วันที่ 3 ตอน รักษ์ตับ บทความ กินเพื่อตับ

DAY 3

หมวดอาหาร

เช้า 05.30 น. ตื่นนอนดื่มน้ำผลไม้หมัก 1 แก้วเล็ก (ไม่สบายค่ะเลยตื่นสาย ไม่ได้ออกกำลังกายด้วย)
06.30 น. ดื่มน้ำผักผลไม้แยกกาก (แครอท กระหล่ำปลีม่วง เซอรารี่ มะระขี้นก แอปเปิลเขียว) 1 แก้ว
08.00 น. ข้าวกล้องประมาณ 3 ช้อน (กินน้อยเพราะเจ็บคอ แต่จะทานยาก็เลยทานเสียหน่อย)
แกงจืดผักรวม ทานแต่ผัก มีแครอท ฟัก หัวไชเท้า หอมใหญ่ (ทานอะไรจืด ๆ รู้สึกดีหน่อย)
จมูกข้าวสาลีอบกรอบ งาดำ เม็ดทานตะวัน เม็ดฟักทอง ลูกเกด ผสมกัน ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ (ปริมาณเท่าเมื่อวาน อร่อยค่ะตั้งใจว่าจะทานวันละ 1 ครั้งเพียงพอแล้ว)
น้ำเปล่า จะดื่มให้ได้มาก ๆ (คงต้องยืนพื้นน้ำเปล่าค่ะ เพราะยังเจ็บคอมากจริง ๆ)

กลางวัน 12.00 น. ข้าวกล่องเป็นข้าวคลุกน้ำพริก 1 กล่อง (งานกีฬาสีเค้าจัดให้มา)
แกงจืดผักรวม 1 ถ้วย
สัปปะรด 8 ชิ้น

เย็น 16.30 น. ฝรั่ง 7 ชิ้น
18.30 น.



กินตามเหตุผล
- กินน้ำผลไม้หมักผสมน้ำผึ้งกับน้ำเปล่าช่วยขับเสมหะค่ะ (เป็นหวัดลงคอ)
-น้ำแยกกากสด ๆ วันนี้ไม่มีผักผลไม้สีม่วงค่ะ เน้นแครอทก็รับได้กับรสชาดแล้ว
-เมล็ดพืชกับจมูกข้าว งาดำ พยายามทานให้เป็นประจำค่ะ คิดว่าปริมาณแค่นี้พอแล้ว อาจมากไปด้วยซ้ำ ตามสูตร เค้าให้แค่ 1 ช้อนโต๊ะเองค่ะ พี่ปลาปรับเพิ่มเอง เอาให้เหมาะกับความต้องการเรานะ
-ข้าวกล้อง วันนี้ทานทั้งเช้าและกลางวันค่ะ (สูตรนี้เค้าให้ทานข้าวกล้องทุกมื้อทุกวัน)
-แกงจืดผักมีฟัก แครอท ไชเท้า หอมใหญ่ ต้มรวมกันได้น้ำซุปที่หวานอร่อยค่ะอ๋อ คนที่บ้านพี่ปลาโยนซุปก้อนลงไปด้วย 2 ก้อนค่ะ ถ้าอยากเข้มขึ้นลองโรยพริกไทยเพิ่มนะคะ เผาผลาญดีค่ะ
-สัปปะรด กากใยล้างลำไส้
- ฝรั่ง เพิ่มวิตามินซีและความสดชื่น

-น้ำเปล่า พยายามดื่มให้มาก เพราะเจ็บคอมากเลย

กินตามกิเลส - ข้าวคลุกน้ำพริกที่เค้าจัดมาค่ะ เป็นข้าวขาว และมีไข่ทอดหั่นบาง ๆ เป็นฝอย มีหมูหวาน และกุนเชียง ทานไข่กับหมูหมดเลย แต่กุนเชียงไม่ได้ทาน (รอดไป) แบบว่าตามใจอยากทานน่ะแต่ไม่อร่อยเลย แต่หมดนะ อิอิ

