++++ มามะมาพาข้ามน้ำข้ามทะเลสองพันกว่าไมล์เพื่อพบเธอ ซากุระ 2016 โตเกียว ++ part 5 จบแล้วค่ะ ++++




ความเดิมจากทั้ง 4 ตอนที่ผ่านมาค่ะ








วันนี้จะได้เที่ยววันสุดท้ายแล้วสินะ..ตื่นเช้ากินข้าวที่โรงแรมฝนตกอีกแล้วล่ะ

ดูพยากรณ์เค้าว่าอากาศสดใสในวันพรุ่งนี้ กลับพอดี เหอะๆๆ 





นั่งชัตเติ้ลบัสโรงแรมไปลงสถานี ueno คนขึ้นเยอะทุกเช้า





วันนี้ซื้อตั๋วรถไฟ JR จากสถานี ueno ไปลงสถานี Kamakura 

ราคาคนละ 920เยน 





แวะเปลี่ยนขบวนรถที่สถานี ofuna เจอตู้ไอติมกูลิโกะ อยากกินจะตาย 

แต่อากาศก็หนาวจะตายเช่นกัน





ฝนตกเรื่อยๆไม่มีหยุดพักผ่อน เพิ่มให้หนาวขึ้นไปอีก แล้วคิดยังไง

ไม่หยิบเสื้อกันหนาวมาห๊ะ!! Facepalm เซ็งตัวเอง..

เดินออกมาหน้าสถานี คนมาเที่ยวเยอะจังเลย ปล..เห็นเก๊ามั้ยยย?? 5555 

เพิ่งเห็นว่าตัวเองอยู่ในรูปเช่นกัน





เดินเข้าถนน komachi โดนดักตั้งแต่ร้านแรกเลย Totoro..กับ

 Kiki's delivery service ติ่งอย่างเราพุ่งตรงไปเลย





เข้าร้านแรกก่อนโตโตโร่ ส่วนกิกิ อยู่ซ้ายมือ น่าจะเป็นร้านเดียวกันแต่แยกห้องนะ





โดนผ้าเช็ดหน้า ตุ๊กตาที่ไว้เสียบบนปลายปากกาค่ะ มีฝรั่งซื้อตุ๊กตาโตโตโร่

ตัวใหญ่ 1 ตัว คนขายถามว่ามาจากใหน เค้ามาจากอังกฤษล่ะ ตอนเราจ่ายเงิน

เค้าก็ถามเหมือนกัน ฟอมไทยแลนด์..เราใช้เครดิตการ์ดรูดค่ะ

เพราะเงินสดจะหมดแว้ววว  เรทตัดบัตรอยู่ที่ 0.336 แรงเนอะะ 

รีบไปดีกว่าาา ก่อนจะเสียทรัพย์ไปมากกว่านี้ สามีเริ่มเรียกไม่ได้ยินล่ะ 5555

 ปล.ผ้าเช็ดหน้านุ่มมากกกกก






เสียเงินล่ะ สบายใจ 5555 ออกมาลุยฝนกันต่อค่ะ ตกปรอยๆแต่ก็เปียกได้ 






ขนมเซมเบ้ร้านนี้คนเข้าเยอะมากๆ แต่ไม่ได้ซื้อหรือชิมค่ะ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ





มึความรู้สึกว่าเดินยังไง๊ ยังไง ทำไม่ยังไม่ถึง ศาลเจ้า

Tsurugaoka Hachimangu สักทีนะ แต่ก็เดินเพลินนน  ชอบดอกไม้มากๆ 

เท่าที่เห็น 6 วันที่ผ่านมานี้ดอกไม้เยอะมากๆ แต่ละบ้านจะปลูกเป็นต้นเล็กๆ

ประดับไว้หน้าบ้าน





เจอร้านเครป เครปญี่ปุ่น แบบที่ขายในบ้านเรา เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละ





ที่คามาคุระดังเรื่องปลาชิราสึ หรือ ปลาข้าวสารนั่นเอง 

ไม่น่าเชื่อว่ามีไทยากิใส้ปลาชิราสึด้วย





เดินมาเรื่อยๆ จนสุดถนนเจอเสาโทริอิ แสดงว่าถึงแล้วล่ะ





ในศาลเจ้าด้านขวามือมีสวนเจอซากุระอีกแล้ว เย้ๆๆ กำลังฟูลบลูมเลย





อยากเดินเข้าไปถ่ายตรงสะพานแต่เค้ากั้นเพราะมีงาน เสียดายๆๆ

เลยเดินมาถ่ายด้านข้างๆมีสวนเล็กๆ มีดอกไม้ด้านในด้วยนะแต่ต้องเสียเงิน 

เลยไม่เข้าดีกว่า





ถ้าฟ้าใสๆคงสวยมากๆเลยนะเนี่ย เฮ้อออ..หนาวบรึ๋ยส์ๆๆ





ขึ้นมาด้านบนก็จะมีเครื่องลาง เซียมซี ไหว้สักการะขอพรกันค่ะ





ต้นไม้หน้าศาลเจ้าต้นนี้ สวยงามมากก ไม่รู้ว่าเป็นตามธรรมชาติหรือดัด





ขากลับเราจะเดินกลับอีกถนนค่ะ ต้นซากุระเต็มถนนเลยนะ 

ถ้ามาช่วงสงกรานต์ถนนเส้นนี้คงฟูลบลูม





บอกแล้วว่าปลาชิราสึดังจริงๆ สปาเกตตี้ พิซซ่า ก็ใส่ปลาข้าวสารนะ





ร้านที่เราจะหม่ำข้าวกลางวันวันนี้คือร้านข้าวอบปลาชิราสึนี่ล่ะค่ะ 

ชื่อร้าน kamakura kamameshi  ตามรีวิวมาเหมือนกัน เอาเป็นว่าเดินมา

จากถนนเมื่อเช้า ถนนคนเดิน komachi เจอร้าน village cafe 

จะมีซอยเล็กๆให้เลี้ยวขวาเข้าไปเลยค่ะ





เจอร้านนี้ก็ใช่เลย ไม่ผิดแน่นอนค่ะ





เราไปถึงยังพอมีที่ว่าง ได้นั่งตรงเคาเตอร์ยาวค่ะ เพราะไปกัน 2 คน 

ที่นี่สังเกตุดูต้องมา 4 คนขึ้นไปถึงจะได้นั่งโต๊ะนะ  เอาเมนูปลาชิราสึมาดูก่อนเลย









หรือถ้าอยากทานแบบอื่นก็มีข้าวหน้าต่างๆให้เลือกค่ะ แต่เป็นแบบข้าวอบนะ 

ถ้าจะกินเมนูนี้ต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่าต้องใจเย็นๆเลย ประมาณ 30 นาทีค่ะ 

ข้าวอบใช้เวลานานมากกก มาดูวิธีกินหน่อยสิ น่ารักเนอะมี how to 

วิธีกินที่ถูกต้องว่าต้องทำอย่างไร ดี๊ย์..ดี..





ในกระปุกด้านหน้าจะมีผัก วาซาบิ ซอส





สักพักมีสาหร่ายกับผักแกล้มมาเสิรฟ





ผ่านไป 30 นาทีได้ ในที่สุด ข้าวอบของช้านนน..





