เมษายน 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ห้องอาหารศาลาริมน้ำ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ


ชื่อร้าน : ห้องอาหารศาลาริมน้ำ
รายการอาหาร : อาหารไทย
ที่ตั้งร้าน : โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
บางรัก กรุงเทพมหานคร Thailand
พิกัด GPS : 13° 43' 24.87" N 100° 30' 40.98" E



 
อีกหนึ่งร้านที่ ป้าเดซี่ จัดไปตอนกลับเมืองไทย
เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาหยก ๆ ก็คือ ..

ห้องอาหารศาลาริมน้ำ
ของโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นี่แหละค่ะ









เป็นการไปซ้ำรอบสอง
หลังจากเคยฉายเดี่ยวไปคนเดียวมาเมื่อ 2 ปีก่อน
คราวนี้ควงเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
น้องเพื่อน และหลานเพื่อนมาร่วมโต๊ะด้วย










เพื่อนกลุ่มนี้เนี่ย ....
หลังจากที่เรียนจบก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง
กลับมาเจอกันอีกทีใน Facebook เมื่อปีก่อนนี่เอง










พวกเราเคยนัดเจอกันไปแล้วครั้งหนึ่ง
หลังจากพลัดพรากกันไปกว่ายี่สิบปี
ครั้งนั้น คุณเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า ..
เธอจะเป็นธุระจัดหาร้านที่จะนัดเจอกันเอง









พอถึงวันนัด ด้วยความที่ต่างคนต่างมา จากต่างจังหวัดก็มี
เลยนัดเจอกันหลายจุด แล้วมาสมทบกับอิชั้นที่โลตุ๊ดอ่อนนุช
อิชั้นไปถึงก่อนเวลา นั่งรอพลก๊วนอยู่นานเลยทีเดียว กว่าจะมาถึงกัน









พอครบแล้ว ยังต้องขับรถหาทางไปร้านอาหารที่ว่ากันอีกเป็นชั่วโมง
มารู้ทีหลังว่า คุณเพื่อนก็ยังไม่เคยไปหรอกไอ้ร้านเนี้ย อ้าว !!!









เขียนไปเขียนมา ก็ขำตัวเอง
นั่งเม้าท์เพื่อนอย่างมันส์มือมันส์ปากเลยทีเดียว
เพื่อน ๆ บังเอิญเข้ามาอ่านจะเกลียดขี้หน้ากันไปยิ่งกว่านี้
แต่อ่ะนะ..ขอเผาอีกนิดละกัน ยังไม่จบ กร๊ากกส์









หลังกินกันเสร็จ ชาวคณะลงมติว่า ..
ร้านดังกล่าวมันไม่เหมาะในการนั่งเม้าท์มอยนาน ๆ
หรือถ่ายรูปออกลิงออกค่างแบบเอ็กซ์ตรีมกันได้อย่างใจ
(อิชั้นออกชะนี-ไม่เกี่ยวกับเค้า)
คุณเพื่อนอีกคนหนึ่งก็แนะนำว่า ...
เราไปถ่ายรูปต่อที่สวนหลวงร.9 กันมั้ย









หะแรก ... อิชั้นก็เฉย ๆ นะ
เออ .. ยังไม่เคยไปเหมือนกัน ลองไปดูซิ
ไอ้ที่เค้าว่า “พรรณไม้งาม อร่ามสวนหลวงร.9” นั้นมันเป็นฉันท์ใด









ปรากฏว่าเมื่อไปถึง ... ไหนล่ะไม้งาม ชั้นเห็นแต่ต้อยติ่ง
เจ้าหลานบอกว่า ต้องเดินไปอีกป้า ...

ไม่เอา ไม่เดิน ป้าทั้งร้อน ทั้งแสบหน้าไปหมดแล้ว
กรุงเทพฯเดือนเมษายน เวลาบ่าย ๆ คุณคิดดูเหอะ
"ฝ้าชั้นขึ้นเต็มเพดานหมดแล้ว !!"









ที่น่งที่นั่งก็ไม่มี ต้องนั่งกะพื้นกะหญ้า อนาถาสุด ๆ
วันนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวโรงงานตกยาก
ที่เผอิญหิ้ว Neverfull ปลอมยังไงไม่รู้นะ









ซึ่ง Neverfull น่ะไม่ปลอม .....
แต่คนดี ๆ ที่ไหนเค้าจะหิ้วของจริงมาถูลู่ถูกังขนาดนี้

"วันอาทิตย์ โรงงานหยุดล่ะซี้ เลยมาปิกนิกตามสวนสาธารณะ ??"

เนอะ ... เค้าต้องคิดแบบนี้ ว่ามั้ย










มาคราวนี้ อิชั้นเลยแก้แค้นพลพรรคเข้าให้
คราวที่แล้วหลอกให้อิชั้นไปเป็นสาวโรงงานเหรอ ??











