|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
เวียตนาม (2) : ชีวิตผู้คน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในฮานอย
เดินเท้า สำรวจวิถีชีวิตคนฮานอย
การเดินเท้าในฮานอย จะทำให้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองฮานอยได้ดีที่สุด ภาพที่เห็นน่าจะเป็น Nursery หรือโรงเรียนเตรียมความพร้อมก่อนเข้าอนุบาลค่ะ
ร้านอาหารแบบยอง ๆ เหลา ก็จะมีให้เห็นบนถนนเกือบทุกสาย แม่ค้าหาบของขาย ขี่จักรยานขายของ ที่ขายแม้กระทั่ง ปลาทอง!!
แต่เวลาเดิน จะเดินบนทางเท้าไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นะคะ เพราะบนทางเท้าจะเต็มไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ที่นี่จอดรถบนทางเท้ากันค่ะ
ตามสี่แยกใหญ่ ๆ จะเห็นจราจรยืนบนแท่นอยู่กลางถนนค่ะ คอย ดู รถวิ่งไปมา ไม่ค่อยเห็นเค้าทำหน้าที่อำนวยความสะดวกรถที่ขับไปมาสักเท่าไหร่
สีสันอีกอย่างในเมืองฮานอยก็คือ ร้านตัดผมค่ะ จะหันหน้าเข้าหากำแพง แล้วก็ตัดกันบนทางเท้าเลย รับอากาศธรรมชาติดีค่ะ
ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ก็คือตึกแถวทั้งในเมืองและนอกเมืองฮานอย จะทาสีเฉพาะด้านหน้าค่ะ ปล่อยด้านข้างไว้เปล่า ๆ โล่ง ๆ เหตุผลน่าจะมีหลายข้อ ทั้งประหยัดสี, เผื่อคนข้างบ้านมาสร้างต่อ และคนที่อยู่ในบ้านเข้าทางด้านหน้า ไม่ได้เข้าด้านข้าง เพราะฉะนั้น ก็ไม่ต้องคำนึงถึงความสวยงามของด้านข้างค่ะ แล้วลักษณะการสร้างบ้านของคนที่นี่ จะสร้างบ้านในแนวแคบ แต่สูง เรียกว่า ใช้พื้นที่คุ้มสุด ๆ ค่ะ และจะเป็นแบบต่างคนต่างสร้าง ไม่ต้องมาสนใจรูปแบบหรือลักษณะบ้านของคนอื่นเลยเพราะฉะนั้น บ้านของผู้คนที่นี่ ก็เลยดูเหมือนตึกแถวทรงสูงที่ดูเลอะเทอะอย่างไรชอบกลค่ะ
ทะเลสาบคืนดาบ หรือ Hoan Kiem Lake หรือภาษาเวียตนามอ่านว่า Hồ Hoàn Kiếm
อยู่ในเมืองค่ะ เมื่อข้ามสะพานไม้สีแดงเข้าไป จะเจอวัดวัดหง๊อกเซิน (Đền Ngọc Sơn)
(ต้องขอขอบคุณคุณ plin สำหรับข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์นะคะ แวะไปอ่านฉบับเต็ม ๆ ได้ที่ //plin.bloggang.com ค่ะ)
สำหรับชื่อของทะเลสาบคืนดาบ นี้มาจากตำนานการต่อสู้ของจักรพรรดิ Lê Lợi ซึ่งนำทัพเวียดนาม รบได้ชัยชนะในสงครามกับกองทัพจีน ในช่วงต้นคริสตศตวรรษที่ 15 ตำนานเล่าว่า Lê Lợi ได้รับดาบวิเศษ จากเต่ายักษ์ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ เชื่อกันว่าเป็นเต่าศักดิ์สิทธิ์
ดาบวิเศษนี้ให้พลังอำนาจแก่ Lê Lợi ทำให้รบได้ชัยชนะทุกครั้ง ในที่สุดจีนก็ยอมรับในเอกราชของเวียดนาม หลังจากได้รับเอกราช วันหนึ่งขณะที่จักรพรรดิ Lê Lợi ล่องเรือกลางทะเลสาบนี้ เต่ายักษ์ตนนั้นก็มาคาบเอาดาบคืนไปจากเอวของจักรพรรดิ Lê Lợi แล้วดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลสาบทันที เลยเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ
แล้วเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน มีการพบเต่ายักษ์ในทะเลสาบแห่งนี้จริง ๆ และทางหน่วยงานของรัฐก็ได้สต๊าฟเอาไว้ แล้วตั้งแสดงไว้ภายในวัดหง๊อกเซินแห่งนี้
หลังจากเห็นเต่าที่อยู่ในตู้กระจกแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นตะพาบน้ำมากกว่าจะเป็นเต่า แล้วเมื่ออ่านในบล็อกของคุณ plin ก็เลยรู้ว่าชื่อของเต่าภาษาอังกฤษที่ว่า Rafetus swinhoei นั้น มีชื่อภาษาไทยว่า "ตะพาบแยงซี" !!!
