space
space
space
 
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
space
space
23 กุมภาพันธ์ 2560
space
space
space

รีวิว อาหารสำหรับผู้สูงอายุ



อ้างถึงบทความจาก ศูนย์ดูแลผูสูงอายุ pantip ได้ให้ความหมายเอาไว้ดังนี้ ผู้สูงอายุคือคนที่มีอายุตั้งแต่ 60ปีขึ้นไป เนื่องจากปริมาณกล้ามเนื้อของผู้สูงอายุที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ผู้สูงอายุมีความต้องการพลังงานที่ลดลงจากวัยกลางคนเป็นอย่างมาก การประกอบกิจวัตรประจำวันลดลง หรือการที่ไม่ต้องทำงานมากนัก จึงส่งผลให้พลังงานที่ใช้ในแต่ละวันลดลงตาม ยิ่งผู้สูงอายุมีอายุมากขึ้นจะทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายลดลง แต่ผู้สูงอายุยังมีความต้องการสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุเหมือนเดิม ยกเว้นเพียงแต่ธาตุเหล็กเท่านั้น ดังนั้นเราจึงควรจะคำนึงถึงการบริโภคอาหารของผู้สูงอายุ โดยเน้นคุณภาพ มิใช่ปริมาณ อาหารส่วนใหญ่ควรเน้นให้มีสารอาหารอย่างครบถ้วน แต่พลังงานน้อยลง นอกจากนั้นการเกิดภาวะขากสารอาหารในผู้สูงอายุนั้นเกิดได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไปได้มาก  เช่น การขาดแคลเซียมธาตุเหล็ก  รวมถึงขาดวิตามินต่างๆด้วย ในทางกลับกันถ้าได้รับสารอาหารบางอย่างมากจนเกินไป จะทำให้เกิดโรคเรื้อรังขึ้นได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคคอเลสตอรอล โรคความดันโลหิตสูง โรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้จากการทานอาหารให้ถูกต้องตามโภชนาการและเหมาะสมในแต่ละวัยได้ สำหรับผู้สูงอายุนั้นควรได้รับโปรตีนอยู่ประมาณ 12-15% ของพลังงานที่จะได้รับต่อวัน หรือไม่ควรที่จะบริโภคเนื้อสัตว์เกิน 180-210 กรัมต่อวัน สารอาหารประเภทโปรตีนจากสัตว์ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับสารอาหารประเภทไขมัน ซึ่งไม่เหมาะสมกับผู้สูงอายุนัก เราจึงควรเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมันติดอยู่ด้วย เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เป็นต้น นอกจากสารอาหารประเภทโปนตีนนั้นจะอยู่ในเนื้อสัตว์แล้ว ยังสามารถให้ผู้สูงอายุบริโภค นม ถั่ว ไข่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารประเภทโปรตีนเช่นกัน ถั่วหรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ เหมาะแก่การบริโภคของผู้สูงอายุ ส่วนไข่นั้นเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงเช่นกัน แต่ไข่แดงจะมีไขมันมากกว่าไข่ขาว จึงแนะนำให้ผู้สูงอายุรับประทานแต่ไข่ขาว สามารถรับประทานได้ 2-3 ฟองต่อสัปดาห์ ความสามารถในการย่อยและการดูดซึมสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆของผู้สูงอายุนั้นจะลดลงเรื่อยๆตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผู้สูงอายุบางท่านไม่ชอบทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ อาจเป็นเพราะ เหนียว เคี้ยวไม่สะดวก หรือกลัวไขมันที่ติดมากับเนื้อสัตว์ จะมีผลทำให้ผู้สูงอายุขาดวิตามินบี12 ซึ่งก่อให้เกิดโรคต่างๆได้ เช่น โรคโลหิตจาง ปลายประสาทอักเสบ ชาตามปลายมือและเท้า อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ แต่ถ้ารับประทานโปรตีนมากไป เกินความจำเป็น จะเกิดผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะไตจะทำงานหนัก โดยปกติเมื่ออายุมากขึ้นการทำงานของไตจะเสื่อมลงกว่าวัยหนุ่มสาวถึง 50% ดังนั้นจึงควรใส่ใจสารอาหารต่างๆให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60ปี นั้นควรได้รับคาร์โบไฮเดรตอยู่ประมาณ 50-60% ของพลังงานที่จะได้รับต่อวันคาร์โบไฮเดรตนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆด้วยกัน