คราวนี้อิชั้นจะลวงให้พวกหล่อนมาเป็นไฮโซไฮซ้อเทียมกันบ้าง
เอาให้วางตัว วางหัว วางไหล่กันไม่ถูกเลยดีแมะ











หลังจากตบตีกันอยู่พักใหญ่ พูดรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง
(เฮ้อ .. กลุ้มใจ)

ก็ตกลงนัดหมายมาที่นี่กัน











อิชั้นไปถึงโรงแรมก่อนเวลานัดตามเคย
นั่งรอแป๊บเดียว น้ำฝน หลานสาวคนโปรดก็มาสมทบ
คุยกับเจ้าน้ำ ถ่ายรูปเล่น โน่นนี่ไปจนเลยเวลานัด
ก็ได้รับข้อความจากเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มว่าจะมากันช้าเลยนะ
เพราะเพื่อนอีกคนซึ่งอาสาขับรถรับส่งเพื่อนฝูงเธอเพิ่งจะตื่น
เห็นว่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกรึไงเนี่ยแหละ










2 !!!
(นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พวกหล่อนมาสาย)

อิชั้นสะบัดบ๊อบใส่ นั่งเรือข้ามฝากไปถ่ายรูปกับเจ้าน้ำกันก่อนเลย
(ห้องอาหารศาลาริมน้ำ ตั้งอยู่คนละฝั่งกับตัวโรงแรม ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปค่ะ)











วันที่ไปหม่ำกันนั้นเป็นวันอาทิตย์
อิชั้นก็คิดว่าคนคงจะเยอะพอสมควร เพราะเป็นวันหยุดเนอะ
ปรากฏว่าผิดคาด คนไม่ได้เยอะพอสมควร
แต่เยอะมาก เพราะมีบริษัทมาจัดสัมมนากันที่โรงแรมด้วย
แล้วกลุ่มผู้เข้าร่วมการสัมมนาเนี่ย
จำเพาะจะต้องมารับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่











ไอ้ที่คิดว่าอิชั้นจะไปถึงก่อน แล้วจะเดินนวยนาด
ถ่ายรูปไลน์บุฟเฟ่ต์อย่างสะดวกโยธิน
กลายเป็นว่าต้องหลบฉากไปถ่ายไลน์ขนมหวานกับผลไม้เสียนี่
ปล่อยให้ผู้ร่วมสัมมนาที่ท่าทางจะทั้งเบื่อ (การสัมมนา) ทั้งหิว
เคลื่อนทัพขยับท้องไปบุกไลน์อาหารคาวกันก่อน










ผู้ร่วมสัมมนาหลายท่านก็น่ารักมาก
แอบเหล่อิชั้นที่แบกกล้องตัวเบ้อเริ่มเดินร่อนถ่ายรูป
อิชั้นยิ้มให้เพื่อเป็นการทักทาย (และขอโทษที่กวนใจเธอ)
ท่าน ๆ ก็ยิ้มตอบอิชั้นอย่างเอ็นดู
(หรือว่าอาจจะกำลังปลงสังเวชอยู่)

"นางคนนี้ ...ท่าทางจะมาจากหลังเขา
คงไม่เคยเห็นไลน์บุฟเฟ่ต์มาก่อนเป็นแม่นมั่น
นางจะยืนดูอยู่อย่างเดียวหรือก็ไม่สาแก่ใจ
เลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เพราะดูได้นานกว่า"










ด้วยความที่อิชั้นเป็นกระเหรี่ยงบ้านนอก
อาหารไทยหายากหลายอย่าง
ที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำนำมาให้บริการนี้
อิชั้นไม่สามารถไปเสาะแสวงหาหรือทำกินเองได้











ขนมครก กล้วยทอด ขนมเบื้อง ข้าวตู ข้าวเมิง (มีมั้ย ??)
ข้าวแช่ ข้าวต้มน้ำวุ้น อย่างนี้
กระเหรี่ยงกี๊นเหล่เต่สิ่ง (ชื่อดอยที่อิชั้นอยู่) จะไปหาซื้อได้ที่ไหน











อิชั้นเดินกลับไปกลับมาระหว่างโต๊ะกับเตาขนมครกหลายรอบอยู่
แต่ละรอบก็จะมีขนมครกหลายฝาวางมาเต็มจาน
ออกตัวกับเพื่อน ๆ ด้วยความเขินว่า
อิชั้นไม่ได้กินขนมครกมาหลายปีแล้ว











ข้าวแช่ อาหารพิเศษตามฤดูกาล
ซึ่งทางห้องอาหารเค้าจัดมาให้ต่างหาก ในไลน์ไม่มี
โต๊ะอิชั้นมากัน 8 คน เค้าก็จัดมา 8 ชุด
กระเหรี่ยงอย่างอิชั้น ก็ตื่นตาตื่นใจ ถ่ายรูปอยู่นั่น












เพื่อนสาว 2 นางได้โซ้ยข้าวแช่ไป 2 คำก็เม้าท์มอย
"ไม่อร่อยเนอะ สู้ของเพชรบุรีไม่ได้"
อ่ะนะ ...












