บางระจันวันเพ็ญ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ถ้าขอได้จะขอกันในวันนี้
ขอให้สิทธิเสรีอย่าสูญหาย
ถ้าเลือดไทยจะหลั่งโลมจนโทรมกาย
ก็ขอตายด้วยศักดิ์ศรี........เสรีชน
(วิสา คัญทัพ)









เอารัฐธรรมนูญเผด็จการคืนไป เอารัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเราคืนมา
Google
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
15 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บางระจันวันเพ็ญ's blog to your web]
Links
 

 
ระหว่างทักษิณและสนธิ ใครกันแน่ที่ไม่จงรักภักดี ใครกันแน่ที่จาบจ้วงและคิดล้มล้างสถาบัน

ย้อนรอยความหลังทบทวนความทรงจำในความเป็นมาของข้อกล่าวหานี้กันสักนิด

แรกเริ่มเดิมที ประเด็นเรื่องความไม่จงรักภักดีของทักษิณถูกจุดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล จากรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่ออกอากาศวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2548

โดยนายสนธิได้นำเอาบทความเรื่อง “ลูกแกะหลงทาง” อันเป็นบทความที่มีผู้อ่านคนหนึ่งส่งมาให้ ซึ่งในเนื้อหาของบทความหรือจะเรียกอีกอย่างว่า “นิทาน”นั้น ผู้เขียน(ไม่ทราบว่าใคร)ได้ใช้ภาษาที่สละสลวย สำนวนที่กินใจผู้ฟัง และประกอบไปด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังของนายสนธิขณะบรรยาย ทำให้น้องแอ้ม สโรชา ผู้ดำเนินรายการร่วมขณะนั้นถึงกับสะเทือนใจจนน้ำตาซึมออกมา ( นับเป็นการเติมความรู้สึกร่วมให้กับผู้ฟังอินกับเนื้อหาในนิทานมากยิ่งขึ้น )

ใครอยากอ่านบทความเรื่องนี้คงต้อง Search หาเองเองนะครับ ผมขี้เกียจเอามาลงเพราะมันค่อนข้างยาว

ผลจากนิทานเรื่อง ลูกแกะหลงทาง นี้เองเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกถอดออกจากผังรายการช่อง 9 ในที่สุดหลังจากที่ถูกตักเตือนมาหลายครั้งจากทางสถานี

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ของสนธิและทักษิณอย่างเต็มตัวโดยรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เริ่มสัญจร ครั้งที่ 1 ที่ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 48 และย้ายไปปักหลักที่สวนลุมพินีในเวลาต่อมา

ความชาญฉลาดและเล่ห์เหลี่ยมที่แยบยล ลึกซึ้งของสนธินั้นเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด แทนที่เขาจะประกาศสงครามระหว่างตัวเองกับทักษิณโดยตรง กับเลือกใช้วิธีต่อสู้ภายใต้สโลแกนที่ว่า

“เราจะสู้เพื่อในหลวง”

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการแอบอ้างและเป็นการดึงสถาบันลงมาแปดเปื้อนกับการเมืองเป็นครั้งแรกหลังผ่านพ้นยุคปลุมระดมมวลชนให้เกิดเหตุการณ์ไทยฆ่าไทยเมื่อ 6 ตุลา 19

ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ผู้ที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจและการเมือง ต่างก็เข้าใจและรู้ทันเป้าหมายของสนธิเป็นอย่างดี ว่า การต่อสู้ของสนธิครั้งนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจในกลุ่มบริษัท เมเนเจอร์กรุ๊ปเท่านั้น

เพียงแต่อาศัยสถาบันมาแอบอ้างความชอบธรรมในการหาแนวร่วมจากภาคประชาชนเพื่อเคลื่อนไหวต่อสู้

การสู้ของสนธิในครั้งนั้น มีประชาชนทั้งประเทศเกิดความสงสัย และทำให้มีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่า

“ทำไม่ต้องสู้เพื่อในหลวง” ?

“พระองค์ท่านมาเกี่ยวอะไรด้วยกับความขัดแย้งระหว่างสนธิ กับ ทักษิณ” ?

ย้อนมามองถึงทักษิณผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วยข้อหาที่รุนแรงเรื่อง ความไม่จงรักภักดี ซึ่งในฐานะที่ในอดีตผมเคยเป็นแฟนรายการเมืองไทยรายสัปดาห์และเกาะติดประเด็นนี้มาตลอดนับตั้งแต่สนธิจุดประเด็นเล่านิทานเรื่อง ลูกแกะหลงทาง ต่อเนื่องมาถึงเรื่องการทำบุญประเทศที่วัดพระแก้ว ( ซึ่งแม้ภายหลังสำนักพระราชวังจะออกมาชี้แจงเอง ทางสนธิก็ยังไม่ยอมหยุดกล่าวหา )
จึงขอแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกและตามเหตุการณ์จริงที่ได้เห็นและได้ประจักษ์สายตาไปทั่วโลก