กินเสริม
(เป็นส่วนเสริมทั้งมักทานกันประจำทั้งบ้านค่ะ วนเวียนไปเรื่อย ๆ เช่น ขมิ้นที่ทานเสริมเพราะชีวิตปกติไม่ค่อยได้ทานอะไรที่ใส่ขมิ้นค่ะ ตัวนี้ช่วยเรื่องล้างพิษตับได้ดีด้วย สารสกัดกระเทียมและส้มแขกกับพริกไทย ก็ทานเพื่อให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น เนื่องจากเริ่ม สว.แล้ว ทำให้ร่างกระเฟิร์มกระชับแน่น ไม่เละไม่ย้อย แปะก๊วย ช่วยบำรุงสมองนะ อย่างว่าเริ่มแก่ ความจำก็เริ่มไปแล้วเหมือนกัน พวกนี้ต้องกินสะสมค่ะไม่ใช่ทานปรับหัวดีเลย แค่ช่วยป้องกันความเสื่อมนะ น้ำมันปลา ช่วยสมอง และเรื่องคอเลสเตอรอล
ปัญจขันธ์ ตัวนี้อยู่ในดวงใจเลย คุณประโยชน์เยอะค่ะ เนี่ยที่ป่วยรอบนี้เพราะหยุดกินไปนะ แบบว่าลองดูว่าหยุดแล้วเป็นไง 2 ปีที่ผ่านมากินตลอดไม่ป่วยเลย แม้แต่ไอสักแค๊กก็ไม่เป็น คราวนี้เลยต้องอัดหนักเลยค่ะ จนกว่าจะหาย จึงหยุด (อย่ากังวล พวกนี้เป็นสมุนไพรที่ศึกษามาแล้วไม่ตกค้างไม่มีผลข้างเคียงถ้าเรารู้วิธีการทานค่ะ) น้ำผลไม้หมัก อันนี้ภูมิใจนำเสนอค่ะ มันดีมาก ๆ มีโอกาสจะเล่าให้ฟัง)

ขมิ้นชัน 2 แคป
สารสกัดกระเทียมและส้มแขกกับพริกไทย 1 เม็ด
แปะก๊วย 2 แคป
Fish Oil 1 แคป
ปัญจขันธ์ 4 เม็ด เช้า 2 เย็น 2
น้ำผลไม้หมัก (แก้เจ็บคอ กินล้างเสมหะ วันนี้ถูกละอองฝน รู้สึกไม่สบาย เจ็บคอมาก)

หมวดออกกำลังกาย

เช้า 05.30 น. -
เย็น 16.30 น. -

หมวดอารมณ์

เช้า ยังไม่อยากตื่นค่ะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ ง่วงนะแต่พอเข้านอนกลับนอนไม่หลับ ก็เพราะว่าหายใจไม่ออก เหมือนหายใจเข้าไม่สุด คล้ายจะขาดใจ เลยตั้งสติใหม่ หายใจแบบโยคะ ทำให้ได้ข้อคิดว่า คนเราเนี่ยเป็นกับตายมันใกล้กันมากจริง ๆ ยังหายใจอยู่ก็คือเป็น หยุดหายใจก็คือตาย เพราะฉะนั้นไม่ควรประมาทเป็นอย่างยิ่ง ทำดีมาก ๆ เมื่อยังได้หายใจอยู่ เพราะถ้าหยุดหายใจแล้ว เราก็จะไม่มีโอกาสนั้น

กลางวัน สบายใจดีค่ะ ไปเดินดูเด็ก ๆ เชียร์กีฬา ร้อนนะวันนี้ จัดเต็มกันแดด 2 รอบยังเกือบเอาไม่อยู่ เดินได้สักพักต้องขึ้นมาพัก โอ้ ป้าแดงมาเยี่ยมตอนกลางวันพอดีเลยค่ะ ว่าแล้วทำไมท้องบวม ๆ อืด ๆ มาก็ดีค่ะ ดีกว่าไม่มานะ รอบนี้ดีจังไม่ปวดท้อง ไม่เจ็บอก

เย็น ถึงจะยังมีอาการเจ็บคอ แต่ก็ทุเลาลงมากเนื่องจากดื่มน้ำไปแล้ว เยอะมาก กินยาไปแล้วบ่าย ๆ เหมือนจะเป็นไข้ เพราะออกไปตากแดด แล้วกลับมานั่งห้องแอร์อีก แต่มีความสุขค่ะ

