ปรกติป้าเดซี่เป็นคนแข็งแรงบึกบึนค่ะ
ทุกวันจะเจียดเวลาหลังตื่นนอน 45 นาทีมาออกกำลังกาย
ด้วยวัยสี่สิบต้น ๆ และนิสัยรักในการกินการดื่ม
การออกกำลังกายช่วยรักษาหุ่นไว้ไม่ให้อวบอั๋นไปมากกว่านี้
แถมสุขภาพก็ดี ไม่ป่วยไม่ไข้ แต่ว่า ...
พอย่างเข้าหน้าหนาวทีไร กระเหรี่ยงเป็นต้องเกิดอาการเจ็บคอทุกที
อย่างวันนี้อากาศในฮ่องกงอยู่ระหว่าง 12-17 องศาเซลเซียสค่ะ
ออกไปเดินเล่นในเมืองแบบใส่เสื้อตัว แจ๊คเก็ตตัว
มันไม่พออ่ะดิ กลับมาเจ็บคออีกแล้ว
พอเกิดอาการเจ็บคอดังว่า อิชั้นจะนึกถึงการกินบำบัดด้วยอาหารจานนี้ทันที
ต้มยำปลาน้ำใส
ผักหญ้าที่ใส่ในต้มยำ และที่ใช้สำหรับโรยหน้า ก็เช่น
ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า กระเพรา ผักชีฝรั่ง พริกขี้หนู มะนาว พริกแห้งทอด
ก็เอามาล้างทำความสะอาด เด็ด หั่นเตรียมไว้
ปลาสดที่ไปซื้อมาจากแผงค่ะ ปลาอะไรก็ไม่ทราบ ชิ้นละ 25 เหรียญ
พูดถึงปลาที่ขายกันในตลาดเมืองกี๊นเหล่เต่สิ่งที่อิชั้นอยู่เนี่ย
เค้าก็มีปลาสดอยู่หลายเกรด หลายราคานะ
แรก ๆ ก็ไม่ทราบ ซื้อแต่ปลาคาร์พมากิน ชิ้นละ 5 เหรียญ 10 เหรียญแล้วแต่ขนาด
ถูกอัธยาศัยกับพ่อค้าปลาเป็นพิเศษด้วย
แต่ปลาราคาถูกเนี่ยนะ ก้างเพียบ ซึ่งอิชั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ
มีอยู่วัน ลองซื้อปลาแบบนี้มาบ้าง แพงกว่าหน่อย
ปรากฏว่าติดใจเลย เพราะนอกจากก้างตรงกลางแล้ว แทบจะไม่มีก้างอีกแล้ว
เห็ดฟางที่ฮ่องกงเนี่ย หาง่ายมากในตลาดสดทั่วไปค่ะ
แต่ไม่เคยเห็นมีขายในซูเปอร์มาร์เก็ต คงเป็นเพราะมีอายุการเก็บรักษา(shelf life) สั้น
บางครั้งแม่บ้านอย่างเรา ๆ ไปตลาดก็อยากซื้อกับข้าวทีเดียวใช้ไปหลายวัน
อิชั้นมีเคล็ดลับในการเก็บเห็ดฟางที่ทำประจำมาฝากนะ อิอิ
ก็ล้างเห็ดให้สะอาด ถ้าขนาดใหญ่แบบนี้ก็ผ่าครึ่งค่ะ
เสร็จแล้วลวกน้ำเดือดสักแป๊บแล้วเอาขึ้น ใส่กล่องหรือถุงเก็บไว้ในตู้เย็น
เวลาจะใช้ก็เอาออกมา รสชาติโอเคเหมือนเห็ดฟางสด ๆ ค่ะ
วันนี้ใส่ผัก 2 อย่างคือเห็ดฟาง กับข้าวโพดอ่อน
สังเกตเห็ดฟางเป็นเห็ดที่ลวกเก็บเอาไว้ใช้ตั้งแต่วันก่อน อิอิ
เตรียมเครื่องปรุงไว้เสร็จสรรพแล้ว เราก็มาเริ่มทำกันเลย
ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่าที่หั่นไว้แล้วลงไปค่ะ
สักพักพอน้ำเดือดปุด ๆ อีกครั้งใส่ชิ้นปลาลงไป
โบราณเค้าว่า อย่าคน ไม่งั้นปลาจะคาว เชื่อเค้าค่ะ อิอิ
ต้มไปสักพักจนคะเนว่าปลาสุกดีแล้ว ก็ใส่ผักลงไป เป็นอันเสร็จพิธี
ระหว่างที่ต้มนั่นต้มนี่อยู่ ก็อย่าปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์
ปรุงรสน้ำต้มยำเตรียมไว้เลย ด้วยการบุบพริกขี้หนู
เทน้ำปลาและมะนาวในอัตราส่วนเท่า ๆ กันลงไป
ตักต้มยำใส่ถ้วย (หรือในที่นี้คือชาม) โรยหน้าด้วยผักต่าง ๆ ที่เตรียมไว้
เช่น กระเพรา ผักชีฝรั่ง พริกแห้งทอด
ซดน้ำเสียงดังโฮกกับความแซ่บ โล่งจมูก โล่งคอดีนักแลค่ะ
หน้านี้โตเหมี่ยวซึ่งคนฮ่องกงเรียกว่าโต๊หมี่วมีขายกันเต็มตลาดเลยค่ะ
สนนราคาก็ค่อนข้างแพง คือตั้งแต่ปอนด์ละ 20 เหรียญปลาย ๆ
ไปจนถึง 30 เหรียญต้น ๆ คูณ 4 เข้าไปจะออกมาเป็นเงินบาท
เอามาผัดใส่น้ำมันหอยซึ่งต่างกับน้ำมันหอยของเมืองไทยหลายยี่ห้อ
ที่รสชาติและความเข้มข้นยังอ่อนด้อย (สมราคา)
เหยาะน้ำมันงาไปซักหยดสองหยด ไม่ต้องปรุงรสเพิ่มแล้วค่ะ อร่อยเลย
กองเบ้อเริ่มเมื่อตะกี้ พอผัดแล้วเหลือแค่นี้เองค่ะ
ช่วงนี้เป็นฤดูของมัน อิชั้นก็กินแต่โต๊หมี่วนี่แหละค่ะทุกอาทิตย์เลย
พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