Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
14 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

20 คำถาม! เรื่องไฟฟ้าที่คุณอยากรู้

ในชีวิตประจำวันของคนเรา ส่วนใหญ่ต้องใช้ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ ในการดำเนินชีวิต
แต่มีคนจำนวนไม่มากนัก ที่จะให้ความสนใจเรื่องไฟฟ้า ที่ใช้กันอยู่ ภายในบ้าน เพราะเมื่อพูดถึงไฟฟ้าแล้ว
เรามักรู้สึกว่าเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน และอันตราย
ต้องอาศัย ผู้มีความรู้ความชำนาญ เท่านั้น จึงจะหยิบจับ หรือทำได้

หากเรามีความเข้าใจเพียงพอ มีความระมัดระวัง และรู้จักการทำงานที่ปลอดภัยแล้ว มือสมัครเล่นอย่างเราๆ
ก็สามารถซ่อมแซม หรือเปลี่ยนสวิตช์ ปลั๊ก หลอดไฟ หรือแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง
ซึ่งช่วยประหยัดเงิน และเวลาในการหาช่างมาซ่อมแซมด้วย
ฉบับนี้คอลัมน์ "ช่างในบ้าน" รวบรวมคำถามเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าในบ้านที่อาจค้างคาใจใครหลายคนมาตอบครับ

1. Q: มิเตอร์ไฟบ้านมีขนาด 5 แอมแปร์ เปิดเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่องพร้อมกัน ได้หรือไม่
A: ไม่ได้ เนื่องจากมิเตอร์ไฟมีขนาดเล็กเกินไป (ไฟฟ้าอาจดับทั้งบ้าน หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้)
ปกติ มิเตอร์ไฟในบ้านทั่วไป ที่การไฟฟ้ามาติดตั้งให้
จะกำหนดขนาดการใช้กระแสไฟไว้ประมาณ 5 แอมแปร์ (5A) และจะเผื่อการใช้งานไว้อีกประมาณสามเท่า
แต่เครื่องปรับอากาศที่เจ้าของบ้านซื้อมาเพิ่มเติมภายหลังจะใช้กระแสไฟฟ้ามากเกิน 15 แอมแปร์ที่เผื่อไว้
ดังนั้น ถ้าจำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่องพร้อมกันเป็นประจำ ให้ติดต่อที่การไฟฟ้าในเขตพื้นที่ของท่าน
เพื่อแจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนมิเตอร์ไฟเป็นขนาด 15 แอมแปร์จะปลอดภัยกว่า
แต่เจ้าของบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง


2. Q: สายไฟฟ้า มีวันหมดอายุไหม
A: ฉนวน หรือเปลือกชั้นนอกที่ใช้หุ้มสายไฟฟ้า ปัจจุบันทำจากพีวีซี ซึ่งมีความแข็งแรง และมีอายุการใช้งาน
ยาวนาน ปกติถ้าเราไม่ใช้กระแสไฟมากเกินกว่าขนาดของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ หรือหนูไม่มากัดแทะสายไฟ
สายไฟที่ได้มาตรฐานจะมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า15-20 ปี แต่ถ้าปล่อยให้ถูกกระแทก ตากแดดตากฝน
หรือโดนรังสียูวีเล่นงานเป็นประจำ สายไฟจะมีอายุการใช้งานไม่เกิน10 ปี
แต่ถ้าเดินสายไฟ แบบร้อยท่อ ก็พอช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟได้นานถึง 30 ปีทีเดียว

