วันที่ 2 ตอน รักษ์ตับ บทความ รู้จักตับ

DAY 2 หมวดอาหาร

เช้า 05.00 น. ตื่นนอนดื่มน้ำผลไม้หมัก 1 แก้วเล็ก (ช่วยล้างเสมหะได้ดีค่ะ โล่งคอเลย)
06.30 น. ดื่มน้ำผักผลไม้แยกกาก (แครอท กระหล่ำปลีม่วง เซอรารี่ มะระขี้นก แอปเปิลเขียว) 1 แก้ว
08.00 น. น้ำเต้าหู้
ธัญพืชอบกรอบ 3 ประมาณช้อนโต๊ะ
จมูกข้าวสาลีอบกรอบ งาดำ เม็ดทานตะวัน เม็ดฟักทอง ลูกเกด ผสมกัน ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ (วันนี้ปรับลดปริมาณลงค่ะ)
น้ำเปล่า จะดื่มให้ได้มาก ๆ (เจ็บคอ เมื่อวานตากฝน แหมกระหม่อมบางเสียจริง )

กลางวัน 12.00 น. ข้าวกล้อง 2 ทัพพี
ผักสดน้ำพริกกระปิ ใช้น้ำพริก 2-3 ช้อนโต๊ะ ผักมีมะเขือเปาะ มะเขือพวง แตงกวา ถั่วฝักยาว
เจี๋ยนเต้าหู้อ่อน
มะม่วงมัน 5 ชิ้น
ลองกอง 10 ลูก

เย็น 17.30 น. -
18.30 น. ข้าวกล้อง 2 ทัพพี
ซุปผักรวม
แกงเผ็ดผักรวมกับเห็ด
น้ำพริกกะปิผักสด
มะม่วงมัน 4 ชิ้น
แอ๊ปเปิล 2 ชิ้น

กินตามเหตุผล
กินน้ำผลไม้หมักผสมน้ำผึ้งกับน้ำเปล่าช่วยขับเสมหะค่ะ (เป็นหวัดลงคอ)
น้ำแยกกากสด ๆ วันนี้เปลี่ยนจากบีตรูตเป็นกระหล่ำม่วง กลิ่นเหม็นเขียวเล็กน้อยแต่พอทนได้ค่ะ
ส่วนน้ำเต้าหู้กับพวกธัญพืชยังคงเดิมค่ะ (ยังอร่อยอยู่)
เมล็ดพืชกับจมูกข้าว งาดำ ยังต้องทานทุกวันค่ะ ก็อร่อยดีแต่วันนี้ลดปริมาณลง
ข้าวกล้อง วันนี้จัดเป็นตอนกลางวันค่ะ เอาอิ่ม
เต้าหู้กับขิง ได้โปรตีนกับตัวช่วยขับลมก็ดีนะ ปกติไม่ค่อยได้ทานขิงเลย
ผักสดกินกับน้ำพริกกะปิ ได้รับผักสด ๆ กากใยสูง
เห็ดและผักในแกงเผ็ด โปรตีน
ซุปผักมีฟัก แครอท ไชเท้า ผักต้มทำให้อิ่มและกากใย
มะม่วง เป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยได้ทาน วันนี้เดินไปเจอเลยจัดเป็นผลไม้หลังอาหารค่ะ
น้ำเปล่า พยายามดื่มให้มาก เพราะเจ็บคอมากเลย


กินตามกิเลส - ลองกอง วันนี้เจ็บคอไม่ควรกินและอีกอย่างคือ กินผลไม้เยอะไปแล้วน้ำตาลเยอะ
น้ำพริกกะปิ เค็มไปค่ะ

กินเสริม

ขมิ้นชัน 2 แคป
สารสกัดกระเทียมและส้มแขกกับพริกไทย 1 เม็ด
แป๊ะก๋วย 2 แคป
Fish Oil แคป
ปัญจขันธ์ 2 เม็ด
น้ำผลไม้หมัก (แก้เจ็บคอ กินล้างเสมหะ วันนี้ถูกละอองฝน รู้สึกไม่สบาย เจ็บคอมาก)

หมวดออกกำลังกาย

เช้า 05.30 น. ไม่อยากตื่นเลยคะ เลยได้เล่นฮูลาฮูปไป 20 นาทีเอง
เย็น 16.30 น. -

หมวดอารมณ์

เช้า เพลีย ๆ ไม่อยากลุกมาทำงานเลย แต่ก็ฝืน วันนี้เกือบหงุดหงิดกับลูกชาย แต่ก็ตามสติได้ทัน ก็เลยรอดไปค่ะ ปล่อยวางได้เยอะ

กลางวัน มีอาการอยากนอนพักผ่อนค่ะ คิดว่าเย็นนี้อาจไม่ไปออกกำลังกาย ไม่อยากฝืน คือเป็นคนที่ออกกำลังกายก็อยากจะออกแบบมีความสุข ซึ่งทุกครั้งเป็นแบบนั้น

