กันยายน 2554

 
 
 
 
10
11
12
17
18
21
30
 
 
All Blog
วันที่ 47 ตอน วิธีการล้างพิษ
วิธีการล้างพิษ


ตอนนี้พี่ปลากำลังศึกษาเรื่องการล้างพิษประเภทต่าง ๆ อยู่ แบบว่าศึกษาอย่างคลั่งไคล้เอามาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ กะว่าปิดเทอมนี้จะล้างกันขนานใหญ่ ยกเครื่องไปเลย ตอนนี้อ่านตำราอยู่หลายเล่มและจะลองทดลองทำตามดูค่ะ ได้ผลเป็นไงจะเล่าให้ฟังนะคะ

มาดูกันก่อนว่า วิธีการล้างพิษเค้าแบ่งระดับได้กี่ระดับ สรุปคือ แบ่งระดับการล้างพิษได้ 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ล้างพิษแบบง่าย ระดับที่ 2 ล้างพิษแบบกลาง ระดับที่ 3 ล้างพิษแบบยาก

มาดูการล้างพิษระดับที่ 1 กันนะคะ การล้างพิษแบบนี้ ถือว่าง่ายที่สุดและสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันของเราในการกิน การทำกิจกรรมต่าง ๆ นี่แหละค่ะ ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย ไม่ทำให้เจ็บตัว สามารถทำได้ง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องเตรียมตัวไรมาก เพียงแต่มีการวางแผนการกินและการทำกิจกรรมที่ดีก็สามารถทำได้แล้ว หลักการเป็นอย่างนี้ค่ะ
อย่างแรกคือ ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่เน้นเป็นพวกอาหารที่ให้แร่ธาตุและวิตามินมาก ๆ หน่อย เพราะสารอาหารกลุ่มนี้จะทำให้กระบวนการล้างพิษโดยธรรมชาติของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างปกติ เนื่องจากการทำงานในร่างกายของเรานี้ ล้วนต้องใช้ระบบฮอร์โมนและเอนไซม์ต่าง ๆ ถ้าเราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จะทำให้ระบบฮอร์โมน หรือเอนไซม์ในร่างกายไม่ทำงาน ซึ่งก็จะเป็นสาเหตุให้เราเจ็บป่วยได้

อย่างที่สอง วางแผนการกินผักผลไม้เท่านั้นในวันหยุด หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยทดลองล้างพิษแบบนี้อาจจะรู้สึกยาก และคิดไปว่า เออหนอจาทำได้ไงเนี่ย ไม่กินข้าวกินแต่ผลไม้ทั้งวัน พี่ปลาเองแรก ๆ ก็เป็นค่ะ ตอนเริ่มล้างพิษครั้งแรก หิวแทบตาย เตรียมผลไม้เป็นตระกร้าเลย เวลาไปไหน แบบว่า หิวมากมาย รู้สึกไม่อยู่ท้อง (ก็เรานักกินโปรตีนมาก่อนนี่คะ กินแต่ของหนัก) พอมาเจอผลไม้ย่อยง่าย เบา ๆ หิวบ่อยมาก ๆ แต่พอทำหลาย ๆ ครั้งก็รู้สึกและสบายมากขึ้นในการทาน ไม่ยากค่ะลองดู
ลองกินแต่ผักผลไม้เท่านั้นในวันหยุดที่จะถึงนี้ (ที่เลือกวันหยุดก็เพราะว่าเราจะได้ไม่เครียด พักผ่อนสบาย ๆ อยู่บ้าน ) มีเวลาว่าง ๆ อาหารก็จัดให้เป็นพวกสลัดผัก ผัดผัก ส้มตำผลไม้ ทานแบบนี้โดยเริ่มตั้งแต่มื้อเช้าวันเสาร์ไปจนถึงมื้อเย็นของวันอาทิตย์ โดยที่ไม่แตะต้องอาหารประเภทอื่นเลย ไม่กินข้าว ไม่ดื่มนม ไม่กินเนื้อสัตว์ กินแต่อาหารที่เป็นจานผักและผลไม้เท่านั้น พอทำแล้วจะรู้สึกชอบเหมือนพี่ปลาค่ะ

