Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
ไหลบัวผัดกุ้ง

มารู้จักไหลบัวกันก่อน



นี่ไงล่ะ "ไหลบัว"
และหลายๆ คนก็คงร้อง "อ๋อ!! สายบัวนี่หว่า?"
ขอบอกว่า "ท่านคิดผิด!!!"

"สายบัว" ที่เราคุ้นเคย คือ "ก้านดอก"ของ"บัวสาย"
บัวสายคือบัวที่มีสีหลาย ๆ สี เช่น ชมพูสด ชมพูอ่อน ขาว เหลือง ม่วง
ดอกจะบานไม่ทน จะบานตอนเช้า หรือตอนกลางคืนแล้วแต่ชนิดของบัวนั้น ๆ

ใบและดอกจะลอยอยู่บนผิวน้ำ ไม่ชูก้านขึ้นเหนือน้ำ
เราเอาก้านดอกของบัวสาย (ส่วนใหญ่คือบัวสายสีชมพู) มาลอกเปลือกนอกออกก่อนนำมารับประทาน

รสชาดของสายบัวจะจืดออกฝาดนิดหน่อย กรอบแบบนุ่ม ๆ และฉ่ำน้ำ
ไม่ว่าจะทานสดจิ้มน้ำพริก ลวกราดกะทิทานกับน้ำพริก
เอาไปผัดกุ้ง หรือต้มกะทิกับปลาทูแบบที่คุ้นเคยกันดี

แต่..."ไหลบัว" นั้นได้มาจาก "บัวหลวง"
ดอกบัวหลวงก็คือดอกบัวที่เราเอามาบูชาพระนั่นแหละค่ะ
ฝักบัว เม็ดบัว...ก็ได้จากบัวหลวง
ข้าวห่อใบบัว...ก็ใช้ใบบัวจากบัวหลวง
รากบัว....ก็คือรากของบัวหลวง
และ "ไหลบัว" ก็มาจากบัวหลวงเช่นกัน

"ไหลบัว" คืออะไร....
ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจได้ตรงกันง่าย ๆ "ไหลบัว" ก็คือส่วนของ "หน่อ" ที่ยื่นจากบัวหลวงต้นแม่
ออกไปด้านข้างเพื่อเกิดเป็นบัวต้นใหม่นั่นเอง
รสชาดของไหลบัวก็คล้าย ๆ กับสายบัว แต่กรอบแน่น และ กรอบได้ทนกว่าสายบัว
นิยมนำมาแกงส้ม แกงเหลือง ต้มยำเพราะว่ากรอบทนกว่าสายบัวมาก
ต่อให้แกงเอาไว้แล้วอุ่นทานอีกหลายครั้งก็ยังคงกรอบอยู่ ไม่เปื่อยยุ่ยแบบสายบัว

ไหลบัวก็คือ ส่วนของบัวที่จะเจริญเป็นลำต้นใหม่ ลักษณะคล้ายสายบัว
ซึ่งสายบัวจะเป็นส่วนของก้านดอกของบัวสายหรืออุบลชาติ
ซึ่งเป็นคนละพันธุ์กับบัวหลวง (ดอกพ้นน้ำ ใบเป็นมันลอยติดผิวน้ำ)

*******************


หลังจากที่เรารู้จักกับไหลบัวแล้ว...ก็มาดูเมนูนี้กันเลย



ไหลบัวผัดกุ้ง

วัตถดิบ
ไหลบัว ๓-๔ สาย
เห็ดออรินจิ ๗-๘ ดอก
กุ้งขาว ๔ ตัว ขนาดทาน ๒ ท่าน
ไข่ไก่เบอร์ ๐(กรณีที่ต้องการไข่ขาวมาก) ๑ ฟอง
กระเทียมซอยหยาบๆ ๕ กลีบ
น้ำตาลทราย ๑ ช้อนชา
ซี่อ๊วขาว ๑ ช้อนชา
น้ำมันหอย ๑ ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน ๕ เม็ด
หัว และก้านหัวหอม ๔-๕ ต้น
น้ำมันพืช ๒ ช้อนโต๊ะ

เตรียมการก่อนทำ
ไหลบัวสดหาได้ไม่ง่ายเท่าไหร่ในชีวิตชาวกรุงปัจจุบัน หลังจากซื้อมาแล้วก็ล้างให้สะอาด
แล้วตัดเป็นท่อน ๆ แช่น้ำเกลืออ่อน ๆ เอาไว้ไหลบัวทานได้เลยไม่ต้องลอกเปลือก
ไม่เหมือนกับสายบัวที่ต้องลอกเปลือกก่อนทาน หน้าตาของไหลบัวหั่นท่อนๆ
แล้วก็คล้ายๆ กับสายบัวเลย มีรูๆ ข้างในเหมือนกัน

เอาไปลวกน้ำเกลืออ่อนๆ สักประมาณ 2 นาที เพราะบางครั้งไหลบัวก็มีใยเยอะ
เอามาลวกน้ำเกลือก็ช่วยให้ใยออกมาตอนลวกได้ พอลวกแล้วก็เอาลงแช่น้ำธรรมดาจนเย็นสนิท
ค่อยๆ สาวใยออก ถ้ามีใยเยอะ เสร็จแล้วก็สะเด็ดน้ำพักเอาไว้ได้เลย เดี๋ยวเราจะผัดกันแล้ว!!

วิธีการทำ
๑) เอาหัวกุ้งขาวลงผัดกับน้ำมันก่อนเลย
เป็นวิธีเรียกความหอมมันจากมันกุ้งที่ได้ผลดีที่สุด พอผัดลงได้มันกุ้งสีส้มสวยแล้วก็ตักหัวกุ้งออกได้เลย

๒) ใส่เห็ดออรินจิ ผัดกับกระเทียมที่คลุกเคล้าด้วยมันจากหัวกุ้งขาวที่เตรียมไว้

๓) ใส่กุ้งสด แล้วผัดจนจนเกือบจะสุก

๔) ใส่พริกแดงผ่าครึ่งตามยาว กะว่าแต่งสีให้ดูดีมีสีสันหน่อย
แต่ถ้านิยมความเผ็ดก็ใส่พริกตำลงไปผัดพร้อมกระเทียมสับได้เลย

๕) เร่งไฟแรง แล้วรีบใส่ไหลบัวที่เราลวก และสะเด็ดน้ำเอาไว้แล้วลงไป ผัดให้เข้ากัน

๖) ใส่น้ำมันหอย ซี่อิ๊วขาว น้ำตาล

๗) ตอกไข่ไก่ลงไป ผัดให้เข้ากัน

๘) ปิดไฟ แล้วเอาหัวต้นหอม และก้านต้นหอม ใส่ลงไปในกระทะ คลุกเคล้าให้ทั่ว พร้อมเสริฟ


ภาพจาก :
//www.thairath.co.th
//board.trekkingthai.com



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 18 มีนาคม 2554 17:50:11 น. 1 comments
Counter : 19111 Pageviews.

 
ที่นี้ก็รู้สักที่ว่าเขาเรียกว่าไหลบัว
ขอบคุณนะคะ


โดย: ยายกุ๊กไ่ก่ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:48:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.