ป้ามะลิกับลุงมะระ
Location :
กรุงเทพฯ Denmark

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





เรื่องราวต่างๆ ที่เขียนขึ้นมาในบล๊อกนี้ มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องแต่ง เพื่อบอกเล่าสู่กันฟัง และเพื่อความบันเทิง

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539
ห้ามผู้ใดละเมิด ลอกเลียนหรือนำส่วนใดส่วนหนื่งของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่

โดยไม่ได้รับอนุญาต จาก... จขบ ...
มิเช่นนั้นแล้ว
ท่านจะต้องถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด





Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
14 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ป้ามะลิกับลุงมะระ's blog to your web]
Links
 

 
¤ ชีวิต ไม่สิ้น ก็ต้องดิ้น กระแด่ว ๆ กันต่อไป ¤

สวัสดีเพื่อนบล๊อกทุกท่านที่ติดตาม " วงเวียนชีวิตป้าลิ "

เอิ๊กกกก ๆ ๆ

มาดามน้องอุ้ยเพิ่งตั้งให้ค่ะ เพราะชีวิตของดิฉันช่วงนั้นก็รันทดสุด ๆ ประมาณนั้นแหล่ะค่ะ

ส่วนน้องเมย์ที่ตั้งข้อสังเกตุมาว่าทำไม ป้าลิยังใจเย็นข้ามไปกินกาแฟรอได้อีก

อันนี้ขอตอบว่าเพราะตอนนั้น คิดอะไรไม่ออกค่ะน้องเมย์ขา

คิดแต่แค่ว่าเอาตัวรอดไว้ก่อน ขืนหอบของไปด้วยก็กลัวว่ามันจะหล่นร่วงระหว่างที่กำลังวิ่งหนี

เกรงว่าจะตกเป็นจำเลยถูกเหล่าเทศกิจจับตัวไว้ได้ทัน อีกอย่าง

ถ้าให้แบกห่อรองเท้าวิ่งตะเลิดไปด้วย ก็ยิ่งจะดูเป็นภาพที่น่าสังเวชมากขึ้นไปอีก

บวกกับนังแหม่มที่ยืนขวางทาง คงเพราะสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันหล่ะนี่

ป้าลิก็เลยจำต้องยอมละทิ้งหลักฐานทั้งหมดไว้ข้างเสาไฟนั่นแหล่ะค่ะ




..............


เล่าต่อเลยหล่ะกันนะคะ กำลังมันส์เหมือนกัน อิอิ

อ่ะ...... เร่เข้ามา เร่เข้ามา ล้อมวงกันเข้ามาฟังดิฉันโม้ต่อดีกว่าค่ะ

พอวันถัดไป ฉันก็แบกถุงรองเท้าไปวางขายตรงที่เก่าเวลาเดิม

แต่พอจะปูผ้าก็มีคุณพี่ผู้หญิง ที่คาดว่าน่าจะทำงานบาร์อยู่แถวนั้นนั่งอยู่

เธอก็ร้องห้ามดิฉันว่า " น้องห้ามขายของแถวนี้นะ "

ฉันก็มองหน้าเธอถามกลับไปว่าทำไมคะ เมื่อวานหนูยังมาขายได้เลย

เธอก็ว่าเพราะพื้นที่ตรงนี้มีคนจองแล้ว แต่ฉันก็ยังดื้อด้านค่ะ

ตอบไปว่าเมื่อวานมาก็ไม่เห็นมีใครเลย เธอก็เลยถามว่าจะขายถึงกี่โมง

ฉันก็ตอบว่าไม่นานหรอกค่ะ เดี๋ยวบ่ายๆ ก็กลับ เธอก็ว่างั้นก็ไม่เป็นไร

คือพื้นที่แถวนั้นมันทำเลทองนะคะ ใครจะขายอะไรต้องเสียเงิน

แต่ตอนกลางวันไม่มีแผงลอยหรอกค่ะ เขาจะมาตั้งแผงกันเย็นๆ

แต่ฉันคงอยู่ไม่ถึงตอนเย็นหรอก คุณพี่แกก็เลยอนุญาต

ฉันก็จัดการปูผ้าเอารองเท้าออกมาวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม

แต่คราวนี้เอาออกมาแค่ไม่กี่คู่ เพื่อสะดวกในการหอบหนีเทศกิจ






ราคาขายหน้าร้านเขียนป้ายแปะไว้ 199 บาทไทย ดอลล่าไม่รับ

ทำเลทองแหล่งธุรกิจสีลมนั้น ดิฉันมีเพื่อนทำงานอยู่ออฟฟิศแถวนั้นด้วยค่ะ

วันนั้นก็เผอิญได้เจอเพื่อนมันออกมากินข้าวเที่ยง เห็นเรามาขายรองเท้า

ก็ต๊กกะใจ แต่ฉันก็ไม่อายหรอกค่ะแถมขายของให้เพื่อนไปด้วยซะเลย

ขายให้เพื่อนไปได้สองคู่ มันให้มา 400 บอกไม่ต้องทอน

ถึงไม่บอกฉันก็ไม่ทอนให้แกหรอกย่ะ

พอเพื่อนมาเปิดซิงฉันก็เอาแบ็งค์ ตบ ตบ ตบ ที่แผงรองเท้าเลยค่ะ

เอ้า เฮง เฮง เฮง นะคะวันนี้ ขออย่าได้มีภัยจากผู้ใดมารบกวนเล้ย

ยกมือวันทา ซ้าาาาา ธุ๊.......






พอเพื่อนมาอุดหนุนไป ก็เหมือนจะเฮงจริงๆ มีทั้งคนไทยและต่างชาติ

แวะมาลองสวมลองใส่รองเท้าที่ร้านพอสมควร ฉันก็ผีแม่ค้าเข้าสิงเลยค่ะ

ลูกค้าอยากได้แบบนี้แต่ไม่มีไซส์ งั้นคุณพี่ลองแบบอื่นนะคะ สวยเหมือนกัน

แบบนี้ไม่ซ้ำใครเลยค่ะ รับรองคุณพี่ใส่ไปแล้วไม่โหลแน่นอนค่ะ

อ่ะ คุณพี่ก็ยุขึ้นซื้อไปอีกหนึ่งคู่........อิอิ

พอขายไปสักพัก ช่วงไหนไม่มีลูกค้าฉันก็นั่งมองรถ มองคน ไปเรื่อยเปื่อย

และแล้วก็มีลูกค้าฝรั่ง เป็นปู้จายค่ะ... แวะเข้ามาดูสินค้าของฉัน

คือรองเท้าที่ขายเป็นแบบของผู้หญิงนะคะ ลายมิกกี้เมาส์คิขุ น่ารัก เชียว

ตานี่ก็ทำทีมาเลียบเคียงถามว่ามีไซส์นี้ ไซส์นั้นไหม จะซื้อไปฝากญาติ

ฉันก็เอาออกมาให้ดู พอมันดูเสร็จ แทนที่มันจะซื้อ กลับชวนแม่ค้าไปกินข้าวซะงั้น

" เลิกขายตอนกี่โมงครับ "

ฉันก็ตอนแรกยังไม่เอะใจอะไร ก็ซื่อตอบมันไปว่าอีกไม่นานก็เลิกแล้ว

" งั้นเลิกแล้วไปกินข้าวด้วยกันไหมครับ "

พอมาเจออีคำนี้เลยเพิ่งเก็ท อ้อ อีนี่ จะมาจีบฉันเหรอยะ ฉันก็มองหน้ามันค่ะ

มันก็ยิ้มหวานส่งมาให้ แหม ๆ อยากจะเอารองเท้าฟาดหน้า (คิดในใจ)

แต่เราก็ยิ้มสยามแบบแม่ค้าตอบขอบคุณกลับไปว่า

" โน แต๊งกิ้ว "

