ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่อเกิดแห่งทุกข์
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
16 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

เรื่องของเธอ...ตอนต่อ 3

“คุณแม่ครับ คุณแม่รักมิ้นมากไหมครับ”

“ถามทำไม มีอะไรเหรอ”

“คุณแม่ตอบผมมาก่อนครับ”

“รักมากสิ ทำไมจะไม่รักหละ”

“แล้วถ้ามิ้นทำอะไรผิดพลาดไป คุณแม่จะยกโทษให้ได้ไหมครับ”

“มีอะไรบอกแม่มาเลย แม่ไม่ว่าอะไรหรอก”

“คุณแม่สัญญานะครับว่าจะไม่โมโห หรือ โกรธมิ้น”

“บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่ามีอะไร เธอไปทำอะไรลูกฉันเหรอ”

“ผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรครับ แค่สงสารน้องเค้า ผมเพิ่งเคยเจอ มิ้นแค่ 2 ครั้งเองครับ แล้วผมจะไปทำอะไรหละครับ”

“งั้นบอกแม่มาว่าเกิดอะไรขึ้น”

ผมมองหน้าไปที่มิ้น แล้วบอกให้มิ้นเล่าให้แม่ฟังเอง ผมบอกว่าเล่าไปเถอะยังไงเรื่องนี้ คุณแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี ท่านจะได้ช่วยเหลือได้ แต่เธอก็ไม่ยอมพูดออกมา ผมก็เข้าใจความรู้สึกนะครับว่ามันอึดอัดขนาดไหน ผมจึงตัดสินใจเป็นคนพูดเอง

“คุณแม่อย่าตกใจนะครับ มิ้น ท้องครับ”

แค่นั้นแหละครับ คุณแม่เดินมาตบหน้าผมอย่าแรง 1 ที และไล่ผมออกจากบ้านไป พร้อมกับ คำด่าตามมาทีหลังแบบนับไม่ถ้วน

“คุณแม่ครับผมไม่ได้ทำ มิ้นท้องนะครับ ฟังก่อนสิครับ”

คุณแม่ก็หันไปตบตี มิ้น พร้อมกับ ด่าว่าสารพัด ผมต้องเข้าไปห้ามและพยายามทำให้ท่าน สงบจิตสงบใจลง ใช้เวลาเกือบ 30 นาที กว่าทุกอย่าจะสงบลงได้

“คุณแม่ครับ ใจเย็นๆสิครับ ผมรู้ว่ากำลังโมโห แต่การใช้อารมณ์มันไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้นมาหรอกนะครับ ในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว เราควรหาทางแก้ไขไม่ดีกว่าเหรอครับ”

มิ้น ก็เอาแต่ร้องไห้ แล้วก็วิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของเธอ แล้วคุณแม่ก็หันมาถามผมว่า

“ใครเป็นคนทำ”

“เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่ มหาวิทยาลัยครับ ผมไปคุยกับเขามาแล้ว ก็เลยมาบอกกับคุณแม่นี่ไงครับ ผมอยากให้ผู้ใหญ่ทั้ง สองฝ่ายได้คุยกันนะครับเรื่องนี้”

คุณแม่เริ่มร้องไห้เสียใจกับการกระทำของลูกสาวตัวเอง แล้วท่านก็เริ่มเล่าเรื่องของมิ้นให้ผมฟัง ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ผมก็พยายามปลอบใจทุกวิธีทางเท่าที่จะทำได้ แต่ก็คงไม่ได้ช่วยทำให้เหตุการณ์ดีขึ้นเท่าไหร่

พอจะสรุปได้ว่า มิ้น เป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นพอสมควร เพราะ พ่อของเธอ ไปมีเมียน้อย และไม่ค่อยให้ความสำคัญกับครอบครัวเท่าไหร่เลย ไม่เคยแม้แต่จะคิดกลับมากอดลูก พูดคุยกับลูกๆ หรือพาลูกๆไปเที่ยวบ้าง

วันๆ เอาแต่ทำงาน และ ให้เวลาไปกับ สาวๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็มีภรรยา และลูกๆอยู่แล้ว

พฤติกรรมของเพศชายเหล่านี้ควรจะถึงเวลาแล้วรึยังครับที่จะเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณ รักใครคนใดคนหนึ่ง ก็ควรจะดูแลเอาใจใส่ให้เหมือนกับในเวลาที่คบกันแรกๆ ความเบื่อหน่ายมีกันทุกคนแหละครับ

แต่ความเบื่อหน่ายมันเกิดขึ้นเพราะอะไรหละครับ ถ้าไม่ใช่ เรื่องของความไม่ยอมเข้าใจกัน ไม่ยอมคุยกัน ความน้อยอกน้อยใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง และที่สำคัญ คุณดันไปเจอเจ้าตัวกิเลส ที่มันคอยยั่วยวนให้คุณไปติดกับดักมันซะด้วยสิ

