ทุกๆวันคือวันใหม่ ที่ดีกว่าวันเก่า
๒๐วัน ฉันและเธอ...(หนึ่ง) ตอน จะทิ้งฉันไว้คนเดียวอีกแล้วหริอ

20วัน ฉันและเธอ...ที่เมืองไทย (๑)

เบนนี่มาถึงเมืองไทยเป็นครั้งแรก คืนวันที่ ๓๐ มิ.ย.๒๕๕๒ ประมาณห้าทุ่ม พวกเรา(ที่เหลือแค่)สามคนพ่อแม่ลูก ไปรอรับที่สนามบินตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง (ไม่ได้ตื่นเต้นเว่อร์นะ แต่ไปแจกโบรชัวร์โรงเรียนสอนดำน้ำ ScubawithMike ให้กับพี่เอ๋ด้วย เผื่อได้ลูกค้า -ใครที่สนใจเรียนดำน้ำ หลักสูตรสนุก ราคาเป็นกันเอง อุปกรณ์ใหม่ๆ ติดต่อได้ที่ //www.scubawithmike.com นะจ้ะ)

พออีก ๑๕ นาทีเที่ยงคืน เบนนี่ก็เดินออกมา ส่ายหัวไปมาอย่างกับนกกระจิบนกกระจอกเลย ชะเง้อมองหาคนมารับ
เป็นการเจอกันครั้งแรกในรอบเกือบปี ของเรากับเบนนี่ (นับตั้งแต่การจากมาอย่างกระทันหันของเราในวันเสาร์ที่ ๑๖ ส.ค.๒๕๕๑ รอบห้าทุ่ม ถึงเมืองไทยจันทร์ที่ ๑๘ ส.ค.บ่ายโมง)

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเบนนี่จะมาเมืองไทยจริงๆ ตอนแรกพ่อถามว่า เบนนี่ตัวโตมั้ย เราก็ตอบว่าไม่สูงมากหรอกพ่อ เพราะเค้าสูงประมาณเรา

แต่แล้วพอเราเจอเบนนี่ที่เมืองไทย ดูเค้าตัวใหญ่กว่าที่เคยรู้สึก (หรือเราเป็นคนขี้ลืม)พอมาอยู่ในบ้านเล็กๆของเรา เค้ายิ่งดูตัวใหญ่ ล่ำ เทียบกับพ่อเรา พ่อดูทั้งผอม เล็ก แกรนไปเลย เบนนี่จะใหญ่ไปไหน หน้าก็ใหญ่ จมูกก็ใหญ่



เราเพิ่งมารู้สึกเนี่ยนะจากการเทียบกับขนาดของคนไทยและบ้านเล็กๆของเราที่ไทยนี่เอง ตอนอยู่ที่นู่น เทียบกับขนาดภูมิประทเศ บ้านช่องและคนที่นู่น เค้าดูเป็นคนแบบตัวเตี้ยอ่ะ


คนก็ใหญ่...ของก็ใหญ่ (หมายถึงของฝากอ่ะนะ)

วันที่ ๑ กรกฎาคม โชคดีที่ทำงานหยุดพอดี เลยได้พาเบนนี่ออกตะลอนทัวร์กรุงเทพเป็นครั้งแรก
เบนนี่บอกว่าเมื่อยคอและหลังมาก ไม่ได้นอนเลยบนเครื่อง มีงีบไปแค่หนึ่งชั่วโมง

สายๆ วันนั้น เราเลยพาขึ้นรถเมล์ร้อน สาย ๘ สายประจำของเราเลยค่ะ กะว่าเบนนี่ต้องชอบแน่ เพราะเค้าชอบเล่นรถไฟเหาะตีลังกาที่สวนสนุกอยู่แล้ว รถเมล์สายนี้ก็ขับได้มันส์และสนุกไม่แพ้กัน ที่ไหนได้ เบนนี่นั่งเงียบเหงื่อโทรมกาย ไม่ปี้ดปิ้ว ยิ้มร่าเหมือนเคย เราตกใจมากนึกว่าเค้าจะเป็นลมอ่ะ เพราะหน้าแดงมาก คือวันนั้นเดินออกจากซอยตากแดดตอนสิบเอ็ดโมง คงทำให้เบนนี่ปรับตัวลำบากพอดู เมื่อเทียบกับอากาศ ๑๘ - ๒๐ องศาที่แอลเอ เห็นท่าไม่ได้การของลูกทัวร์เลยต้องรีบเปลี่ยนแผน หลังจากนั่งไปซักครึ่งชั่วโมงได้