แต่มันยังไม่ละความพยายามค่ะ มีการบอกว่ามันพักอยู่โรงแรมแถวนั้น

ถ้าฉันเลิกขายของแล้วให้ไปหาได้เลย มันจะเลี้ยงข้าวค่ะ

ป้าดดดด อีนี่ ฉันขายรองเท้านะยะ ไม่ใช่พนักงานเซเว่น

ที่จะมาถามหา " รับขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มไหมคะ "

เดี๊ยะ ๆ ๆ






ฉันก็ตอบไปอีกว่าไม่ไป ย้ำเป็นคำไทยฟังชัดๆ แบบ หยาบๆ ว่า > > " กูอิ่มแล้ว "

คือมันไม่หล่อเข้าตาด้วยหล่ะ เลยไม่ไป ฮ่าาาา เอิ๊กกกกก

มะช่ายยยย คือไม่ชอบผู้ชายประเภทนี้ค่ะ ที่เห็นเป็นแม่ค้าสาวๆ หน่อย

มันก็ชวนไปนู่น ไปนี่ เหมือนกับเห็นหญิงไทย ใจง่ายไปหมด ชิส์

ถึงฉันจะจน แต่ฉันก็หยิ่งนะเฟ้ย ไอ้ฝรั่งบ้า........

คือดิฉันก็แต่งตัวไปขายของก็ไม่ได้เซกซี่อะไรเลยนะคะ มิดชิดเรียบร้อยออก

เสื้อแขนยาวคอวีที่ไม่เว้ามาก แถมกระโปรงก็ยาวปิดตาตุ่มเชียว

คือเป็นเหมือนผ้าพันเหมือนตอนเราไปชายหาดน่ะค่ะ (นึกภาพออกใช่ไหมคะ)

นั่นแหล่ะค่ะ ไม่ได้เซกซี่เลยใช่ไหมคะ


พอไล่อีตาฝรั่งนั่นไปแล้ว ฉันก็ขายได้อีกคู่สองคู่ พอพนักงานเริ่มกลับเข้าไปทำงานกันใหม่

คนก็ไม่ค่อยมี ฉันก็เลยเก็บของกลับ สรุปวันนั้นก็ขายได้ดีมีกำไรบ้าง

กำไรก็แค่คู่ละประมาณร้อยกว่าบาท ถ้าเทียบกับระยะเวลาที่ขายภายในไม่กี่ชั่วโมง

ก็ถือว่าวันนั้นคุ้มค่ะ

หลังจากนั้นฉันก็ยังแวะเวียนไปขายอยู่หน้าปากซอยพัฒน์พงษ์อีกครั้งสองครั้งก็เลิก

เพราะขี้เกียจวิ่งหนีตำรวจ......นี่แหล่ะค่ะประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตฉัน

...........





สุดท้าย ท้ายสุดก็อยากจะบอกว่า ไม่มีอาชีพอะไรที่น่าอายเลยค่ะ

ถ้าเราประกอบอาชีพนั้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

มันอาจจะลำบากบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดจะทำให้เราต้องตายเพราะความลำบากนั้น

ความลำบากบางทีมันก็สอนให้เราได้มีความอดทนกับชีวิตมากขึ้น

แต่ถ้าเลือกได้ ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะมีชีวิตที่ลำบากเล้ยย จริง ๆ






ขอขอบคุณเพลงประกอบบล๊อกวันนี้จากอิทธิ พลางกูร

" เก็บตะวัน "
















Create Date : 14 ตุลาคม 2551
Last Update : 15 ตุลาคม 2551 2:24:54 น. 40 comments
Counter : 490 Pageviews.

 
นั่นละคะป้า

ไม่อายทำกิน

ภัทรก็ไม่อายนะ อยากขายน้ำ...ปั่น

อยากเปิดร้านเหล้า แหกวิชาชีพมันซะเลย


โดย: patra_vet วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:1:40:29 น.  

 
เจิมที่หนึ่ง ทันมะน้อออออ


โดย: KungGuenter วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:1:44:48 น.  