ผมที่ไม่ได้เป็นสาวกทักษิณ ไม่เคยลงคะแนนเสียงให้ไทยรักไทย แต่ผมเขียนตามความรู้สึกที่สัมผัสได้ ต้องบอกจากใจจริงว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่สร้างกระแส “เรารักในหลวง” ฟีเวอร์ได้เท่ารัฐบาลทักษิณ

ไม่เคยมีครั้งใดที่คนไทยรู้สึกปลาบปลื้มปิติและร่วมกันแสดงออกถึงความรักในพระองค์อย่างพร้อมเพรียงยิ่งใหญ่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกได้เท่าครั้งนั้น

ภาพคนนับแสนที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองร้องตะโกน “ทรงพระเจริญ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตามเสียงนำของอดีตนายกทักษิณที่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมยังดังก้องหูอยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศ

ภาพผู้เฒ่าผู้แก่ที่น้ำตานองไหลอาบหน้าด้วยความปลาบปลื้มยามที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์แย้มสรวลและโบกพระหัตถ์ให้ รวมทั้งภาพสมเด็จพระเทพที่ถือกล้องถ่ายรูปผู้คนนับแสนยังติดตราตรึงใจคนไทยไม่รู้ลืม

กระแสเสื้อเหลืองฟีเวอร์เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ยิ่งใกล้วันงาน ราคาเสื้อก็แพงขึ้นและเป็นของหายากที่คนไทยล้วนแต่อยากได้มาครอบครองให้ทันวันงาน

และไม่ใช่แค่ช่วงมีงานราชพิธี หลังจากเสร็จสิ้นงานแล้ว กระแสเสื้อเหลืองก็คงยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง พนักงานบริษัทห้างร้านและข้าราชการพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลืองในวันจันทร์ด้วยความภาคภูมิใจ

ผมยังจำได้ในงานพลุเฉลิมพระเกียรติที่เมืองทองธานี ผมพาลูกสาวไปในงาน ลูกสาวผมตื่นเต้นและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความความตื่นตาตื่นใจเนื่องจากไม่เคยเห็นมาก่อน

“ ปะป๊า..ดูสิ คนใส่เสื้อเหลืองกันหมดเลย มีแต่สีเหลืองทั้งนั้นเลย !“

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เพราะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ไหนในโลก

นั่นคือการที่มีพระราชอาคันตุกะพร้อมกันถึง 25 ประเทศทั่วโลกมาเยือนประเทศไทยพร้อมกันตามคำเชิญของรัฐบาลไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ต้องจดจารึกไว้ด้วยว่า การเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระประมุขจากทั่วโลกเสด็จฯ มาร่วมแสดงความยินดีคราวเดียวถึง 13 พระองค์ นอกเหนือจากมกุฎราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงอีกหลายสิบพระองค์

เป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในยุครัฐบาลไหนไม่ว่าจะนับถอยหลังไปอีกสิบกี่ร้อยปี ภาพความยิ่งใหญ่ไม่ได้ปรากฏแค่ในเมืองไทย แต่ปรากฏการณ์เสื้อเหลืองแห่งความจงรักภักดีของคนไทยต่างแพร่ภาพไปทั่วโลก

คำถามคือ

คนที่ถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี คนที่ถูกกล่าวหาว่าต้องการล้มล้างสถาบันเพื่อขึ้นเป็นประธานาธิบดีนั้น ใยต้องจัดงานอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเทิดทูนสถาบันถึงเพียงนี้ ?

ซึ่งแม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยังทรงตรัส ขอบใจรัฐบาลที่ได้จัดงานนี้ให้พระองค์อย่างยิ่งใหญ่อลังการสมพระเกียรติยศ

จึงไม่น่าแปลกใจที่อดีตนายกทักษิณจะออกอาการฉุนเฉียวที่ถูกนายสนธิกล่าวหาเรื่องความไม่จงรักภักดีเมื่อครั้งจัดปราศรัยกับคนขับแท็กซี่ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เมื่อ 25 ธ.ค.48 ว่า

“..มาเที่ยวปล่อยข่าวบอกว่าผมกำลังเหลิงจะเป็นประธานาธิบดี ปัดโธ่ เป็นแค่นี้ก็เหนื่อยจะตาย..หา อยู่แล้ว.......เอะอะก็หาว่าผมไม่จงรักภักดี ปัดโธ่ ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี แล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี”

ผมคงไม่ฟันธงตรงนี้หรอกครับ ว่าระหว่างทักษิณกับสนธิ ใครกันแน่ที่ไม่จงรักภักดี และใครกันแน่ที่เป็นคนทำลายสถาบันตัวจริง แต่อยากให้ผู้อ่านทั้งที่รักทักษิณและเกลียดทักษิณ ได้ใช้ดุลยพินิจแบบไม่อคติ ละวางความเกลียดชังลงสักครู่ แล้วพิจารณาตัดสินเอาเอง

ระหว่าง......

