|
ข้อคิดสู่ความสำเร็จสำหรับคนทำงานยุคใหม่
คุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่งของมนุษย์คือ การถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่งได้ ทำให้มนุษย์เรามีความก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้ เราจะเห็นว่าปัจจุบันพัฒนากว่าอดีต และอนาคตต้องพัฒนาก้าวหน้าไปมากกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน ใครก็ตามที่ไม่ยอมเรียนรู้ประสบการณ์ในอดีต ย่อมมีโอกาสผิดพลาดซ้ำกับคนรุ่นก่อน ใครก็ตามที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ ย่อมมีโอกาสก้าวหน้าน้อยกว่าคนอื่น
ในสังคมของคนทำงานมีคนอยู่สองกลุ่มใหญ่ๆ คือ คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ แต่คนในสองกลุ่มนี้ก็สามารถแบ่งออกได้สองกลุ่มเช่นกันคือ กลุ่มคนที่ยึดติดกับอดีตไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลง กับกลุ่มคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆชอบการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้น การเป็นคนทำงานยุคใหม่หรือยุคเก่า จึงไม่ได้อยู่ที่อายุตัวหรืออายุงาน แต่อยู่ที่การปรับตัวในการทำงานมากกว่า เราจะเห็นว่าคนที่มีอายุตัวหรืออายุงานมากบางคน เป็นคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่กลัวเทคโนโลยี พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในขณะที่คนรุ่นใหม่บางคนชอบทำงานแบบคนรุ่นก่อนๆ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ทำงานแบบไหนก็อยากทำเหมือนเดิมไปตลอด จึงสรุปไม่ได้ว่าคนทำงานยุคใหม่คือ คนที่มีอายุน้อยเท่านั้น
เพื่อให้คนทำงานที่มีความคิดทันสมัย (ทั้งคนที่อายุมากและอายุน้อย) มีเส้นทางการทำงานที่สดใส จึงขอให้ข้อคิดและแนวทางในการทำงานสู่ความสำเร็จดังนี้
ประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนคือมรดกอันล้ำค่า คนเราเกิดมามีชีวิตเพียงรอบเดียว ไม่เหมือนเกมส์คอมพิวเตอร์ที่มีชีวิตที่หนึ่ง สอง สาม ตายแล้วเล่นใหม่ได้ ดังนั้น ในช่วงชีวิตโดยเฉพาะชีวิตแห่งการทำงาน คนทำงานรุ่นใหม่จึงควรป้องกันความผิดพลาดให้กับตัวเอง โดยการเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนๆ ซึ่งมีทั้งประสบการณ์ที่เป็นความผิดพลาด ที่สามารถนำมาใช้ในการวางแผน ป้องกันไม่ให้เราผิดพลาดซ้ำเรื่องเดียวกันกับคนรุ่นก่อน และนำเอาประสบการณ์ที่ดีของคนรุ่นก่อน มาเป็นสะพานในการก้าวไปสู่ความสำเร็จในการทำงาน
ดังนั้น อย่าดูถูกหรือมองข้ามประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนว่าโบราณคร่ำครึ ไม่ทันสมัย? บริหารงานแบบใหม่ แต่ใส่ใจในการบริหารคนแบบเก่า ใครอยากจะประสบความสำเร็จในการทำงาน จงเรียนรู้เทคโนโลยีและเครื่องมือการบริหารจัดการสมัยใหม่ให้มาก แต่ควรนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเหลือน้อยลง เช่น ใช้อินเตอร์เน็ตในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน แต่ควรจะมีเวลาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแบบซึ่งหน้าบ้าง ไม่ใช่อะไรๆ ก็ให้เทคโนโลยีพูดแทน