คุณแม่ท่านถามผมว่าแล้วจะทำยังไงดี มิ้นก็ยังเรียนอยู่ ถ้ามีลูกก็ไม่ได้เรียนสิ

“ก็คงต้อง พักการเรียนไป 1 ปี ครับ ส่วนเรื่องลูกไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าแฟน มิ้น มันไม่ยอมรับผิดชอบ ผมจะช่วยเลี้ยงบ้างตามเวลาจะเอื้ออำนวย แต่ผมขอร้องว่าอย่าเอาเด็กออกนะครับ”

“แม่ขอบใจ เรามากนะที่มาเป็นธุระให้ แล้วแม่ก็ต้องขอโทษด้วยนะที่ตบหน้าเธอไป แม่โมโหมากแล้วคิดว่าเธอเป็นคนทำให้มิ้นท้อง”

“อย่าคิดมากเลยครับ ผมเข้าใจครับ เป็นผมๆก็คงเป็นเหมือนกับคุณแม่หละครับ แต่ว่าตอนนี้ผมอยากให้คุณแม่ช่วยขึ้นไปหา มิ้น บนห้องช่วยปลอบใจเธอ และพยายามเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้เธอก็คงเสียใจมากไม่น้อยไปกว่าคุณแม่หรอกครับ”

คุณแม่เดินขึ้นไปพบ มิ้น บนห้อง หลังจากนั้น ประมาณ เกือบ 1 ชั่วโมง ทั้งคู่ลงมาด้วยกัน ดูแล้วช่างน่าอบอุ่นซะนี่กระไร ผมรู้สึกดีใจขึ้นมาพอสมควรที่เห็น แม่ ลูกเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“มิ้น ขอบใจพี่มากนะครับ ที่ช่วยพูดกับคุณแม่ให้ท่านไม่โกรธมิ้น”

“อย่าคิดมากเลยครับ อะไรที่ผมช่วยได้ผมก็จะช่วยครับ ถ้ายังไงผมต้องขอกลับบ้านก่อนนะครับ ป่านนี้ที่บ้านผมคงตั้งหน้าตั้งตารอฟังเรื่องนี้แล้วหละ”

หลังจากวันนั้น ผ่านไป 3 วัน มิ้น มาที่บ้านผม แล้วก็เอาแต่ร้องไห้ ผมก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเล่าให้ผมฟังว่า เพื่อนเธอโทรมาบอกว่า นพ ตายแล้ว ผมตกใจมาก เพราะว่าผมยังคิดอยู่เลยว่าทำไม นพยังไม่โทรมาหาผมอีก เพราะนัดกันวันนี้จะไปพบ พ่อแม่ เขา

“แล้วเขาเป็นอะไรตายหละมิ้น”

“เพื่อนมิ้นเล่าให้ฟังว่า มีผู้ชายจาก มหาวิทยาลัยอื่น มาดักแทงที่หน้าป้ายรถเมล์ เพราะ นพไปแอบมีอะไรกับ ผู้หญิงของผู้ชายคนนั้น แล้วคราวนี้จะทำยังไงหละค่ะพี่”

กรรม ทำไมได้ตามสนองได้รวดเร็วปานนี้ ผมคิดว่า นพ น่าจะหยุดพฤติกรรมแบบเก่าไปแล้ว แต่บางครั้งเราพูดอะไรไป

คนที่จะพร้อมรับฟังมี แต่คนที่พร้อมจะเชื่อ และปฏิบัติตามนั้นน้อยครับ เพราะสิ่งที่เตือนและพูดมันก็ไม่ใช่ผมเป็นคนคิดหรือพูดเป็นคนแรกในโลกซะที่ไหนหละ

สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนก็มีมาตั้งกี่พันปีมาแล้วหละครับ แล้วลองมาดูสังคมทุกวันนี้สิครับ

“มิ้น อย่าเสียใจไปเลยครับ คิดซะว่าเขาไปสบายแล้ว แต่คนที่อยู่ตอนนี้สิ จะแก้ไขปัญหาอย่างไรดี”




 

Create Date : 16 กันยายน 2550
1 comments
Last Update : 16 กันยายน 2550 18:51:33 น.
Counter : 631 Pageviews.

 



กรรมจริงๆ

 

โดย: ทิวาจรดราตรี 17 กันยายน 2550 17:24:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ผัสสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สิ่งที่รู้ รู้อะไร รู้ในสิ่งจริง หรือ สิ่งลวง หรือ ลวงในสิ่งจริง

คิด คิด ...คิด แล้ว จะ รู้ หรือ รู้ เพราะ ไม่คิด

".. ผัสสะ
Friends' blogs
[Add ผัสสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.