คนคนหนึ่งที่สร้างกระแสเสื้อเหลืองฟีเวอร์ขึ้นในประเทศไทย ทำให้คนไทยที่ใส่เสื้อเหลืองในตอนนั้นภาคภูมิใจที่ได้แสดงออกถึงความรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

กับอีกคนคนหนึ่งที่ทำให้เสื้อเหลืองกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุนแรงชั่วร้าย กลายเป็นความอัปยศอดสูสำหรับผู้ที่สวมใส่ในปัจจุบันจนแทบไม่มีใครกล้าใส่เดินถนน

คนคนหนึ่งถูกใส่ร้ายฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นแต่อัยการยกฟ้องเพราะไม่มีมูล
กับอีกคนคนหนึ่งที่ถูกฟ้องร้องในข้อหาใช้เบื้องสูงแอบอ้างเพื่อทำลายผู้อื่น จนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นพิพากษาว่า

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานการนำสืบของโจทก์แล้ว พิพากษาว่า
จำเลยได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง โดยมีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ทำให้ประชาชนเชื่อว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ไม่จงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อโจทก์และจำเลยมีเจตนาจะใช้ข้อความดังกล่าวมาเป็นเครื่องมือชักนำประชาชนที่ไม่ทราบความเป็นจริงมาเป็นแนวร่วมในการล้มล้างรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ซึ่งศาลเห็นว่าการต่อต้านรัฐบาลสามารถทำได้ แต่จำเลยไม่สมควรนำสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้อง

จึงเห็นควรลงโทษจำเลยให้สาสม พิพากษาให้จำคุกจำเลย 2 ปี !

คนคนหนึ่งจัดงานเทิดทูนสถาบันอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความมหัศจรรย์ในเรื่องความจงรักภักดีของคนไทยต่อในหลวงให้ขจรขจายไปทั่วโลก
กับอีกคนคนหนึ่ง เอาข้อความ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” มาสกรีนใส่เสื้อขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

คนคนหนึ่งจบจากโรงเรียนนายร้อย จปร.ที่ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
กับอีกคนคนหนึ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ลงหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า

“เอ็งส่งกฎหมายให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธย พอพระองค์ท่านลงมาแล้วเกิดความผิดพลาด นายกฯต้องลาออกแสดงความรับผิดชอบ ถ้าไม่ยอมลาออกต้องบอกประชาชนทั้งประเทศว่าให้ในหลวงลาออก”

คนคนหนึ่งแสดงความจงรักภักดีให้คนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกประจักษ์แก่สายตา

กับคนอีกคนหนึ่งซึ่งหากินด้วยการกล่าวหากับนิทานตั้งแต่เรื่อง “ลูกแกะหลงทาง” จวบจนเรื่องล่าสุด “ปุโรหิต” มุขนี้ก็ยังใช้หากินหลอกสาวกได้เรื่อยมา

คนคนหนึ่ง สร้างกระแสรักและเทิดทูนสถาบันอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งเสื้อ ทั้งสติ๊กเกอร์ ทั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ทั้งวีซีดีงานพระราชพิธี ขายดิบขายดีจนปั๊มไม่ทันต่อความต้องการ คนไทยทุกคนล้วนไขว่คว้าหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเก็บไว้ครอบครองแม้ราคาช่วงแรกๆจะแพงแสนแพง

กับคนอีกคนหนึ่งที่ร่วมมือกับกลุ่มอำมาตย์ที่สูญเสียผลประโยชน์ดึงสถาบันลงมาแปดเปื้อนกับการเมืองอย่างที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์การเมืองไทย วิกฤตศรัทธาที่สั่นคลอนอย่างรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อในปัจจุบันเกิดขึ้นในยุคนี้ คดีหมิ่นต่างๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ซุบซิบกันอย่างกว้างขวางทั้งเปิดเผยบนดินและใต้ดิน

คนที่จงรักภักดีกับถูกกล่าวหาเป็นผู้คิดล้มล้าง

ส่วนผู้คิดล้มล้างตัวจริงกลับกลายเป็นผู้อ้างจงรักภักดี

ช่วยตอบผมที ใครกันแน่คือผู้ที่คิดล้มล้างและทำลายสถาบันตัวจริง









Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 0:35:09 น. 22 comments
Counter : 679 Pageviews.

 
บทความของคุณดีเหมือนกันครับ จริงๆแล้วก็ไม่น่าจะโดนลบเลยน่ะ


โดย: คนๆหนึ่ง IP: 163.118.119.137 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:35:28 น.  

 
คิดเหมือนคุณอย่างนี้มานานแล้วค่ะ และเชื่อว่ามีคนคิดแบบนี้เยอะด้วย

บทความก็พูดตามความเป็นจริง ไม่น่าโดนลบเลย


โดย: ลูกคนจน IP: 125.24.92.122 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:59:15 น.  

 
ถ้าคนมีสมองมีความคิดเขาคงไม่ลบหรอกครับ เขาลบเพราะคุณเขียนดีและจริงเกินไป มีพวกนี้มากบ้านเมืองถึงเป็นแบบนี้


โดย: แรงงานusa IP: 75.94.178.18 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:13:32 น.  