ตอนนี้พี่ปลาจัดวันล้างพิษ 1-2 วันต่อสัปดาห์เสมอค่ะ รู้สึกว่า สบายตัว มีความสุขยังคงทำงานได้ปกติค่ะ (เดี๋ยวนี้เก่งขึ้น วันล้างพิษของพี่ปลาจะเป็นวันไหนในสัปดาห์ก็ได้ ถ้ารู้สึกไม่สบายตัว หรือผ่านงานเลี้ยงมาหนักมาก ก็อยากพักระบบย่อยค่ะ)

แต่สำหรับมือใหม่หัดล้างพิษ ขอแนะนำว่า ถ้ามีอาการปวดหัว หรือไม่สบาย ให้ทานข้าวกล้องได้ และถ้าสำหรับคอกาแฟ ที่เลิกไม่ได้จริง ๆ ให้เปลี่ยนเป็นดื่มชาเขียวหรือ ชาเปปเปอร์มิ้นต์แทนกาแฟบ้างก็ได้ ซึ่งน่าจะดีกว่างดกาเฟอีนโดยเด็ดขาด แล้วมีอาการปวดหัว

อย่างที่ 3 การอบซาวน่า ลองหัดจัดโปรแกรมให้มีการอบซาวน่า หรืออบไอน้ำก็ได้ค่ะ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อ ซึ่งก็เป็นการขับสารพิษและโลหะหนักออกจากร่างกายได้ดีมากวิธีหนึ่ง ยิ่งถ้าเหงื่อเราออกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งขับสารพิษออกมาได้มากเท่านั้น

อย่างที่ 4 การออกกำลังกาย รู้ไว้เลยนะคะว่า ถ้าคนได้รักการออกกำลังกายแล้วล่ะก้อ นั่นล่ะคุณได้ล้างพิษแบบธรรมชาติไป 1 ข้อแบบสบาย ๆ แล้ว ถ้าใครยังไม่เคยจัดโปรแกรมการออกกำลังกายให้ตัวเองเลย ลองดูนะคะ ง่ายสุดก็คือการเดิน ลองตั้งเป้าออกกำลังกายด้วยการเดินสักสัปดาห์ละ 100 นาที เฉลี่ยคือ วันละแค่ 15 นาทีเองค่ะ แค่เราเดิน 15 นาทีก็ถือว่าได้ช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกมาทางเหงื่อแล้วนะคะ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคนออกกำลังกายเป็นประจำจึงมีหน้าตาที่สดใสดูอ่อนเยาว์เป็นพิเศษ

คิดดูยิ่งถ้าได้ออกวันละอย่างน้อย 60 นาที ก็เท่ากับว่าเราได้ช่วยให้ร่างกายเรา ขับของเสียออกมากขึ้น เมื่อไม่มีของเสียตกค้างในตัวเรา ร่างกายสะอาด แล้วสุขภาพที่ดี ๆ จะหนีไปไหนพ้นกันล่ะคะ

อย่างที่ 5 โยคะ (แหม ๆ เป็นศาสตร์ในดวงใจของพี่ปลาเลยก็ว่าได้ ว่าง ๆ มีเรื่องขำ ๆ เกี่ยวกับการฝึกโยคะมาเล่านะคะ ) เพราะว่าการฝึกโยคะเป็นการกระตุ้นระบบการทำงานทุกส่วนของร่างกายของเราเลยทีเดียว ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ระบบการทำงานของฮอร์โมน น้ำเหลือง จนถึงการทำงานของต่อมเหงื่อที่ช่วยขับพิษออกจากร่างกายทางผิวหนัง ที่สำคัญอีกอย่างคือ การเข้าคอร์สฝึกโยคะจะทำให้เรได้เพื่อนใหม่ที่สนใจสุขภาพเหมือนตัวเรา สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ เราอาจจะได้ข้อมูลการกำจัดพิษแบบใหม่ ๆ จากเพื่อนใหม่เหล่านี้อีกนะคะ

