นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล และ รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ.
มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเป็นอันดับต้นๆ ในแต่ละปีมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยประมาณวันละ 14 คน เพื่อให้สตรีได้ตั้งหลักรู้ให้ทันโรคร้าย สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย ร่วมกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย, สมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยฯ จึงจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านโรคมะเร็งในสตรีขึ้น ภายใต้โครงการ Globe-athon เดินร่วมใจต้านภัยมะเร็งสตรี ซึ่งเป็นการร่วมมือกันเป็นครั้งแรกระหว่างนานาชาติกว่า 80 ประเทศ ร่วมกันจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วโลก ในวันที่ 29 ก.ย. สำหรับประเทศไทยจะจัดขึ้นที่บริเวณสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เวลา 06.30-10.30 น.
เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้ นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย ได้อธิบายว่า มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งในสตรีที่พบเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ในแต่ละปีมีผู้ป่วยใหม่ประมาณ 5 แสนราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคนี้ปีละถึง 275,000 ราย ปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันว่า สาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อ human papillomavirus หรือที่เรียกว่า เชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่สำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งองคชาต คือ สายพันธุ์ 16 กับ 18 ส่วนสายพันธุ์ 11 เป็นสาเหตุกว่า 90% ของหูดหงอนไก่
รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าหน่วยมะเร็งนรีเวชวิทยา ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่รักษาให้หายขาดได้สูง หากเป็นระยะแรกๆ อย่าหลงผิดไปรักษาผิดทาง เช่น การไปรักษาด้วยสมุนไพร หรือกลัวการรักษาจนเกินเหตุ ทำให้โรคเป็นมากขึ้น จนโอกาสหายจากโรคน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะย้ำเตือนคือ มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย การตรวจคัดกรองเป็นระยะๆ และปัจจุบัน มะเร็งปากมดลูก รวมทั้งมะเร็งอื่นๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV มีวัคซีนที่สามารถป้องกันได้
แนะนำให้ฉีดให้กับเด็กผู้หญิงก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือฉีดตั้งแต่ประมาณอายุ 11-12 ปี วัคซีนจะมีทั้งหมด 3 เข็ม คาดการณ์ว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีได้อย่างน้อย30 ปี โดยไม่ต้องฉีดกระตุ้น.