 
บทความเยี่ยมยอดมากครับ

--ลำดับเหตุการณ์--เน้นสาระสำคัญต่างๆ--
--ได้ยอดเยี่ยมมาก


--เสียอย่างเดียว "ตรงกับเหตุการณ์ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น"
--


โดย: ไม้เต็งรัง IP: 58.9.48.170 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:17:26 น.  

 
เห็นด้วยกับบทความคะ และก็เชื่อว่ามีคนไทยอีกหลายๆคนเห็นด้วยว่าการกระทำของใครผิดและถูก คนไทยทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน มีสมองมีความคิด แต่อยู่ที่ว่าใครจะนำมันมาใช้และเป็นประโยชน์ กับส่วนรวมแค่ไหน ยุคนี้ต้องมองโลกให้เป็นกลางคะ เอาเหตุผลเข้ามาไตร่ตรองดีๆ ขอบคุณที่เขียนบทความดีๆมาให้อ่านคะ


โดย: Nahm (Nahm04 ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:35:19 น.  

 
เขียนได้ดีมาก ๆ ครับ ผมคิดแบบนี้มานานแล้ว แต่มันพูดไม่ออก ไม่เข้าใจว่าคนไทยเป็นอะไรกัน


โดย: ดาร์คทอลแอนด์แฮนซัมแมน IP: 203.113.115.99 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:03:45 น.  

 
ผมก็คิดเหมือนคุณ และวันนี้ดูเหมือนเรากำลังจะเข้าสู่การกู้ชาติที่พวกมันเคยบอกเอาไว้


โดย: ฆำ IP: 125.24.32.86 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:40:13 น.  

 
มีความจริงไม่ถึง 50%


โดย: -*- IP: 202.129.32.140 วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:14:32:56 น.  

 
วันนี้คุณยังคิดเหมือนเดิมหรือ ป่าวครับ ถ้ายังคิดเหมือนเดิมไห้ไปอ่านสยามแดง นะครับ และถ้ายังคิดเหมือนเดิมอีก คูณกำลังเป็นอันตรายต่อ ในหลวงครับ


โดย: พยัคฆราช IP: 117.47.208.236 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:0:25:27 น.  

 
คุณ พยัคฆราช


เพราะมีคนที่มีความคิดแบบคุณนี่ไง อะไรๆก็พยายามยัดเยียดความไม่จงรักภักดีให้คนอื่นๆที่เห็นไม่เเหมือนตัวเอง

ความจงรักภักดีดูเหมือนจะผูกขาดอยู่แต่พวกเสื้อเหลืองเท่านั้นหรือครับ

แล้วไม่ใช่ไอ้พวกเสื้อเหลืองหรือครับ ที่ปากบอกว่าจงรักภักดีแต่ไม่ยอมเปิดเส้นทางเสด็จโดยอ้างความปลอดภัยของพวกตัวเองแต่ไม่เคยคิดห่วงพระองค์ท่าน

ไอ้สยามดง สยามแดงไรนั่น ผมไม่รู้จักหรอกครับ คงไม่จำเป็นต้องไปอ่าน คุณน่ะแหละ ควรย้อนขึ้นไปอ่านบทความผมให้ดีๆก่อนตัดสินใจกล่าวหาคนอื่น

เพราะไม่อย่างนั้น ผมว่าคุณน่ะแหละ ความคิดเป็นอันตรายต่อสถาบันอย่างแท้จริง


โดย: บางระจันวันเพ็ญ IP: 115.67.111.10 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:0:25:44 น.  

 
คุณเขียนได้ดีมากๆ น่าจะไปเขียนนวนิยาย เพราะเนื้อหาของคุณไม่ได้อ้างข้อเท็จจริง แต่คุณอ้างจากความรู้สึกของคุณเท่านั้น ในทางรัฐศาสตร์เขาไม่ได้แปลนัยความหมายแบบคุณ คุณเป็นผู้ปลุกระดมหรือเปล่า บ้านเมืองกำลังจะเดินหน้าไปได้สวยแล้ว คุณควรเขียนในแนวที่ทำให้บ้านเมืองเราสงบสุขและร่วมมือกันทำประโยชน์สุขให้กับประเทศชาติ ซึ่งไม่ใช่การเขียนในแนวนี้ ถ้าหากคนที่ไม่รู้ภูมิหลังที่ดีจะเชื้อในเรื่องที่คุณเขียนได้ การที่จะไส่เสื้อสีอะไรมันไม่สำคัญ สำคัญที่ทำอย่างไรในการใช้ชีวิตในเมืองไทยให้มีความสุข เหตุการณืต่างๆได้พิสูจน์โดยตัวมันเองแล้วว่าคนที่ทำลายสถาบันคือ ระบบทักษิณ


โดย: Islandman IP: 124.120.171.124 วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:21:56:30 น.  

 
คุณ Islandman ครับ

ช่วยบอกหน่อยครับ ว่าตรงไหนที่ผมเขียนไม่ใช่ความจริง ?