อย่างที่ 6 ขัดตัว (หรือสาว ๆ บางคนชอบไปทำสปาตัว นั่นเอง) ใครที่ชอบสปาตัวให้รู้ไว้นะคะว่า ได้ทำการล้างพิษไปแล้วอย่างไม่รู้ตัวค่ะ เพราะการขัดตัวกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทิ้งนั้นช่วยทำให้รูขุมขนเปิดกว้างมากขึ้น จึงทำให้เหงื่อออกสะดวก ร่างกายจึงสามารถขับเหงื่อ ซึ่งเป็นของเสียออกมาได้มากขึ้นเช่นกัน และยังกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลืองอีกด้วย
หรือบ้านใครมีอ่างอาบน้ำ ลองผสมดีเกลือสัก 2-3 ถ้วยตวง จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและขับสารพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย เพราะดีเกลือทำมาจากแร่แมกนีเซียมซัลเฟตนั่นเอง

อย่างสุดท้าย คือ การหลีกเลี่ยงการได้รับสารพิษ และป้องกันไม่ให้สารพิษเข้าสู่ร่างกายถือเป็นการกำจัดพิษที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งค่ะ เรียกว่าเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ ไม่ว่าจะพิษจากมลภาวะจากการเดินทางไปทำงาน สารเคมีที่เกี่ยวข้องกับเราในการทำงาน เช่น น้ำยาลบคำผิด การใช้เครื่องถ่ายเอกสาร หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอางที่เราใช้เป็นประจำ (ควรเลือกที่ทำจากสมุนไพรธรรมชาติจะดีที่สุด)

จบกระบวนการล้างพิษแบบง่าย ๆ ซึ่งจะเห็นว่า สบาย ๆ ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย และแน่นอนว่าผลที่ได้ก็อาจจะช้าหน่อย แต่ร่างกายจะค่อย ๆ ขับสารพิษออกมาทีละน้อย ทำแบบนี้ไปเรื่อย ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีแน่นอนค่ะ



Create Date : 16 กันยายน 2554
Last Update : 16 กันยายน 2554 10:49:53 น.
Counter : 639 Pageviews.

5 comments
  
หวัดดีค่ะพี่ปลา มาเก็บความรู้ค่ะ
ขอบคุณพี่ปลาที่แวะมาส่งกำลังใจเช่นกัน
คิดถึงอยู่ค่ะ
โดย: PrettyNatty วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:13:06:12 น.
  
พี่ปลาคะ ช่วงนี้หนูยุ่งมากๆค่ะ ยุ่งอยู่ในครัวน่ะค่ะ หัดเบเกอรี่อยู่ค่ะ
หัวฟูทั้งวันเลยค่ะพี่ปลา...แล้วต้องเดินทางไปต่างเมืองบ่อยๆด้วยค่ะ
ไงพี่ปลาดูแลตัวเองนะคะ ได้ข่าวว่าน้ำท่วม..

รักพี่ปลาเสมอค่ะ.
โดย: araya.m วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:0:13:43 น.
  
ดีจริง ๆ เลยค่ะ ที่มาแบ่งปันกัน
โดย: แม่มดน้อย IP: 115.87.140.96 วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:15:11:22 น.
  
โดย: บู่ (เพชรพญานาค ) วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:11:54:02 น.
  
โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:3:03:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ก่อนถึง_วัยชรา
Location :
จันทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]



มาสร้างร่างกายใหม่กันไหมคะ คงไม่สายเกินไปที่จะเริ่มน๊า ขอลองฮึดอีกสักรอบค่ะ เริ่มช้า ก็ยังดีกว่าไม่เริ่ม ใช่ไหมจ้ะ เป็นกำลังใจและช่วยเชียร์กันด้วยนะจ้ะ สู้สู้
Friends Blog
[Add ก่อนถึง_วัยชรา's blog to your weblog]