การกำจัดของเสีย ตอนเช้าเรียบร้อยดี ลักษณะดีมาก สวยงาม

น้ำหนัก เพิ่ม

วิจารณ์ผลลัพธ์แห่งการกระทำของตัวเอง

เมื่อวานคิดว่าร่างกายยังไม่ค่อยชอบอาหารที่ทานนะคะ เพราะว่าฝืนไปค่ะ อย่างเช่น น้ำพริก มันเค็มและร่างกายไม่ค่อยสบายอยู่มีอาการเป็นหวัด คงอยากได้ของรสอ่อน ๆ มากกว่า ทานไปแล้วรู้ได้เลยว่า ไม่สบายตัวเลย มีอาการบวมน้ำด้วย อีกอย่างเมื่อวานตอนเย็นทานของรสเผ็ดค่ะ ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ ต้องลองปรับอาหารใหม่เอาแบบอ่อน ๆ หรือเป็นผักสดกับผลไม้น่าจะดีกว่า เดี๋ยววันนี้ดูอีกทีนะคะว่าจะทำได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญคือตอนนี้ต้องทำให้ร่างกายหายป่วยเสียก่อนค่ะ สาเหตุแล้วทำไมน้ำหนักขึ้นและรู้สึกตัวบวม ๆ ก็เพราะป้าแดงแวะมาเยี่ยมนั่นเอง ดีแล้วล่ะ

---------------------------บทความฝากให้อ่าน------------------------------

กินเพื่อตับ
ตับ หน้าที่หลักของตับ คือ ผลิตน้ำดี ให้ถุงน้ำดีช่วยกรองเลือด ส่งเลือดดีเข้าสู่ร่างกาย ล้างสารพิษ และตับยังช่วยย่อยอาหาร ดูแลเส้นผม ขน เล็บ ถ้าตับทำงานหนัก ไตก็มาช่วยทำงาน เมื่อทำงานหนักตับก็จะเสีย ไตก็จะเสื่อม จะเห็นได้ว่าตับและไตมีความเกี่ยวข้องกัน
การดูแลในเรื่องอาหารการกินอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคตับฟื้นจากอาการเจ็บป่วยได้รวดเร็วขึ้น ผู้ป่วยโรคตับตับกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เพื่อเสริมสร้างพลังงานที่บกพร่องไป และควรเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีกากใยสูงที่ไม่ขัดสีประเภทข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต เผือก มัน ฟักทอง จะดีที่สุด รวมทั้งผลไม้ต่าง ๆ
การกินอาหารโปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ ถั่ว ในปริมาณที่มากกว่าปกติ จะช่วยซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่ของตับ เดิมเชื่อกันว่าผู้ป่วยโรคตับอักเสบควรดื่มน้ำหวานมาก ๆ เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยหายอ่อนเพลีย ปัจจุบันแพทย์ส่วนใหญ่จะไม่แนะนำ เพราะการกินน้ำตาลมาก ๆ ทำให้ตับต้องทำงานเพิ่มขึ้น
ผู้ป่วยด้วยอาการที่เกี่ยวกับโรคตับ ควรงดอาหารประเภททอด อาหารมัน เพื่อลดการทำงานของตับ เนื่องจากตับมีหน้าที่ผลิตน้ำดีออกมาย่อยอาหารประเภทไขมัน ดังนั้นเมื่อตับอยู่ในภาวะอักเสบ ควรให้ตับไต พักหรือทำงานน้อยลง
ผู้ป่วยไม่ควรกินอาหารประเภทสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะอาหารทะเลทั้งหลาย เพราะถ้ามีการติดเชื้อหรืออาหารเป็นพิษอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยที่มีอาการบวมควรกินอาหารรสจืดกว่าปกติ งดอาหารประเภทหมัก ดอง อาหารกระป๋อง หรืออาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ เพราะอาหารเหล่านี้จะมีเกลือโซเดียมสูง ที่สำคัญผู้ป่วยควรดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณวันละ 10-14 แก้ว

บทความนี้มาจากหนังสือ : กินเพื่อ หัวใจ ปอด ตับ ไต และไส้พุง , พ.ญ.อารีย์ โอบอ้อมรัก

Create Date : 03 สิงหาคม 2554 Last Update : 3 สิงหาคม 2554 16:51:54 น. Counter : 634 Pageviews.		7 comments
Share Tweet