If loving is to suffer..I will take any suffering until it reaches your heart.
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
ปุยฝ้าย

ช่วงนี้ไม่ได้ทำขนมเป็นชิ้นเป็นอันเป็นเรื่องเป็นราวสักเท่าไหร่ ด้วยงานเยอะ อู้บ่อย พอทำขนมทีก็มีคนแถวนี้เหล่ๆว่ามันทำไร้สาระอีกละ..

ฤกษ์งามยามดีแล้วแอบค้นๆสูตรขนมปุยฝ้ายมาลองทำดู ไปดูส่วนผสมกันเลยจ้า

ส่วนผสม
แป้งตราบัวแดง 200 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 150 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
SP 1 ชต.
น้ำ 1/2 ถ้วย
นมข้นจืด 3+1/2 ชต.
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง, ผงฟู เข้าด้วยกัน
2. ตีไข่ไก่, น้ำตาล , เอสพี , น้ำ รวมกันจนส่วนผสมข้นขาวฟูเป็นครีมเนียน
3. เติมส่วนผสมของแป้งลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำจนเข้ากันดี ตามด้วยนมข้นจืด น้ำมะนาว กลิ่น แบ่งใส่สี
4. ตักใส่พิมพ์ ที่รองด้วยกระดาษ เต็มพิมพ์
5. ต้มน้ำให้เดือด แล้วนึ่งประมาณ 10-15 นาที พอเย็นรีบดึงฝารังถึงออกอย่างรวดเร็ว ไอน้ำจะได้ไม่หยดลงบนหน้าขนม


เริ่มจากไข่ น้ำตาล น้ำ เอสพี ตีรวมกัน


ใช้ความเร็วสูง ตีจนส่วนผสมข้น และมีสีอ่อน


ใส่แป้งที่ร่อนรวมกับผงฟูลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ


จากนั้นตามด้วยนมข้นจืด น้ำมะนาว กลิ่น


ตีจนส่วนผสมเข้ากัน ใส่สีตามชอบแล้วใส่พิมพ์ที่รองด้วยถ้วยกระดาษ นำไปนึ่งจนสุกโดยใช้เวลาประมาณ 10 - 15 นาที สูตรนี้ได้ปุยฝ้ายประมาณ 15 ชิ้น


ตอนเอาขนมเข้ารังถึงลุ้นแทบแย่ว่าจะออกมาหน้าเนียนหรือหน้าแตก รู้แต่ถ้าขนมหน้าไม่แตกคนทำแหละจะหน้าแตก


สิบห้านาทีผ่านไป เปิดฝารังถึงออกมาแทบจะตะโกนลั่นบ้าน..เอิ๊กๆ หน้าไม่แตกแล้วเว๊ย


อันนี้ไม่สีธรรมชาติไม่ผสมสีแต่อย่างใด อิอิ หน้าคนทำก็บานเชียวงานนี้


สามแฉก สี่แฉก แตกเข้าไป สีชมพูได้จากการหยดสีแดงลงไปเล็กน้อย สรุปงานนี้ค่อนข้างพอใจในผลงาน นี่ถ้าฝารังถึงเป็นกระจกคงได้ยืนลุ้นตอนมันค่อยๆแตกอยู่หน้าเตา

จากที่ได้ลองทำ ได้ข้อสังเกตคือ ปุยฝ้ายที่จะออกมาสวยมีหลายองค์ประกอบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ที่ต้องสด ตีส่วนผสมจนได้ที่ ไม่ใส่สีผสมอาหารจนเข้มเกินไป และน้ำในรังถึงต้องตั้งน้ำไว้ให้เดือดพล่านพอเอาขนมเข้าไปนึ่งลดไฟลงเป็นไฟปานกลาง เมื่อขนมสุกให้เปิดฝาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไอน้ำบนฝาหยดลงบนขนม..ก็จะได้ปุยฝ้ายที่สวยน่ารับประทานด้วยประการฉะนี้แล....



มาอัพเรื่องปุยฝ้ายอีกรอบ คราวนี้ทำโดยการเปลี่ยนจากกลิ่นดอกนมแมวมาเป็นกลิ่นรัม แล้วใส่ลูกเกดลงไปด้วย ทำเสร็จหันไปเจอน้ำมะนาว อิอิ ลืมใส่น้ำมะนาวซะงั้น จะเอามาใส่น้ำมะนาวอีกรอบก็กระไรอยู่เป็นไงเป็นกันนึ่งทั้งอย่างงี้เลย ตอนที่เปิดฝาออกมาก็ลุ้นแทบแย่ ในที่สุด...ก็แตกจนได้ ไม่ใช่คนทำหน้าแตกนะแต่ขนมหน้าแตกจ้า เท่าที่ดูถ้าลืมใส่น้ำมะนาวก็พอให้อภัย แต่ถ้าใส่น้ำมะนาวจะทำให้รอยแตกเด่นชัดขึ้น ฉะนั้น..คราวหน้าอย่าลืม




Create Date : 29 มีนาคม 2551
Last Update : 2 เมษายน 2551 9:39:30 น. 2 comments
Counter : 2396 Pageviews.

 
สวยจ้า ...


โดย: บ้านหวานเย็น วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:23:44:54 น.  

 
น่าทานมากเลยคะ เห็นแล้วอยากทำจังเลย เดี๋ยวขอจดสูตรไว้ก่อนนะคะ


โดย: ผ้าไหมไทย วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:9:39:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อ้วนดำตาเหล่!!
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




ต้นหญ้าเล็กๆที่แทรกตัวขึ้นมาระหว่างรอยแยกของปูนที่แข็งกระด้าง มันค่อยๆโตขึ้นเพียงเพราะมันมีความหวังว่ามันจะได้แสงแดดได้น้ำ

ในความแข็งของปูนก็ยังมีหนึ่งชีวิตเล็กๆที่ดูไร้ค่าแต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้บนความแข็งนั้นได้...

มันไม่รู้หรอกว่ามันจะมีชีวิตอยู่ได้นานสักเท่าไรมันรู้แค่ว่ามันจะอยู่รอดและเติบโตด้วยความหวังเล็กๆของมัน
Friends' blogs
[Add อ้วนดำตาเหล่!!'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.