ถ้าเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ วัด จะเห็นหนุ่มสาวนั่งอิงแอบกันเป็นคู่ ๆ ค่ะ
จากนั้น เดินเล่นในเมือง ชมนิทรรศการภาพถ่ายย้อนรำลึกภาพในอดีตเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบัน
เดินเล่นในเมืองจนมืด ชมทัศนียภาพของทะเลสาบคืนดาบตอนค่ำคืน มีหนุ่มสาวนั่งอิงแอบกันเป็นคู่ ๆ นั่งจุมพิตกันหลับตาพริ้ม แบบไม่อายสายตานักท่องเที่ยวเลยค่ะ ส่วนคนเวียตนามคนอื่น ๆ เค้าก็เฉย ๆ ไม่เห็นสนใจกันเลย แต่เราคนไทยกลับรู้สึกอายแทน (อดรู้สึกแปลกใจไมได้ว่า ทำไมประเทศเวียตนาม ซึ่งผู้คนดูเหมือนค่อนข้างปิดตัวเองและเขินอาย ถึงได้รับวัฒนธรรมตะวันตกได้มากมายเสียขนาดนั้น)
Opera House ณ กรุงฮานอย
ตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา เป็นสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงชีวิตอันหรูหราของเจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามบูรณะและรักษาอาคารเก่าหลังนี้ไว้ วันที่ไปไม่มีการแสดง แต่ถึงมีการแสดงก็คงเข้าชมไม่ไหว เห็นว่าค่าเข้าชม 100$
ภาพซ้ายด้านบน ไม่ใช่ Opera House แต่เป็นร้าน Esprit ร้านใหญ่มาก ๆ พอดีอยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ
ทางเดินไป Ho Chi Minh Mausoleum ค่ะ ที่ไหนที่บรรยากาศดี ๆ ก็จะเห็นหนุ่มสาวนั่งกันเป็นคู่อย่างที่เห็นในภาพเลยค่ะ
Ho Chi Minh Mausoleum หรือสุสานโฮจิมินห์
ไม่ได้เข้าไปชม เนื่องจากพอไปถึงก็ปิดเสียแล้ว จึงเดินดูรอบ ๆ บริเวณเท่านั้น อ่านข้อมูลจากท่านอื่น ๆ ที่เคยไปเที่ยวที่นี่ บอกว่า ทุก ๆ วัน จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่อแถวเข้าคิว เพื่อแวะไปเคารพศพลุงโฮเป็นจำนวนมากค่ะ
เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ จะพบกับ Chua Mot Cot หรือ เจดีย์เสาเดี่ยว หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า One Pillar Pagoda
(ต้องขอขอบคุณคุณ plin สำหรับข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์นะคะ แวะไปอ่านฉบับเต็ม ๆ ได้ที่ //plin.bloggang.com ค่ะ)
"เจดีย์เสาเดี่ยวนี้สร้างเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1049 ตำนานการสร้างมีหลายแบบ แต่ก็เล่าคล้าย ๆ กันว่ากษัตริย์ผู้ครองฮานอย (ในสมัยนั้นคือเมืองทางลอง) ไม่มีพระราชโอรสสืบสันตติวงศ์ คืนหนึ่งก็บรรทมแล้ว ทรงพระสุบินว่าเจ้าแม่กวนอิมพาพระองค์มาที่ศาลแห่งหนึ่งกลางสระบัว แล้วนำพระโอรสมามอบให้
หลังจากที่ทรงพระสุบินในวันนั้นไม่นานนัก พระองค์ก็ได้พระราชโอรสในที่สุด จึงโปรดให้สร้างเจดีย์เสาเดี่ยวนี้ขึ้น เพื่อตอบแทนพระคุณของเจ้าแม่กวนอิม ตัวศาลจะทำจากไม้ อยู่บนเสาที่ทำจากหิน มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.25 เมตร ตั้งอยู่กลางสระบัว ต่อมา ในปี ค.ศ. 1954 เจดีย์เสาเดี่ยวนี้ก็ถูกทำลายจากการโจมตีของกองทัพฝรั่งเศส เมื่อสงครามสงบจึงมีการบูรณะขึ้นในภายหลัง"
