๒๐ วัน ฉันและเธอ (สี่) ตอน ครอบครัวอลเวง
เช้าวันอาทิตย์ที่ ๕ ก.ค.๒๕๕๒ ตื่นเช้ามาหน้าใส ... สามคน พ่อ โอ เบนนี่ ออกเดินทาง เจ็ดโมงครึ่งเพื่อไปหาอะไรกินกันที่ตลาดน้ำดำเนิน ปล่อยแม่ซึ่งอยู่เชียร์เอเอฟหกจนดึกให้นอนต่อไป... แผนการในวันนี้คือ กลับจากตลาดน้ำ พวกเราจะออกเดินทางไปหัวหิน ค้างหนึ่งคืน แล้วกลับนครปฐมวันรุ่งขึ้น เพื่อส่งเบนนี่เข้าสัมมนา 7-12 ก.ค.ในงาน World Sax Congress ที่จัดที่ม.มหิดลศาลายา แต่แล้วเหตุการณ์ทั้งหมดก็..ไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด...... ............ ทันทีที่มาถึงตลาดน้ำ พวกเราก็ลงนั่งสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น หมูตุ๋นมากินอย่างเอร็ดอร่อย เบนนี่ชอบข้าวเหนียวมะม่วงเลยซื้อมาตุน แล้วก็นั่งเรือชมตลาดกันในคลองเล็กๆตรงนั้นเลย ก่อนกลับเบนนี่แวะซื้อผ้าพันคอเป็นของฝากให้ญาติที่เป็นผู้หญิงเช่นแม่ ย่าและยาย จากนั้น แดดเริ่มร้อนแล้ว... สิบโมงครึ่งก็มาถึงที่จอดรถ .... .. . ผ่านไปจนสิบเอ็ดโมงครึ่ง..เที่ยงครึ่ง... พวกเราสามคนก็ยังอยู่กันที่ลานจอดรถ เพราะ .."รถสตาร์ทไม่ติด!!" 0_o เวรจริงๆ เรารีบโทรไปยกเลิกห้องที่จองไว้ที่หัวหิน ...เศร้า T_T ส่วนเบนนี่ยังไม่รู้ร้อนหนาว เอาข้าวเหนียวมะม่วงมากิน..คนเดียว จนหมด (ช่างไม่รู้ชะตากรรม) หลังจากลองจั๊มพ์แบตเตอรี่กับรถคันอื่น ลองนู่นนี่นั่น ตามที่พ่อคิดว่าจะช่วยได้ รถก็ยังไม่ทีมีท่าจะขยับ แถม ท่อไอเสียสำรอกควันออกมาเป็นน้ำดำๆ หลายคนที่มาช่วยเริ่มวิเคราะห์ไปต่างๆนานา ตามประสบการณ์ที่มี ว่าน่าจะเป็นเพราะนั่นนี่นู่น สรุป เรานั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปหาช่างแถวนั่นมาซ่อม ช่างบอกว่าต้องรอซ่อมพรุ่งนี้อู่ถึงจะเปิด (หา! ว่าไงนะ) น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ด้วย เกี่ยวกับหม้อน้ำ บลา บลา แล้วรถเราก็ถูกลากไป.... พวกเราสามคนก็ถึงบ้านที่ราชบุรีกันประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ ด้วยการเหมารถปิ๊คอัพแถวนั้น คืนนั้นเลยได้นอนที่ราชบุรีกันต่อ...ด้วยความเหนื่อยล้า และความเครียดว่า รถจะซ่อมเสร็จกี่โมง ค่าซ่อมจะเป็นเท่าไหร่.... -------------------------------------------------------------------------------- จันทร์ ๖ ก.ค. ๒๕๕๒ ตื่นเช้ามา การผจญภัยก็เริ่มขึ้น... แม่วางแผนไว้ดิบดี (คาดว่าหลังจากก่ายหน้าผากคิดมาทั้งคืน) .... บอกพวกเราขนสัมพาระทั้งหมดขึ้นรถของน้าแถวบ้านที่อาสาจะไปส่งที่อู่ แล้วให้เรากับเบนนี่ขึ้นรถประจำทางนั่งต่อไปที่ ศาลายา นครปฐมเองเลย!! ส่วนพ่อแม่รอที่อู่จนกว่ารถซ่อมเสร็จแล้วจะตามไปที่ศาลายาภายหลัง หลังจากโต้เถียงกันอยู่นาน หรือจะเอาแบบนี้ แบบนั้นดีกว่า สุดท้ายเราและเบนนี่ก็ขนแต่เสื้อผ้าเท่าที่จำเป็นพอนอนได้หนึ่งคืน ขึ้นรถประจำทางมาที่ศาลายากันเลย ส่วนสัมภาระอื่นๆ รวมถึงแซกโซโฟนที่เบนนี่เตรียมมา ก็ฝากไว้ที่รถ รอมาพร้อมกับพ่อแม่ตอนรถซ่อมเสร็จ.. ซึ่งตอนหลังพวกเราจึงได้ตระหนักว่าทำพลาดไปถนัด ไม่น่าทิ้งแซกโซโฟนไว้เลย น่าจะหอบมาด้วย..... แล้วความสนุกตื่นเต้นก็เริ่มขึ้น..เป็นครั้งแรกที่เดินทางขึ้นรถประจำทางจากราชบุรี มานครปฐม เริ่มจากนั่งสองแถวมาต่อรถขนส่งปรับอากาศ มาถึงศาลายาได้ ฝนก็ตกลงมาอย่างโครมครามทันทีที่เราก้าวเข้ามาในรั้วม.มหิดล สรุปว่า กว่าจะหอบหิ้วสัมภาระ ลากกระเป๋ามาถึงจนหาที่พักเจอ ก็เปียกมะล่อกมะแล่ก สี่โมงเย็น เก็บข้าวของแล้วไปหาข้าวกิน พี่โก้โทรมาบอกว่าคืนนี้มีเล่นดนตรีที่ร้านแซ็กโซโฟน อนุสาวรีย์ ตอนสี่ทุ่ม เบนนี่มาได้มั้ย อยากให้มา คิดในใจ ใครจะไปก็ไปเถอะ ชั้นเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว สมองยังไม่ได้พักเลยนะ -___-' แต่เงยหน้าไปเห็นแววตาและสีหน้าเบนนี่ที่บ่งบอกความอยากไปเล่นดนตรีกับพี่โก้ *_* ...โอเค ไปหน่ะ ไปได้ แต่แซ็กโซโฟนที่จะเป่าล่ะ??
