ได้เวลาเปิดสอนวิชา สมบัติผู้ดี ๑๐๑ เป็นวิชาบังคับในสถาบันอุดมศึกษา
ปัญหาเรื่องคุณภาพของผลผลิตทางการศึกษาของไทยในปัจจุบันเรียกได้ว่าอยู่ในขั้นวิกฤต ในขณะที่ประเทศไทยมีสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นจำนวนมาก ทำการสอนทั้งในระดับปริญญาตรี โท และปริญญาเอก โดยแต่ละปีมีผู้สำเร็จการศึกษานับหมื่นคน แต่ในทางกลับกัน คุณภาพของบัณฑิตเหล่านั้นโดยทั่วไปกลับต่ำลงอย่างน่าใจหาย แม้ว่าผู้เขียนมิได้เคยสำรวจงานวิจัยเพื่อยืนยันความคิดนี้ แต่จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคคลอื่นๆ ร่วมกับการพิจารณาจากประสบการณ์ในการสอนทั้งระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก มากว่า ๑ ทศวรรษ ทำให้มีความเชื่ออย่างสนิทใจว่า ประเทศไทยเต็มไปด้วยบัณฑิตไร้คุณภาพจริงๆ
การเดินทางไปสอน นศ.ระดับปริญญาตรีครั้งหลังสุดเมื่อ ๒๘ ส.ค.๕๐ ระหว่างที่เดินเท้าจากลานจอดรถยนต์ไปสู่ห้องเรียน จะต้องผ่านนักศึกษาหลายคนที่จับกลุ่มพูดคุยกันหลายกลุ่ม ถ้อยคำที่คนเหล่านั้นกล่าว ล้วนเต็มไปด้วยความหยาบคายและไร้สาระ มีความรู้สึกว่าเดินในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ต่างจากการเดินซื้อกับข้าวในตลาดทั่วไป ต่างกันตรงที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดนั้น ล้วนมุ่งมั่นทำการค้าของตน เพื่อเลี้ยงครอบครัว ถึงจะใช้วาจาด่าทอกันบ้าง ก็เป็นไปตามธรรมชาติของคนเหล่านั้น แต่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับสูง ควรจะมีความคิด หรือควรแลกเปลี่ยนความเห็นกันในเรื่องวิชาการหรือการพัฒนาตนเองบ้าง การกล่าวคำหยาบคายด่าว่าเพื่อนฝูงในกลุ่มของตน ไม่ควรจะมีในชนชั้นที่สังคมฝากความหวังว่าเป็นปัญญาชน แต่ข้อเท็จจริงที่พบนี้กลับกลายเป็นว่า แม้หญิงและชายในสถาบันแห่งนั้นส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมเรียบร้อยเป็นปกติ แต่บางคนแม้จะมีจำนวนไม่มากนัก กลับใช้วาจาต่ำช้าซึ่งกันและกันจนเคยชิน และเห็นเป็นเรื่องปกติ หากคนใดพูดจาสุภาพเรียบร้อยคงถูกไล่ออกจากกลุ่มเป็นแน่ (ข้าพเจ้าคิดเช่นนั้น) แม้อยู่ในห้องเรียนก็ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อยู่ จนต้องเรียกมาสั่งสอนให้เข้าใจว่าควรจะต้องประพฤติตนอย่างไร
เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับอีกสถาบันหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคยสอนในระดับปริญญาตรีก็มีลักษณะคล้ายกัน ในสถาบันแห่งนั้นมีการแพร่ภาพให้นักศึกษาชมผ่านทางระบบโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งไว้ทั่วสถาบัน ซึ่งแทนที่จะจัดรายการที่มีสาระความรู้ หรือเชิญศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จมาเชิดชูเป็นตัวอย่างเพื่อสร้างกำลังใจในทางที่ดีแก่นักศึกษา กลับแพร่ภาพการแสดงดนตรีของนักดนตรีต่างชาติ ด้วยจังหวะที่กระแทกกระทั้นร้อนแรง ส่งเสียงดังไปทั่วบริเวณ ซึ่งนอกจากจะเป็นการรบกวนสมาธิของผู้ที่ต้องการอ่านหนังสือแล้ว ก็รังแต่จะเพิ่มความก้าวร้าวให้แก่ลูกศิษย์ของตน ซึ่งผู้เขียนไม่สามารถเข้าใจหลักคิดของผู้บริหารของสถาบันนั้นได้เลยจนบัดนี้
ประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้ เป็นที่น่าวิตกต่ออนาคตของสังคมไทย ที่จะเต็มไปด้วยเด็กไร้สาระ บ้าแต่งตัว แต่งหน้า ทาปาก ทาเล็บ แข่งรถยนต์ หาแก่นสารไม่ได้ อันเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังต่อไปนี้
๑. ความไม่สนใจของผู้บริหารสถาบันแต่ละแห่ง ที่มีต่อความสำคัญในการสร้างคนในด้านจริยศึกษา
๒. ความไม่ได้เรื่องของคนรับจ้างสอนหนังสือที่สถาบันเหล่านั้นจ้างมาสอนแต่กลับขาดแคลน ครู ที่แท้จริง
๓. การที่นักศึกษาบางคนขาดการสั่งสอนอบรมจากครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง และวงศาคณาญาติทั้งหลาย และ
