บันทึกแฟนฝรั่ง (2)ทำงานที่เดียวกันมันดีซะที่ไหนล่ะ

ต่อจากตอนที่แล้ว…ชั้นกับแฟนทำงานที่เดียวกันค่ะ เค้าเป็นทนายเยอรมัน ชั้นเป็นผู้ช่วยงานกฎหมาย

เพื่อนสนิทชั้นหลายคนต่างอิจฉาที่ชั้นมีแฟนทำงานที่เดียวกัน ได้เจอหน้ากันทุกวัน ตลอดทั้งวัน แต่สำหรับชั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างเค้าคิดหรอก…โดยเฉพาะตอนแรกนี่บอกเลย อุปสรรคมากๆ

ชั้นได้ยินเสียงลือมาตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆแล้วว่า เจ้าของบริษัทชาวเยอรมันที่นี่ดุมาก ชอบโวยวาย โดยเฉพาะกับทนายเยอรมันเค้าจะจุกจิกเป็นพิเศษ ให้ทำทั้งงานกฎหมาย ให้ทำทั้งงานสัพเพเหระของเขา จนทนายเยอรมันที่นี่ลาออกกันไปหลายคนเพราะรำคาญทนเจ้าของบริษัทไม่ได้ บางคนก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนก็ออกแล้ว

อีกเรื่องนึงที่ชั้นได้ยินมาคือ ทนายคนก่อนที่แฟนชั้นจะเข้ามาทำงานแทน เคยโดนขู่จากเจ้าของว่าถ้าจีบพนักงานไทยที่นี่ จะไล่ออก!

แต่ถึงจะโดนขู่ทนายเยอรมันคนนั้นก็แอบคบพนักงานไทยที่นี่อยู่นะเป็นระดับ Partner เลยล่ะ แต่ก็เก็บไว้เป็นความลับมาตลอด มีชั้นและเพื่อนที่เค้าไว้ใจเท่านั้นที่รู้ พี่คนที่คบกับทนายเยอรมันคนก่อนก็แนะนำว่า เก็บไว้เป็นความลับดีที่สุด เพราะถ้าถึงหูเจ้านาย เจ้านายคงไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่

ช่วงแรกๆชั้นก็กลัว พยายามเก็บเป็นความลับ ใครถามว่าเป็นแฟนกันหรือเปล่าก็ไม่ยอมบอก ปากแข็งเอาไว้

ยอมรับว่าอึดอัดมาก มีแฟนกับเค้าทั้งทีต้องเก็บเป็นความลับ กลัวนู่นกลัวนี่ พยายามเลี่ยงไม่คุยกัน ไม่ไปไหนมาไหนด้วยกัน …. มันจะไปมีความสุขได้ยังไงอ่า

ไหนจะมีพี่ที่ทำงานคอยตามสืบ อยากจะรู้เรื่องชั้นกับเค้าซะเหลือเกินนน ไหนจะโดนเอาไปแอบนินทา

ช่วงแรกที่ชั้นไม่ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กับแฟน พี่ๆที่ทำงานก็ชอบคุยเล่นกับชั้นอยู่หรอกนะ ไปไหนมาไหนก็ชวน พอเริ่มมีข่าวว่าชั้นกับแฟนแอบคบกัน พี่ๆที่ทำงานบางคนที่มาถามชั้นแล้วโดยปฏิเสธกลับไป ก็เหมือนทำตัวแปลกๆกับชั้น หยอกล้อแบบจิกกัด ทำหน้าเหมือนไม่พอใจเวลาเห็นชั้นในหลายๆครั้ง

ในตอนแรกชั้นคิดว่า เค้าคงไม่พอใจที่รู้ว่าชั้นแอบคบกันทนายฝรั่ง แม้ว่าชั้นจะปฏิเสธว่า เป็นแค่เพื่อนกันก็ตาม

ชั้นอึดอัดใจมากๆกับสถานการณ์แบบนี้ คิดหลายครั้งว่า ย้ายงานดีมั้ย ไม่อยากทำงานที่เดียวกันอีกต่อไปแล้ว

จากนั้นมาก็มีพี่ที่ทำงาน (กลุ่มเดียวกับที่แอบนินทาชั้น) มาแอบถามแบบจริงจัง ว่าคบกันหรือเปล่า ชั้นเลยตอบไปเลย ว่า ใช่ค่ะ คบกันอยู่

