It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
1 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
วันนี้ วิสาขบูชา วันสำคัญสากลโลก


พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก
พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก พระองค์คือใคร


ทำไมจึงกล่าวได้ว่า "พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก" พระพุทธเจ้าคือใคร พระพุทธเจ้า คือ บุคคลผู้สามารถเอาชนะ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย และความทุกข์ทั้งหลาย หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ ได้ด้วยการกำจัดกิเลสภายในใจ ซึ่งเป็นต้นเหตุของความทุกข์ปวงได้ด้วยพระองค์เอง อีกทั้งยังสอนผู้อื่นให้ปฏิบัติตาม และหลุดพ้นตามพระพุทธองค์ไปได้



พุทธคุณ คุณสมบัติของพระพุทธเจ้า

พระวิสุทธิคุณ ทรงมีความบริสุทธิ์ อันมาจากใจที่ไร้ซึ่งกิเลส จึงทำให้พระพุทธองค์มีศีลที่สมบูรณ์ ไม่เบียดเบียนผู้ใด ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำ

พระปัญญาธิคุณ ทรงมีปัญญามากหาที่สุดไม่ได้ ด้วยสัพพัญญุตญาณ จึงทำให้พระพุทองค์สามารถรู้แจ้งเห็นจริงในทุกสิ่ง ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

พระมหากรุณาธิคุณ ทรงมีความปรารถนาดี เมื่อตรัสรู้วิธีการพ้นทุกข์แล้ว ยังทรงสั่งสอนให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นจากทุกข์ตาม พระพุทธองค์ได้ด้วย



ความยากในการบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า

• พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่ปรารถนา และสั่งสมบุญบารมี เพื่อที่จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต

• กว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า จะต้องสร้างบารมียาวนาน (อย่างน้อย 20 อสงไขย 100,000 มหากัป)

• 1 มหากัป คือระยะเวลาที่โลกเกิดขึ้น จนกระทั่งแตกทำลาย

• 1 อสงไขย คือ จำนวน แปลว่านับไม่ได้ เท่ากับ 1 ยกกำลัง 140 หรือ 1 เติม 0 140 ตัว

• ต้องมีเป้าหมายอุดมการณ์มั่นคง แม้ในระยะเวลาที่ยาวนาน จะมีบ้างที่พระโพธิสัตว์ผิดพลาด ไปทำบาปอกุศล จนทำให้ต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งเป็นกายที่สร้างความดีได้ยากยิ่ง ถึงกระนั้น พระโพธิสัตว์ก็ยังไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ กัดฟันสร้างบารมีอย่างเต็มที่ ไม่เอาความไม่พร้อมมาเป็นข้ออ้างเงื่อนไขในการสร้างบารมี



ประวัติพระพุทธเจ้าโดยย่อข
มหาสุบินนิมิตร

ในคืนที่พระบรมโพธิสัตว์ ถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระนางสิริมหามายา พระราชาผู้ครองนครกบิลพัสดุ์ ในคืนนั้นพระนางทรงพระสุบินนิมิตรว่า มีพญาช้างเผือก ได้นำดอกบัวมาถวาย ณ ที่บรรทม

ประสูติ

ทันทีที่ประสูติ ทรงดำเนินด้วยพระบาท 7 ก้าว โดยมีดอกบัวผุดขึ้นรองรับ และทรงเปล่งอาสภิวาจาว่า “เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้ที่เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ที่ประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดครั้งนี้ของเราเป็นครั้งสุดท้ายภพใหม่ต่อไปไม่มีสำหรับเรา”



อสิตดาบส ทํานายพระลักษณะ

เมื่อประสูติได้ 3 วัน อสิตดาบสก็ได้เข้าไปเยี่ยมพระราชกุมาร เมื่อท่านได้เห็นลักษณะมหาบุรุษของพระราชกุมาร ท่านก็ได้รู้ว่าพระราชกุมารจะได้ตรัสรู้ธรรม เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ด้วยความเลือมใสจึงได้น้อมไหว้พระบรมโพธิสัตว์ จึงทำให้ทั้งพระราชบิดา พระราชมารดาและทุกคนต่างก็พนมมือไหว้ พระบรมโพธิสัตว์ตามพระดาบสด้วย




พราหมณ์พยากรณ์

เมื่อประสูติได้ 5 วัน พราหมณ์ทั้ง 7 คน ได้พยากรณ์ว่า ถ้าพระราชกุมารอยู่ทางโลก จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์แต่ถ้าออกบวชจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่พราหมณ์ที่ชื่อโกณฑัญญะพยากรณ์ว่า พระองค์จะออกบวช และจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ทรงบรรลุปฐมฌานตั้งแต่ทรงพระเยาว์เมื่อพระองค์เจริญพระชนมายุได้ 7 พรรษา ทรงตามเสด็จพระราชาบิดาไปร่วมพิธีแรกนาขวัญ จากนั้นทรงหลีกออกเร้น ประทับนั่งสมาธิ(Meditation)อยู่ใต้ต้นหว้า แล้วสามารถหยุดใจจนบรรลุปฐมฌานเป็นอัศจรรย์พระปรีชาสามารถเป็นเลิศในทุกด้าน

เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงมีพระปรีชาสามารถเป็นเลิศในทุกด้าน เมื่อพระองค์พระชนมายุได้ 7 พรรษา ทรงศึกษาสำเร็จศิลปศาสตร์ 18 ศาสตร์



เสวยพระราชสมบัติอย่างเกษมสำราญ

เมื่อพระชนมายุได้ 16 พรรษา พระราชบิดาทรงสร้างปราสาท 3 ฤดู ที่อุดมไปด้วยเครื่องบำรุงบำเรอเพื่อให้พระองค์เสวยพระราชสมบัติอย่างเกษม สำราญ เพราะพระราชบิดาไม่ปรารถนาให้เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช



อภิเษกสมรส

เมื่อพระชนมายุได้ 16 พรรษา เจ้าชายสิทธัตถะทรงอภิเษกสมรสกับพระนางยโสธราพิมพา ผู้มีความงามเป็นเลิศกว่าหญิงใด ๆ เพราะได้ลักษณะเบญจกัลยาณี



พบเทวทูตทั้ง 4

เมื่อพระองค์พระชนมายุได้ 29 พรรษา ทรงเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายในราชสมบัติยิ่งนัก จึงแอบเสด็จประพาสนอกพระราชวัง ทำให้พระองค์ทอดพระเนตรเห็น คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวชเป็นครั้งแรก ทำให้ทรงสลดพระทัยในความไม่เที่ยงของชีวิตซึ่งเป็นทุกข์ และก็เชื่อว่า เมื่อมีทุกข์ก็จะต้องมีหนทางดับทุกข์ ซึ่งก็คือการออกบวช

ห่วงเกิดแล้ว ในขณะที่เจ้าชายสิทธัตถะสลดพระทัยจากการเห็นเทวทูตทั้ง 4 พระนางยโสธราพิมพาก็ได้ประสูติพระโอรสขึ้น ทำให้พระองค์รู้สึกรักและห่วงใยในพระราชโอรสขึ้นมาอย่างท่วมท้น จนถึงกับทรงเปล่งอุทานออกมาว่า “ราหุลัง ชาตัง พันธนัง ชาตัง” บ่วงเกิดขึ้นแล้ว พันธนาการได้เกิดขึ้นแล้ว



เสด็จออกผนวช

เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะแสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ให้ได้ พระองค์จึงตัดสินพระทัยเสด็จออกผนวชโดยมีนายฉันนะมหาดเล็กเป็นผู้ติดตาม และมีม้ากัณฐกะเป็นพระราชพาหนะ


บรรพชา ริมฝั่งแม่น้ำอโนมา

เมื่อเสด็จมาถึงริมฝั่งแม่น้ำอโนมา พระองค์ทรงตัดพระโมฬี (ผมที่มุ่นเป็นมวย) ด้วยพระขรรค์ แล้วทรงเปลื้องพระภูษาออก และทรงครองผ้ากาสาวพัสตร์ ที่ฆฏิการพรหมนำมาถวายพร้อมด้วยเครื่องบริขาร จากนั้นทรงตั้งจิตอธิษฐานเพศเป็นนักบวช



ความเป็นเลิศพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก

1. รูปสมบัติ

- พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีร่างกายที่งดงาม และแข็งแรงเป็นเลิศ ประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ
- มีบุญมากสามารถเลือกเกิดได้


ปัญจมหาวิโลกนะ คือ เลือก

1. ทวีป
2. ประเทศ
3. อายุขัยของมนุษย์
4. ตระกูล
5. มารดา

2. คุณสมบัติ

ทางโลก

• มีปัญญามาก ศึกษาจบศิลปศาสตร์ 18 ประการตั้งแต่พระชนมายุเจ็ดปี

1. ยุทธศาสตร์ วิชานักรบ
2. รัฐศาสตร์ วิชาการปกครอง
3. นิติศาสตร์ วิชากฎหมายและจารีตประเพณีต่างๆ
4. พาณิชยศาสตร์ วิชาการค้า
5. อักษรศาสตร์ วิชาวรรณคดี
6. นิรุกติศาสตร์ วิชาภาษาทั้งของตน และของชนชาติ ที่เกี่ยวข้องกัน
7. คณิตศาสตร์ วิชาคำนวณ
8. โชติยศาสตร์ วิชาดูดวงดาว
9. ภูมิศาสตร์ วิชาดูพื้นที่ และรู้จักแผนที่ของประเทศต่างๆ
10.โหราศาสตร์ วิชาโหรรู้จักพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ
11.เวชศาสตร์ วิชาแพทย์
12.เหตุศาสตร์ วิชาว่าด้วยเหตุผล หรือตรรกวิทยา
13.สัตวศาสตร์ วิชาดูลักษณะสัตว์ และรู้เสียงสัตว์ว่าดี หรือร้ายช
14.โยคศาสตร์ วิชาช่างกล
15.ศาสนศาสตร์ วิชาศาสนารู้ความเป็นมา และหลักศาสนาทุกศาสนา
16.มายาศาสตร์ วิชาอุบาย หรือตำหรับพิชัยสงคราม
17.คันธัพพศาสตร์ วิชาร้องรำหรือนาฎยศาสตร์ และวิชาดนตรี หรือดุริยางค์ศาสตร์
18.ฉันทศาสตร์ วิชาการประพันธ์