๔. สังคม ที่มีสื่อมวลชนซึ่งไร้ความรับผิดชอบจำนวนมาก ต่างผลิตละคร สินค้า การโฆษณา เพื่อมอมเมาเด็กไร้สติ ให้หลงละเมอตามจินตนาการที่ขาดแก่นสาร จนไม่รู้ว่าในชีวิตจริงนั้น คุณธรรม ความถูกต้อง ความดีงาม และหลักธรรมตามแนวทางของศาสนาต่างๆ เท่านั้น ที่จะสามารถส่งเสริมให้บุคคลมีความก้าวหน้าและมีความสุขในชีวิตได้อย่างมั่นคงแท้จริง
หนังสือ สมบัติผู้ดี ซึ่งเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) ได้กรุณาเรียบเรียงไว้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๕ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดายุคโบราณ ยังมีความทันสมัยอยู่เสมอ ทุกชาติทุกภาษาล้วนให้ความเคารพ ศรัทธา ต่อบุคคลที่รู้จักกาลเทศะ รู้ควรไม่ควร รู้จักการใช้ภาษาที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งคนเดี๋ยวนี้รู้จักน้อยลงเรื่อยๆ ผมได้กล่าวแก่นักศึกษาในห้องเรียนว่า หากนักศึกษาอยากจะเป็นคนธรรมดา ก็ไม่ควรเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษา เพราะเราเป็นคนธรรมดาอยู่แล้ว แต่หากต้องการเป็นผู้นำ ต้องการเป็นชนชั้นกลาง ชนชั้นสูง จะต้องมีการฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คำแนะนำของครู อันจะนำพาบุคคลเหล่านั้นไปสู่เส้นทางแห่งเกียรติยศได้อย่างสง่างาม พร้อมทั้งนำสังคมไทยให้ก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคง
เนื้อหาสาระของหนังสือ สมบัติผู้ดี ประกอบด้วยบทเรียน ๑๐ บท คือ
บทที่ ๑ ว่าด้วยเรื่อง ผู้ดี ย่อมรักษาความเรียบร้อย บทที่ ๒ ผู้ดี ย่อมไม่ทำอุจาดลามก ทั้งกายกิริยา วจีกิริยา และมโนกิริยา บทที่ ๓ ผู้ดี ย่อมมีสัมมาคารวะ บทที่ ๔ ผู้ดี ย่อมมีกิริยาอันเป็นที่รัก บทที่ ๕ ผู้ดี ย่อมเป็นผู้มีสง่า บทที่ ๖ ผู้ดี ย่อมปฏิบัติการงานดี บทที่ ๗ ผู้ดี ย่อมเป็นผู้ดี บทที่ ๘ ผู้ดี ย่อมไม่เห็นแก่ตัวฝ่ายเดียว บทที่ ๙ ผู้ดี ย่อมรักษาความสุจริตเที่ยงตรง บทที่ ๑๐ ผู้ดี ย่อมไม่ประพฤติชั่ว
ได้เวลาเปิดสอนวิชา สมบัติผู้ดี ๑๐๑ เป็นวิชาบังคับสำหรับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแล้ว
ชื่อวิชา สมบัติผู้ดี ๑๐๑
ความมุ่งหมายของหลักสูตร
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ในการปฏิบัติตนเมื่อเข้าสมาคมกับบุคคลระดับต่างๆ การสร้างเสริมบุคลิกภาพและภาวะผู้นำในการงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ รวมทั้งให้นักศึกษามีความเข้าใจถึงความสำคัญของกิริยามารยาทและสามารถแสดงกริยาที่เหมาะสมได้ในแต่ละโอกาส พร้อมทั้งมีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและมีระเบียบวินัยในตนเองอย่างเคร่งครัด
ขอบเขต
แนวความคิดเกี่ยวกับฐานะทางสังคม และความสมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพของบุคลที่มีต่อความสำเร็จในการทำงานและการเสริมสร้างวัฒนธรรมไทย หลักการปฏิบัติตนตามมาตรฐานสากลในเรื่องกิริยามารยาทในชีวิตประจำวันทั่วไป มารยาทในการติดต่อสื่อสาร มารยาททางการทูต การใช้ราชาศัพท์ หลักการเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรม หลักธรรมของศาสนาต่างๆ ที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตของคฤหัสถ์เพื่อความสุขและความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนและมั่นคง
หนังสืออ่านประกอบ
ศรีสว่าง ภิบาลแทน และเรช มุ่งในธรรม. มารยาทไทย. กรุงเทพฯ:สำนักหอสมุดกลาง ๐๙. ๒๕๓๐ ปรีชา แก่นสา. แนวปฏิบัติด้านพิธีการทูตสำหรับด้านพิธีการและงานเลี้ยงรับรอง. กรุงเทพ:อัดสำเนา. ๒๕๕๐. //www.khonthai.com/Vitithai/marayat7.htm //www.kanchanapisek.or.th/kp8/mthai/ //www.kanchanapisek.or.th/kp8/mthai/ //www.kanchanapisek.or.th/kp8/mthai/ //www.kanchanapisek.or.th/kp8/mthai/ //www.khonthai.com/Vitithai/marayat9.htm //www.khonthai.com/Vitithai/marayat8.htm
ถ้าหาครูสอนวิชานี้ไม่ได้ ผมขอสอนเองครับ
พ.อ.ดร.อนุชาติ บุนนาค ๓๐ ส.ค.๕๐
Create Date : 30 สิงหาคม 2550 |
|
12 comments |
Last Update : 30 สิงหาคม 2550 9:32:41 น. |
Counter : 1596 Pageviews. |
|
|
|
ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกเบี้ยวแล้วมันก็จะเบี้ยวไปตลอดครับ