ชื่อร้าน : ห้องอาหารศาลาริมน้ำรายการอาหาร : อาหารไทยที่ตั้งร้าน : โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯบางรัก กรุงเทพมหานคร Thailandพิกัด GPS : 13° 43' 24.87" N 100° 30' 40.98" E อีกหนึ่งร้านที่ ป้าเดซี่ จัดไปตอนกลับเมืองไทย เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาหยก ๆ ก็คือ ..ห้องอาหารศาลาริมน้ำ ของโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นี่แหละค่ะเป็นการไปซ้ำรอบสอง หลังจากเคยฉายเดี่ยวไปคนเดียวมาเมื่อ 2 ปีก่อนคราวนี้ควงเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย น้องเพื่อน และหลานเพื่อนมาร่วมโต๊ะด้วยเพื่อนกลุ่มนี้เนี่ย ....หลังจากที่เรียนจบก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางกลับมาเจอกันอีกทีใน Facebook เมื่อปีก่อนนี่เองพวกเราเคยนัดเจอกันไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากพลัดพรากกันไปกว่ายี่สิบปี ครั้งนั้น คุณเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า ..เธอจะเป็นธุระจัดหาร้านที่จะนัดเจอกันเองพอถึงวันนัด ด้วยความที่ต่างคนต่างมา จากต่างจังหวัดก็มีเลยนัดเจอกันหลายจุด แล้วมาสมทบกับอิชั้นที่โลตุ๊ดอ่อนนุช อิชั้นไปถึงก่อนเวลา นั่งรอพลก๊วนอยู่นานเลยทีเดียว กว่าจะมาถึงกัน พอครบแล้ว ยังต้องขับรถหาทางไปร้านอาหารที่ว่ากันอีกเป็นชั่วโมงมารู้ทีหลังว่า คุณเพื่อนก็ยังไม่เคยไปหรอกไอ้ร้านเนี้ย อ้าว !!!เขียนไปเขียนมา ก็ขำตัวเอง นั่งเม้าท์เพื่อนอย่างมันส์มือมันส์ปากเลยทีเดียวเพื่อน ๆ บังเอิญเข้ามาอ่านจะเกลียดขี้หน้ากันไปยิ่งกว่านี้ แต่อ่ะนะ..ขอเผาอีกนิดละกัน ยังไม่จบ กร๊ากกส์ หลังกินกันเสร็จ ชาวคณะลงมติว่า ..ร้านดังกล่าวมันไม่เหมาะในการนั่งเม้าท์มอยนาน ๆ หรือถ่ายรูปออกลิงออกค่างแบบเอ็กซ์ตรีมกันได้อย่างใจ(อิชั้นออกชะนี-ไม่เกี่ยวกับเค้า)คุณเพื่อนอีกคนหนึ่งก็แนะนำว่า ... เราไปถ่ายรูปต่อที่สวนหลวงร.9 กันมั้ย หะแรก ... อิชั้นก็เฉย ๆ นะ เออ .. ยังไม่เคยไปเหมือนกัน ลองไปดูซิไอ้ที่เค้าว่า พรรณไม้งาม อร่ามสวนหลวงร.9 นั้นมันเป็นฉันท์ใดปรากฏว่าเมื่อไปถึง ... ไหนล่ะไม้งาม ชั้นเห็นแต่ต้อยติ่ง เจ้าหลานบอกว่า ต้องเดินไปอีกป้า ... ไม่เอา ไม่เดิน ป้าทั้งร้อน ทั้งแสบหน้าไปหมดแล้วกรุงเทพฯเดือนเมษายน เวลาบ่าย ๆ คุณคิดดูเหอะ"ฝ้าชั้นขึ้นเต็มเพดานหมดแล้ว !!" ที่น่งที่นั่งก็ไม่มี ต้องนั่งกะพื้นกะหญ้า อนาถาสุด ๆ วันนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวโรงงานตกยากที่เผอิญหิ้ว Neverfull ปลอมยังไงไม่รู้นะซึ่ง Neverfull น่ะไม่ปลอม .....