ข้อมูลข่าวสารส่วนใหญ่ก็นำมาจากเหตุการณ์ที่เป็นข่าวทั้งนั้น ผมแค่นำมาประมวลเหตุการณ์และสอดแทรกความคิดเห็นของผมเท่านั้น

ผมก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิแสดงความคิดเห็นไม่ใช่หรือ ?

เหมือนที่คุณแสดงความคิดเห็นว่า ทักษิณเป็นผู้ทำลายสถาบัน อะไรเหรอครับที่คุณบอกว่าพิสูจน์แล้ว ? ศาลตัดสินแล้วเหรอครับ ผมเห็นมีแต่ที่ศาลตัดสินสนธิที่เอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือทำลายผู้อื่น

ยังไงก็ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ


โดย: บางระจันวันเพ็ญ IP: 118.172.122.137 วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:23:34:39 น.  

 
ทักษิณกับความจงรักภักดี มีแค่ใหน


* เอาแค่เบื้องต้น ( จักรภพ ) ทำงานให้ใคร ?

คุณเคยฟังมันพูดจนเป็นปัญหากะตัวเองเรื่องหมิ่นมั๊ย ??

ไอ้ 3 เกรียนตอนที่มันเป็นแกนนำ นปก. มันจาบจ้วงเรื่องอะไรมั่ง คุณเคยฟังบ้างหรือเปล่า ?

ดา ตอปิโด ... เชื่อมโยงอย่างไรกะพวกเสื้อแดงคุณรู้มั๊ย ? ( สมน้ำหน้า พูดคะนองปากจนติดคุก )

เพรชวรรต ... แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ รวมถึง ขวัญไชย ไพร่เกินพรรณา ยกย่องเชิดชูใคร

ไม่รวมถึง สส. ทรท. ( หรือ พท. ) ออกมาพูดว่าต้องการแบ่งแยกประเทศ

ถามว่า ... คนกลุ่มนี้มีเป้าหมายหลัก คือ เชิดชู ทักษิณ ใช่หรือไม่ ?

ถามว่า .. คุณไม่แปลกใจบ้างเลยหรือว่าทำไมคนพวกนี้ถึงพยายามหมิ่นสถาบัน ?

ถามว่า ... ทักษิณ จะปัญญาอ่อนจนไม่รับรู้ในเรื่องที่คนพวกนี้ทำเลยงั้นหรือ ?

ถามว่า ... คนที่รักประเทศตัวเองจะให้สัมภาษณ์ดิสเครดิตบ้านเกิดตัวเองบ่อย ๆ แบบที่ ทักษิณ ทำมั๊ย ?

ถามว่า ... ทำไมเวลาที่มีการ โฟนอิน เข้ามา ถึงต้องต่อรองว่าถ้าพระองค์ท่านให้อภัย ผมก็จะกลับประเทศ
ทั้ง ๆ ที่ตัวมันทำผิดจนต้องหนีคดี ?


คนแบบนี้เขาเรียกว่า ... คนจงรักภักดี งั้นเหรอ ????


อีกทั้ง ใจ อึงภากร ที่เขียนแถลงการณ์สยามแดง อีกละ
คนพวกนี้เชิดชูทักษิณมิใช่เหรอ


โดย: ความรวยรับใช้คนฉลาด แต่ความรวยนั้นเองที่จะเป็นผู้บังคับบัญชาของคนโง่ IP: 202.149.24.129 วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:0:11:08 น.  

 
จักรภพทำงานให้ทักษิณ จริงครับ

แต่คำพูดในเชิงวิชาการและทัศนคติส่วนตัวไม่มีใครบังคับใครได้นี่ครับ เหมือนอย่างสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่ไปยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน อภิสิทธิ์ไม่เห็นต้องออกมารับผิดชอบด้วยนี่ครับ เห็นอ้างตลอดว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล พรรคไม่ได้สนับสนุน

จักรภพเค๊าบอกว่าออกมาพูดในนามทักษิณหรือครับ ?

3 เกรียนที่คุณว่า ไม่ทราบว่าหมายถึงใคร แต่ถ้าหมายถึง วีระ จตุพร ณัฐวุฒิหละก็ ผมไม่เคยได้ยินว่ามีการจาบจ้วงครับ ( ยกเว้นวีระ ในอดีต) และเชื่อว่าไม่มีด้วย เพราะถ้ามีพาดพิงแม้แต่เพียงเล็กน้อยหละก็ ฝั่งตรงข้ามไม่เอาไว้หรอกครับ แจ้งความไปนานแล้ว เพราะใช้ข้อหานี่หากินมาตลอด

ดา ตอปิโด เป็นคนเสื้อแดงอยู่แล้วครับ แต่การพูดอย่างคะนองปากโดยความเห็นส่วนตัว คนเสื้อแดงทั้งประเทศต้องรับผิดชอบด้วยหรือครับ และคดีนี้เค๊าก็ถูกจับเข้าคุกไปแล้วเพราะผิดจริง ตอนนี้ก็ชดใช้กรรมอยู่ในคุกตามกฏหมายไทย

ยังไม่พอใจอีกหรือครับ หรือจะให้ตัดหัวเสียบประจานกลางท้องสนามหลวงถึงจะสะใจ ?