 
หูย เปิดมานานแระ มัวแต่ดูหมวยอินเตอร์ค่ะ เลยเจิมไม่ทันเลยค่ะป้า ป้าสบายดีนะคะ

ปล.ป้าเสน่ห์แรงจังเลยค่ะ


โดย: KungGuenter วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:1:47:22 น.  

 
เห็นด้วยอีกแล้วคะป้า ไม่มีอาชีพอะไรน่าอายเลย ถ้าอาชีพนั้นเป็นอาชีพที่สุจริตฝันดีนะป้าลิ


โดย: ich habe kein Geld วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:2:16:55 น.  

 


ป้าลิ...เล่าเรื่องหนัก ๆ ให้เป็นเรื่องขำ ๆ ได้ดีจังเลยค่ะ...
เลยต้องรีบตามไปอ่านบล๊อคก่อน...ยังดีที่ไม่โดนเทศกิจจับไปปรับ
ฝรั่งแย่ ๆ นี่ก็เยอะเหมือนกันนิ เดินอยู่พัทยานี่ โดนเข้ามาจีบมั่ง ถามราคามั่ง
ทุกวันเลยค่ะ ท่าทางมันมาพัทยาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ อ่านแล้วขอเป็น
กำลังใจให้คนสู้ชีวิตอย่างป้าลิค่า...ลิตช์เคยตั้งโต๊ะขายตุ้มหูกำไลหน้าราม
ไม่โดนเทศกิจแต่โดนเจ้าถิ่นรีดไถ ไม่รู้ทุกวันนี้ยังเป็นงั้นอยู่รึเปล่า เสียความรู้สึกมากเลยค่ะ...


โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:2:18:16 น.  

 
เป็นประสบการณ์จริงจริงค่ะ เตรียมมารอป้าิลิอัพต่อ อิอิ กดดัน
จะไปนอนแล้วนะ ฝันดีค่ะ


โดย: เมย์ (mayistheone ) วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:2:22:01 น.  

 
ก๊าก วงเวียนชีวิต โอ ช่างคิดได้ อ่านไปขำไปจนคนนั่งข้างๆเขาอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่เล่าหรอกกำลังอ่านมันส์ๆ

ชื่นชมป้าลิจากใจจริงค่ะ เป็นเราคงอายมากๆ ยิ่งไปเจอเพื่อนที่เคนทำงานด้วยกัน อยากทำได้อย่างป้าบ้าง ตอนเด็กๆแม่ใช้ไปซื้อผักที่ตลาดยังไม่กล้าเลย ไม่รู้กลัวบ้าอะไร เซ็งตัวเองนะเนี่ย


โดย: GlowPopJigglyJam วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:2:26:02 น.  

 
ป้าลิ....มาเป็นวงเวียนชีวิตป้าลิ ปู่เย็นแห่งลุ่มน้ำเพชรจากไปต่อไปก็ป้าลิผู้ทรนง ณ Denmark

ชีวิตป้าลิเนี้ยน่าเอาเป็นตัวอย่างมากๆ

ก้อยก็อยากเป็นแม่ค้านะป้าแต่....ปากสุน่ะตอนนี้กำลังอบรมตัวเองไม่ให้ปากไวเพื่ออนาคตอาจจะไปเป็นแม่ค้าจริงๆ


โดย: payya50 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:2:29:56 น.  

 
ตอนแรกนึกว่าจะโดนหนุ่มออฟฟิตจีบ....เดาผิดอย่างแรงเลยค่ะป้า...

นี่แสดงว่าป้าลิ ระดับอินเตอร์ชอบค่ะ อิ อิ



โดย: Suessapple วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:2:34:45 น.  

 
อ่านจนเพลินกำลังลุ้นว่าหนุ่มฝรั่งคนนั้นจะตื้อป้าลิต่อรึป่าว
เค้าไม่รู้ซะแล้วเนอะป้าลิเนอะ ว่าเราหญิงไทยเนี่ยมีศักดิ์ศรี อิอิ

มุกก็เคยเอาเสื้อผ้ามอสองไปตั้งขายคะ เพราะเอาเสื้อผ้าเก่าๆไปขาย หาสะตังค์กินขนม
สนุกดีคะ ยิ่งตอนมีคนมาดูเยอะๆยิ่งสนุก


โดย: mook (haiti ) วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:6:08:39 น.  

