It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
۩۞۩....ชมเสี้ยวศิลป์ฝรั่งเศส...۩۞۩.. แชมป์โลกแดนท่องเที่ยว ۩۞۩

อมรวดี ทรัพย์เพิ่ม เรื่อง/ภาพ





ลัลลา...เหินเวหาไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบินไทย ด้วยการอุปถัมภ์ของบริษัท พีดี เรดิโอ จำกัด นอกจากเป็นโปรเจ็กต์รวมมิตร ดรีม ทริป 2 "เดอะ ปริ๊นเซส เจอร์นีย์" ของคลื่น 90 รวมมิตรเรดิโอแล้ว คณะเดินทางยังได้เที่ยวชมดื่มด่ำสัมผัสมหานครหลวงแห่งนี้ด้วย

ฝรั่งเศสครองแชมป์โลก ในฐานะประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุด 78.95 ล้านคนในปีที่แล้ว พ่วงตำแหน่ง "จุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในโลก"

ขณะที่กรุงปารีสเป็นแชมป์เมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก มีสถานที่ดึงดูดมากมาย ทั้งพิพิธภัณฑ์ สถานที่ช็อปปิ้ง ไปถึงสถาปัตย กรรมสำคัญ

แม้ฝรั่งเศสไม่มีกษัตริย์และราชินีแบบอังกฤษแล้ว แต่ยังมีอาคารของราชวงศ์ในอดีตที่เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว


ในทริปนี้ ลงเครื่องที่สนามบินชาร์ลส์เดอโกล สัมผัสอากาศเช้าแรกที่แดนน้ำหอมแสนหนาวเย็น แต่ไม่หนาวจัด จากนั้นก็จับรถบัสคันโต ลงใต้ผ่านนครปารีสมุ่งสู่หมู่บ้านเชอนงโซ เพื่อสัมผัส "ชาโต" (Chateau) หรือ "ปราสาท" ที่ชาวฝรั่งเศสภูมิใจนัก

ช่วงเช้าของวันทำงาน นครปารีสไม่ต่างอะไรจากกรุงเทพมหานครที่จราจรติดขัด

ใช้เวลากว่าชั่วโมง กว่าจะฝ่าการจราจรในตัวเมืองหลวงของฝรั่งเศสได้

จากนั้นก็เข้าสู่เส้นทางสายด่วนที่โล่งสบาย ถนนราดด้วยยางมะตอยไร้รอยต่อ ไร้หลุมบ่อ

สองข้างทางของดินแดนนอกเมืองเต็มไปด้วยท้องทุ่งนาสลับกับไม้ใหญ่



กว่า 3 ชั่วโมงพาหนะคันใหญ่ก็พาถึงจุดหมาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "ปราสาทเชอนงโซ" ปราสาทของสตรีโด่งดังที่อยู่ติดกับแม่น้ำแชร์

ปราสาทเชอนงโซเป็นปราสาทที่พระเจ้าอองรีที่ 2 ยกให้ "ดียาน เดอ ปัวตีเย" พระสนมที่พระองค์โปรดปรานมากกว่าใครๆ แม้แต่พระมเหสี




ลักษณะสถาปัตยกรรมของปราสาทผสมระหว่างสถาปัตยกรรมแบบกอธิกและเรอเนส ซองซ์ตอนต้น

พระสนมดียานชอบใจทิวทัศน์ริมฝั่งน้ำแชร์ จึงสร้างสะพานเชื่อมตัววังกับฝั่งตรงข้าม เนรมิตสวนดอกไม้ สวนครัว และสวนผลไม้ขนาดใหญ่แสนรื่นรมย์

แต่พอพระเจ้าอองรีที่ 2 สวรรคต ก็ถึงคราวที่อิทธิพลของดียานตกลงไปด้วย

พระราชินีแคทเธอรีน เดอ เมดิชี ได้ขับสนมดียานออกจากวัง และยึดวังเชอนงโซมาครองและสร้างอาคารทับสะพาน จากนั้นทรงปรับ ปรุงเชอนงโซจนกลายเป็นวังที่ทรงโปรดปรานมาก

เรื่องราวเข้มข้นแข่งขันกันของสตรีในวังเช่นนี้แน่นอนว่าต้องมีเรื่องเขียนเป็นนิยายและสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง

จุดหมายเดินทางที่ต่อไป หลังจากซึมซับความสวยงามปราสาทผู้หญิงแล้ว ก็ต้องทึ่งกับความตระการตาของ "ปราสาทชองบอร์" ปราสาทผู้ชายที่สร้างโดยพระเจ้าฟรองซัวที่ 1 เมื่อ 400 กว่าปีก่อน

"ปราสาทชองบอร์" Chateau de Chambord แม้มีตัวอักษร d ลงท้าย แต่ฝรั่งเศสไม่นับเป็นตัวสะกด จึงออกเสียงว่า บอร์

ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำลัวร์ มีลักษณะสถาปัตยกรรมผสานระหว่างยุคกลางของฝรั่งเศสกับสถาปัตยกรรมคลาสสิคของอิตาลี ซึ่ง ลีโอนาร์โด ดาวินชี มีส่วนในการออกแบบบันไดกลางที่เป็นบันไดเวียนสองวงซ้อน