เรื่องทักษิณโฟนอินไม่ขอขยายความครับ เป็นเรื่องการตีความ สนธิพยายามไซโคว่าทักษิณหมิ่น แต่สันติบาลก็บอกชัดเจนว่าฟังอยุ่ทุกถ้อยคำ ไม่มีคำไหนหมิ่น เรื่องนี้พูดแค่นี้พอนะครับ

ส่วนอาจารย์ใจ เค๊ามีแนวคิดเชิงวิชาการแบบนี้มานานแล้ว และเพิ่งเข้ามาแจมกับเสื้อแดงในช่วงท้ายๆ ( ก่อนหน้านี้ก็ด่าทักษิณมิใช่น้อย ) อาจจะเห็นว่ามีแกนนำเสื้อแดงที่โดนข้อหานี้ด้วยเลยหัวอกเดียวกัน

แต่ในความเห็นส่วนตัวของผมเท่าที่ได้อ่านเมลล์จากอาจารย์ใจทุกฉบับ ยอมรับว่าแนวคิดของอาจารย์ "แรง" และ "ชัดเจน" เกินไปครับ ไม่มีทางที่สังคมไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะยอมรับแนวคิดนี้ได้

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ


โดย: บางระจันวันเพ็ญ IP: 118.172.122.132 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:1:22:03 น.  

 
ก่อนแสดงความเห็นขอบอกก่อนนะครับว่า ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายใดๆ ทั้งเสื้องเหลือง หรือแดง และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่พวกกลุ่มคนเสื้อเหลืองไม่น่าเอาเสื้อเหลืองที่นิยมใส่กันตั้งแต่งานเฉลิมฉลอง 60 ปีการครองราชย์ของท่านมาเป็นสัญลักษณืของกลุ่มตัวเอง และผมก็ยังด่าว่าพวกนี้ด้วยซ้ำตอนที่เข้ายึดสนามบิน แต่...

อย่างนึงที่ผมเห็นได้ก็คือ ถึงแม้คุณจะมองว่า พวกเสื้อเหลืองอ้างความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้มีคนมาเข้าร่วมมากมาย ผมเชื่อว่าพวกเสื้อเหลืองส่วนใหญ๋ มีความจงรักต่อท่านอยู่เต็มปรี่ในหัวใจ

พวกเค้ามักจะมีธงสัญญลักษณ์ พระบรมฉายาลักษณ์ และธงชาติไทยเคียงคู่กันเสมอในการชุมนุม แต่...

กับพวกม๊อบเสื้อแดงล่ะครับ พวกเค้าเทิดทูนใคร ??? ผมเห็นแต่การชูธงสีแดง (ธงชาติไทยก็พอมี แต่นับผืนได้) และการชูรูปของทักษิณในกรอบสีทอง !!! เทิดทูนทักษิณเหมือนเป็นพ่อผู้มีพระคุณ... อย่าบอกนะครับว่าที่ไม่เอาธง หรือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านมาแสดง เพราะไม่ต้องการดึงพระองค์ท่านเข้ามาเกี่ยวข้อง...

ถ้าบอกว่าที่ทำความวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้ทำเพื่อนายทักษิณ แต่ทำเพื่อประชาธิปไตย ก็อย่าดูวิดิโอลิ้งค์ที่ฉายให้ดูทุกวัน (พวกเสื้อแดงดูวิดิโออยู่ที่ม๊อบ ท่ามกลางแดดร้อน ท่ามกลางสายฝน ที่นายทักษิณบอกว่าเป็นฝนเทียม ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด ส่วนตัวเองหลังจากพูดเสร็จ พอหลังกล้องก็อยู่ กิน นอนหลับอย่างสบาย) และอย่าเอารูปของคนที่พวกคุณบอกว่าไม่ได้ทำเพื่อเค้ามาโชว์สิครับ ชุมนุมกันด้วยตัวของพวกคุณเอง ด้วยอุดมการณ์ประชาธิไตยที่พวกท่านมี...

ผมจำพระราชดำรัสหนึ่งของพระองค์ท่านได้ดี อาจจะไม่ตรงทุกคำนัก แต่ที่จำได้สนิทคือ "เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เราต้องควบคุมคนไม่ดีไม่ให้สามารถมาทำความวุนวายให้กับบ้านเมืองได้"

ถ้านายทักษิณมั่นใจว่าตัวเองไม่ผิด ทำไมไม่กลับมาสู้คดีล่ะครับ แล้วที่เค้าให้ลูกเมียเค้าบินไปต่างประเทศขณะที่ตัวเองกำลังปลุกปั่นให้พวกเสื้อแดงทำเพื่อตัวเอง ไม่เรียกว่าเอาตัวรอด แล้วเรียกว่าอะไรครับ

ปล. ผมไม่ใช่พวกเสื้อเหลืองนะครับ ผมเป็นแค่คนไทยคนนึงที่ยังนึกถึงความสงบร่มเย็นของประเทศชาติในอดีตอยู่ตลอดเวลา


โดย: Carrick IP: 125.24.65.50 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:10:25:08 น.  

