เช้าวันถัดมา
เป็นวันเริ่มต้นของงาน World Sax Congress ณ ม.มหิดล ศาลายา
มีคนมาวันเปิดงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่งทั้งฝรั่งและไทย
เบนนี่จ่ายเงินค่าเข้าร่วมงานไปเรียบร้อยแล้ว
ครอบครัวเราจึงเคลื่อนตัวไปที่อาคารจัดงานอย่างไม่เร่งรีบ ^_^
ได้ข่าวว่าพี่โก้จะมาร่วมแสดงในงานเปิดตัวที่หอประชุมด้วย โดยมีผู้แทนพระองค์มาเปิดงาน พวกเราต่างตั้งตารอดู
กะว่าดูพิธีเปิดเสร็จแล้วค่อยกลับบ้าน ปล่อยเบนนี่ไว้ที่นี่
อีกสี่วันมารับ ให้เค้าได้สนุกกับงานที่มีแต่คนคอเดียวกัน
ใครเลยจะรู้ว่า ความโกลาหลกำลังจะเริ่ม (อีกครั้ง)
ทันทีที่พาเบนนี่มาจุดลงทะเบียนเพื่อนรับบัตรป้ายคล้องคอเข้าชมงาน
เจ้าหน้าที่ถามหาหลักฐานการโอนเงิน เราก็หันไปค้นในกระเป๋า ...
ค้นๆๆๆ ..ซวยแล้วซิ อยู่ไหนล่ะ??
คิดๆๆๆ จำไม่ได้เลยว่าหยิบมันเข้ามาในกระเป๋าตอนไหน (..ก็แปลว่าไม่ได้เอามาหน่ะซิ!)
แทบไม่อยากเงยหน้าไปสบตาเบนนี่ (-..-') เครียดอีกแล้วตู!
จำได้ว่าเบนนี่ให้โอนเงินไปนานมากแล้วเดือนกว่าๆ แล้วเอาใบโอนเงินใส่ไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะที่บ้านกลัวหาย
สรุป...หายจนได้
มัวแต่คิดว่าต้องจัดกระเป๋ามาเที่ยวราชบุรี หัวหิน เลยลืมคิดเรื่องเข้าประชุมของเบนนี่...เวรกรรม
เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าไม่มีหลักฐานการโอนเงิน ก็เข้าชมพิธีเปิดในหอประชุมไม่ได้ และอดกินดินเนอร์ชุดพิเศษกับผู้เข้าร่วมสัมมนาท่านอื่นด้วย
ตายๆๆๆ เบนนี่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แล้วดูซิเราทำอะไรลงไป
หันไปทีไรหน้าตาจ๋อยน่าดูที่ต้องห้อยป้ายคล้องคอสีแตกต่างจากชาวบ้านเค้า
สงสารเบนนี่ก็สงสาร แต่สงสารตัวเองมากกว่า ไม่มีใครอยากขับไปเอาให้ที่บ้านแล้วขับกลับมาใหม่ เหอ เหอ
พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเลี่ยงไม่สบตาและพาเบนนี่มาหาที่นั่งดูพิธีเปิดทางทีวีวงจรปิดที่...โรงอาหารด้านล่าง!!
แต่ชีวิตก็ไม่ได้เลวร้ายไปตลอด
หลังจากจบพิธีเปิด พี่โก้โทรเข้ามือถือ ชวนให้มานั่งคุยเล่นกัน แววตาเบนนี่กลับเป็นประกายอีกครั้ง
อยู่คุยกันจนถึงสามทุ่มกว่าก็ลากลับ
เราพ่อแม่ขับรถกลับบ้าน เบนนี่ (คาดว่า)นอนหลับอย่างมีความสุขที่มหิดล ศาลายา
Free TextEditor
ปลอบใจเบนนี่โดยพาไปดูช้างที่สวนสามพราน...
ในคลิปสั้นๆนี้ เบนนี่บอกว่า "มาป้อนไผ่ให้ช่างกินกัน.."
(เอิ่ม ช้างนะเธอ ไม่ใช่หลินปิง!)
ช้างเล่นเก่งมาก แต่ดูไปก็สงสารไป เหมือนถูกบังคับให้มาขายแรงงาน
ช้างยิ้ม..