ทันที่ได้รับแอร์เย็นๆจากแท็กซี่ พ่อหนุ่มของเราก็ค่อยยิ้มร่าได้อีกครั้ง

ก่อนโดนนาบ...อุ๊บส์ นวด




เลยสลับแผนว่าวันนี้อย่าเพิ่งไปวัดพระแก้วเลย ไปนวดวัดโพธิ์ก่อนดีกว่า
นอนให้หมอนวดสาวนวดไปได้ ๔๕ นาที เรา(คิดเอาเอง)ว่าคงยังไม่ช่วยให้เบนนี่หายเมื่อยแน่ เพราะเบนนี่ตัวใหญ่หนา หมอนวดก็บีบแต่ที่ขา เราเลยไปบอกให้เค้าเปลี่ยนเป็นนวดประคบ เท่านั้นแหละคร่า หมอนวดชายก็ขึ้นคร่อม เอ๊ย ขึ้นประคบแทนเลยต่ออีกสี่สิบห้านาที

คราวนี้สะบักสะบอมไปเลย ซึ่งเป็นความผิดเราเองที่ต้องขอยอมรับ คือด้วยความที่ตัวเอง ไม่เคยโดนนวด จึงไปรู้ว่าแรงเบาขนาดใหน แล้วแบบไหนจะดีต่อเบนนี่ กลายเป็นว่าหลังจากนวดเสร็จพาเบนนี่เดินต่อกลางแดดเที่ยงๆจากท่าเตียนมากินข้าวที่ศิริราช เบนนี่เดินแทบไม่ค่อยไหวเลย ส่วนเราเดินลิ่วๆนำหน้า บางครั้งค่อยได้ยินเสียงเบนนี่ตะโกนมาว่า "โอๆ..รอชั้นด้วยซิ"

กินเสร็จตอนบ่ายสามก็แทบจะต้องหิ้วปีกเบนนี่กลับบ้านกันเลย
เพราะมีไข้ขึ้น และเพลีย อีกทั้งปวดเมื่อยเนื้อตัวอย่างรุนแรง กลับมาเล่าให้เพื่อนแอร์ฟัง เพื่อนบอก

"เมิงจะบ้าเหรอ เค้าเพิ่งมาถึงเมืองไทย แทนที่จะให้เค้าได้พักผ่อนก่อน เฝือกเอาเค้าไปนั่งรถร้อนอีก แล้วยังไปนวดประคบ คนเป็นไข้อยู่แล้วไปนวดจับเส้นแบบนั้นไข้ก็ขึ้นดิ ขาไปให้นั่งสายแปด แต่ขากลับคงกะให้เค้านั่งแอมบูแลนซ์กลับมาละซิ" ฮ่าๆๆ มีคนรู้แผนเราด้วยรึนี่!

เบนนี่บอกแค่ว่ามีอาการเจ็บคอตอนก่อนขึ้นเครื่อง ไม่น่าเป็นไรมากนี่นา

สรุปกลับมา ปล่อยเบนนี่นอนได้ชั่วโมง...

อิชั้นโดนพ่อว่าเลยค่ะ ว่าทำไมไม่รู้จักติดตามข่าวสารบ้านเมือง อาการแบบนี้ต้องให้เค้าไปหาหมอได้แล้ว ไปเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวเกิดเป็นหวัด๒๐๐๙ ขึ้นมาจะทำไง

สรุป (อีกครั้ง) ห้าโมงเย็นวันนั้นเราสองคนเลยต้องรีบระเห็ดออกจากบ้านเพื่อมาโรงพยาบาลแถวบ้าน

ทันทีที่เจ้าหน้าที่สาวฝ่ายต้อนรับเห็นหน้าเบนนี่ ก็ถามว่ามีไข้มานานหรือยัง ตอบว่าตั้งแต่อยู่บนเครื่องเมื่อคืน เพิ่งมาจากแอลเอ ชีก็รีบยื่นหน้ากากปิดปากให้เบนนี่ใส่ แล้วชีก็สวมให้ตัวเอง แล้วเพื่อนชีอีกสามคนก็รีบหยิบมาใส่แบบไม่เกรงใจเลยค่ะ เหอ เหอ (ต้องอย่างนั้นซิเนอะ ถ้าจนท.ต้องมาเป็นหวัดเองก็คงเครียดเลย)

แล้วหล่อนก็บอกว่าไปนั่งคอย(ไกลๆ)ตรงนู้นเลย ชึ้ให้ไปนั่งแบบไกลผู้คนเลยอ่ะ ระหว่างรอเบนนี่ก็เศร้าหมองมาก กุมขมับและคิดไปไกลเลย เบนนี่บอกว่า "นี่ถ้าชั้นเป็นจริงๆ เธอรู้มั้ยเค้าจะทำยังไง เค้าคงให้ชั้นกลับประเทศทันทีเลย"เราก็ใจหายแว๊บบบเลย "โอ้ว...ม่ายนะ ความสนุกยังไม่ได้เริ่มต้นเลย อุตส่าห์แพลนเที่ยวนู่นนี่ซะ"
"หรือไม่เค้าก็ต้องให้ชั้นอยู่โรงพยาบาลคนเดียว เค้าคงไม่ยอมให้มีคนมาเฝ้าหรอก" เราฟังแล้วก็เศร้ามากๆเลย...

พอหมอตรวจเสร็จ ก็เรียกเราไปคุยอีกห้อง ทิ้งเบนนี่ไว้ หมอบอกว่าเค้าเป็นไข้หวัด แต่ยังไม่รู้ว่าใช่ ๒๐๐๙ มั้ยต้องรอดูอาการต่อไป ถ้าเหนื่อยหอบ ก็ให้รีบมาโรงพยาบาล แต่ตอนนี้มันระบาดไปทั่วแล้ว เลยไม่จำเป็นต้องกักตัวไว้ที่โรงพยาบาล

จากนั้นเราก็เลยไปนั่งรอจ่ายค่ายา และรับยา พอนั่งปุ๊บก็อ่านหนังสือพิมพ์ทันทีเลย ผ่านไป เกือบชั่วโมงรับยาเสร็จ อะไรเสร็จ เดินไปห้องที่ทิ้งเบนนี่ไว้นึกว่าเค้าคงนอนหลับ

ที่ไหนได้คะ ฮีพล่ามชุดใหญ่ ใส่มาเลย "เธอหายไปไหนมาตั้งนาน แล้วหมอบอกว่าชั้นเป็นยังไงมั่ง ชั้นรอจนเครียดมากเลย แล้วนี่ปวดฉี่จะไปฉี่ก็ไม่ได้ พยาบาลเค้ากันไว้ไม่ยอมให้ชั้นออกไป เค้าไม่เข้าใจที่ชั้นพูดเลย" แล้วเบนนี่ก็ถลาเข้าห้องน้ำไปเลยค่ะ

คงอั้นมาเกือบชั่วโมงได้ มาบอกว่าปวดท้องมวนท้องมาก เพราะนั่งตื่นเต้นรอฟังผลและปวดฉี่อยู่ตั้งนาน เห็นเราหายไปนาน เค้าก็ยิ่งเครียดมาก ว่าเค้าเป็นอะไรกันแน่ โถๆๆๆๆ เรารู้สึกแย่มากเลย ที่เรื่องนี้เกิดขึ้นต้อนรับการมาถึงวันแรกของเค้าที่เมืองไทย เพราะตัวเราเองที่ไม่ได้กลับมาบอกเบนนี่ก่อนออกไปนั่งรอยา มัวคิดไปเองว่าคุณหมอคงเดินไปบอกเค้าให้

พอขับรถมาถึงปากซอยบ้าน ก็บอกเบนนี่ให้รอในรถแป็บนึงเพราะจะแวะซื้อกับข้าว เบนนี่รีบถามเลยว่า "เธอจะทิ้งชั้นไว้คนเดียวอีกแล้วเหรอ แล้วเธอจะไปนานมั้ยอ่ะ..." แล้วก็ทำปากเบะ ปากล่างยื่นออกมาแบบที่เด็กชอบทำอ่ะ เราฟังแล้วก็ทั้งขำทั้งสงสารเลย

และนี่คือแค่การผจญภัยวันแรกของเบนนี่...ที่เมืองไทยเท่านั้นค่ะ









อวดขนแมว ดูพลิ้วๆ สวยงาม...ชอบจัง


"แง๊ว...จะถ่ายอะไรกันนักกันหนา!!"








Create Date : 05 กันยายน 2552
Last Update : 25 มิถุนายน 2553 14:12:57 น. 6 comments
Counter : 955 Pageviews.

 
แหม... โอ, เธอเริ่มทำงานให้บริษัทเราอีกแล้วเหรอ ฉันนึกว่าเธอรามือ เออ รู้มั๊ยที่สนามบินเดี๋ยวนี้เค้าปิดประกาศเบ้อเร่อเลยว่า ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินธุรกิจ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากท่าอากาศยานก่อน ฝ่าฝืนโดนปรับ เธอโชคดีแล้วที่รอดมาได้ ฉันไม่น่าให้เธอทำเลย

ที่เธอบรรยาย กับภาพที่เอามาลงตรงกันเลย เพราะเบนนี่ใหญ่มากมายจริงๆด้วย แต่ฉันเห็นเขาที่บ้านเธอ เขาก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเยอะนี่นา

แล้วเธอไปโรงพยาบาลไหนอ่ะ ทำไมรอยาตั้งเกือบชั่วโมง และพยาบาลก็ฟังเบนนี่ไม่รู้เรื่อง เดี่ยวนี้เห็นตามโรงพยาบาลหลายโรงจะมี translator


โดย: พี่เอ๋ IP: 125.24.235.171 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:8:09:45 น.  

 
อุ๊ย...ลืม สุดท้ายก็เอารูปแมวเหมียวมาลงอีก โอ เธอรักแมวมากนะเนี่ย ฉันไม่เห็นว่ามันน่ารักตรงไหนเลย อุ๊ย...ขอโทษ


โดย: พี่เอ๋ IP: 125.24.235.171 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:8:11:17 น.  

 
โรงพยาบาลลาดพร้าวไงพี่เอ๋ มันบร้ามาก คิดตังค์แพงเว่อร์ด้วย
รู้งี้เวชธานีดีกว่าเนอะ แต่ไม่รู้จะแพงหนักเข้าไปอีกอ่ะเปล่า
นี่ค่ายาแก้หวัดก็ เก้าร้อยกว่า
ส่วนเบนนี่ เค้าดูสูงกว่าที่โอคิดไง
ตอนแรกโอนึกว่าเค้าเท่าพ่อดอ
หรือพ่อเรากระดูกหดไม่รู้นะ


โดย: anchesa วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:9:52:47 น.  

 
เห็นแมวแกแล้วคิดถึงแมวฉัน โทรคุยกะแม่ทีไร แม่ก็ว่ามันชอบมานั่งฟังด้วย ฉันเลยให้แม่เอาโทรสับไปจ่อหูมันเรื่อยเลย แม่ว่ามันนั่งฟังเฉยเลยนะแก ประมาณว่าอุ้ยมันรู้เรื่องด้วย แต่ฉันว่ามันคง งง มากว่าวะ อะไรเนี่ยคนหนอคน

อ๊่ายยย อีตาเบนนี่ นี่ใหญ่จริง ๆ แหละ หน้าตาดูอารมณ์ดี แต่รูปแรกนี่แกตั้งใจพรีเซนต์จมูกปะวะ ถ่ายสะใกล้เลย ตะหมูกใหญ่ดีแท้วะแกเอ๊ย

ภาคต่อนะ รีบมาเร็ว ๆ นะ อย่าให้รอนานมากนัก ชอบอู้อะแก บอกฉันว่าจะอัพตั้งแต่กี่เดือนที่แล้วนะ ดูสิ เพิ่งมา เออนี่ ๆ แกชอบถามเรื่องคุณคำรณฉัน ตาฉันถามบ้างว่าอีตาเบนนี่เนี่ย ใครเกี่ยวใครก่อนจ๊ะ เหลามาสะดี ๆ ฉันจะนั่งรอที่บ้านฉันนะแก ให้่ว่อง ๆ


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:17:43:19 น.  

 
สนใจน้องเหมียวครับ สีสวยแปลกดี

แต่เบนนี่มีคนสนใจแระไม่คอมเมนต์นะ

เรื่องเกษียณแม่ก็คงไม่แปลกครับเพราะพีร์
เป็นข้าราชการเหมือนแม่เลยรู้สึกว่า

คนที่อยู่จนครบเกษียณถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ในชีวิตเค้าเลยถ้าอยู่ในแวดวงราชการนะครับ

เอ่อ ..ยังไงซะคืนนี้อย่าลืมผลัดกันนาบเอ้ยย นวดนะครับ
เอิ๊กกกก..........!!!


โดย: peeradol33189 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:15:00:41 น.  

 
เปิดเข้ามาตกใจหน้าคุณผู้ชายหมดเลยอ๊าาาา


โดย: JEn (saifon_3 ) วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:9:52:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tacoma
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอต้อนรับสู่เรื่องราวหลากหลาย
ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา
ทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง สูญเสีย
ผ่านความผิดหวัง ความสุข สมหวัง
ในความรัก การเรียน การสมัครงาน
มาหลายต่อหลายหน ....

กำลังเรียนรู้ว่าทุกสิ่งมีเกิดขี้น ตั้งอยู่ และดับไป
เพราะ....
"เราเป็นคนที่อยู่บนโลกนี้อย่างชั่วครู่ชั่วยาม
อยู่อย่างเข้าใจแล้วก็จากมันไปเท่านั้นเอง"
- เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Tacoma's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.