 
ฉันเป็นคนไทยคนหนึ่งที่รักประเทศไทย รักในหลวง

เห็นด้วยกับคุณCarrick

และมองดูทักษิณตั้งแต่มันเข้ามาบริหารบ้านเมืองแบบซื้อเสียงถล่มถลาย และซื้อพรรคการเมืองเล็กๆ ให้มาเป็นพรรคพวกตัวเอง เพื่อไม่ให้มีการตรวจสอบตัวเอง

ทุกอย่างที่เสื้อแดงเรียกร้อง เพื่อนายทักษิณ ความคิดของมันใกล้คอมมิวนิส เข้าไปทุกที

เพื่อประชาธิปไตยตรงไหน มีแต่ถ้าเอามันกลับมาประชาธิปไตยที่เรามีอยู่ จะต้องเสียไป มันแสดงโจ่งแจ้งอยู่แล้วว่าพวกมันไม่ต้องการระบบพระมหากษัตย์

ทักษิณมันเข้ามากอบโกย 5-6 ปี มันไม่มีแผ่นดินจะอยู่ และตอนนี้มันป่วนประเทศไทย แบบในเมื่อมันไม่ได้อยู่ก็ให้ประเทศไทยพังไปเลย มันไม่แคร์

ขอถามหน่อย ประเทศไทยพังไปในสายตาชาวโลกและสะใจทักษิณ คนไทยในประเทศไทย ก็รับกรรมไป

แต่ทักษิณลอยตัว มันไม่เดือดร้อน
เสื้อแดงสะใจด้วยหรือเปล่าที่ทำให้ประเทศตัวเองเป็นแบบนี้ คุณสบายใจหรือ

กระแสรักในหลวงฟี่เว่อร์ ไม่ใช่ทักษิณทำให้เป็น แต่มันเป็นธรรมชาติของคนไทย

คุณเคยศึกษาเส้นทางการเงินของทักษิณหรือเปล่า ว่ามันโกงเงินภาษีคุณอย่างไร

ตัวอย่างก็มีให้เห็นว่าพันธมิตรเสื้อเหลืองทำให้ประเทศไทยเสียหายแค่ไหน

เสื้อแดงก็เลยทำบ้างกลัวว่าประเทศไทยจะดีขึ้น สงสารทักษิณ กลัวว่าไม่สาแก่ใจนายทักษิณอย่างนั้นหรือ

ประเทศไทยอยู่อย่างสงบสุขมากี่ร้อยปี แค่ในหลวงรัชกาลที่9 ก็ 60 กว่าปีมาแล้ว การเมืองก็มีลุ่มๆดอนๆ โกงทั้งนั้น แต่ไม่ได้โกงแบบมโหฬารแบบมัน(ทักษิณ)

แต่มัน(ทักษิณ)มาแค่ 5-6 ปี ประเทศไทยวุ่นวายไปหมด

คุณรักประเทศไทย รักพระมหากษัตย์จริงหรือเปล่า





โดย: T IP: 124.121.116.196 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:12:19:57 น.  

 
คนที่จงรักภักดีกับถูกกล่าวหาเป็นผู้คิดล้มล้าง

ส่วนผู้คิดล้มล้างตัวจริงกลับกลายเป็นผู้อ้างจงรักภักดี

ช่วยตอบผมที ใครกันแน่คือผู้ที่คิดล้มล้างและทำลายสถาบันตัวจริง

........................
ถามทำไมอะ
ก้อพูดเอง ตอบเองหมดแล้วนิหน่า
หว่า ว่าจะมาตอบซักหน่อย เซ็งเลย...........
อืม ไหนไหนก้อเข้ามาแล้ว
ก้อขอถามหน่อยสิว่า................
คิดว่าสิ่งที่คุณคิดนะจริงแล้วเหรอ
มั่นใจแค่ไหน........................
ถึงได้กล้า ยันซะขนาดนั้นค่ะ
จิตตก...........ไปดีกว่า



โดย: pp IP: 202.183.204.119 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:5:00:01 น.  

 
เขียนอะไรเอาความจิงมาพูดบ้าง
อย่าหลงงมงายแต่คำพูดของแม้วดิ


โดย: เฮ้อสมเพชคนเขียนวะ IP: 118.173.42.36 วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:47:40 น.  