 
อุ๊ย! พิมพ์ตกคะป้า "มือสอง" ไม่ใช่"มอสอง" แหะ แหะ


โดย: mook (haiti ) วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:6:11:17 น.  

 
ไม่น่าอายเลยป้า น่าภูมิใจดีออก


แม่ค้าสงสัยห้อยพระดี แน่ๆ เลย หน่ม มาชวนไปกินข้าว อิ อิ


ฝันหวานนะคะ






โดย: แม่ลูกอ่อนหนีลูกชายมาอ่าน ฮ่า ๆๆ IP: 80.221.137.40 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:6:49:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ ป้ามะลิ

ขอโทษด้วยค่ะ ที่ไม่ได้แวะมาทักทาย
ชีวิตเพิ่งจะลงตัวเองค่ะ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
แต่ต่อไปคงได้แวะเวียนมาอ่านบล๊อกป้าลิบ่อย ๆ แล้วหล่ะค่ะ




โดย: คุณนายเหรียญบาท วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:7:31:14 น.  

 
ชีวิตป้าก็ใช่ย่อยนะเนี่ย ประสบการณ์สุดยอด เหอๆๆๆ


โดย: ยายหิ่น IP: 70.179.164.156 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:7:35:49 น.  

 
I miss youvery much and great song as well :))


โดย: grandma Hin IP: 70.179.164.156 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:7:36:48 น.  

 
มาจุ๊บๆๆ

และก็บอกว่า เขียนเยอะๆหน่อย

กำลังเพลิน

จบสะเเหล่วววว



รักจัง


จุ๊บ จุ๊บ



โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:7:38:02 น.  

 
Nice. U did well.


โดย: Annie/Fl. IP: 71.180.160.217 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:8:23:01 น.  

 
ไม่ต้องอาย ขนาดผมยังไม่อายเลย ( แต่ยังไม่ได้ขายอะไรครับเลยไม่อาย อ๊ะ ล้อเล่ง ล้อเล่ง ) สู้ สู้ ครับ ป้าลิสู้ตาย ใครมาว่าเรา ด่ามันให้น้ำหมากกระจายเลยครับ ไปแว้ววววว


โดย: พ่อลูกสอง IP: 125.24.189.121 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:10:43:01 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ไม่เห็นจะอายเลยป้าลิ เจ๋งดีออก
นี่สิลูกผู้หญิงตัวจริงขี่ลิงแดง
อิอิอิ เขียนผิดนี่สิลูกผู้หญิงตัวจริง


โดย: อุ้มสี วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:12:22:16 น.  

 
ใครคะนั่น พ่อลูกสอง บอกมาเดี๋ยวนี้นะ






โดย: ป้ามะลิกับลุงมะระ วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:12:37:36 น.  

 
ป้าลิ

เค้าหายไม่สบายแล้ว

แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเรื่องป้าลิเลยนะจ๊ะ

เดี๋ยวว่างๆเค้ามาอ่านจริงๆ

อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร

คิดถึงป้าลิจัง


โดย: unsa วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:12:55:19 น.  

 
เย็นนี้มาอ่านค่ะ คิดถึงๆๆๆๆ


โดย: ลาบป๋าดุ๊ก วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:13:17:11 น.  

 


ดูแล้วเหมือนสนุกเลยนะคะ ป้ามะลิ งุงิ

^ ^

ปอมาเสริฟกาแฟเย็นค่ะ
ป้ามะลิสบายดีนะคะ ^ ^


โดย: Butterflyblog วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:14:02:56 น.  

 
สรุปฝรั่งคนนั้นคือคนเยอรมัน ผมสีทองตาสีฟ้าใช่มั๊ยคะป้าลิ มาเล่าต่อเลยว่าหลังจากนั้น ป้าลิไปทำไรต่อ อ่านมันส์ๆดันจบซะแร๊ววววววววว


โดย: Flowerfun วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:14:56:25 น.  