อิทาดะคิมัสสส..มาเริ่มวิธีการกินแบบแรกกันค่ะ ตักแบ่งใส่ถ้วยที่เค้าให้แยกมา

กินในหม้อมันร้อนนะเธอว์..เด๋วจะหาว่าไม่เตือนพี่ลองมาแล้ว

ของเค้าเอง..ข้าวอบปลาชิราสึกับไข่กุ้ง shirasu + ikura 1,800yen






ของคุณสามี..ข้าวอบปลาชิราสึกับเมนไทโกะ shirasu + mentaigo 1,500yen





แอบชิมเมนไทโกะของคุณสา..อร่อยอ่าาา อยากแลกกก 5555 

อะไรเอ่ยไม่เคยพอใจของๆตัวเอง Smiley





กินแบบแรกไปแล้ว ลองแบบที่สอง เค้าบอกว่าให้ใส่วาซาบิ สาหร่าย 

ผัก macropyll คล้ายผักชีแต่ไม่ใช่ค่ะ





มีเรื่องตลกจะเล่าให้ฟัง เค้าเอากาน้ำมาให้ ไอ้เราก็นึกว่าชาร้อนที่ไว้ดื่มหน่ะ 

เทพรวดใส่แก้วชาร้อน ดื่มไปอึกๆๆ  น้ำจะพุ่งงง..มันไม่ใช่อ่ะ มันคือน้ำซุป..

น้ำซุป..ที่ไว้เทใส่ข้าวกินแบบที่สามที่เค้าแนะนำอ่ะเธอว์..อ๋อยยยย





พูดได้คำเดียว เริ่ดดดด..อร่อยสมควรรอค่ะ เรากินหมดก่อนสามีเฉยเลย แหะๆๆ 

อ่ออ..ติเรื่องเดียว ด้านนอกเค้ามีให้คนที่สูบบุหรี่ แต่ ด้านในเค้าไม่ได้เปิดแอร์

หรือพัดลมระบายอากาศทำให้ห้องด้านในตลบอบอวลไปด้วยบุหรี่ 

เรานี่แสบตาเลย หายใจไม่ได้ต้องรีบกินรีบออก

ทางร้านให้นามบัตรมาค่ะ เผื่อโทรมาสั่งไว้ก่อน แหม่ะ..

กว่าจะได้มาอีกทีคงอีกนานเลย





เดินกลับมาที่สถานีค่ะ ซื้อตั๋วรถไฟ Enoshima kamakura free pass 

ราคาคนละ 700เยน  ใช้รถไฟ enoden ได้ไม่จำกัดเที่ยวต่อหนึ่งวันค่ะ 

เด๋วเรานั่งไปลงสถานี  enoshima ก่อนที่แรก









ลงมาถ่ายรูปหน้าสถานีนิดหน่อยแล้วไปต่อค่ะ ไปตามรอยหนังเรื่อง

 little our sisters ลงสถานี gokurakuji





สถานีที่ซึสึกับยตจังต้องมารอขึ้นรถไฟที่นี่ตอนเช้า





หนังดังมากๆเลยนะมีคนมาตามรอยเหมือนเราเยอะเลย แต่เราสังเกตุที่น้อง

ผู้หญิง 2 คน เค้าเดินออกจากสถานีไป  เรารีบเดินตาม 5555 มั่นใจว่าน้อง

ต้องรู้จักที่อื่น เดินตามออกไปข้ามสะพานเลี้ยวซ้ายเจอเข้ากับ 

Gokurakuji Temple  ดีใจที่สุดที่เดินตามมา





วัดโกคุระคุจิ ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากที่ใช้เป็นงานศพของคุณป้า