20 คำถาม เรื่องไฟฟ้าที่คุณอยากรู้

3. Q: ระหว่างเครื่องทำน้ำร้อนที่ใช้ไฟฟ้า กับเครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ อะไรถูกกว่ากัน
A: เครื่องทำน้ำร้อนที่ใช้ไฟฟ้า ตัวเครื่องมีราคาถูกกว่า (เฉลี่ยหลักหมื่นต้นๆ) ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของถังเก็บ
น้ำร้อน ติดตั้งและดูแลรักษาง่ายกว่า แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าไฟฟ้าตามมา
ส่วนเครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ ตัวเครื่องมีราคาสูงกว่า (เริ่มต้นประมาณ 50,000 บาท)
การติดตั้ง และการบำรุงรักษาจะยุ่งยากกว่า เพราะส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้บนหลังคา แต่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว
โดยลงทุนครั้งแรกเพียงครั้งเดียว แต่ได้พลังงานสะอาด และไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้าตลอดชีพ
เหมาะกับบ้าน หรือที่พักอาศัยที่มีห้องน้ำตั้งแต่ 2 ห้องขึ้นไป และใช้งานเป็นประจำ
สำหรับระยะเวลาคุ้มทุนประมาณ 5 ปีขึ้นไป


4. Q: เมื่อเลิกใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นแล้ว ต้องปิดตรงไหนบ้าง มีหลายปุ่มเหลือเกิน
A: จริงๆแล้วถ้าจะปิดให้กดปุ่ม Off ที่ตัวเครื่องก็พอ ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ถ้าติดตั้งตามที่ผู้ผลิตแนะนำ*
แต่จะยังคงมีกระแสไฟเข้าไปเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ถ้าจะให้ประหยัดจริงๆ ต้องสับสวิตช์เบรกเกอร์
ในกรณีบ้านใหม่ที่ไม่มีเบรกเกอร์อยู่ใกล้ๆ กับเครื่องก็ให้กดปุ่ม Test ที่ข้างๆเครื่อง
ปุ่มนี้จะตัดไฟไม่ให้เข้าไปในเครื่อง เมื่อต้องใช้ใหม่ให้กดปุ่ม Reset ครับ
*ติดตั้งสายดิน

20 คำถาม เรื่องไฟฟ้าที่คุณอยากรู้

5. Q: ไฟดูดเราได้อย่างไร ทำไมเราจึงติดจนแยกไม่ออก
A: จริงๆไฟฟ้าไม่ได้ดูดเราไปติด แต่กระแสไฟฟ้าที่เข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากๆจะทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง
จนเราไม่สามารถควบคุมสั่งการตัวเองให้แยกออกมาได้
ตัวอย่างเช่น ถ้ามือกำสายไฟอยู่ ก็จะแบมือไม่ออก และในที่สุดก็...


6. Q: สวิตช์สามทางคืออะไร
A: คือสวิตช์ที่ใช้ควบคุมดวงไฟจากจุดที่ควบคุม 2 แห่ง มีรูปร่างหน้าตาเหมือนสวิตช์ทั่วไป
การใช้งานจะใช้สวิตช์ 2 ตัว เพื่อเปิดปิดหลอดไฟเพียงจุดเดียว
โดยเฉพาะแสงสว่างที่บริเวณบันได (บางท่านจึงเรียกว่า "สวิตช์บันได")
สำหรับบ้านสองชั้นจะติดตั้งสวิตช์ไว้ที่ชั้นล่างหนึ่งตัว และชั้นบนอีกหนึ่งตัว
สามารถเปิดปิดจากสวิตช์ตัวไหนก็ได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะการขึ้นลงบันไดในยามค่ำคืน


7. Q: เราสามารถเสียบต่อปลั๊กพ่วงได้มากน้อยเพียงใด
A: ปลั๊กพ่วงแต่ละรุ่น มีขีดความสามารถในการทนต่อกระแสไฟฟ้าไม่เท่ากัน โดยจะเขียนติดไว้ กับตัวปลั๊กเลย
เช่น 10 แอมแปร์ ก็แสดงว่าไม่ควรต่อไฟเกิน 10 แอมแปร์ ถ้าใช้มากกว่านี้ ฟิวส์จะขาด
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนสูงจนไฟไหม้ ไม่แนะนำให้ใช้ปลั๊กพ่วงแบบไม่มีฟิวส์ และสวิตช์เปิดปิดเด็ดขาด
โดยเฉพาะแบบเก่า (ลักษณะกลมๆ) ที่ม้วนเก็บสายได้
เพราะ นอกจากไม่มีฟิวส์แล้ว เต้ารับยังหลวมเป็นอันตรายมาก
อีกอย่างที่ไม่ควรทำคือ นำปลั๊กอื่นมาพ่วงต่อจากปลั๊กพ่วงอีกที...อย่าทำนะครับ


8. Q: ระบบควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า และแสงสว่างในบ้านอัตโนมัติ (Automation Home)
ต้องใช้งบประมาณเท่าไร จึงติดตั้งได้

A: เริ่มต้นประมาณ 50,000 บาท สำหรับคอนโดมิเนียม หรือบ้านขนาด 1-2 ห้องนอน สามารถสั่งเปิดปิดไฟ หรี่ไฟ
ม่านปรับแสง เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ และช่วยอำนวยความสะดวกสบาย
และหากเพิ่มงบประมาณอีกหน่อย ก็สามารถเชื่อมต่อกับระบบสัญญาณกันขโมย
แต่ถ้ามีงบประมาณมาก เราสามารถทำบ้านธรรมดาๆให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะได้ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระบบอื่นๆ อาทิ สามารถสั่งงานผ่านทางโทรศัพท์ หรืออินเทอร์เน็ตได้
แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ภายในบ้าน หรือเข้าไปตรวจสอบการทำงานของระบบป้องกันภัย รวมทั้งเลือกดูภาพต่างๆได้
จากทุกแห่งในโลกที่คุณไป โดยผ่านระบบกล้องวงจรปิดได้ด้วย แบบนี้ราคาอยู่ที่หลักหลายแสนบาท


9. Q: ไฟเลี้ยงวงจรของโทรทัศน์ เครื่องเสียง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ กินไฟหรือไม่
A: กินไฟทั้งนั้นแต่ว่าน้อยมากๆในความรู้สึกของผู้ใช้ (เสียค่าไฟเพิ่มขึ้น แลกกับความสะดวกสบายในการใช้งาน)
แต่อย่าลืมว่า แม้เราจะปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆด้วยรีโมทคอนโทรลแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีไฟเลี้ยงวงจรอยู่ตลอดเวลา
จึงมีส่วนทำให้อุปกรณ์ต่างๆภายในเกิดการชำรุดเสียหายได้
ดังนั้น เพื่อความประหยัดทั้งพลังงาน และเงินในกระเป๋าสตางค์ของท่าน ให้ปิดโทรทัศน์ที่ปุ่มเปิดปิดของตัวเครื่อง
และให้ถอดปลั๊กไฟออก หรือปิดสวิตช์ไฟแสดงสถานะของสายต่อพ่วงทุกครั้งที่เลิกใช้งาน
หากเราทุกคนลดการใช้พลังงานนี้ได้ ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานรวมกันได้นับร้อยล้านบาทต่อปี


10. Q: มีสายล่อฟ้าแล้ว เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนอง ต้องทำอย่างไร กับโทรทัศน์ อีกหรือไม่
A: การมีอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าแล้ว ไม่ได้หมายความว่าโทรทัศน์จะปลอดภัย 100 % หากเรายังเปิดโทรทัศน์อยู่
หรือปิดโทรทัศน์แล้วแต่ยังไม่ได้ถอดปลั๊กออก เพราะมีโอกาสเสี่ยงสูง เมื่อมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียง
เนื่องจากได้รับแรงดัน และกระแสไฟเกินอย่างกะทันหัน
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของท่านเอง ขณะที่มีฝนฟ้าคะนองให้ปิดโทรทัศน์
และถอดปลั๊กไฟออกจากเต้ารับที่ผนัง หรือปลั๊กพ่วง และถอดสายอากาศออกจากตัวเครื่องทุกครั้ง
เพื่อป้องกันโทรทัศน์ได้รับความเสียหาย รวมถึงอุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์
โทรศัพท์แบบไร้สาย เป็นต้น