 
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ป้าลิ


โดย: gadeja วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:16:08:21 น.  

 
ง่ะ น่าืตื่นเต้นเนอะ ป้าลิ กิกิ
ตอนนี้เล่นที่ออฟฟิศ วันนี้ค่อนข้างว่าง อิอิ


โดย: อาท@แก๊งชะนี (Kradanseetao ) วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:16:16:21 น.  

 
จริงนะคะ เรื่องไม่อายทำกิน แต่หนูนะ สาวๆ ก็หน้าบางอยู่บ้าง ยิ่งอยู่เมืองไทยนะคะ ไม่ได้ทำงานอะไรเลย..มาเมกาครั้งแรก นี่เลยค่ะ ผู้ชายพ่อครัว หั่นสาระพัดหั่น บาดเลยค่ะห้านิ้ว วิ่งไปร้องให้ในห้องน้ำ เสร็จแล้วก็มาหั่นต่อ แบบว่า ให้กำลังใจตัวเอง สู้ๆ น่ะค่ะ

ยิ่งตอนนี้มีครอบครัวมีลูก ไม่อยากได้งานที่ทำเต็มวัน แบบว่า .. อยากเลี้ยงลูกเอง.. ถ้าลูกๆ ไป รร เมื่อไร หนูคิดไว้ ล้างจานก็เอา ทำไรก็ได้ ขอให้ได้ช่วยหาเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระสามี.. เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ (น่าน) แหะแหะ


โดย: ฟ้าสวยมาก วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:16:33:50 น.  

 
คือดิฉันก็แต่งตัวไปขายของก็ไม่ได้เซกซี่อะไรเลยนะคะ มิดชิดเรียบร้อยออก

เสื้อแขนยาวคอวีที่ไม่เว้ามาก แถมกระโปรงก็ยาวปิดตาตุ่มเชียว

คือเป็นเหมือนผ้าพันเหมือนตอนเราไปชายหาดน่ะค่ะ
^
^
^
^
ป๊ะจ๋า ก้อปิดๆเนี่ยมานเลย น่าควัก
เอ๊ย...น่าค้นหา...


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:17:32:28 น.  

 
สวัสดีครับ
แวะมาจากบล็อกคุณน้องหมอภัทรครับ
ขอบคุณมากครับ ที่ไปอวยพรวันเกิดให้
ผมเพิ่งมาเยี่ยมเป็นครั้งแรก และคงจะมาเยี่ยมอีกเป็นระยะๆ

"อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน
อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา"


โดย: ครูเอก วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:17:32:54 น.  

 
แวะมาแอบอ่านอยู่ในมุมเล็กๆซอกหลืบของ log ค่ะป้าลิ อิอิอิ

วันนี้ต้าเป็นผู้เป็นคนขึ้นมานิดนึงแล้วค่ะ


โดย: asita วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:19:26:00 น.  

 
มาอ่านภาคต่อขอป้ามะลิ

ขอบอกว่าลำบากเหมือนกัน กว่าจะมีวันนี้

ชีวิตฝันฝ่าอุปสรรคกันมาทุกคน ใครมากใครน้อยก็ว่ากันไป

เมื่อก่อนทำงานได้เงินเดือนเองเนี่ย ภูมิใจสุด ๆ เลย คิดแล้วคิดถึงความลำบากสมัยก่อนเลยป้า




โดย: hoshi_nao วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:20:21:27 น.  

 
5555555555

ยังกล้าถามอีกว่ารับหนมจีบ ซาลาเปาไม๊ !!


โดย: zalitalin วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:23:55:32 น.  

 
เป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะป้าลิ ^^

จากบล็อกนู้น เป็นเรื่องเดียวกันรึเปล่าไม่แน่ใจนะคะ
แต่ว่านางเอกก็เป็นคนจีนจริงๆ นั่นแหละค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:23:58:54 น.  