เดินต่อไปก็จะพบกับ พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ในพิพิธภัณฑ์จะบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราชของชาวเวียดนาม โดยการย้อนรอยชีวิตของลุงโฮ แต่มาถึงที่นี่ ก็ปิดไปแล้วเช่นกัน จึงไม่ได้เข้าชมค่ะ
ที่นี่ เสียดายอย่างเดียวคือ อยากเห็นบ้านไม้ที่ลุงโฮไปพักอยู่ ที่ไม่ใช่บ้านที่ทางรัฐบาลจัดไว้ให้ เพราะเคยไปเยี่ยมบ้านลุงโฮที่บ้านนาจอก จังหวัดนครพนมมาแล้วค่ะ
ที่ไม่ได้ชมอีกอย่างก็คือ การแสดงหุ่นกระบอกน้ำ หรือ Thang Long Water Puppet Theatre นั่นเอง เพราะตั๋วเต็มหมดทุกครั้ง ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ค่ะ
วิหารวรรณกรรม หรือ ภาษาเวียดนามเรียกว่า วันเหมียว (Van mieu) (ต้องขอขอบคุณเว็บ oceansmile สำหรับข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์นะคะ แวะไปอ่านฉบับเต็ม ๆ ได้ที่ //www.oceansmile.com/Vietnam/Wannakam.htm ค่ะ)
วิหารวรรณกรรมสร้างใน พ.ศ. 1613 สมัยพระเจ้าหลีไทโตง (Ly Thai Tong) อุทิศให้แด่ขงจื้อ วิหารนี้อยู่ติดกับกว็อกตื่อยาม (Quoc Tu Giam) เป็นโรงเรียนของพวกขุนนางและเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม ต่อมาสมัยราชวงศ์ตรันได้เปลี่ยนชื่อเป็นกว็อกช็อกเวียน (Quoc Hoc Vien) บริเวณตรงหัวมุมทางเข้าด้านหน้าจะมีซุ้มสลักด้วยหินข้อความ ขอให้ผู้มาเยือนลงจากหลังม้าก่อนที่จะเข้าไปข้างใน
วิหารวรรณกรรมแบ่งออกเป็น 5 ชั้นด้วยกัน ประตูทางเข้าด้านหน้าทำเป็น 2 ชั้น มีประตูรูปวงโค้ง คล้ายก๋งจีน สลักชื่อวิหารวรรณกรรมอยู่ชั้นบนสุด เมื่อลอดซุ้มประตูด้านหน้าเข้ามา จะพบความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ สองข้างทางมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก 2 บ่อ สังเกตได้ว่ามีการวางแผนผังการก่อสร้างที่ดี คำนึงถึงหลักของฮวงจุ้ยเช่นเดียวกับจีน คงได้รับอิทธิพลนี้มาจากจีน เพราะจีนเคยปกครองเวียดนามมาก่อน
เมื่อเดินผ่านมาถึงอาคารชื่อตึกดาวลูกไก่ เคววันกั๊ก (Khue Van Cac) สถานที่นักอักษรศาสตร์มาท่องบทกวี มีประตูกำแพงใหญ่ได๋แถงห์โมน (Dai Thanh Mon) สัญลักษณ์ของกรุงฮานอย กับสระน้ำขนาดใหญ่ ตรงกลางลานด้านหลังประตูมีชื่อว่า สระแสงงาม เทียนกวางติงห์ (Thien Quang Tinh) เวลาแสงจากพระอาทิตย์สาดส่องจะสะท้อนเข้าสู่ประตูใหญ่ ทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง
บริเวณสองข้างสระแสงงามมีอาคารชั้นเดียวอยู่ 5 หลัง ภายในประดิษฐานแผ่นหินจารึกรวม 82 แผ่นหลงเหลือจากของเดิมที่มีอยู่ถึง 117 แผ่น แผ่นหินเหล่านี้จะตั้งอยู่บนหลังเต่าทำด้วยหิน จารึกชื่อ ผลงาน ประวัติทางวิชาการของผู้ที่สอบผ่านการศึกษาหลักสูตร 3 ปี ระหว่างปีพ.ศ.1985-2322 หลายคนจึงเรียกว่า แผ่นหินจารึกชื่อจอหงวน