เย็น
เพลียมาก ๆ รู้สึกอยากกลับบ้าน และนอนพัก เลยไม่ได้ออกกำลังกายค่ะ ที่สำคัญเจ็บคอมากมาย ขนาดดื่มน้ำมากแล้ว นี่แหละน๊า สังขาร การเจ็บไข้ได้ป่วย ขนาดออกกำลังกายขนาดนี้ยังไม่วายนะคะ

การกำจัดของเสีย รู้สึกสบายตัวจากการทำดีท็อกซ์ หน้าท้องแบนเลยทีเดียว

น้ำหนัก 57.5 กก. ลดลงเพราะดีท็อกซ์น่ะ

ผลลัพธ์แห่งการกระทำ

เมื่อวานอาหารการกิน ยังไม่เข้าที่ค่ะ เพราะว่ามีการทานอาหารนอกที่ทำงานไปกันเยอะ แต่ก็รู้สึกว่า ตัวเองควบคุมการกินได้ไม่เลวค่ะ ไม่เช่นนั้นทุกครั้งที่ออกไปแบบนี้ จัดเต็มทุกที กินจนจุก เมื่อวานทานได้พอดี ๆ ไม่ได้มากเกินไป เลือกอาหารได้ดีพอสมควร แม้จะยังหลุดจากโปรแกรมไปบ้าง น้ำหนักลดจากการทำ
ดีท็อกซ์ตามความคาดหมาย พี่ปลาว่าเมื่อวานตอนเย็น กินไม่ค่อยถูกใจร่างกายเท่าไหร่นะคะ วันนี้ลองใหม่


--------------------------มีบทความมาฝากค่ะ------------------------------

รู้จักตับ

ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย และมีความสำคัญมาก ตับของผู้ใหญ่จะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 1.5 กิโลกรัม ตับเป็นอวัยวะที่มีความแข็งแรงมาก และจะต้องทำงานไปตลอดอายุขัยของเจ้าของ ถ้ากล่าวถึงหน้าที่ของตับแล้วนับว่ามากมายทีเดียว ตับเป็นทั้งอวัยวะแห่งการสร้าง ซ่อมแซม ควบคุม เก็บกัก และขับของเสียออกจากร่างกาย

หน้าที่ของตับในการช่วยควบคุมก็เช่น ควบคุมการใช้พลังงานของร่างกาย ควบคุมการขับสารพิษให้ออกจากร่างกาย ควบคุมการนำสารอาหารที่ย่อยแล้วจากลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด ไปหล่อเลี้ยงร่างกายอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นกลไกที่มีความสำคัญที่สุดของการมีสุขภาพดี และยังช่วยเก็บกักพลังไว้ใช้ในยามจำเป็น

นอกจากนั้นตับยังเป็นอวัยวะแห่งการสร้าง โดยตับจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สร้างโปรตีนหลายชนิดเพื่อให้ร่างกายนำไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างน้ำย่อยที่เรียกว่าน้ำดีไว้ใช้ย่อยอาหารในลำไส้แม้กระทั่งสร้างหรือสังเคราะห์ไขมัน เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตฮอร์โมนไว้หล่อเลี้ยงระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ระบบประสาทอัตโนมัติ ระบบย่อยอาหาร ระบบสืบพันธ์ เป็นต้น

นอกจากนั้นตับยังช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูการทำงานของร่างกายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เมื่อเซลล์ของตับอ่อนถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพเนื่องจากอาการของโรคเบาหวาน ตับก็จะทำหน้าที่ช่วยพยุงให้ตับอ่อนสามารถทำงานได้ต่อไปได้ และยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับอ่อนให้กลับเป็นปกติได้ด้วย ดังนั้นถ้าตับมีสุขภาพดี การควบคุมน้ำตาลในเลือดก็จะดีตามไปด้วย เพราะตับอ่อนมีสุขภาพดีนั่นเอง ดังเช่น โรคเบาหวานซึ่งจะเป็นโรคที่สามารถควบคุมได้ถ้ามีตับที่แข็งแรง

ตับยังมีหน้าที่ในการขับของเสียออกจากร่างกาย สารอาหารที่ย่อยแล้ว ถ้ามีปริมาณมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ตับจะถือว่าเป็นสารพิษที่ต้องขับทิ้งออกจากร่างกาย ตับก็จะเฉื่อยชาและเริ่มเสื่อมสภาพ สารพิษหรืออาหารเหล่านั้นก็จะแทรกตัวเข้ากระแสเลือดมาสู่ร่างกาย

และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพ และนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงในที่สุด เช่น เริ่มจากมีน้ำหนักตัวเกิน ไขมันในเลือดเริ่มสูง มีความดันโลหิตสูงตามมา เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ สมองขาดเลือด ต้อกระจก และโรคไตวาย ตามลำดับ และอาจมีกลุ่มอาการของโรคอื่นแทรกขึ้นมาอีกก็ได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคตับ หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองหรือโรคภูมิแพ้ เป็นต้น

บทความนี้มาจากหนังสือ : กินเพื่อ หัวใจ ปอด ตับ ไต และไส้พุง , พ.ญ.อารีย์ โอบอ้อมรัก

Create Date : 02 สิงหาคม 2554 Last Update : 2 สิงหาคม 2554 21:21:47 น. Counter : 641 Pageviews.		11 comments
Share Tweet