เจ้าของร้านขายข้าว และวันทำบุญงานศพคุณยายของนางเอก










โชคดีอีกแล้ว ซุ้มต้นซากุระบานต้อนรับเลย สวยงามมากกก





ด้านในวัดสวยงาม จำต้นไม้ต้นนี้และศาลานี้ได้เลย ดีใจวันนี้ได้มาถึงที่แล้ว





ขอบคุณน้องผู้หญิงญี่ปุ่น 2 คนที่เดินมาทำให้เราได้มาเจอกับวัดนี้





ชื่นชมความงามและได้ตามรอยหนังแล้ว มีความสุขมาก นั่งรถไฟไปวัดฮาเสะ

กันต่อค่ะ ลงสถานี Hase เดินต่ออีกไม่นานจะเจอวัดค่ะ ค่าเข้าชมคนละ 300เยน

 กดซื้อที่ตู้หรือเคาเตอร์ก็ได้





สวนด้านในสวยมากๆ ดอกไม้หลากหลายเลยค่ะ 





วัดฮาเซเดระเป็นวัดพุทธ มีตุ๊กตาหินพระนับพันตัวเลย





ด้านบนจะเป็นร้านอาหารและจุดชมวิวเมืองคามาคุระ สาวญี่ปุ่นกับชุดกิโมโน 





ไหว้สักการะพระพุทธรูปและเจ้าแม่กวนอิมด้านในค่ะ





ซากุระต้นใหญ่ด้านหน้าใครๆก็มาถ่ายรูปด้วย 





แวะพักเหนื่อยชมวิว กินซาลาเปา กับ น้ำมะเน็ด ซาลาเปาเจ 210เยน น้ำ210เยน

อร่อยดีโดยเฉพาะน้ำมะเน็จ เปรี้ยว ซ่าส์ สะใจ









ซาลาเปาใส้ผักค่ะ ที่นี่ทานมังสวิรัติกัน ร้านอาหารด้านบนก็เป็นมังสวิรัต





ซากุระต้นนี้ถ่ายมุมใหนก็สวยไปหมด ขอมุมเสยกับพระพุทธรูปบ้าง





ได้เวลากลับแล้วสินะ รอขึ้นรถไฟกลับไปโตเกียวกัน เดี๋ยวถึงดึก

เพราะวันนี้ต้องหาซื้อของแล้ว





มื้อเย็นฝากท้องไว้ที่ร้านตู้กดสถานี ueno ร้านนี้มีให้เลือกหลายอย่างดีนะ 

ราคาถูกด้วย Smiley









กดข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอด 550เยน ราเม็งเป็ด 420เยน 

ข้าวราดแกงกะหรี่ 400เยน













ภายในร้านมีทั้งนั่ง และยืนกิน รสชาติอาหารอร่อยดีค่ะ เยอะด้วย 





เช้าวันที่ 7 ที่ได้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นวันนี้เราต้องบอกลากันแล้วนะ 

กินอาหารเช้าก่อนแล้วขึ้นชัตเติ้ลบัสไปลงสถานี ueno

ดอกซากุระหน้าโรงแรมมาบานเอาวันจะกลับ เป็นพันธุ์กลีบดอกซ้อนๆกัน 

สวยดีสีเข้มด้วย Smiley





แดดดีเชียวนะ แหม่ะ..ที่ผ่านมาฝนตกแทบทุกวัน 





ไฟลท์ออก 10.50น ขากลับเราซื้อตั๋วรถไฟ JR จาก ueno ลงสถานี 

JR Shinagawa เพื่อจะต่อรถไฟเข้าสนามบินฮาเนดะ (keikyu line) 

ที่เราซื้อไว้ตั้งแต่ขามาลืมไปแล้วอ่ะยังงง..

ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลย ลำบากมากก ลากกระเป๋าใหญ่และหนักเบียดกับคน

ที่ไปทำงานตอนเช้าๆ วันนี้ลำบากสุดอ่ะ  แถมช่วงรอยต่อที่สถานีชินนากาว่า

รีบจนลืมดูลืมฟัง กระโดดขึ้นรถไฟ ได้ยินเค้าประกาศว่าฮาเนดะๆๆ อะไรสักอย่าง

ไม่รู้นึกไงกระโดดลงทันปิดประตูพอดี เดินไปถามจนท.เค้าบอกว่าต้องขึ้น

ขบวนถัดไป..นั่นไงๆๆ เกือบไปแล้ว   มาถึงสนามบินแบบเวลากระชั้นชิด 

สนามบินตอนเช้าแถวยาวพอควรเลยค่ะ แต่ไวนะไม่นานเลย

โหลดกระเป๋าเรียบร้อยด้านบนมีร้านขายอาหาร 

ของฝากให้เดินก่อนเข้าเกทล่ะ เอโดะแลนด์





เท่าที่เดินดูราคาอาหารไม่แพงเลยนะ เท่าๆกับด้านนอก มาเช้าไปร้านยังไม่เปิด

 ส่วนใหญ่ร้านเปิด 10 โมงค่ะ





เดินเข้ามาด้านในเกทยังคงมีร้านอาหารและร้านขายของฝากอยู่ 

ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับร้านด้านนอก





เห็นภาพนี้แล้วขำ เพราะส่วนใหญ่เป็นกันแบบนี้แต่วันนี้ไม่มีให้เห็นนะคะ 

สนามบินฮาเนดะคนน้อยไม่วุ่นวายชอบค่ะ





รอไม่นานได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ Bye..จนกว่าเราจะพบกันใหม่..คงได้พบกันอีก