ไหนๆเวลาตอบว่าไม่ ก็ไม่มีใครเชื่อแล้ว ตอบตรงๆไปเลยละกัน พี่คนนั้นก็ตอบกลับมาว่า … “เออออ ก็เท่านั้นแหละ ถ้าแกตอบว่าไม่ ชั้นจะตบแก (แบบหยอกๆ) “
แล้วหลังจากที่ชั้นตัดสินใจบอกความจริงออกไป หลายๆอย่างก็เปลี่ยนแปลง
จากพี่ที่ดูเหมือนไม่ชอบชั้นหลังจากที่ชั้นคบกับทนายฝรั่ง ก็เริ่มดีขึ้น เริ่มหยอกล้อ ชั้นกับแฟน แบบขำๆ ไม่ใช่จิกกัด

ชั้นไม่รู้สึกเหมือนโดนคอยตามสืบอีกต่อไป ชั้นกับแฟนสามารถทำอะไรเปิดเผยได้มากขึ้น เช่นกลับบ้านพร้อมกัน จากแต่ก่อน ไม่ชั้นกับเค้าจะออกไปก่อน แล้วอีกคนค่อยตามมา ให้เหมือนว่าไม่ได้ไปด้วยกัน ตอนนี้เค้าก็เดินมาหาที่โต๊ะแล้วรอกลับพร้อมกัน , เวลาไปเที่ยวไปไหนมาไหน ก็ถ่ายรูปคู่ลงโซเชียลกันได้, เวลาไปงานของพี่ที่บริษัทหรืองานของบริษัทโดยตรง ก็อยู่ด้วยกันได้ ไม่ต้องแอบยืนห่างๆ อย่างห่วงๆอีกต่อไป
ตอนนี้ชั้นเข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงที่ชั้นเริ่มคบกับแฟน พี่ๆที่ทำงานหลายๆคนไม่ชอบชั้น ที่จริงแล้วที่เค้าไม่ชอบชั้นไม่ได้เกิดจากที่ชั้นคบกันคนที่ทำงาน แต่เป็นเพราะชั้นไปพยายามโกหกเค้าว่า ไม่ได้คบกัน ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่มีอะไรกันจริงๆ ทั้งๆที่อะไรหลายๆอย่าง เป็นสิ่งที่เค้าพอสังเกตได้ไม่ยาก

อันที่จริงมันก็ควรเก็บเป็นความลับเหมือนพี่ที่ทำงานของชั้นอีกคน แต่ชั้นกับเค้ามันคนละสถานการณ์กัน

คู่ของเค้าเริ่มคบกันมาเงียบๆ แม้เค้าจะออกไปกินข้าวด้วยกัน แต่เค้าก็ยังคุมสถานการณ์ให้ดูเหมือนเพื่อนออกไปกินข้าวด้วยกันได้

แต่สำหรับคู่ของชั้นนั้นมันเริ่มจาก ทริปของบริษัทที่ไปเสม็ดด้วยกัน แล้วพี่ที่ทำงานบางคนแอบเห็นว่าเค้ามาจูบชั้นตอนที่ชั้นเมาด้วยไง เรื่องมันคงกระพือไปทั่วออฟฟิศล่ะ ต่อให้ชั้นปฏิเสธเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี การพยายามเก็บเป็นความลับก็คงเหนื่อยเปล่า ปล่อยมันไปตามธรรมชาติละกัน

ส่วนเรื่องเจ้านาย ตอนนี้ก็คงรู้แล้วล่ะ ก็ไม่มีทีท่าจะมาว่าเค้านะ แต่แฟนชั้นก็ไม่ได้โดนเตือนแบบทนายคนก่อนมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ว่าห้ามจีบพนักงานคนไทย ตอนนี้ก็แค่พยายามทำงานให้ดีขึ้น ให้เค้าเห็นว่าการที่พนักงานคบกันมันไม่ได้ทำให้การทำงานแย่ลง แค่นี้..เจ้านายก็คงมี่ปัญหากับความสัมพันธ์ของเราแล้วมั้ง



เปิดเพจแล้วววว ไปคุยกันต่อได้ที่นี่นะ //www.facebook.com/annabet.story

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2558 Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2558 21:08:21 น. Counter : 1181 Pageviews.		1 comments
Share Tweet