Hi-speed ตอนที่ 1
สวัสดีเดือนสุดท้ายของปี 2553หลังจากห่างหายไปร่วม 2 เดือน เพราะ มัวแต่ทำมาหากิน (ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมน้อ กินเท่าไรก็ไม่รู้จักพอเนอะ)คราวก่อนผมได้ลงประกาศผ่านทางบล๊อค เรื่องการทำงานของผมเอง ตั้งแต่ลงมา ผู้คนสนใจอย่างล้นหลาม ซะจนต้องนำเบอร์โทรศัพท์ออก เพราะ มีแต่คนโทรเข้ามามากมาย ทั้ง ขายบัตรเครดิต ,ขายอาหารเสริม, ขายบัตรโรงแรม ท่องเที่ยว และ อื่นๆ ทำให้ต้องหันกลับมาดำเนินการด้านพุทธศาสนาดังเดิมจะดีกว่า ส่วน หัวข้อ ผัสสะทำงาน ก็คงเป็นแค่การบอกกล่าวถึงการทำงานของผมเท่านั้นพอครับ ส่วนที่ว่าจะเล่าเรื่องการทำงานก็คงขอค้างไว้ก่อน เพราะ กลัวฟังแล้วจะ น้ำหู น้ำตาใหล หรืออาจ เป็นโรคซึมเศร้าได้ (เวอร์ไปนิดนะ) แต่ถ้าใครมีปัญหา หรือ คำถามก็สอบถามได้ตาม อีเมล์ ที่ให้ไว้ครับ บางคนไม่กล้าถาม เพราะ กลัวถามแล้วต้องซื้อ ถ้าไม่ซื้อก็จะยังไงๆ ส่วนบางคนก็ถามได้ ถามดี ถามยังกับจะเอาไปเขียนหนังสือ คู่มือประกัน...! วันนี้จะมาบ่นให้ฟังเรื่องของ Hi-speed แต่ไม่ใช่ Internet นะครับเราเคยลองมองมาที่ตัวเราเองบ้างใหมครับว่า ทำไมทุกวันนี้ อะไรก็แล้วแต่ที่อยู่รอบตัวเรา และ ตัวเราเองนั้น มันดำเนินการไปอย่างรวดเร็วมากเริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ก็ต้องตื่น เช้ามากขึ้นเรื่อยๆ ตื่นมาก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำ (เอ...แต่ก็มีบางคนนะครับ เช้ามาไม่เคยเข้าห้องน้ำ อันนี้เป็นความซกมก เฉพาะบุคคล สามารถลอกเลียนแบบได้ ถ้าใจรัก)หลังจากนั้นก็ต้องหาอะไร รับประทานอย่างรวดเร็ว หรือ ว่าถ้าไม่ต้องกินกันเลยจะดีมาก หลังจากเกิดการลังเลในใจว่า เอ...จะกิน หรือ ไม่กินดีหว่า ก็ กระโดดควบมอเตอร์ไซค์วินเนอร์(มอไซค์วินเนอร์ = มอไซค์ที่รับจ้างทั่วไป แต่ ไม่รู้มันจะรีบไปชิงถ้วยที่ใหน ถึงได้ขับแบบไม่คิดชีวิตคนซ้อนเอาซะเลย)พอมาถึงป้ายรถเมล์ .....!!!ทำไมรถมันยังไม่มาว้า (ในใจก็คิดไปเองว่า : ไอ้รถเมล์นี่ทั้งอู่มันมีแค่ คันเดียวรึเปล่าวะนี่ เฮ้อ...คนยิ่งรีบๆ)พอหลังจากยืนไร้สติเพราะ คิดมากไปสักระยะ รถเมล์ที่แสนจะธรรมดาทั่วไป แต่มันพิเศษตรงที่มันเป็น หมายเลขที่เรารอคอย...เมื่อรถมาจอดเทียบป้าย เราก็มักจะได้พบกับการเล่นเก้าอี้ดนตรี เหมือนกับว่าถ้าฉันไม่ได้ไปคันนี้แล้วหละก็ ชีวิตนี้จะหมดอนาคต ครอบครัวต้องแตกแยก เจ้าหนี้จะมาถามหา หมาที่บ้านจะไม่มีข้าวกิน (รู้สึกจะคิดเยอะไปนิด)และแล้ว เราก็เป็นผู้ชนะเลิศรองอันดับ 1 เพราะ ไม่สามารถสู้กับ สาวออฟฟิตใจถึงที่ ใช้ทรวดทรงอันดูอ่อนหวาน ณ เวลารอรถ แต่ ดูดุดัน ณ เวลาขึ้นรถ...!หลังจากได้พื้นที่ในการโดยสารแล้ว รถมันก็ไม่ได้ย้ายไปใหนเลย มันยังคงจอดแช่ รอคนเพิ่มทั้งๆที่ ขณะนี้ คนบนรถก็แทบจะกอดคอกันยืนอยู่แล้ว สงสัยมันจะให้ขึ้นไปยืนบนหลังคา...เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง ครึ่ง การผจญภัยบนท้องถนนก็ จบสิ้นลง ขณะนี้เราได้มาถึงที่ทำงานอันแสนน่าเบื่อซะที (อือ...อันนี้ บางคนอาจจะไม่เบื่อก็ได้นะครับ แต่ นำจากข้อมูลของคนส่วนมากแล้ว จะน่าเบื่อ แต่ที่ต้องทนทำกันไปเพราะ สิ่งเดียวเลยครับ = เงิน)คุณเคยสังเกตุอะไรอย่างหนึ่งไหมครับ เวลาเรากำลังจะเดินเข้าไปที่ทำงาน เรามักจะเจอเพื่อน หน้าเดิมๆ ที่มาเวลาเดิมๆ เหมือนกับเรา ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันและมัก พูดว่า เพิ่งมาเหรอ อือ เราก็เพิ่งมา รีบไปตอกบัตรก่อนดีกว่า...! แล้วก็รีบจ้ำอ้าว เป็นอย่างนี้ทุกวันทีเดียวเชียว...ติดตามตอนต่อไปนะครับ รับรองไม่นานครับ...สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญรุ่นปู่...
ดูท่าทางน่าติดตามต่อเพราะแค่เวลามา
ยังฮาเลย
จะมาอ่านตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณที่แวะไปนะคะ
สุขกับทุกวันนะคะ