ขากลับเลือกนั่งฝั่งขวามือ ฟูจิซัง..มาส่งกลับบ้าน Smiley





เครื่องไต่ระดับได้สักพักแอร์เดินแจกผ้าเย็น น้ำเปล่า เครื่องดื่ม ขนมข้าวกรอบๆ









อาหารกลางวัน เลือกเป็นข้าวหน้าปลาแซลมอน อีกอย่างรู้สึกจะเป็น

ไก่อบสมุนไพรค่ะ  เลือกเครื่องดื่มได้ตามอัธยาศัย เราเลือกน้ำมะนาวเช่นเคย 

คุณผช.ขอเบียร์ซัปโปโร





ข้าวอร่อยค่ะ ตอนใกล้จะถึงรู้สึกเวียนหัวอยากได้อะไรซ่าๆ น้องแอร์บอกว่า

ต้องขอประทานโทษท่านผดส. เครื่องดื่มที่เป็นส่วนผสมโซดาหมดสต๊อคค่าาาา 

OMG!! ชั้นช้าไปสินะ..Smiley

ไม่เป็นไรๆ เอาน้ำมะนาวก็ด่ะ..ก่อนลงเสิรฟขนมกับเครื่องดื่มอีกแล้ว 

อิ่มสบายหายห่วงค่าาา





ถึงเมืองไทย 4โมงเย็น เค้ายังไม่พร้อมรับอากาศร้อนนนน เอาของที่ซื้อมา

ให้ดูคร่าวๆค่ะ อันนี้ของคุณสามี เบียร์ซื้อฝากลูกน้องจากที่ลางานมาหลายวัน อิอิ





ของตัวเอง เที่ยวนี้ไม่ได้ช้อปปิ้งเลยอ่ะ 7-11 ยังไม่ได้เข้าเลยคิดดู 

เป็นไปได้ยังไงกัน Smiley





ขับรถกลับมาถึงบ้าน อาหารที่อยากกินที่สุดเลยคือ ส้มตำ ต้มแซ่บ อะไรแซ่บๆๆ





จัดมาค่ะ..จัดมา..อยากให้หายคัดจมูกจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง














และแล้วทริปนี้ก็จบลงอย่างสวยงาม มีหลงบ้างไรบ้างเพิ่มรสชาติให้ชีวิต

ชอบสนามบินฮาเนดะที่คนน้อยไม่วุ่นวาย แต่ขนมมีน้อยกว่าที่นาริตะ

น้อยกว่าเห็นได้ชัด และสิ่งที่เซ็งรอบสองคือ ซื้อขนมมาแล้วเจอขึ้นราซะงั้น..

ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ วันหมดอายุอีกตั้ง 2 เดือน ประเด็นคือไม่อร่อยด้วย

เลยไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่ค่ะ 5555 ยังเหลือรีวิวดองเค็มอีก 2 ทริป

ร้านอาหารอีกหลายร้านเลย จะพยายามอัพโดยเร็วที่สุดค่ะ Smiley









Create Date : 12 พฤษภาคม 2559
Last Update : 13 พฤษภาคม 2559 17:14:15 น.
Counter : 1234 Pageviews.

1 comments
  
ทริปนี้ได้ดูซากุระบานสมใจสินะคะ ฟูลบลูมจริง ๆ ด้วย
อาหารเมืองไหน ๆ ก็สู้ของไทยเราไม่ได้หรอกเนอะ
ในที่สุดก็กลับมาตายรัง โซ้ยส้มตำสบายจายยย อิอิ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 13 พฤษภาคม 2559 เวลา:18:25:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

life for eat and travel
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



New Comments
พฤษภาคม 2559

3
5
6
7
8
9
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog