|
ไกลตาแต่ใกล้ใจ
ในค่ำคืนหนึ่ง ณ ราตรีที่ใครต่อใครต่างพากันหลับใหล ฉันแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อน ๆ พี่ๆ เราสังสรรค์กันเป็นกิจวัตร เราต่างแย้มยิ้มสรวลเสเฮฮากัน แล้วก็ร่ำลาเมื่อเวลาอันสมควร
ต่างคนต่างกลับบ้าน บ้างมุ่งหน้าไปทำธุระระหว่างทาง ส่วนฉัน..ก็ขึ้นรถโดยสารมุ่งตรงสู่จุดหมาย...
ความคิดโลดแล่นไปเรื่อย ๆ ฉันมีกล้องคู่ใจอยู่ข้างกาย... อืม จะไปไหนดีนะคืนนี้ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ 4 ทุ่มครึ่งแล้ว รถสายที่ฉันนั่งไปจะพาฉันไปที่วัดราชนัดดาได้มั้ยนะ ที่นั่นสวยมาก ทั้งยามกลางวันและกลางคืน ตอนนี้ฉันอยากจะไปบันทึกภาพของมันจัง.
แต่นี่ก็ดึกมากแล้ว เอายังไงดีหนอ? คิดทบทวนไปมา สุดท้าย ด้วยความอยากที่มีมากกว่า ฉันปล่อยให้รถโดยสารคันนี้นำทางฉันไป มันไปได้ถึงไหน ฉันก็จะไปแค่นั้น...
ระหว่างที่กำลังคิดว่า ตัวคงจะได้ไปที่สนามหลวงแน่แล้ว ปรากฏว่า รถคันนี้หมดระยะแค่อนุสาวรีย์ชัยฯ แต่ฉันก็ไม่ลดละความพยายาม คิดหมายใจว่ายังไงคงต้องกลับแน่แล้ว แต่ระหว่างที่เดินอยู่บนสะพานลอยใต้รถไฟฟ้านี่สิ ฉันเห็นบางอย่างที่น่าจดจำ...
ภาพก้อนเมฆสีขาวลอยคว้างอยู่ในท้องฟ้า อนุสาวรีย์ชัย ฯ เด่นสง่าท่ามกลางแสงไฟ มีฉากหลังเป็นอาคารใบหยกสูงทะมึน ฉันไม่รอช้ารีบคว้ากล้องที่อยู่ในกระเป๋ามาบันทึกภาพนั้นไว้ หลายต่อหลายภาพ ชอบในความสง่างามของตัวอนุสาวรีย์ และแสงสีที่รายล้อมอยู่โดยรอบ...
ฉันหยุดบันทึกภาพจนพอใจ แล้วจึงออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป เสียงเพลงดังแว่วมาจากลานเบียร์เบื้องล่าง นักร้องนักดนตรีต่างร่ายลีลากันอย่างสนุกสนาน
นึกถึงครั้งหนึ่งที่ฉันเคยได้ใกล้ชิดกับสิ่งเหล่านี้ ความทรงจำที่แสนหวาน...
นึกถึงคนบางคนที่อยู่ไกลตา แต่ไม่เคยไกลใจ..
แปลกดี... มันผ่านมาเนิ่นนานแล้ว แต่ทำไมจนป่านนี้ฉันยังไม่รักใคร... ทั้งที่ไม่ได้ปิดโอกาสตัวเองสักนิด คิดดูก็แปลกดี
...หัวใจมันว่างเปล่า... สัมผัสได้ถึงความอิสระ รู้สึกถึงความเป็นตัวตนในแบบที่ตัวเองเป็น ไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้หัวใจฉันมันจะว่างเปล่าขนาดนี้ คิดไปก็แปลกดี ไม่มีความรัก แต่ก็ยังอยู่ได้ เหลือบสายตามองไปเห็นคนรอบ ๆ กาย
หลายคนพยายามไขว่คว้า.. หลายคนพยายามแสวงหา.. หลายคนอยากหลีกหนี...
อืม แล้วที่ของฉันมันอยู่ตรงไหนนะ?
คิดกลับไปกลับมาอยู่หลายเที่ยว ฉันก็ไม่ได้ไปไหนนี่. ฉันอยู่กับที่ ยังยืนอยู่ที่เดิม ณ จุดเดิม
แต่ขณะที่ตัวเองอยู่กับที่ กลับรู้สึกราวกับว่ามีผู้คนมากมายผ่านเข้ามา ฉันไม่รู้ว่าเขามาแสวงหาสิ่งใด แต่ที่ยังคงเป็นอยู่คือหัวใจ มันยังคงนิ่งเหมือนเดิม...
ฉันรู้สึกอย่างที่คนอื่น ๆ รู้สึก แต่ฉันไม่เคยให้ความรู้สึกเหล่านั้น มาครอบงำจนขาดเหตุผล ทุกสิ่งที่ผ่านตา มันไม่ได้เพียงผ่านมาแล้วผ่านไป ฉันคิดถึงทุกสิ่งที่ได้ยินและได้พบเห็น ทั้งถ้อยหวานและคำซึ้ง สิ่งธรรมดาสามัญที่ใคร ๆ ก็พูดได้ เหมือนจะอิ่มเอมที่ได้ฟัง
แต่ใจฉันมันยังไม่หวั่นไหว...
เหมือนตัวเองกำลังตามหาชิ้นส่วนที่หายไป จึงไม่รู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ เพราะรู้ดีว่านั่น ไม่ใช่สิ่งที่ค้นหา
เหมือนเป็นสิ่งที่อยู่ไกลตา แต่ทว่าใกล้ใจ..
รับรู้แลสัมผัสได้ หากว่าถึงเวลาของมัน..
เขียนเมื่อวันที่ 25/04/2003 17:52:35 น. จากไดอารี่ที่สตอรี่ไทย
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2549 22:46:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 475 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|