อิชั้นชอบบุฟเฟ่ต์ก็ตรงที่ มันมีไลน์อาหารหลากหลาย
การจะให้ถูกใจคนกินทุกคน ชอบอาหารทุกอย่างเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้
แต่อย่างน้อย ก็น่าจะมีจานโปรดของแต่ละคนกันซักสี่ซ้าห้าอย่างอ่ะนะ











เปรียบเทียบกับการไปกินอาหารที่ร้านธรรมดา
สมมุติว่าไปกัน 8 คน
เพื่อนคนไหนจะแสนดีถึงขนาดใส่ใจว่าคุณน่ะอยู่บ้านนอก
คุณไม่ได้กินอะไรมาหลายปี ? หรือคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษ ?












เพื่อความยุติธรรม ทุกคนสั่งอาหารกันได้คนละอย่าง
8 คน 8 อย่างเต็มโต๊ะแล้ว
อาหาร 8 อย่างนั้นเผอิญว่า
มันมีไอ้ที่คุณอยากกินหรือชอบกินแค่อย่างเดียว
ก็ไอ้ที่คุณสั่งนั่นไงล่ะ












เอ ... วันนี้ยายป้าเธอเป็นอะไร อารมณ์ไหนกันเนี่ย ฮ่า ฮ่า ??
ปล่อยอิชั้นไปสักคนเถอะค่ะคู๊ณณณณ

ความจริงคือเหนื่อย เมาโทรทัศน์ เมาคอมพิวเตอร์
นั่งหน้าจอ นานไปหน่อย อิอิ











มา .. เม้าท์ต่อกันให้จบบล็อก เหลืออีกแค่ไม่กี่รูปแล้ว












หลังจากรับประทานกันเสร็จสิ้น
เพื่อนบางคนก็ชม บางคนก็ติ บางคนก็ทั้งชมทั้งติ
ส่วนอิชั้นนั่น ชอบใจกับบรรดาอาหารนานาชนิด
เหมือนเมื่อตอนมาครั้งที่แล้ว
ชอบอันไหน ก็ตักเฉพาะที่ตัวเองชอบ
ไม่ได้ตักมาซะทุกอย่าง อ้วนจะตายอยู่แล้ว
เลยไม่มีการบ่นว่าอันนี้ไม่อร่อย อันนี้ไม่โดน อะไรอย่างนี้












แต่การบริการของคราวนี้นะ
เป็นรองเมื่อคราวที่แล้วอย่างกับเป็นคนละโรงแรม
คงเป็นเพราะว่าวันนี้แขกเต็มห้องอาหารด้วยน่ะแหละ
เลยขลุกขลักกันไปบ้าง อิชั้นก็เข้าใจนะ เม้าท์ให้ฟังเฉย ๆ











หลังอิ่มหนำ บรรดาลิง ค่าง บ่าง (ยกเว้นชะนีอย่างอิชั้น)
ก็ไปวาดลวดลายถ่ายรูปในสวนข้างห้องอาหารกันเป็นที่สนุกสนาน










อิชั้นซึ่งเป็นแม่งานจัดหาสถานที่มีตติ้งกันในครั้งนี้
ได้แต่หวังใจว่า คุณเพื่อนทั้งหลาย
คงจะอิ่มหนำสำราญกันตามสมควร











มากัน 8 คน จะให้ถูกใจไปหมดทั้ง 8 คนก็คงจะเป็นไปไม่ได้











เหมือนดั่งขนมครก ที่ยังต้องมีคว่ำมีหงาย (เกี่ยวมั้ย ??) 











สุดท้าย ... ลากันไปด้วยยำต่าง ๆ ในจาน
อิชั้นแทบจะไม่ได้ถ่ายรูปอาหารในจานตัวเองเลย
มัวแต่เม้าท์มอยค่ะ

ขอพูดถึงที่นี่สักนิด .... ห้องอาหารศาลาริมน้ำ
อาหารอร่อย ราคาไม่แพงมาก และบริการอบอุ่น

ที่นี่ เหมาะสำหรับคนไกลบ้านอย่างอิชั้นนี่แหละค่ะ
มาที่นี่ ที่เดียว ไอ้ที่อยากกิน ก็ได้กินเกือบครบหมด

ขอบคุณบรรดาพนักงานที่พยายามให้การต้อนรับ
ถึงแม้ว่าวันนั้นจะโดนกองทัพนักกินบุกกระหน่ำก็ตาม

ขอบคุณอีกทีที่ไม่เอาไม้มาเขี่ย หรือเอาน้ำร้อนมาสาดฝูงลิงฝูงนี้

สุดท้าย .. ขอขอบคุณผู้ที่คลิกเข้ามาดูรูป
บางท่านก็เผลออ่านเรื่องไร้สาระที่ยายป้าเม้าท์มอยกันซะตาแฉะ

พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ





Create Date : 22 เมษายน 2555
Last Update : 6 กันยายน 2557 12:01:37 น.
Counter : 9829 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