แต่คนดี ๆ ที่ไหนเค้าจะหิ้วของจริงมาถูลู่ถูกังขนาดนี้ "วันอาทิตย์ โรงงานหยุดล่ะซี้ เลยมาปิกนิกตามสวนสาธารณะ ??" เนอะ ... เค้าต้องคิดแบบนี้ ว่ามั้ยมาคราวนี้ อิชั้นเลยแก้แค้นพลพรรคเข้าให้ คราวที่แล้วหลอกให้อิชั้นไปเป็นสาวโรงงานเหรอ ??คราวนี้อิชั้นจะลวงให้พวกหล่อนมาเป็นไฮโซไฮซ้อเทียมกันบ้างเอาให้วางตัว วางหัว วางไหล่กันไม่ถูกเลยดีแมะ หลังจากตบตีกันอยู่พักใหญ่ พูดรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง(เฮ้อ .. กลุ้มใจ)ก็ตกลงนัดหมายมาที่นี่กัน อิชั้นไปถึงโรงแรมก่อนเวลานัดตามเคย นั่งรอแป๊บเดียว น้ำฝน หลานสาวคนโปรดก็มาสมทบคุยกับเจ้าน้ำ ถ่ายรูปเล่น โน่นนี่ไปจนเลยเวลานัดก็ได้รับข้อความจากเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มว่าจะมากันช้าเลยนะ เพราะเพื่อนอีกคนซึ่งอาสาขับรถรับส่งเพื่อนฝูงเธอเพิ่งจะตื่น เห็นว่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกรึไงเนี่ยแหละ 2 !!! (นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พวกหล่อนมาสาย) อิชั้นสะบัดบ๊อบใส่ นั่งเรือข้ามฝากไปถ่ายรูปกับเจ้าน้ำกันก่อนเลย(ห้องอาหารศาลาริมน้ำ ตั้งอยู่คนละฝั่งกับตัวโรงแรม ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปค่ะ)วันที่ไปหม่ำกันนั้นเป็นวันอาทิตย์ อิชั้นก็คิดว่าคนคงจะเยอะพอสมควร เพราะเป็นวันหยุดเนอะปรากฏว่าผิดคาด คนไม่ได้เยอะพอสมควรแต่เยอะมาก เพราะมีบริษัทมาจัดสัมมนากันที่โรงแรมด้วยแล้วกลุ่มผู้เข้าร่วมการสัมมนาเนี่ย จำเพาะจะต้องมารับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ไอ้ที่คิดว่าอิชั้นจะไปถึงก่อน แล้วจะเดินนวยนาดถ่ายรูปไลน์บุฟเฟ่ต์อย่างสะดวกโยธินกลายเป็นว่าต้องหลบฉากไปถ่ายไลน์ขนมหวานกับผลไม้เสียนี่ ปล่อยให้ผู้ร่วมสัมมนาที่ท่าทางจะทั้งเบื่อ (การสัมมนา) ทั้งหิวเคลื่อนทัพขยับท้องไปบุกไลน์อาหารคาวกันก่อน ผู้ร่วมสัมมนาหลายท่านก็น่ารักมาก แอบเหล่อิชั้นที่แบกกล้องตัวเบ้อเริ่มเดินร่อนถ่ายรูปอิชั้นยิ้มให้เพื่อเป็นการทักทาย (และขอโทษที่กวนใจเธอ)ท่าน ๆ ก็ยิ้มตอบอิชั้นอย่างเอ็นดู (หรือว่าอาจจะกำลังปลงสังเวชอยู่) "นางคนนี้ ...