คือ คาร์โบไฮเดรตเดี่ยวและคาร์โบไฮเดรตซ้อน ผู้สูงอายุควรบริโภคคาร์โบไฮเดรตซ้อนเนื่องจากผู้สูงอายุจะได้รับวิตามิน, ใยอาหารและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายด้วย ผู้สูงอายุคาร์โบไฮเดรตลดลง โดยเฉพาะน้ำตาล ถ้าจะรับประทานข้าว ควรเป็นข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ธัญพืช  ไม่ควรทานข้าวที่ขัดสีแล้วเพราะทำให้วิตามินและแร่ธาตุน้อยลง ส่วนไขมันนั้นผู้สูงอายุที่มีอายุควรได้รับไขมันอยู่ประมาณ 30% ของพลังงานที่จะได้รับต่อวันและไขมันที่ควรได้รับควรจะเป็นไขมันที่มาจากพืช เช่นน้ำมันรำข้าว น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันถั่วเหลือง ไม่ควรรับประทานน้ำมันที่มาจากสัตว์  ถึงยังไงผู้สูงอายุก้ยังไม่ควรรับประทานอาหารที่มีน้ำมันหรือไขมันสูงเพราะจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มและเป็นสาเหตุของโรคต่างๆอีกหลายโรค ใยอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60ปี นั้นควรได้รับใยอาหารอยู่ประมาณ 25-30 กรัมต่อวัน เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีอาการท้องผูก ซึ่งอาการท้องผูกนี้จะสามารถป้องกันได้โดยการรับประทานอาหารที่มีกากใยเยอะๆ ซึ่งกากใยนั้นจะไปช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายและสะดวกขึ้น เนื่องจากใยอาหารจะไปช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น การขับถ่ายง่ายหรือขับถ่ายเป็นประจำทุกวันจะช่วยลดโรคเกี่ยวกับลำไส้ได้ น้ำตาลและของหวาน เป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุควรที่จะหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆต่อสุขภาพตามมาได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือฟันผุ การรับประทานอาหารหวานมากๆนั้น อาจทำให้การรับประทานผักและผลไม้หรืออาหารชนิดอื่นๆลดลง  อินซูลินจะถูกสร้างจากตับอ่อนมากขึ้นเมื่อทานน้ำตาลมาก และทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ และอาจทำให้เกิดโรคเบาหวานได้เกลือแร่และวิตามิน เป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุควรได้รับหรือบริโภคเป็นประจำ โรคของผู้สูงอายุที่พบเป็นประจำนั้นคือโรคกระดูกพรุน ดังนั้นอาหารที่รับประทานควรมีแร่ธาตุดังต่อไปนี้ ธาตุแคลเซียม ธาตุสังกะสี และธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้สามารถพบได้ในเนื้อสัตว์ เช่นปลา และ ก้างปลา และสามารถพบได้ในนม น้ำเต้าหู้ งา ผัก และผลไม้ นมนั้นควรเป็นนมถั่วเหลือง หรือนมพร่องมันเนย เพื่อไม่ให้มีไขมันเยอะจนเกินไป และโรคที่พบบ่อยอีกอย่างตือโรคผิวหนัง ซึ่งสามารถรักษาได้โดยทานอาหารที่มีธาตุสังกะสี นอกจากโรคกระดูกพรุนและโรคผิวหนังแล้วยังมีโรคที่ผู้สูงอายุมีโอกาสจะเป็นอีก นั้นคือโรคโลหิตจาง ซึ่งเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งสามารถทำได้โดยรับประมานอาหารจำพวก นม ไข่ ตับ เนื้อสัตว์ และธัญพืชได้ ถ้าผู้สูงอายุขาดธาตุเหล็กนั้นจะมีอาการ หน้ามืด เป็นลมง่าย เหนื่อยง่าย เป็นโรคอื่นได้ง่ายเพราะร่างกายอ่อนแอ ส่วนวิตามินอื่นๆนั้น ผู้สูงอายุควรรับประทานให้ครบและมีปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรมากเกินความต้องการหรือน้อยจนเกินไป เพราะฉะนั้นถ้าเรามีผู้สูงอายุในบ้าน คนดูแลผู้สูงอายุ ควรใส่ใจกับอาหารของผู้สูงอายุ เพราะมีผลอย่างมากที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีอายุที่ยืนยาวและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อาหารที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุนั้นมีดังนี้