 
อ่านหลายๆ Comment แล้วทำให้รู้สึกได้เลยว่า

คนเราชอบ "เลือก" ที่จะอ่านสิ่งที่ตัวเองอยาก "อ่าน"

และ

"เลือก" ที่จะเชื่อ ในสิ่งที่ตัวเองอยาก " เชื่อ "

แม้สิ่งที่ผู้เขียนบทความนี้จะอิงความรู้สึกส่วนตัวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สมมุติเรื่องขึ้นมาเอง

ทุกเรื่องราวที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่าง ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง มีพยานหลักฐานจริงทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญวัดพระแก้วที่สนธิพยายามเปิดประเด็นเรื่องการไม่จงรักภักดี

ไม่ว่าจะเป็นการแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังว่าทำถูกต้องหรือไม่

ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาว่าใครไม่ได้หมิ่น และใครกันแน่ที่โดนคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ในคดีนำเอาสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือ

ไม่ว่าจะเป็นกระแสเสื้อเหลืองฟีเวอร์ที่เกิดขึ้นจริงๆในยุคนั้น

( เปรียบเทียบกับยุคนี้ ในวันฉัตรมงคลที่ผ่านมา ถึงกับต้องให้ผู้ว่าเกณฑ์คนมาจังหวัดละสองพันคนเพื่อมาดูคอนเสริตน์ )

แต่เอาเถอะครับ

คนเราถ้าลองปักใจเชื่อว่า คนคนหนึ่งโกง คนคนหนึ่งเลว คนคนหนึ่งชั่ว แล้วหละก็...

ไม่ว่าจะมีเหตุผลร้อยพันเหตุผลที่มีหลักฐานชัดเจนมาแสดงหรืออธิบายความอย่างไร ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงความเชื่อนั้นไปได้

แต่แปลกนะ ถ้าเป็นนายสนธิพูด

ไม่ต้องมีหลักฐาน ไม่ต้องมีเหตุผล

มีแค่ความเชื่อว่ามันโกง มันหมิ่น มันเลว

เออ...เชื่อแฮะ

ยังไงก็ขอขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพชนพึงกระทำนะครับ

จะเป็นเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง ไม่ว่ากัน ที่นี่เปิดกว้างเสมอ

ขอบคุณครับ








โดย: บางระจันวันเพ็ญ วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:08:56 น.  

 
ผมก็อ่านมาทุกคอมเมนท์นะครับด้วยใจเป็นกลาง ผมเข้าใจความรู้สึกทุกคนนะครับ เรื่องอย่างนี้มันกลายเป็นความเชื่อ และหนักกว่านั้นอาจจะถึงขั้นเป็นลัทธิ เอาง่ายเลยคุณชอบ คุณก็คิดว่าดี คุณเชื่อคุณก็บอกว่าใช่ แต่เราควรมองปัญหาทุกอย่างด้วยสติปัญญาของเราเอง โดยลดทิฐิมานะ ลงมาบ้าง ลดความเชื่อและชอบส่วนตัวโดยมองที่เหตุและผล ไม่โน้มน้าวให้ใครมาชอบและเชื่อตามเพราะมันเป็นที่มาของความขัดแย้งระดับมหาชน สังคมจะคิดอย่างไร ให้ประชาธิปไตยตัดสินดีกว่า แต่ถ้าปัญหามันติดอยู่ที่ว่าประชาปไตยมีใครชักจูงหรือโน้มน้าวได้มันก็เลยยุ่งอย่างประเทศเราตอนนี้ น่าเหนื่อยใจจังครับ ถ้าคนเราหรือผู้มีอำนาจรือผู้ที่กำลังแก่งแย่งอำนาจกันอยู่ตอนนี้พัฒฒนาจิตใจด้วยศิลธรรมไปพร้อมกับการพัฒนาของความเจริญด้านวัตถุลดการยึดมั่นถือมั่นลง รู้จักให้อภัย ลดความเคียดแค้นชิงชังลงมาบ้าง บ้านเราคงน่าอยู่มากกว่านี้ ผมได้แต่หวังว่าคนไทยจะรักกันดังเดิม และมีแต่ความสุขดั่งที่เคยเป็นมา วันนั้น สยามเมืองยิ้ม เราคงได้พูดมันอีกครั้งโดยไม่รู้สึกกระดากอาย ผมรักทุกท่าน รักคนไทยร่วมแผ่นดินทุกคนไม่ว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร เราก็พี่น้องกัน เลิกต่อว่ากันเสียทีเถอะครับ เราต่างบอบช้ำมาด้วยกันทั้งนั้น ให้อภัยกันและเดินไปข้างหน้ามีแต่สิ่งสวยงามรอเราอยู่ เราพี่น้องกันครับ ลิ้งค์นี้มีแต่สุภาพชนทั้งนั้น ขอบคุณครับ


โดย: คมสัน IP: 14.207.219.59 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:10:19:56 น.  

 
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ขอให้ประเทศไทยกลับมาสงบไวๆใครที่คิดไม่ดีต่อแผ่นดิน ก็จะต้องรับกรรมของมันเอง และขอให้พ่อหลวงของคนไทยสุภาพแข็งแรง ผมรักพระเจ้าอยู่หัวครับ


โดย: แมวเอดะ IP: 223.204.221.238 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:30:24 น.  

 


โดย: แม่ไก่ตัวเล็ก วันที่: 27 มิถุนายน 2556 เวลา:0:55:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.