แต่ถ้าพูดถึงสุดยอดความยิ่งใหญ่วิลิศมาหราของพระราชวังฝรั่งเศสแล้ว จุดหมายต่อไปคือระดับ "ซุปตาร์"


"พระราชวังแวร์ซายส์" ติดหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ช่วงที่ไปเยือนพระราชวังหลวงแห่งนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซมปรับปรุงตกแต่งตัวอาคารและรั้วเป็นสีทองแวววาวให้เหมือนในอดีต ดูแล้วเจิดจรัส

พระราชวังแวร์ซายส์ ตั้งอยู่ตำบลแวร์ซายส์ เดิมพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ทรงสร้างเป็นตำหนักเล็กๆ ไว้ล่าสัตว์

พอพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ขึ้นครองราชย์ ต้องการสร้างพระราชวังแห่งใหม่จึงปรับปรุง พระตำหนักนี้เป็นพระราชวัง

ทุกส่วนของพระราชวังทำด้วยหินอ่อนสีขาวซึ่งสั่งตรงมาจากอิตาลี ภายในแบ่งออกเป็นห้องๆ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับสุดวิจิตรและภาพเขียนมีชื่อ ใช้เวลาสร้างนานถึง 30 ปี

ต่อมาสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กองทัพประชาชนขออำนาจจากกษัตริย์คืนสู่ประชาชน เรียกร้องความเสมอภาค เสรีภาพ และภราดรภาพ บุกเข้ายึดพระราชวัง จับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วยกิโยติน (ตัดคอ) พร้อมนำเฟอร์นิเจอร์และทรัพย์สินภายในพระ ราชวังมาเผาทำลาย

ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์เปิดให้ประชา ชนเข้าชม โดยหยิบยืมที่ประทับของกษัตริย์ประเทศพันธมิตรมาแสดงไว้ภายใน

หนึ่งในนั้นมีเสลี่ยงของรัชกาลที่ 4 แสดงไว้ในห้องกระจกด้วย

สถาปัตยกรรมสุดแสนวิจิตรบรรจงต่อมาคือ "มหาวิหารนอเทรอ-ดาม" ด้วยรูปทรงสูงแหลม บ่งบอกชัดว่าเป็นศิลปะแบบกอธิก ระดับ "ต้นแบบ"

ประติมากรรมและหน้าต่างประดับกระจกสีที่มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนเชอราลลิสม์

นอเทรอดามเป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งก่อสร้างยุคแรกๆ ที่ใช้ "กำแพงค้ำยันแบบปีกนก" เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุนหรือค้ำกำแพงตัววัดไว้

นอกจากจะมีประโยชน์ทาง การใช้สอยแล้วยังเป็นเครื่องตกแต่งที่ทำให้สิ่งก่อ สร้างมีความสวยงามขึ้น

คณะเดินทางต่อมายัง "พิพิธภัณฑ์ลูฟร์" ที่ใครมาปารีสแล้วไม่เข้าชมถือว่ามาไม่ถึง

สมัยก่อนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สงวนให้เฉพาะศิลปิน ต่อมาเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโดยต้องเสียเงินค่าผ่านประตูเป็นค่าบำรุง

และที่กิ๊บเก๋สำหรับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ นั่นคือ ลานจอดรถของแขกผู้มาเยือนที่ฝังตัวอยู่ชั้นใต้ดิน เพื่อตัดปัญหาการจราจร

พิพิธภัณฑ์ศิลปะนี้ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวงมาก่อน ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่า

โดยเฉพาะภาพเขียนโมนาลิซ่า ของลีโอนาร์โด ดาวินชี ที่ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างจับจ้องอยากดู และถึงขั้นแย่งกันดู

ภายในตัวอาคารแบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้องมีผลงานศิลปะระดับโลกแสดงไว้มากมาย นับเป็นบุญตาของผู้มาเยือนที่ได้มายลผลงานมาสเตอร์พีซ

โดยผู้รู้บอกว่า หากชมผลงานแต่ละชิ้น และใช้เวลาชมชิ้นละ 5 นาที ต้องใช้เวลาชมทั้งสิ้น "สามแสนสามหมื่นสามร้อยสามสิบสามวัน"

กว่าจะชมงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์นี้หมด คิดเอาละกันว่าผลงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์นี้มีกี่ชิ้น

ละเลียดกับงานศิลป์แล้ว ก็มาปลดปล่อยอารมณ์สุนทรีกันที่ "มหาวิหารแห่งมงมาร์ต" จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นปารีสได้ทั้งเมือง

มงมาร์ตเป็นย่านศิลปะเก่าแก่ มีศิลปินวาดรูปมาแสดงผลงานและ รับจ้างถ่ายทอดงานศิลป์ อีกทั้งยังมีศิลปินมาบรรเลงเพลงกันสดๆ เสมือนเป็นมินิคอนเสิร์ตย่อมๆ

ฟังเสียงเพลงอันสุนทรีประกอบการผึ่งแดดอ่อนๆ ชาวฝรั่งนิยมนัก

นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวแห่งความงามของงานศิลป์ในแดนดินน้ำหอม

แค่ได้มาเยือน เท่านี้ก็อิ่มเอมแล้ว

****


Credit : //www.khaosod.co.th/


Create Date : 08 มิถุนายน 2554
Last Update : 8 มิถุนายน 2554 4:01:17 น. 0 comments
Counter : 1157 Pageviews.

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.