• พระองค์มีบุญมากสามารถเป็นพระเจ้าจักรพรรดิได้

ทางธรรม

• เป็นพระสัมมาสัมพุทธ ผู้เลิศกว่าผู้ใดในโลก ด้วยพุทธคุณ คือ

- เป็นผู้มีความบริสุทธิ์ กำจัดกิเลสได้ด้วยพระองค์เอง ไม่เบียดเบียนใคร
- มีปัญญามาก รู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งทั้งปวง
- มีความกรุณา ทรงสั่งสอนสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ตามพระพุทธองค์

3. ทรัพย์สมบัติ

• ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ซึ่งเป็นสหชาติ บังเกิดขึ้นมาเมื่อตอนประสูติ
• ทรงอยู่ใน พระราชวัง ซึ่งเป็นปราสาท 3 ฤดู
• เป็นรัชทายาท ผู้จะครองราชสมบัติต่อไป
• มีบุญมาก สามารถเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ปกครองทวีปทั้ง 4

4. ความอัศจรรย์ของคำสอน ธรรมคุณ 6

คำสอนของพระพุทธองค์มีจริง ดีจริง พิสูจน์ได้จริง ควรแก่การเข้าถึง เพื่อเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งภายใน

• เป็นคำสอนที่ไม่มีโทษ ผู้ปฏิบัติตามย่อมได้รับประโยชน์เพียงอย่างเดียว นั่นคือการกำจัดทุกข์ และเข้าถึงความสุขที่แท้จริง
• สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
• ผู้ปฏิบัติย่อมได้รับผลเสมอ ไม่จำกัดกาลเวลา
• ใครๆ ก็สามรถพิสูจน์ได้ ไม่จำกัด
• เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ให้เกิดขึ้นในตน


5. ปัจฉิมโอวาท คำสอนสุดท้ายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ขอให้เธอทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน (ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด”

Smileyชมภาพและฟังคำบรรยายจากเวบ ยูทูบ


Create Date : 01 มิถุนายน 2558
Last Update : 1 มิถุนายน 2558 14:42:46 น. 9 comments
Counter : 4138 Pageviews.

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ต้องหมวดนี้ถึงจะเหมาะสม


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog




โดย: หอมกร วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:22:42:38 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
.....................
ใช่ๆขอรับคุณ หมอกร


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:1:37:58 น.  

 
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog


โดย: Opey วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:3:37:39 น.  

 
วันสำคัญของโลก ต้องส่งกำลังใจค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
วนารักษ์ Dharma Blog ดู Blog
foreverlovemom Art Blog ดู Blog
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:12:27:07 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog
-----------------------
ส่งกำลังใจค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 5 มิถุนายน 2558 เวลา:23:45:57 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Sports Blog ดู Blog
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog

--------------------------------

ตอนนี้มีหนังทีวีเรื่อง พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก ช่องเวิร์คพอยท์ ด้วยนะคะ
ที่บ้านเปิดดูอยู่ตอนนี้พอดีค่ะ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10 -11.00 น.
ฉายซ้ำ 20.30-21.30 น. ค่ะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 6 มิถุนายน 2558 เวลา:10:17:28 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
blueberryblossom Photo Blog ดู Blog
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

แอบมาจดข้อมูลค่าคุณเตย
เพราะเดี๋ยวลูกชายมีต้องเรียนแน่เลยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 6 มิถุนายน 2558 เวลา:23:42:19 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมชมค่ะ
ส่งกำลังใจด้วย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
moresaw Education Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: pantawan วันที่: 6 มิถุนายน 2558 เวลา:23:57:08 น.  

 
วันวิสาขบูชา มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ
ได้รู้ละเอียดวันนี้เอง

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

เรื่องชื่อต้นไม้ทุกวันนี้ปวดหัวมาก
ชอบตั้งชื่อกันเลอะไปหมด
โดยเฉพาะพวกคนขยที่ชอบตั้งชื่อเพื่อหวังผลทางการค้า
จนคนซื้อเลยไม่รู้ชื่อที่แท้จริง
เรียกกันผิดๆถูกๆ เหนื่อยใจเลยค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปนะคะ



โดย: mambymam วันที่: 7 มิถุนายน 2558 เวลา:7:36:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.