พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
2 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
'ไทยสเตมไลฟ์' ชี้เด็กแรกเกิด-15 ปี อุบัติเหตุพุ่งสูงถึง 35%

'ไทยสเตมไลฟ์' ชี้เด็กแรกเกิด-15 ปี อุบัติเหตุพุ่งสูงถึง 35%


ขึ้นชื่อว่า "เด็ก" พ่อแม่ทุกคนคงทราบดีว่าความซนบวกกับวัยที่กำลังอยากรู้อยากเห็นนั้นส่งผลทำให้บางครั้งกิจกรรมต่างๆ ที่พวกเขาได้เล่นกันอย่างสนุกสนานอาจทำให้พวกเขาต้องประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้เสมอ และอุบัติเหตุที่มีผลกระทบและก่อให้เกิดภาวะอาการบาดเจ็บรุนแรงมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คืออุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบกระเทือนถึงสมอง ถือได้ว่าร้ายแรงมากถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการได้ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุเช่น ภาวะการบาดเจ็บทางสมองของเด็กแรกเกิด การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์  หรือยานพาหนะต่างๆ การตกจากที่สูง และอุบัติเหตุจากการจมน้ำ

นอกจากนี้ สถิติจากปี 2005 – 2006 ในประเทศไทยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีมาจากการขาดอากาศหายใจและการบาดเจ็บระหว่างคลอด อุบัติเหตุบนท้องถนน และการจมน้ำ ทั้ง 3 สาเหตุนี้คิดเป็น 35% ของการเสียชีวิต ซึ่งอุบัติเหตุบนท้องถนนยังคงเป็นสาเหตุอันดับ 2 ของการเสียชีวิตและทุพพลภาพ

นายแพทย์คอสตาส ปาปาโดปูลอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ บริษัท ไทย สเตมไลฟ์ จำกัด  กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ การรักษาทุกรูปแบบในปัจจุบันคือ “การรอและสังเกตการณ์” โดยเฉลี่ยแล้ว ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะอย่างรุนแรงต้องผ่าตัดเพื่อที่จะกำจัดลิ่มเลือด หยุดอาการเลือดออก ซ่อมแซมเส้นเลือด หรือ อาการเนื้อเยื่อสมองช้ำ ระยะที่เด็กๆ จำเป็นต้องพักรักษาตัว ในโรงพยาบาลที่เกิดจากการกระทบกระเทือนสมองชนิดปานกลางและรุนแรงไม่เปลี่ยนแปลงมานานกว่า 10 ปื และโดยเฉลี่ยแล้ว 1 ใน 3 ของผู้ป่วยซึ่งมีอาการบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรงนั้นมีการรักษาไม่เป็นที่น่าพอใจ (เสียชีวิตหรือพิการทางสมองในระดับรุนแรงหรือปานกลาง)


ยิ่งไปกว่านั้น การพิการทางสมองที่เกิดจากการกระทบกระเทือนระดับปานกลางนั้นมีความสำคัญมาก อัตราการเสียชีวิตและความพิการในระยะยาวไม่ลดน้อยลงเลยมานานกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของเด็กๆ คืออยู่ในอาการโคม่า ในสภาพเจ้าชายหรือเจ้าหญิงนิทรา หรือมีความพิการทางสมองอย่างรุนแรง และต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันการวิจัยโดยการใช้สเตมเซลล์รักษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศผลการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาที่เกิดการบาดเจ็บก่อนการรักษา การรักษาโดยใช้สเตมเซลล์ของตัวเอง อาจจะเป็นความหวังของคนในทุกระดับอายุแต่ผู้ป่วยต้องมีสเตมเซลล์พร้อมสำหรับเวลาจำเป็นในการรักษาด้วยวิธีใหม่ๆ ดังนั้นการเก็บ สเตมเซลล์ของเด็กตั้งแต่แรกเกิดจากเลือดในรกและสายสะดือของเด็กก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง และมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือว่า สเตมเซลล์ที่อ่อนวัยนี้ จะให้ผลตอบสนองที่ดีที่สุด การให้การดูแลตามมาตรฐานและอย่างใกล้ชิดก็สามารถลดผลแทรกซ้อนในการรักษาได้ ทั้งนี้การปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี การช่วยให้เด็กสามารถหายใจได้ด้วยการให้ออกซิเจน และการนำเด็กไปถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกวิธีและปลอดภัย จะมีส่วนช่วยอย่างมากที่จะทำให้เด็กมีโอกาสรอดชีวิต ตลอดจนสามารถป้องกันไม่ให้สมองของเด็กเกิดการพิการอย่างถาวรอีกด้วย

คงจะเป็นการดีหากคนเราทุกคนมีทางเลือก หรือเลือกทางที่สามารถป้องกันสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น เพราะถ้าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเรียกว่า “อุบัติเหตุ” เราคงไม่สามารถรู้ถึงหนทางข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตได้ การเลือกที่จะเก็บสเตมเซลล์อาจเป็นแสงสว่างหนึ่งที่จะทำให้ทางที่เรากำลังจะเดินไปนั้นไม่ใช่ทางตัน...

โดย: ทีมไทยรัฐออนไลน์




Create Date : 02 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2555 13:46:25 น. 0 comments
Counter : 1483 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.