ท่าทางจะมาจากหลังเขา คงไม่เคยเห็นไลน์บุฟเฟ่ต์มาก่อนเป็นแม่นมั่น นางจะยืนดูอยู่อย่างเดียวหรือก็ไม่สาแก่ใจ เลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เพราะดูได้นานกว่า" ด้วยความที่อิชั้นเป็นกระเหรี่ยงบ้านนอกอาหารไทยหายากหลายอย่าง ที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำนำมาให้บริการนี้ อิชั้นไม่สามารถไปเสาะแสวงหาหรือทำกินเองได้ขนมครก กล้วยทอด ขนมเบื้อง ข้าวตู ข้าวเมิง (มีมั้ย ??)ข้าวแช่ ข้าวต้มน้ำวุ้น อย่างนี้กระเหรี่ยงกี๊นเหล่เต่สิ่ง (ชื่อดอยที่อิชั้นอยู่) จะไปหาซื้อได้ที่ไหน อิชั้นเดินกลับไปกลับมาระหว่างโต๊ะกับเตาขนมครกหลายรอบอยู่แต่ละรอบก็จะมีขนมครกหลายฝาวางมาเต็มจานออกตัวกับเพื่อน ๆ ด้วยความเขินว่า อิชั้นไม่ได้กินขนมครกมาหลายปีแล้วข้าวแช่ อาหารพิเศษตามฤดูกาลซึ่งทางห้องอาหารเค้าจัดมาให้ต่างหาก ในไลน์ไม่มีโต๊ะอิชั้นมากัน 8 คน เค้าก็จัดมา 8 ชุดกระเหรี่ยงอย่างอิชั้น ก็ตื่นตาตื่นใจ ถ่ายรูปอยู่นั่นเพื่อนสาว 2 นางได้โซ้ยข้าวแช่ไป 2 คำก็เม้าท์มอย "ไม่อร่อยเนอะ สู้ของเพชรบุรีไม่ได้"อ่ะนะ ...อิชั้นชอบบุฟเฟ่ต์ก็ตรงที่ มันมีไลน์อาหารหลากหลายการจะให้ถูกใจคนกินทุกคน ชอบอาหารทุกอย่างเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้แต่อย่างน้อย ก็น่าจะมีจานโปรดของแต่ละคนกันซักสี่ซ้าห้าอย่างอ่ะนะเปรียบเทียบกับการไปกินอาหารที่ร้านธรรมดาสมมุติว่าไปกัน 8 คนเพื่อนคนไหนจะแสนดีถึงขนาดใส่ใจว่าคุณน่ะอยู่บ้านนอก คุณไม่ได้กินอะไรมาหลายปี ? หรือคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษ ? เพื่อความยุติธรรม ทุกคนสั่งอาหารกันได้คนละอย่าง 8 คน 8 อย่างเต็มโต๊ะแล้ว อาหาร 8 อย่างนั้นเผอิญว่า มันมีไอ้ที่คุณอยากกินหรือชอบกินแค่อย่างเดียวก็ไอ้ที่คุณสั่งนั่นไงล่ะ เอ ... วันนี้ยายป้าเธอเป็นอะไร อารมณ์ไหนกันเนี่ย ฮ่า ฮ่า ??ปล่อยอิชั้นไปสักคนเถอะค่ะคู๊ณณณณความจริงคือเหนื่อย เมาโทรทัศน์ เมาคอมพิวเตอร์นั่งหน้าจอ นานไปหน่อย อิอิ มา .. เม้าท์ต่อกันให้จบบล็อก เหลืออีกแค่ไม่กี่รูปแล้วหลังจากรับประทานกันเสร็จสิ้น เพื่อนบางคนก็ชม บางคนก็ติ บางคนก็ทั้งชมทั้งติ ส่วนอิชั้นนั่น ชอบใจกับบรรดาอาหารนานาชนิดเหมือนเมื่อตอนมาครั้งที่แล้วชอบอันไหน ก็ตักเฉพาะที่ตัวเองชอบ ไม่ได้ตักมาซะทุกอย่าง อ้วนจะตายอยู่แล้วเลยไม่มีการบ่นว่าอันนี้ไม่อร่อย อันนี้ไม่โดน อะไรอย่างนี้ แต่การบริการของคราวนี้นะ เป็นรองเมื่อคราวที่แล้วอย่างกับเป็นคนละโรงแรมคงเป็นเพราะว่าวันนี้แขกเต็มห้องอาหารด้วยน่ะแหละเลยขลุกขลักกันไปบ้าง อิชั้นก็เข้าใจนะ เม้าท์ให้ฟังเฉย ๆ หลังอิ่มหนำ บรรดาลิง ค่าง บ่าง (ยกเว้นชะนีอย่างอิชั้น) ก็ไปวาดลวดลายถ่ายรูปในสวนข้างห้องอาหารกันเป็นที่สนุกสนานอิชั้นซึ่งเป็นแม่งานจัดหาสถานที่มีตติ้งกันในครั้งนี้ได้แต่หวังใจว่า คุณเพื่อนทั้งหลาย คงจะอิ่มหนำสำราญกันตามสมควร มากัน 8 คน จะให้ถูกใจไปหมดทั้ง 8 คนก็คงจะเป็นไปไม่ได้เหมือนดั่งขนมครก ที่ยังต้องมีคว่ำมีหงาย (เกี่ยวมั้ย ??) สุดท้าย ... ลากันไปด้วยยำต่าง ๆ ในจานอิชั้นแทบจะไม่ได้ถ่ายรูปอาหารในจานตัวเองเลย มัวแต่เม้าท์มอยค่ะ ขอพูดถึงที่นี่สักนิด .... ห้องอาหารศาลาริมน้ำ อาหารอร่อย ราคาไม่แพงมาก และบริการอบอุ่นที่นี่ เหมาะสำหรับคนไกลบ้านอย่างอิชั้นนี่แหละค่ะมาที่นี่ ที่เดียว ไอ้ที่อยากกิน ก็ได้กินเกือบครบหมดขอบคุณบรรดาพนักงานที่พยายามให้การต้อนรับ ถึงแม้ว่าวันนั้นจะโดนกองทัพนักกินบุกกระหน่ำก็ตามขอบคุณอีกทีที่ไม่เอาไม้มาเขี่ย หรือเอาน้ำร้อนมาสาดฝูงลิงฝูงนี้สุดท้าย .. ขอขอบคุณผู้ที่คลิกเข้ามาดูรูป บางท่านก็เผลออ่านเรื่องไร้สาระที่ยายป้าเม้าท์มอยกันซะตาแฉะ พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ
อีกหนึ่งร้านที่ ป้าเดซี่ จัดไปตอนกลับเมืองไทย เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาหยก ๆ ก็คือ ..ห้องอาหารศาลาริมน้ำ ของโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นี่แหละค่ะเป็นการไปซ้ำรอบสอง หลังจากเคยฉายเดี่ยวไปคนเดียวมาเมื่อ 2 ปีก่อนคราวนี้ควงเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย น้องเพื่อน และหลานเพื่อนมาร่วมโต๊ะด้วยเพื่อนกลุ่มนี้เนี่ย ....หลังจากที่เรียนจบก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางกลับมาเจอกันอีกทีใน Facebook เมื่อปีก่อนนี่เองพวกเราเคยนัดเจอกันไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากพลัดพรากกันไปกว่ายี่สิบปี ครั้งนั้น คุณเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า ..เธอจะเป็นธุระจัดหาร้านที่จะนัดเจอกันเองพอถึงวันนัด ด้วยความที่ต่างคนต่างมา จากต่างจังหวัดก็มีเลยนัดเจอกันหลายจุด แล้วมาสมทบกับอิชั้นที่โลตุ๊ดอ่อนนุช อิชั้นไปถึงก่อนเวลา นั่งรอพลก๊วนอยู่นานเลยทีเดียว กว่าจะมาถึงกัน พอครบแล้ว ยังต้องขับรถหาทางไปร้านอาหารที่ว่ากันอีกเป็นชั่วโมงมารู้ทีหลังว่า คุณเพื่อนก็ยังไม่เคยไปหรอกไอ้ร้านเนี้ย อ้าว !!!