 
คุณป้าเป็นแม่ค้าเก่าเหรอเนี่ย ถูกต้องค่ะไม่มีอาชีพไหนน่าอายติ๊กเองก็แม่ค้าเก่าค่ะ ตอนเด็กๆต้องไปช่วยพ่อกะแม่ขายของ เสาร์อาทิตย์เพื่อนๆเค้าไปเที่ยวกัน แต่เราต้องไปขายของกับแม่ แต่ก็ดีนะช่วยให้เราเป็นคนรู้จักทำงานตั้งแต่เด็ก


โดย: ฟรัง-แซ วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:2:00:09 น.  

 
มาติดตามอ่านบล็อคของป้าลิอีกแล้ว พออ่านแล้วนึกถึงคราวที่บริษัทส่งไปทำงานที่นิวยอร์ก เมืองไทยยังดีนะป้าที่พูดที่บอกกันดีๆ วันนั้นก็นั่งรถไฟไปทำงานตามปกติ ที่ทำงานอยู่แมนฮัตตันแต่ว่าอพาร์ทเมนท์ที่บริษัทเช่าไว้ให้อยู่ที่ควีนส์ พอลงจากรถไฟก็จะเดินไปตามทางก่อนจะโผล่ออกไป พอดีตามทางเดินก็ตะมีคนขายของ วันนั้นพอลงจากรถก็ป๊ะกับเหตุการณ์พอดี ผู้หญิงคนนึงคงประมาณแถบอาหรับกับลูกเล็กๆกำลังขายของอยู่ ไอ้มืดมาจากไหนไม่รู้มาเตะข้าวของที่วางขายอยู่กระจุยกระจาย เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแล้วสงสารมากประมาณว่ากลัวมาก จับใจความได้ว่า กรูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาขายตรงนี้ แล้วมันก็เดินหนีหลังจากทำลายข้าวของแล้ว เรานี่ตัวสั่นเลย เป็นอะไรที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอที่เมืองนอกเมืองนาเพราะก่อนไปวาดฝันไว้ซะสวยงาม


โดย: scorpionfish วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:4:44:31 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณป้าลิ
วันนี้คอมที่บ้านหายป่วยค่ะ เลยได้มีเวลาแวะมาเยี่ยม อิอิ
แอบส่งกำลังใจเงียบๆ นะค่ะ


โดย: ดอกหญ้าในดงผู้ดี วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:6:30:49 น.  

 
อ่านเพลินๆ..จบแล้ว
คิดถึงป้าลินะ..


โดย: ป้ามิชา ขี้เกียจล็อคอิน IP: 118.172.30.77 วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:7:12:11 น.  

 
ขายของเป็นอาชีพที่สนุกออกใช่ไหมคะป้าลิ อ่านจากที่ป้าลิเล่า รู้สึกว่าป้าลิเพลิดเพลิน ๆ src=https://www.bloggang.com/emo/emo23.gif>


โดย: cometsandflowers วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:7:43:59 น.  

 
อ่านเพลินเลยค่ะป้าลิ เขียนได้ดีมาก ๆ
คนอ่านอินไปด้วยคะ อิอิ (อยากไปเป็นแม่ค้าขายรองเท้าค่ะ)

ชื่นชมในความเก่งและความน่ารักของปาลิค่ะ
หญิงสาวน้อยคนนักที่จะยอมขายของ
เพราะคงจะอายหนุ่ม ๆ แต่ถ้ายีนส์เป็นป้าลิ
ยีนส์ก็ทำค่ะ..อาชีพสุจริตเสียอย่าง
ได้ตังค์สด ๆ ไม่ต้องบวกลบภาษีด้วย อิอิ

ยีนส์เป็นกำลังใจให้ป้าลิเสมอนะคะ
ไว้ว่าง ๆ จะแวะมาอ่านอีกนะคะ
และก็ขอบคุณมาก ๆ สำหรับคำอวยพรค่ะ


โดย: roslita วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:11:26:15 น.  

 
กลับมาอ่าน ป้าลิเขียนตอนท้ายได้ดีจังค่ะ


โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:3:38:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.