมื่อวานลูกสาวไม่ครืดคราดแล้ว แต่กลางวันยังมีอาการอยู่นิดหน่อย นอนหลับสบายขึ้น แต่...วันนี้คุณแม่ลืมตัวไปกินกล้วยฉาบ (ที่ซื้อเค้ามา) ตกเย็นหนูน้อยก็มีอาการหายใจเสียงดังอีกละ กว่าจะนอนรอบค่ำก็ปาไปสี่ทุ่ม ต่อไปคงได้แต่กินอาหารที่ทำเอง 100% เพราะยังต้องใช้เวลาในการทดสอบอาการแพ้ของลูกสาวต่อไปอีก
ขอให้ลูกสาวแพ้อาหารที่แม่ไม่ชอบทีเถอะ...สาธุ