เขียนไปเขียนมา ก็ขำตัวเอง นั่งเม้าท์เพื่อนอย่างมันส์มือมันส์ปากเลยทีเดียวเพื่อน ๆ บังเอิญเข้ามาอ่านจะเกลียดขี้หน้ากันไปยิ่งกว่านี้ แต่อ่ะนะ..ขอเผาอีกนิดละกัน ยังไม่จบ กร๊ากกส์ หลังกินกันเสร็จ ชาวคณะลงมติว่า ..ร้านดังกล่าวมันไม่เหมาะในการนั่งเม้าท์มอยนาน ๆ หรือถ่ายรูปออกลิงออกค่างแบบเอ็กซ์ตรีมกันได้อย่างใจ(อิชั้นออกชะนี-ไม่เกี่ยวกับเค้า)คุณเพื่อนอีกคนหนึ่งก็แนะนำว่า ... เราไปถ่ายรูปต่อที่สวนหลวงร.9 กันมั้ย หะแรก ... อิชั้นก็เฉย ๆ นะ เออ .. ยังไม่เคยไปเหมือนกัน ลองไปดูซิไอ้ที่เค้าว่า พรรณไม้งาม อร่ามสวนหลวงร.9 นั้นมันเป็นฉันท์ใดปรากฏว่าเมื่อไปถึง ... ไหนล่ะไม้งาม ชั้นเห็นแต่ต้อยติ่ง เจ้าหลานบอกว่า ต้องเดินไปอีกป้า ... ไม่เอา ไม่เดิน ป้าทั้งร้อน ทั้งแสบหน้าไปหมดแล้วกรุงเทพฯเดือนเมษายน เวลาบ่าย ๆ คุณคิดดูเหอะ"ฝ้าชั้นขึ้นเต็มเพดานหมดแล้ว !!" ที่น่งที่นั่งก็ไม่มี ต้องนั่งกะพื้นกะหญ้า อนาถาสุด ๆ วันนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวโรงงานตกยากที่เผอิญหิ้ว Neverfull ปลอมยังไงไม่รู้นะซึ่ง Neverfull น่ะไม่ปลอม .....แต่คนดี ๆ ที่ไหนเค้าจะหิ้วของจริงมาถูลู่ถูกังขนาดนี้ "วันอาทิตย์ โรงงานหยุดล่ะซี้ เลยมาปิกนิกตามสวนสาธารณะ ??" เนอะ ... เค้าต้องคิดแบบนี้ ว่ามั้ยมาคราวนี้ อิชั้นเลยแก้แค้นพลพรรคเข้าให้ คราวที่แล้วหลอกให้อิชั้นไปเป็นสาวโรงงานเหรอ ??คราวนี้อิชั้นจะลวงให้พวกหล่อนมาเป็นไฮโซไฮซ้อเทียมกันบ้างเอาให้วางตัว วางหัว วางไหล่กันไม่ถูกเลยดีแมะ หลังจากตบตีกันอยู่พักใหญ่ พูดรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง(เฮ้อ .. กลุ้มใจ)ก็ตกลงนัดหมายมาที่นี่กัน อิชั้นไปถึงโรงแรมก่อนเวลานัดตามเคย นั่งรอแป๊บเดียว น้ำฝน หลานสาวคนโปรดก็มาสมทบคุยกับเจ้าน้ำ ถ่ายรูปเล่น โน่นนี่ไปจนเลยเวลานัดก็ได้รับข้อความจากเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มว่าจะมากันช้าเลยนะ เพราะเพื่อนอีกคนซึ่งอาสาขับรถรับส่งเพื่อนฝูงเธอเพิ่งจะตื่น เห็นว่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกรึไงเนี่ยแหละ 2 !!! (นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พวกหล่อนมาสาย) อิชั้นสะบัดบ๊อบใส่ นั่งเรือข้ามฝากไปถ่ายรูปกับเจ้าน้ำกันก่อนเลย(ห้องอาหารศาลาริมน้ำ ตั้งอยู่คนละฝั่งกับตัวโรงแรม ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปค่ะ)วันที่ไปหม่ำกันนั้นเป็นวันอาทิตย์ อิชั้นก็คิดว่าคนคงจะเยอะพอสมควร เพราะเป็นวันหยุดเนอะปรากฏว่าผิดคาด คนไม่ได้เยอะพอสมควรแต่เยอะมาก เพราะมีบริษัทมาจัดสัมมนากันที่โรงแรมด้วยแล้วกลุ่มผู้เข้าร่วมการสัมมนาเนี่ย จำเพาะจะต้องมารับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ไอ้ที่คิดว่าอิชั้นจะไปถึงก่อน แล้วจะเดินนวยนาดถ่ายรูปไลน์บุฟเฟ่ต์อย่างสะดวกโยธินกลายเป็นว่าต้องหลบฉากไปถ่ายไลน์ขนมหวานกับผลไม้เสียนี่ ปล่อยให้ผู้ร่วมสัมมนาที่ท่าทางจะทั้งเบื่อ (การสัมมนา) ทั้งหิวเคลื่อนทัพขยับท้องไปบุกไลน์อาหารคาวกันก่อน ผู้ร่วมสัมมนาหลายท่านก็น่ารักมาก แอบเหล่อิชั้นที่แบกกล้องตัวเบ้อเริ่มเดินร่อนถ่ายรูปอิชั้นยิ้มให้เพื่อเป็นการทักทาย (และขอโทษที่กวนใจเธอ)ท่าน ๆ ก็ยิ้มตอบอิชั้นอย่างเอ็นดู (หรือว่าอาจจะกำลังปลงสังเวชอยู่) "นางคนนี้ ...ท่าทางจะมาจากหลังเขา คงไม่เคยเห็นไลน์บุฟเฟ่ต์มาก่อนเป็นแม่นมั่น นางจะยืนดูอยู่อย่างเดียวหรือก็ไม่สาแก่ใจ เลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เพราะดูได้นานกว่า" ด้วยความที่อิชั้นเป็นกระเหรี่ยงบ้านนอกอาหารไทยหายากหลายอย่าง ที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำนำมาให้บริการนี้ อิชั้นไม่สามารถไปเสาะแสวงหาหรือทำกินเองได้ขนมครก กล้วยทอด ขนมเบื้อง ข้าวตู ข้าวเมิง (มีมั้ย ??)ข้าวแช่ ข้าวต้มน้ำวุ้น อย่างนี้กระเหรี่ยงกี๊นเหล่เต่สิ่ง (ชื่อดอยที่อิชั้นอยู่) จะไปหาซื้อได้ที่ไหน อิชั้นเดินกลับไปกลับมาระหว่างโต๊ะกับเตาขนมครกหลายรอบอยู่แต่ละรอบก็จะมีขนมครกหลายฝาวางมาเต็มจานออกตัวกับเพื่อน ๆ ด้วยความเขินว่า อิชั้นไม่ได้กินขนมครกมาหลายปีแล้วข้าวแช่ อาหารพิเศษตามฤดูกาลซึ่งทางห้องอาหารเค้าจัดมาให้ต่างหาก ในไลน์ไม่มีโต๊ะอิชั้นมากัน 8 คน เค้าก็จัดมา 8 ชุดกระเหรี่ยงอย่างอิชั้น ก็ตื่นตาตื่นใจ ถ่ายรูปอยู่นั่นเพื่อนสาว 2 นางได้โซ้ยข้าวแช่ไป 2 คำก็เม้าท์มอย "ไม่อร่อยเนอะ สู้ของเพชรบุรีไม่ได้"อ่ะนะ ...