โทรหาพ่อแม่เช็คกันวุ่นวาย ตกลงรถจะเสร็จทันมั้ย จะมาถึงกี่โมง เพราะแซ็กโซโฟนอุปกรณ์หากินอยู่ในรถ แม่กะว่าคงมาถึงทันตอนทุ่มสองทุ่ม ..เฮ้อ ง้านค่อยโล่งอก เราคงพาเบนนี่ไปอนุสาวรีย์ทันสี่ทุ่ม แต่ปัญหาคือ อาการไข้หวัดเบนนี่ยังไม่หาย และเริ่มมีอาการเจ็บหู ประมาณห้าโมงฝนเริ่มซาเม็ด เลยนั่งแท็กซี่พาเบนนี่มาหาหมอ และกินข้าวเย็นรอพ่อแม่มาจากราชบุรี .... .. ...หกโมงเกือบครึ่งแล้ว แม่โทรมาบอกข่าวดีว่า รถเสร็จแล้วกำลังจะออกมาที่ศาลายา เย้ เย้... ...หนึ่งทุ่ม ข่าวร้ายตามมาว่ารถเสียอีกครั้งแถวนครปฐม คราวนี้แย่กว่าเดิมเพราะเสียกลางทาง ตรงไหนของประเทศก็ไม่รู้ แถมเปลี่ยวด้วย ...หนึ่งทุ่มสิบห้า เราและเบนนี่เริ่มเครียด จะเอาไงดี นั่งแท็กซี่ไปรับพ่อแม่มาดีมั้ย หรือรอต่อไป ...หนึ่งทุ่มครึ่ง รถแท็กซี่คันหนึ่งเป็นใจ ขับห้อมาแต่ไกลจากศาลายา หลังจากโทรถามทางกันวุ่นวาย ต่างคนต่างไม่รู้จักทาง บนเส้นทางสายเปลี่ยวนครปฐม นครชัยศรี สุดท้ายทันทีที่เจอกัน ก็รีบแลกของกันอุตลุด เราส่งกุญแจห้องพักให้แม่ แม่ส่งแซกโซโฟนให้เรา แม่กับพ่อก็เข้าใจว่าเบนนี่อยากไปเล่นแซกโซโฟนงานนี้มาก (เผื่อมีนักข่าวมาด้วย เหอ เหอ) แล้วเรากับเบนนี่ก็ห้อแท็กซี่คันนั้น จากนครปฐมมุ่งสู่อนุสาวรีย์ชัยฯกันกลางดึก ส่วนพ่อและแม่ ได้ช่างซ่อมคนใหม่ละแวกนั้น แล้วก็แวะหาข่าวกิน ก่อนกลับมาพักที่ศาลายาด้วยความเหน็ดเหนื่อย... ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแท็กซี่จะขับตุเรงๆ รวดเดียวพามาส่งอนุสาวรีย์ชัยได้ทันตอนสี่ทุ่ม หมดค่าแท็กซี่ไป 1,100 บาท!! เบนนี่เล่นดนตรีเสร็จ ตอนตีสองครึ่ง พวกเราก็นั่งแท็กซี่กลับไปนอนพักรวมกับพ่อแม่ที่ศาลายากัน ถึงประมาณตีสามกว่า...
ดีนะที่ไม่ได้ส่องกระจกก่อนนอน อาจพาลนอนไม่หลับเพราะคงเป็นวันที่หน้าตา หัวหู ดูไม่ได้เลยเชียว #_# คร่อก..
Free TextEditor
พ่อกับเบนนี่หน้าตาร่าเริงที่ได้ออกนอกบ้าน
นั่งรอหาซื้อของกิน...
เต็มไปด้วยของน่ากิน และของน่าดู...
ได้แล้ว..ข้าวเหนียวมะม่วง(ของโปรด)
พ่อนั่งท้ายเรือ พร้อมแขก (จริงๆ) พิเศษ...
เอ้า....ยิ้มกันหน่อย
การจราจร แออัด และคับคั่ง..ไม่ต่างจากบนบก
เบนนี่ เคยบอก ไม่ชอบจมูกตัวเองเลยเพราะใหญ่..
ถึงบ้านแล้ว ...ไม่มีอะไรทำ ...เล่นเกมกดคนเดียว...
ในที่สุดก็มาถึงแซ็กโซโฟนผับ อนุสาวรีย์ พี่โก้ใจดีให้เบนนี่เล่นด้วย
พี่โก้ แซกแมน คุณสตีฟ แคนนอน และเบนนี่...
Create Date : 19 มิถุนายน 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2553 14:16:34 น. |
Counter : 1207 Pageviews. |
|
|
|