นอกจากนี้ เราจะเห็นว่าคนทำงานรุ่นก่อนๆ มีความสัมพันธ์กันดีมาก คนที่เคยทำงานในองค์กรเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะจากกันไปกี่ปีก็ตาม เวลามาเจอกันความสัมพันธ์ก็ยังแน่นแฟ้นเหมือนเดิม จึงอยากให้คนทำงานรุ่นใหม่ อย่าลืมวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกันของคนรุ่นก่อนๆ เพราะยิ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากเท่าไหร่ คนที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่คนที่จะประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องเข้าใจคนมากขึ้นด้วย
มีวินัยในตัวเอง นำพาตัวเองให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจ ความก้าวหน้า ความทันสมัยในด้านต่างๆ มักจะเป็นดาบสองคมเสมอ ยิ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คนเกิดกิเลศมากขึ้นเท่านั้น เช่น เทคโนโลยีการสื่อสารก้าวหน้า ยิ่งทำให้คนอยากได้โทรศัพท์มือถือ มีธุรกิจบัตรเครดิต มีธุรกิจซื้อสินค้าแบบเงินผ่อน ฯลฯ ยิ่งทำให้คนเกิดความอยากที่จะสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น คนทำงานรุ่นใหม่จึงต้องเจอกับสิ่งล่อตาล่อใจ ที่จะทำให้เกิดกิเลสมากกว่าคนทำงานรุ่นก่อนๆ พูดง่ายๆ คือคนรุ่นใหม่มีความยากลำบากในการดูแลตัวเองมากกว่าคนรุ่นเก่า เพราะสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น คนทำงานรุ่นใหม่ จึงต้องมีความเข้มงวดกับการปกครองและดูแลตัวเองให้มากกว่าคนทำงานรุ่นก่อนๆ
จัดระบบการเก็บสะสมสะเบียงเพื่อชีวิตในอนาคต คนทำงานรุ่นก่อนๆ บางคนเกษียณอายุไปแล้ว ไม่มีเงินติดไม้ติดมือกลับไปอยู่บ้านก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะที่บ้านมีมรดกที่ดินเรือกสวนไร่นาจากพ่อแม่ หรือไม่ก็สามารถดำรงชีพแบบพอเพียงแบบชาวบ้านได้ แต่คนรุ่นใหม่เรียนจบมาพร้อมกับการขายนาขายไร่ของพ่อแม่ ถ้าทำงานไปแบบไม่เก็บสะสมอะไรไว้เลย แล้วจะใช้ชีวิตในบั้นปลายได้อย่างไร
สิ่งที่คนรุ่นใหม่ ควรจะสะสมเป็นสะเบียงให้กับชีวิตตัวเองในระยะยาวคือ ประสบการณ์ชีวิตทั้งในงานและนอกงาน สะสมความดีที่ทำให้กับตัวเองและผู้อื่น สะสมเงินทองเพื่อไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น สะสมความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงไว้บ้าง และสุดท้ายอาจจะต้องสะสมธรรมะเก็บไว้ในใจบ้าง เพราะชีวิตคนเรายิ่งอยู่นานมากขึ้นเท่าไหร่ สิ่งรุมเร้าที่จะเข้ามาในชีวิตเรานั้นมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาทางกายและปัญหาทางใจ ดังนั้น การสะสมธรรมะไว้ก็จะนำไปใช้ได้ในยามจำเป็น ไม่ใช่เพิ่งไปสวดมนต์ก็ตอนป่วย ไม่ใช่ไปทำดีช่วยเหลือคนอื่นตอนที่ตัวเองตกทุกข์ได้ยากแล้ว
โดย ณรงค์วิทย์ แสนทอง ที่มา : //www.vrhris.com
Create Date : 16 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2553 20:18:05 น. |
|
1 comments
|
Counter : 969 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แอ้ (Kusoll13 ) วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:20:38:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|
คนที่มีเป้าหมายในชีวิต และต้องการความสำเร็จ วิธีการทำงานที่ออกมาก็จะแตกต่างจากคนอื่นๆ
การจะทำให้แต่ละคนเกิดการพัฒนาตนเอง Self Development จึงต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจน แล้ววิธีในการไปสู่เป้าหมายจะออกมาโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่เป็นไปโดยอัตโนมัติผู้เป็นหัวหน้างานอาจต้องให้คำชี้แนะในการไปสู่เป้าหมายอีกทีครับ ^^