ภายในวัดมีร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวตามธรรมเนียมค่ะ
จากนั้น กลับมาเดินเที่ยวย่าน Old Quarter แหล่งชอปปิ้งหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮานอยค่ะ ที่นี่ถือเป็นมรดกของอาณานิคมฝรั่งเศสอีกแห่งหนึ่งที่ทิ้งไว้ใจกลางกรุง นั่นก็คือ ถนน 36 สาย ย่านการค้าสำคัญริมฝั่งแม่น้ำแดงที่ฝรั่งเศสได้ออกแบบไว้ ชื่อถนนนั้นตั้งขึ้นตามประเภทของสินค้า เช่น ถนนขายกระดาษ ถนนขายเสื่อ ถนนขายสมุนไพร ฯลฯ
ตกดึกยังมี Night Market ให้เดินเที่ยวและซื้อของค่ะ เรียกว่า ตลาดดองชวน ผู้คนเยอะมากโดยเฉพาะวันเสาร์ เดินสนุก ของเยอะแยะเต็มสองข้างทาง ที่สำคัญมีราคาถูก แทบไม่ต้องต่อราคาเลยค่ะ
จบท้ายที่นาฬิกาดิจิตอลขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบคืนดาบ นั่นคือ การนับถอยหลัง 1,000 วันที่ชาวกรุงฮานอยจะฉลองครบรอบปีที่ 1,000 การก่อตั้งนครทางลอง (Thang Long) ศูนย์กลางอำนาจแห่งแรกของอาณาจักรเวียดนามโบราณ (ซึ่งก็คือที่ตั้งกรุงฮานอยเมืองหลวงในปัจจุบัน) ค่ะ วันที่รัฐบาลเวียดนามประกาศให้เป็นวันฉลองวันเกิดของกรุงฮานอยอย่างเป็นทางการคือวันที่ 10 ตุลาคม 2553 ซึ่งเป็นวันที่กองทัพปฏิวัตินำโดยท่านโฮ จิ มินห์ ปลดปล่อยกรุงฮานอยจากการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสเมื่อปี 2497 ค่ะ
ต่อตอน 3 ภาคจบ เที่ยวฮานอย 3 คืน 4 วัน รวมตั๋วเครื่องบิน 8,500 บาท
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2551 15:32:11 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1626 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นายแจม วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:42:58 น. |
|
|
|
โดย: juandmee วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:58:22 น. |
|
|
|
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:23:27 น. |
|
|
|
โดย: chinging วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:28:43 น. |
|
|
|
โดย: ม็อคค่าเย็น วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:23:28 น. |
|
|
|
โดย: Candydolls วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:53:12 น. |
|
|
|
โดย: malarn cha วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:20:00:14 น. |
|
|
|
โดย: คอร์ด IP: 58.8.152.125 วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:19:30:41 น. |
|
|
|
โดย: อัญชนา วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:02:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|