11. Q: โวลท์,แอมป์,วัตต์ คืออะไร
A: โวลท์ (volt หรือ V) คือ หน่วยที่ใช้เรียก เพื่อบอกขนาดของแรงดันไฟฟ้าในบ้าน
อาทิ 220 V หมายถึง ขนาดของแรงดันไฟฟ้าเท่ากับ 220 โวลท์ (ประเทศไทยก็ใช้ไฟระบบนี้)
แอมแปร์ หรือแอมป์ (ampere หรือ A) คือ หน่วยที่ใช้เรียกสำหรับ บอกปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำ
หรืออุปกรณ์ไฟฟ้านั่นเอง อาทิ 5 A หมายถึง ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเท่ากับ 5 แอมแปร์
วัตต์ (watt หรือ W) คือ หน่วยวัดกำลังไฟฟ้าที่เป็นตัวบอกพลังงานไฟฟ้าของอุปกรณ์
หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดใช้ในการทำงาน เช่น
หลอดไฟ 100 วัตต์ หมายความว่า หลอดไฟดวงนี้กินไฟ 100 วัตต์ต่อชั่วโมงนั่นเอง


12. Q: มีสายดินแล้ว...ต้องติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วอีกหรือไม่
A: สายดิน เป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรก ที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องมีไว้ป้องกันไฟดูด
เพื่อให้กระแสไฟที่รั่วไหลลงดินได้สะดวก โดยไม่ผ่านร่างกายเรา (ไฟไม่ดูด)
ส่วนเครื่องตัดไฟรั่ว มีหน้าที่ตัดกระแสไฟรั่วก่อนที่จะเป็นอันตรายกับมนุษย์ (ไฟดูด) และช่วยป้องกันการเกิด
ไฟฟ้าลัดวงจร จนอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
ดังนั้น ระบบไฟฟ้าที่ดี จึงควรมีทั้งระบบสายดิน และเครื่องตัดไฟรั่ว
เพื่อเสริมการทำงานซึ่งกันและกันให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

20 คำถาม เรื่องไฟฟ้าที่คุณอยากรู้


13. Q: มีหลอดฟูลออเรสเซนต์ที่ไม่ใช้แบลลัสต์ และสตาร์ตเตอร์ไหม
A: มีครับ แต่ผู้ผลิตจะจำหน่ายในรูปแบบของชุดหลอดไฟสำเร็จรูป
มีให้เลือกใช้ทั้งแบบหลอดผอม และหลอดกลม ทำงานด้วยชุดวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ช่วยให้หลอดไฟมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เปิดปุ๊บสว่างปั๊บ และหลอดไม่กะพริบ กินไฟน้อย
ช่วยประหยัดไฟประมาณ 30 % แต่ก็มีราคาสูงกว่าชุดรางสำเร็จรูป ทั่วไป


14. Q: Day Light , Warm White และ Cool White คืออะไร
A: ปัจจุบันหลอดไฟแสงสว่างส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมาจำหน่ายมี 3 โทนสีด้วยกัน ได้แก่ Day Light, Warm White
และ Cool White ซึ่งหลอดไฟแต่ละสีก็จะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป ดังนี้
-Day Light ให้แสงไม่มีสีคล้ายแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน
- Warm White ให้แสงที่เป็นสีเหลืองนวล ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่น
-Cool White ให้แสงที่เป็นสีฟ้าขาว ดูเย็นตา แต่จะทำให้สีจริงของวัตถุผิดเพี้ยนไป
ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อหลอดไฟมาใช้ จึงควรอ่านฉลากที่ข้างกล่อง เพื่อให้ได้แสงไฟที่ตรงกับลักษณะการใช้งาน
และช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องต่างๆภายในบ้าน