เนื้อสัตว์นั้นควรเป็นสัตว์ที่ไม่มีไขมันสูง หรือถ้ามีควรเป็นไขมันชนิดดี เช่นไขมันปลา อาหารควรจะมีความนุ่มที่สามารถเคี้ยวกลืนง่าย ไม่ติดคอ และควรระวังอาหารที่มีกระดูกและก้าง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุได้ การปรุงอาหารควรจะปรุงให้สุก ป้องกันการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษ อาหารจำพวกถั่วต่างๆ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีของผู้สูงอายุ ควรที่จะปรุงสุกและทำให้นิ่ม ให้ผู้สูงอายุนั้นสามารถกลืนได้ง่าย ผักและผลไม้เป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุควรที่จะรับประทานเป็นประจำทุกวัน เพราะผักและผลไม้มีวิตามินและเกลือแร่ต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกายของผู้สูงอายุ ซึ่งทำให้สามารถหลีกเลี่ยงหรือป้องกันจากดรคต่างๆได้ ผลไม้ควรเป็นผลไม้ที่นิ่ม เช่นมะละกอ มะม่วงสุก หรือส้ม แต่ก็ควรระวังผลไม้ที่มีเม็ด ซึ่งอาจจะทำให้ผู้สูงอายุนั้นติดคอได้ ถ้าเป็นผักควรจะเป็นผักที่นิ่มและทานง่าย หรืออาจนำไปปรุงสุกให้นิ่มเสียก่อน จึงให้ผู้บริโภครับประทานเพื่อไม่ให้เกิดการติดคอได้ ข้าวและแป้งควรจะรับประทานแค่วันละข้าวและแป้งควรจะรับประทานแค่วันละ3-4ถ้วยตวงต่อวันเท่านั้น และถ้าเป็นไปได้ควรรับประทานข้าวที่ยังไม่ผ่านการขัดสี เพราะจะยังคงมีแร่ธาตุและวิตามินอยู่ ข้าวควรปรุงสุก อาจทำเป็นข้าวต้มหรือโจ๊ก เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานสำหรับผู้สูงอายุน้ำดื่มเป็นสิ่งที่สำคัญอีกสิ่งที่ผู้สูงอายุควรดื่ม ปริมาณนั้นควรจะดื่มวันละ6-8แก้วต่อวัน และควรเป็นน้ำที่สะอาดเหมาะสำหรับการบริโภค เป็นน้ำต้มสุก เพื่อฆ่าเชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่างๆก่อน น้ำมีความจำเป็นต่อร่างกายมาก ดังนั้นผู้สูงอายุควรจะดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมและเป็นประจำทุกวัน 

นอกจากการรับประทานอาหารให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุแล้วนั้น ผู้สูงอายุควรจะออกกำลังกายด้วยเพื่อให้ร่างกายนั้นแข็งแรงและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ท่านสามารถสอบถามความรู้หรือคำแนะนำด้านโภชนาการอาหารสำหรับผู้สูงอายุได้กับ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ iCare Seniors Home




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2560
0 comments
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2560 23:25:43 น.
Counter : 1198 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

สมาชิกหมายเลข 3699684
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3699684's blog to your web]
space
space
space
space
space