อิชั้นชอบบุฟเฟ่ต์ก็ตรงที่ มันมีไลน์อาหารหลากหลายการจะให้ถูกใจคนกินทุกคน ชอบอาหารทุกอย่างเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้แต่อย่างน้อย ก็น่าจะมีจานโปรดของแต่ละคนกันซักสี่ซ้าห้าอย่างอ่ะนะเปรียบเทียบกับการไปกินอาหารที่ร้านธรรมดาสมมุติว่าไปกัน 8 คนเพื่อนคนไหนจะแสนดีถึงขนาดใส่ใจว่าคุณน่ะอยู่บ้านนอก คุณไม่ได้กินอะไรมาหลายปี ? หรือคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษ ? เพื่อความยุติธรรม ทุกคนสั่งอาหารกันได้คนละอย่าง 8 คน 8 อย่างเต็มโต๊ะแล้ว อาหาร 8 อย่างนั้นเผอิญว่า มันมีไอ้ที่คุณอยากกินหรือชอบกินแค่อย่างเดียวก็ไอ้ที่คุณสั่งนั่นไงล่ะ เอ ... วันนี้ยายป้าเธอเป็นอะไร อารมณ์ไหนกันเนี่ย ฮ่า ฮ่า ??ปล่อยอิชั้นไปสักคนเถอะค่ะคู๊ณณณณความจริงคือเหนื่อย เมาโทรทัศน์ เมาคอมพิวเตอร์นั่งหน้าจอ นานไปหน่อย อิอิ มา .. เม้าท์ต่อกันให้จบบล็อก เหลืออีกแค่ไม่กี่รูปแล้วหลังจากรับประทานกันเสร็จสิ้น เพื่อนบางคนก็ชม บางคนก็ติ บางคนก็ทั้งชมทั้งติ ส่วนอิชั้นนั่น ชอบใจกับบรรดาอาหารนานาชนิดเหมือนเมื่อตอนมาครั้งที่แล้วชอบอันไหน ก็ตักเฉพาะที่ตัวเองชอบ ไม่ได้ตักมาซะทุกอย่าง อ้วนจะตายอยู่แล้วเลยไม่มีการบ่นว่าอันนี้ไม่อร่อย อันนี้ไม่โดน อะไรอย่างนี้ แต่การบริการของคราวนี้นะ เป็นรองเมื่อคราวที่แล้วอย่างกับเป็นคนละโรงแรมคงเป็นเพราะว่าวันนี้แขกเต็มห้องอาหารด้วยน่ะแหละเลยขลุกขลักกันไปบ้าง อิชั้นก็เข้าใจนะ เม้าท์ให้ฟังเฉย ๆ หลังอิ่มหนำ บรรดาลิง ค่าง บ่าง (ยกเว้นชะนีอย่างอิชั้น) ก็ไปวาดลวดลายถ่ายรูปในสวนข้างห้องอาหารกันเป็นที่สนุกสนานอิชั้นซึ่งเป็นแม่งานจัดหาสถานที่มีตติ้งกันในครั้งนี้ได้แต่หวังใจว่า คุณเพื่อนทั้งหลาย คงจะอิ่มหนำสำราญกันตามสมควร มากัน 8 คน จะให้ถูกใจไปหมดทั้ง 8 คนก็คงจะเป็นไปไม่ได้เหมือนดั่งขนมครก ที่ยังต้องมีคว่ำมีหงาย (เกี่ยวมั้ย ??) สุดท้าย ... ลากันไปด้วยยำต่าง ๆ ในจานอิชั้นแทบจะไม่ได้ถ่ายรูปอาหารในจานตัวเองเลย มัวแต่เม้าท์มอยค่ะ ขอพูดถึงที่นี่สักนิด .... ห้องอาหารศาลาริมน้ำ อาหารอร่อย ราคาไม่แพงมาก และบริการอบอุ่นที่นี่ เหมาะสำหรับคนไกลบ้านอย่างอิชั้นนี่แหละค่ะมาที่นี่ ที่เดียว ไอ้ที่อยากกิน ก็ได้กินเกือบครบหมดขอบคุณบรรดาพนักงานที่พยายามให้การต้อนรับ ถึงแม้ว่าวันนั้นจะโดนกองทัพนักกินบุกกระหน่ำก็ตามขอบคุณอีกทีที่ไม่เอาไม้มาเขี่ย หรือเอาน้ำร้อนมาสาดฝูงลิงฝูงนี้สุดท้าย .. ขอขอบคุณผู้ที่คลิกเข้ามาดูรูป บางท่านก็เผลออ่านเรื่องไร้สาระที่ยายป้าเม้าท์มอยกันซะตาแฉะ พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