15. Q: การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้านด้วยตนเอง ควรทำอย่างไร
A: เริ่มด้วยการทดสอบมิเตอร์ไฟก่อน โดยปิดสวิตช์ไฟฟ้าทุกจุด รวมทั้งถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆออกให้หมด
แล้วไปดูมิเตอร์ไฟที่หน้าบ้านว่า เฟืองเหล็กยังหมุนอยู่หรือไม่ หากยังหมุนอยู่แสดงว่ามีกระแสไฟรั่ว
จากนั้นให้ดูเมนสวิตช์ว่า มีมด หรือแมลงเข้าไปทำรังในตู้หรือเปล่า
คัตเอ๊าต์ หรือเบรกเกอร์ยังสามารถใช้ปลดวงจรไฟฟ้าได้หรือไม่
ส่วนสายไฟ และเต้ารับให้ดูว่ามีส่วนใดชำรุดเสียหายบ้าง
โดยเฉพาะสายไฟที่ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดาน อาจเปื่อยกรอบ เนื่องจากผ่านการใช้งานมานาน หรือถูกพวกหนู
และแมลงสาบกัดแทะจนสายขาด ถ้าพบความเสียหายก็ต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร


16. Q: หลอดตะเกียบประหยัดไฟกว่าหลอดไส้ กี่เท่า
A: หลอดตะเกียบในที่นี้หมายถึง หลอดฟูลออเรสเซนต์ขนาดเล็กที่มีการพัฒนา เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงาน
โดยใช้แทนหลอดไส้ได้ มีอายุการใช้งานมากกว่าหลอดไส้ประมาณ 6-8 เท่า และใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า
โดยจะช่วยประหยัดไฟได้ 70-80 % แต่อายุการใช้งานของหลอดก็ขึ้นอยู่กับสภาพการติดตั้ง
เช่น การระบายความร้อนเป็นอย่างไร แรงดันไฟฟ้าสม่ำเสมอดี หรือไม่





ชนิดของหลอดไฟฟ้า้
หลอดตะเกียบ หลอดไส้ธรรมดา
9 W 40 W
13 W 60 W
18 W 75 W
25 W 100 W

*ตารางเปรียบเทียบการให้แสงสว่างของหลอดตะเกียบ กับหลอดไส้ธรรมดาที่ให้แสงสว่างเท่ากัน

การเลือกซื้อหลอดประหยัดไฟให้คุ้มค่า ให้สังเกตปริมาณการส่องสว่าง(ลูเมนต่อวัตต์) ที่ข้างกล่องบรรจุ
เนื่องจากหลอดไฟในแต่ละรุ่นจะมีค่าไม่เท่ากัน ส่งผลให้ราคาแตกต่างกัน
โดยให้เลือกรุ่นที่มีประสิทธิภาพพลังงานในการส่องสว่างสูงไว้ก่อนนะครับ


17. Q: เครื่องมือและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ควรมีไว้ติดบ้าน...มีอะไรบ้าง
A: ค้อนช่างไฟ ใช้ตอกตะปู สำหรับการเดินสายแบบรัดคลิป หรือติดตั้งกล่องต่อสายต่างๆ
คีมตัด ใช้สำหรับตัดสาย และตกแต่งปลายท่อร้อยสายไฟที่ขรุขระให้เรียบร้อย
คีมปอกสายไฟ ใช้งานได้ทั้งปอกสาย และตัดสายไฟ
คีมปากจิ้งจก ใช้จับยึดชิ้นงานที่มีขนาดเล็ก หรืออยู่ในที่แคบ
ไขควงวัดไฟ ใช้ทดสอบวงจรไฟฟ้า
ตลับเมตร ใช้วัดระยะในกรณีที่มีการเดินสาย หรือติดตั้งสวิตช์ และเต้ารับ
เทปพันสายไฟ ใช้พันรอยต่อของสายไฟ

เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมีติดบ้านไว้ทุกชิ้น อาจดูจากความถนัด
หรือความคล่องตัวในการใช้งานน่าจะเหมาะสมกว่า แล้วอย่าลืมกฎสำคัญในการทำงานไฟฟ้าคือ
ต้องถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือปลดเมนสวิตช์ ทุกครั้ง ในบริเวณที่เราจะทำงานด้วย


18. Q : ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศมาล้างด้วยหรือ
A: การดูแลเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว
ยังช่วยประหยัดค่าไฟ และส่งผลดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย
การทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศครั้งใหญ่ ควรทำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง ทั้งคอยล์เย็น และคอยล์ร้อน
หรือชุดระบายความร้อนที่ตั้งอยู่ภายในห้อง โดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
แต่ภายหลังการล้างเครื่อง บ่อยครั้งมักเกิดน้ำหยด หรือรั่วออกมาจากแผงคอยล์เย็น
เพราะช่างอาจหลงลืม การทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง ทำให้เกิดน้ำรั่ว หรือเกิดเสียงจากการสั่นของเครื่องได้
เนื่องมาจากการประกอบชิ้นส่วนไม่ดี ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คในจุดต่างๆให้แน่ใจก่อนช่างจะจากไปนะครับ


19. Q: ทิ้งหลอดไฟเป็นภัย กับสิ่งแวดล้อมไหม
A: เป็นภัยต่อชีวิต และเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอน เพราะหลอดไฟเป็นขยะที่ไม่ย่อยสลาย และเผาไม่ได้
(เผาแล้วก่อให้เกิดมลพิษ) ต้องผ่านกระบวนการกำจัดหลอดไฟอย่างถูกวิธี และมีประสิทธิภาพ
เพื่อไม่ให้ไปทำลายสิ่งแวดล้อม และชั้นบรรยากาศของโลก โดยจำเป็นต้องจัดการคัดแยกหลอดไฟ หรืออุปกรณ์
ไฟฟ้าต่างๆออกจากขยะในครัวเรือนประเภทอื่น โดยต้องห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกล่องที่ใส่มาตอนซื้อ
และเขียนกำกับไว้ด้วยว่าเป็น "หลอดไฟ"(เจ้าหน้าที่จัดเก็บจะได้เห็น และใช้ความระมัดระวังมากขึ้น)
ตอนนี้ มีบางบริษัทมีโครงการรีไซเคิลหลอดไฟ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีมากต่อสภาพแวดล้อม
แต่ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควรครับ


20. Q: เมื่อเกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าต้องทำอย่างไร และใช้อะไรดับ
A: หากพบประกายไฟที่จะก่อให้เกิดอัคคีภัย ให้เตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อม
การดับเพลิงที่เกิดจากไฟฟ้า ต้องใช้ถังดับเพลิงที่ใช้ดับไฟที่เกิดจากไฟฟ้าโดยเฉพาะเท่านั้น
อย่าใช้น้ำดับไฟเป็นอันขาด เพราะน้ำเป็นสื่อไฟฟ้า (ยกเว้น ในกรณีที่ปลดวงจรไฟฟ้าแล้ว สามารถใช้น้ำดับได้)

ถังดับเพลิงที่ใช้ดับเพลิงไหม้จากไฟฟ้า
จะมีเครื่องหมายระบุว่า ใช้ดับไฟได้ สังเกตที่ข้างถังจะระบุเป็นตัวอักษร "C"
(ชนิด A ใช้ดับเพลิงพวกไม้ และกระดาษ,ชนิด B ใช้กับไฟที่เกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ)

เรื่อง : "กองบรรณาธิการ"
ภาพประกอบ : มาโนช กิตติชีวัน
ที่มา บ้านและสวน




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2552
1 comments
Last Update : 14 มิถุนายน 2552 15:55:59 น.
Counter : 4249 Pageviews.

 

นี้พี่ไปลอกช่องอื่นป่าวอ่ะเหมือนกันเป๊ะเลย

 

โดย: กอล์ฟสุดหล่อ IP: 222.123.44.221 6 ธันวาคม 2552 16:32:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.